ในปกติ เราต้องแนะนำตัวกันสักนิด ก่อนจะเริ่มระบายอะไรใช่ไม๊ค่ะ?
แต่ครั้งนี้ เราข้ามส่วนนั้นกันไปเลยเนอะ คิดสะว่าเรากำลังอ่านนิยายเรื่องนึง ที่คนเขียนก็ไม่รู้ตอนจบ แต่ที่แน่ๆคือตัวดำเนินเรื่องมีความหวังว่าเรื่องนี้มันจะจบอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง
ที่เรากำลังจะได้อ่านกัน เป็นส่วนนึงของไลน์ที่เพื่อนสนิท2คนไลน์ ปรึกษา ระบายให้กันและกัน ให้อีกฝ่ายได้สบายใจ หายอึดอัด
เราแทน 2สาวว่า W และ JJ แล้วกันนะคะ
ส่วนตัวละครในเรื่องจะมี J Au และD เพิ่มขึ้นมา
JJ : เมิงเย็นนี้มากินข้าวบ้านกูไม๊
W : ได้ ทำกับข้าวหรอ?
JJ : ว่าจะทำหน่อไม้ฝรั่งผัด
JJ : กูเบื่อๆ อารมณ์ตัวเองด้วยแหละ
W : ยังไม่หายอีกหรอ
๋JJ : มันมีเรื่องใหม่เข้ามา กูพิมพ์ไว้ละกันนะ
W : เอาเลย เดี๋ยวกูประชุมก่อน
แล้ว JJ ก็เริ่มระบาย
JJ : กูเบื่ออารมณ์ระแวงของตัวเอง ทั้งที่กูก้อรู้นะว่ากูมีสิทธิ์ระแวง เพราะเหตุการณ์มันใช่มาก
กูเกลียดอารมณ์แบบนี้ กูไม่มีใครแต่กูรู้สึกว่าเค้ามี แล้วยิ่งถ้าเมิงอ่านตอนจบนะ เมิงจะรู้สึกว่ามันชัดเหมือนที่กูรู้สึกไม๊
คือวันที่เราไปส่ง J ไปเซ็นทรัลเวิลด์ ตอนเลิกจากเซ็นทรัลเวิลด์ J กลับรถเพื่อนชื่อ D ซึ่งกูเคยเจอนะ แล้ว J โทรมาบอกว่าจะไปหาที่นั่งต่อ โทรชวนเพื่อนอีกคนมาด้วย เค้าไม่บอกนะว่าไปกับใครยังไง แต่ตอนนั้นกูก้อพอจะรู้อยู่แล้วเพราะร้านมันอยู่แถวหลักสี่
ทีนี้ J กลับมาถึงประมาณตี4เมามาก ซึ่งก้อปกติ นางคุยกับกู2-3ประโยค ว่า D มีปัญหาเรื่องอยากมีเพื่อนเป็นเกย์ อยากมีแฟน มือนึงของนางก้อโทรออกหา D แต่ D ไม่ได้รับสาย Jก้อบ่นออกมา "ทำไม D ไม่รับสาย"แล้วก้อหลับไป
บ่ายๆวันเสาร์กูกับJ ต้องไปนครนายก เค้าก้อทวงให้กูบอกว่าสงสัยอะไรหรอ เค้าทำอะไรให้กูสงสัย กูเลยถามว่า เมื่อคืนทำไมไปต่อกับ D 2คน ถ้า Auไม่ตามมาล่ะ
เค้าก้อบอกว่าตอนอยู่กันที่เซ็นทรัลฯ นั่งไกลคุยไม่ได้ยิน แล้วเพื่อนคนอื่นก้อไม่ได้สนใจปัญหาของD เค้าเลยชวน Dต่อแถวๆดอนเมือง จะได้คุยกัน
กูเลยบอกกูเด็กเที่ยวมาก่อนเหมือนกัน จะไปต่อ2คนนี่คือถ้าไม่อยากคุยกันต่อ ก้อต้องแบบอยากอยู่ด้วยกันต่อ
