ตำนานเรื่องเล่าสยองขวัญ
The Ghost Tellers
ให้เสียงภาษาไทยโดย ฟ้าทะลายโจร
วันนี้เสนอตอน ควายธนู (อาวุธคู่กายจอมขมังเวทย์)
สำหรับเรื่องผี เรื่องไสยศาสตร์นั้นต้องยกให้เรา เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญและ ผู้สืบสานตำนานสยองขวัญ ประติมากรรมลึกลับ ถ้าอยากฟังต่อให้กด Subscribe นะครับผม
วิชาธนู เป็นอุปเวทหนึ่งในพระเวท เรียกว่า ธนุรเวท หรือ ธนุรวิทยา ถือเป็นอุปเวทหรือพระเวทรองในคัมภีร์ยชุรเวท ว่าด้วยการยิงธนูและศาสตราวุธ อาวุธ การต่อสู้ เชิงสงคราม ทั้งวิชาธนูรเวท ธนูมือ เป็นต้น
ควายธนู เป็นวิชาไสยศาสตร์ที่เกิดมาจากอุปเวทที่ชื่อว่า ธนุรเวท หลอมรวมเข้ากับสัตว์ ทั้งโคกระบือ ถ้าใช้วัวก็จะเรียกว่า วัวธนู ถ้าใช้ควายก็จะเรียกว่า ควายธนู ซึ่งสะท้อนให้เห็นสังคมเกษตรกรรมและปศุสัตว์ที่เลี้ยงสัตว์ไว้ใช้งานทั้งวัว ทั้งควาย ซึ่งวิชาเหล่านี้มาจากวิชาหุ่นพยนต์ทั้งหมด ด้วยการผูกหุ่นพยนต์ขึ้นมาเป็นตัวควายหรือตัวสัตว์อะไรก็ได้ตามต้องการ ควายชนิดนี้จะเป็นผีเป็นวิญญาณ ตามตำนานการเกิดควายธนู ควายธนูในยุคเริ่มแรกนั้นเป็นไม้ไผ่สานเป็นโครงตัวควาย แล้วเสกเป่ามนต์คาถากลายเป็นควายธนู ยุคต่อมาสร้างจากลูกธนู ด้วยการนำเอาคันธนูและลูกธนูมาเสกเป่าคาถากลายเป็นควายที่วิ่งเร็วเหมือนธนู ควายที่มีเขาโค้งดุจคันศร จึงเรียกว่า ควายธนู ในยุคล่าสุดควายธนูถูกสร้างด้วยการปั้นหรือหล่อ อาจจะมีการแกะสลัก ทำจากวัสดุต่างๆกันตามความชอบและการใช้งาน ปั้นด้วยดินผสมมวลสาร ปั้นจากขี้ผึ้ง ไปจนถึงหล่อขึ้นด้วยโลหะอาถรรพ์ เช่น ตะปูโลงศพเจ็ดป่าช้า ,เหล็กขนันผีพราย ,เหล็กยอดเจดีย์ เป็นต้น เอามาหลอมรวมกันหล่อเป็นรูปควาย บางสำนักใช้โครงเป็นไม้ไผ่แล้วพอกด้วยครั่งที่ได้จากต้นพุททรา เมื่อทำสำเร็จแล้วต้องปลุกเสกตามพิธีกรรม แล้วเลี้ยงไว้ให้ดี ต้องหาหญ้าและน้ำเลี้ยงเสมอ เชื่อว่าสามารถใช้ให้เฝ้าบ้านหรือไร่นา ใช้งานได้ตามความประสงค์ ทั้งป้องกันภูตผีและโจรผู้ร้าย และสามารถสั่งให้ไปสังหารคู่อริได้อีกด้วย
“ควายธนู” เป็นการเล่น ของทางไสยศาสตร์ที่เป็นที่รู้จักกันมาเป็นระยะเวลานานแล้ว คนส่วนใหญ่เชื่อกันว่า ควายธนูเป็นศาสตร์ไสยดำที่ได้รับอิทธิพลความเชื่อมาจากคนป่าชาวแอฟริกาที่ ร่ำเรียนวิชาวูดู โดยควายธนูที่คนไทยรู้จักกัน เป็นสิ่งที่นิยมเล่นกันในแถบจัหวัดในภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ ประเทศไทย เรื่อยไปจนถึงบริเวณที่เป็นอาณาเขตติดต่อกับประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยหมอผีเขมรจะนิยมเล่นศาสตร์มืดโดยใช้ควายธนูไปลอบทำร้ายศัตรูได้อย่าง เฉียบขาด จนสามารถเรียกได้ว่าเป็นวิชามารที่ทำร้ายได้ทุกอย่าง
ควายธนูใช้เป็นเครื่องป้องกันตัวสำหรับคนโบราณที่มีวิชาอาคม เนื่องจากควายธนูเป็นอาวุธที่ร้ายแรงที่มีไว้ทำลายล้างศัตรู ที่ยากที่จะทำลายหรือล้มมันได้ด้วยอาวุธธรรมดา การแก้มนตร์ดำจากควายธนูจะต้องแก้ไขด้วยเวทวิทยาที่มีอาคมที่แข็งแกร่ง มากกว่าเท่านั้น อีกอย่างหนึ่งก็คือ ควายธนูเป็นสัตว์ที่มีอาคมร้ายแรง ผู้ที่คอยเลี้ยงดูต้องควบคุมให้เชื่องตลอดเวลา เพราะหากดูแลไม่ดี ความร้ายกาจของควายธนูอาจย้อนกลับมาทำร้ายเจ้าของได้
ความเชื่อเรื่องควายธนูมีอยู่ทุกภาคของประเทศไทย บางท้องถิ่นเชื่อว่าผู้เลี้ยงต้องดูแลอย่างดีหมั่นให้อาหารและปล่อยออกไป ท่องเที่ยว จะประมาทหลงลืมไม่ได้ ไม่เช่นนั้นควายธนูจะหวนมาทำร้ายเจ้าของเสียเอง แต่บางแห่งก็ถือเป็นเสมือนเครื่องรางธรรมดาสำหรับใช้พกพาติดตัว การสานวัวหรือควายธนูที่ทำจากไม้ไผ่นั้นมีแบบมาจากสายพ่อค้า การทำธนูมือแต่วัวหรือควายธนูนี้จะแรงมากก็คือการปราบเสือเย็น(เสือสมิง)และ ยังใช้ทำน้ำมนต์ประพรมสิ่งของขายดีต่างๆนาเพราะแบบนี้จึงเป็นสายพ่อค้าแต่ แบบไหนก็ใช้ได้เหมือนกัน อาจต่างที่รูปมวลสารอาจเป็นผงเป็นโลหะไม้ไผ่แล้วแต่เจตนาของผู้สร้าง
ควายธนู (อาวุธคู่กายจอมขมังเวทย์)
ตำนานเรื่องเล่าสยองขวัญ
The Ghost Tellers
ให้เสียงภาษาไทยโดย ฟ้าทะลายโจร
วันนี้เสนอตอน ควายธนู (อาวุธคู่กายจอมขมังเวทย์)
สำหรับเรื่องผี เรื่องไสยศาสตร์นั้นต้องยกให้เรา เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญและ ผู้สืบสานตำนานสยองขวัญ ประติมากรรมลึกลับ ถ้าอยากฟังต่อให้กด Subscribe นะครับผม
วิชาธนู เป็นอุปเวทหนึ่งในพระเวท เรียกว่า ธนุรเวท หรือ ธนุรวิทยา ถือเป็นอุปเวทหรือพระเวทรองในคัมภีร์ยชุรเวท ว่าด้วยการยิงธนูและศาสตราวุธ อาวุธ การต่อสู้ เชิงสงคราม ทั้งวิชาธนูรเวท ธนูมือ เป็นต้น
ควายธนู เป็นวิชาไสยศาสตร์ที่เกิดมาจากอุปเวทที่ชื่อว่า ธนุรเวท หลอมรวมเข้ากับสัตว์ ทั้งโคกระบือ ถ้าใช้วัวก็จะเรียกว่า วัวธนู ถ้าใช้ควายก็จะเรียกว่า ควายธนู ซึ่งสะท้อนให้เห็นสังคมเกษตรกรรมและปศุสัตว์ที่เลี้ยงสัตว์ไว้ใช้งานทั้งวัว ทั้งควาย ซึ่งวิชาเหล่านี้มาจากวิชาหุ่นพยนต์ทั้งหมด ด้วยการผูกหุ่นพยนต์ขึ้นมาเป็นตัวควายหรือตัวสัตว์อะไรก็ได้ตามต้องการ ควายชนิดนี้จะเป็นผีเป็นวิญญาณ ตามตำนานการเกิดควายธนู ควายธนูในยุคเริ่มแรกนั้นเป็นไม้ไผ่สานเป็นโครงตัวควาย แล้วเสกเป่ามนต์คาถากลายเป็นควายธนู ยุคต่อมาสร้างจากลูกธนู