แล้วกูเลยบอกเค้าว่าไม่ต้องคิดมากนะ กูคงขี้สงสัยไปเอง
ตอนนั้นในใจกูก้อคิดว่าถ้าใช่อย่างที่กูสงสัย เค้าต้องไลน์หากันหรือไปเจอกันบ่อยๆแน่นอน ทนคิดถึงกันไม่ไหวหรอก เรื่องไลน์กูไม่มีโอกาสรู้อยู่แล้วช่ะป่ะ แต่เรื่องนัดเจอกันกูน่าจะรู้ ถ้าไม่มีอะไรกูก้อแค่คิดมากไปเอง
ทีนี้เย็นวันอาทิตย์ ขากลับจากนครนายก Jก้อเล่าว่าเพื่อนๆจะนัดกันไปร้องเกะหลังสงกรานต์ กูเลยทักว่าช่วงนี้เดินสายเจอเพื่อนตลอดทั้งบางแสน เชียงใหม่ กทม
Jเลยบอกว่า แต่ก่อนเพื่อนกทมนัดเจอกันทุกอาทิตย์
ซึ่งกูรู้ว่าเค้าเป็นคนไม่อยากออกจากบ้านหรอกถ้าแรงจูงใจมันไม่แรงพอ
กูเลยทักว่าแต่ก่อน สงสัยเป็นสิบปีแล้ว เพราะเพื่อนเค้าที่กทมกูรู้จักเกือบหมด ก้อไม่ค่อยว่างตรงกัน แล้วเป็นกลุ่มคนโสดส่วนใหญ่
กูรู้สึกว่า JอยากเจอD ซึ่งไม่ใช่แบบที่เราอยากเจอกัน
กูอยากย้ายออก อยากเป็นแฟนปกติ ไม่ต้องมารับรู้เรื่องพวกนี้
เมื่อวานกูถามว่า ถ้ากูเที่ยวหนักเท่าเค้า คือเค้าเข้าใจใช่ไม๊ ไม่โกรธนะ
เค้าบอกกูว่าเค้าโอเคร ซึ่งกูก้อโอเคร
เพียงแต่พอกูเริ่มทีหลังเค้ากูเลยอึดอัด กูต้องทำอะไรอีกหลายอย่างกว่าจะได้กลับไปเที่ยว
กูอยากย้ายออกก่อน
กูเลยเซ็งๆๆ
W : อ่าฮะ ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งระแวง กูเข้าใจ ยิ่งใกล้ยิ่งรู้สึก ยิ่งเข้าใจ
๋JJ : คือฝั่ง D กูเข้าใจเค้านะ เค้าคงอยากระบายจริงๆ ฝั่ง J กูก็เข้าใจนะ เค้าเป็นคนดี ขี้สงสาร แล้วก็เป็นเพื่อนมาเป็น20ปีแล้ว แต่กูไม่ชอบที่ที่กูอยู่ตรงนี้ กูแกล้งทำไม่เห็นไม่สงสัยไม่ได้ เลยไม่อยากรู้
แล้วก็อยากเที่ยวเหมือนแต่ก่อนด้วย กูชอบกินเหล้า เมา แดนซ์ หลังเลิกงานอ่ะ 555 แต่มันบั่นทอน ครอบครัว ไง ...เงิน ทองก็หาไม่ได้ ยังจะผลาญมันก็ไม่ถูก กูก็อึดอัด
อีกอย่าง กูไม่มีทางโกรธหรือน้อยใจ ถ้าเค้าจะรู้สึก สงสาร เห็นใจ แล้วกลายเป็นความรัก ความผูกผัน ถ้ากูไม่ได้อยู่ตรงนี้ กูชอบเห็นคนที่กูรัก ได้อยู่กับคนที่ใช่สำหรับเค้าอยู่แล้ว แต่เค้าควรพูดกับกูตรงๆ เมื่อเค้าไม่รู้สึกกับกูเหมือนเดิม หรือเค้าสงสาร และอยากดูแลคนอื่นแล้ว
กูอยากห่างกันสักพัก จะได้รู้ใจกันให้มากกว่านี
W : อ่าฮะ มันอาจเป็นทางออกทีดีก็ได้
จบ part1 แล้ว แล้วก็ได้แต่หวังว่าจะไม่มี part ต่อต่อไป
ได้แต่หวังว่า JJ จะสามารถคิดได้ว่า อะไรควรรู้สึก อะไรควรปล่อยวาง อะไรควรให้ความสำคัญในชีวิตคู่ แล้วก็รักกันกับ J ไปได้จนถึงวันแต่งงาน หรือวันที่ทั้งคู่เรียกอีกคนได้เต็มปาก ว่า "คู่ชีวิต"
ทีนี้ เราในฐานะนักอ่าน เราจะแนะนำ JJ กันว่ายังไงดี เชื่อว่าหลายๆล็อกอินในพันทิปจะเคยเจอเหตุการณ์สั่นคอนอารมณ์แบบนี้เหมือนเหมือนกัน
เอาประสบการณ์ในชีวิตคู่มาบอกต่อ มาสอน JJ ให้นางมีแนวคิดไว้เป็นยาใจ ให้เรื่องนี้ได้จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง อย่างที่คนเขียนตั้งใจไว้ในตอนที่เริ่มเขียนเรื่องนี้
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบค่ะ
JJ
(เรื่องสั้น) ปัญหาความรัก ความสัมพันธ์ ที่คู่ไหนไหนก็คงเคยเจอ part1
แต่ครั้งนี้ เราข้ามส่วนนั้นกันไปเลยเนอะ คิดสะว่าเรากำลังอ่านนิยายเรื่องนึง ที่คนเขียนก็ไม่รู้ตอนจบ แต่ที่แน่ๆคือตัวดำเนินเรื่องมีความหวังว่าเรื่องนี้มันจะจบอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง
ที่เรากำลังจะได้อ่านกัน เป็นส่วนนึงของไลน์ที่เพื่อนสนิท2คนไลน์ ปรึกษา ระบายให้กันและกัน ให้อีกฝ่ายได้สบายใจ หายอึดอัด
เราแทน 2สาวว่า W และ JJ แล้วกันนะคะ
ส่วนตัวละครในเรื่องจะมี J Au และD เพิ่มขึ้นมา
JJ : เมิงเย็นนี้มากินข้าวบ้านกูไม๊
W : ได้ ทำกับข้าวหรอ?
JJ : ว่าจะทำหน่อไม้ฝรั่งผัด
JJ : กูเบื่อๆ อารมณ์ตัวเองด้วยแหละ
W : ยังไม่หายอีกหรอ
๋JJ : มันมีเรื่องใหม่เข้ามา กูพิมพ์ไว้ละกันนะ
W : เอาเลย เดี๋ยวกูประชุมก่อน
แล้ว JJ ก็เริ่มระบาย
JJ : กูเบื่ออารมณ์ระแวงของตัวเอง ทั้งที่กูก้อรู้นะว่ากูมีสิทธิ์ระแวง เพราะเหตุการณ์มันใช่มาก
กูเกลียดอารมณ์แบบนี้ กูไม่มีใครแต่กูรู้สึกว่าเค้ามี แล้วยิ่งถ้าเมิงอ่านตอนจบนะ เมิงจะรู้สึกว่ามันชัดเหมือนที่กูรู้สึกไม๊
คือวันที่เราไปส่ง J ไปเซ็นทรัลเวิลด์ ตอนเลิกจากเซ็นทรัลเวิลด์ J กลับรถเพื่อนชื่อ D ซึ่งกูเคยเจอนะ แล้ว J โทรมาบอกว่าจะไปหาที่นั่งต่อ โทรชวนเพื่อนอีกคนมาด้วย เค้าไม่บอกนะว่าไปกับใครยังไง แต่ตอนนั้นกูก้อพอจะรู้อยู่แล้วเพราะร้านมันอยู่แถวหลักสี่