ด้วยการนำเอาคันธนูและลูกธนูมาเสกเป่าคาถากลายเป็นควายที่วิ่งเร็วเหมือนธนู ควายที่มีเขาโค้งดุจคันศร จึงเรียกว่า ควายธนู ในยุคล่าสุดควายธนูถูกสร้างด้วยการปั้นหรือหล่อ อาจจะมีการแกะสลัก ทำจากวัสดุต่างๆกันตามความชอบและการใช้งาน ปั้นด้วยดินผสมมวลสาร ปั้นจากขี้ผึ้ง ไปจนถึงหล่อขึ้นด้วยโลหะอาถรรพ์ เช่น ตะปูโลงศพเจ็ดป่าช้า ,เหล็กขนันผีพราย ,เหล็กยอดเจดีย์ เป็นต้น เอามาหลอมรวมกันหล่อเป็นรูปควาย บางสำนักใช้โครงเป็นไม้ไผ่แล้วพอกด้วยครั่งที่ได้จากต้นพุททรา เมื่อทำสำเร็จแล้วต้องปลุกเสกตามพิธีกรรม แล้วเลี้ยงไว้ให้ดี ต้องหาหญ้าและน้ำเลี้ยงเสมอ เชื่อว่าสามารถใช้ให้เฝ้าบ้านหรือไร่นา ใช้งานได้ตามความประสงค์ ทั้งป้องกันภูตผีและโจรผู้ร้าย และสามารถสั่งให้ไปสังหารคู่อริได้อีกด้วย
“ควายธนู” เป็นการเล่น ของทางไสยศาสตร์ที่เป็นที่รู้จักกันมาเป็นระยะเวลานานแล้ว คนส่วนใหญ่เชื่อกันว่า ควายธนูเป็นศาสตร์ไสยดำที่ได้รับอิทธิพลความเชื่อมาจากคนป่าชาวแอฟริกาที่ ร่ำเรียนวิชาวูดู โดยควายธนูที่คนไทยรู้จักกัน เป็นสิ่งที่นิยมเล่นกันในแถบจัหวัดในภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ ประเทศไทย เรื่อยไปจนถึงบริเวณที่เป็นอาณาเขตติดต่อกับประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยหมอผีเขมรจะนิยมเล่นศาสตร์มืดโดยใช้ควายธนูไปลอบทำร้ายศัตรูได้อย่าง เฉียบขาด จนสามารถเรียกได้ว่าเป็นวิชามารที่ทำร้ายได้ทุกอย่าง
ควายธนูใช้เป็นเครื่องป้องกันตัวสำหรับคนโบราณที่มีวิชาอาคม เนื่องจากควายธนูเป็นอาวุธที่ร้ายแรงที่มีไว้ทำลายล้างศัตรู ที่ยากที่จะทำลายหรือล้มมันได้ด้วยอาวุธธรรมดา การแก้มนตร์ดำจากควายธนูจะต้องแก้ไขด้วยเวทวิทยาที่มีอาคมที่แข็งแกร่ง มากกว่าเท่านั้น อีกอย่างหนึ่งก็คือ ควายธนูเป็นสัตว์ที่มีอาคมร้ายแรง ผู้ที่คอยเลี้ยงดูต้องควบคุมให้เชื่องตลอดเวลา เพราะหากดูแลไม่ดี ความร้ายกาจของควายธนูอาจย้อนกลับมาทำร้ายเจ้าของได้
ความเชื่อเรื่องควายธนูมีอยู่ทุกภาคของประเทศไทย บางท้องถิ่นเชื่อว่าผู้เลี้ยงต้องดูแลอย่างดีหมั่นให้อาหารและปล่อยออกไป ท่องเที่ยว จะประมาทหลงลืมไม่ได้ ไม่เช่นนั้นควายธนูจะหวนมาทำร้ายเจ้าของเสียเอง แต่บางแห่งก็ถือเป็นเสมือนเครื่องรางธรรมดาสำหรับใช้พกพาติดตัว การสานวัวหรือควายธนูที่ทำจากไม้ไผ่นั้นมีแบบมาจากสายพ่อค้า การทำธนูมือแต่วัวหรือควายธนูนี้จะแรงมากก็คือการปราบเสือเย็น(เสือสมิง)และ ยังใช้ทำน้ำมนต์ประพรมสิ่งของขายดีต่างๆนาเพราะแบบนี้จึงเป็นสายพ่อค้าแต่ แบบไหนก็ใช้ได้เหมือนกัน อาจต่างที่รูปมวลสารอาจเป็นผงเป็นโลหะไม้ไผ่แล้วแต่เจตนาของผู้สร้าง