ทีนี้ J กลับมาถึงประมาณตี4เมามาก ซึ่งก้อปกติ นางคุยกับกู2-3ประโยค ว่า D มีปัญหาเรื่องอยากมีเพื่อนเป็นเกย์ อยากมีแฟน มือนึงของนางก้อโทรออกหา D แต่ D ไม่ได้รับสาย Jก้อบ่นออกมา "ทำไม D ไม่รับสาย"แล้วก้อหลับไป
บ่ายๆวันเสาร์กูกับJ ต้องไปนครนายก เค้าก้อทวงให้กูบอกว่าสงสัยอะไรหรอ เค้าทำอะไรให้กูสงสัย กูเลยถามว่า เมื่อคืนทำไมไปต่อกับ D 2คน ถ้า Auไม่ตามมาล่ะ
เค้าก้อบอกว่าตอนอยู่กันที่เซ็นทรัลฯ นั่งไกลคุยไม่ได้ยิน แล้วเพื่อนคนอื่นก้อไม่ได้สนใจปัญหาของD เค้าเลยชวน Dต่อแถวๆดอนเมือง จะได้คุยกัน
กูเลยบอกกูเด็กเที่ยวมาก่อนเหมือนกัน จะไปต่อ2คนนี่คือถ้าไม่อยากคุยกันต่อ ก้อต้องแบบอยากอยู่ด้วยกันต่อ
แล้วกูเลยบอกเค้าว่าไม่ต้องคิดมากนะ กูคงขี้สงสัยไปเอง
ตอนนั้นในใจกูก้อคิดว่าถ้าใช่อย่างที่กูสงสัย เค้าต้องไลน์หากันหรือไปเจอกันบ่อยๆแน่นอน ทนคิดถึงกันไม่ไหวหรอก เรื่องไลน์กูไม่มีโอกาสรู้อยู่แล้วช่ะป่ะ แต่เรื่องนัดเจอกันกูน่าจะรู้ ถ้าไม่มีอะไรกูก้อแค่คิดมากไปเอง
ทีนี้เย็นวันอาทิตย์ ขากลับจากนครนายก Jก้อเล่าว่าเพื่อนๆจะนัดกันไปร้องเกะหลังสงกรานต์ กูเลยทักว่าช่วงนี้เดินสายเจอเพื่อนตลอดทั้งบางแสน เชียงใหม่ กทม
Jเลยบอกว่า แต่ก่อนเพื่อนกทมนัดเจอกันทุกอาทิตย์
ซึ่งกูรู้ว่าเค้าเป็นคนไม่อยากออกจากบ้านหรอกถ้าแรงจูงใจมันไม่แรงพอ
กูเลยทักว่าแต่ก่อน สงสัยเป็นสิบปีแล้ว เพราะเพื่อนเค้าที่กทมกูรู้จักเกือบหมด ก้อไม่ค่อยว่างตรงกัน แล้วเป็นกลุ่มคนโสดส่วนใหญ่
กูรู้สึกว่า JอยากเจอD ซึ่งไม่ใช่แบบที่เราอยากเจอกัน
กูอยากย้ายออก อยากเป็นแฟนปกติ ไม่ต้องมารับรู้เรื่องพวกนี้
เมื่อวานกูถามว่า ถ้ากูเที่ยวหนักเท่าเค้า คือเค้าเข้าใจใช่ไม๊ ไม่โกรธนะ
เค้าบอกกูว่าเค้าโอเคร ซึ่งกูก้อโอเคร
เพียงแต่พอกูเริ่มทีหลังเค้ากูเลยอึดอัด กูต้องทำอะไรอีกหลายอย่างกว่าจะได้กลับไปเที่ยว
กูอยากย้ายออกก่อน
กูเลยเซ็งๆๆ
W : อ่าฮะ ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งระแวง กูเข้าใจ ยิ่งใกล้ยิ่งรู้สึก ยิ่งเข้าใจ
๋JJ : คือฝั่ง D กูเข้าใจเค้านะ เค้าคงอยากระบายจริงๆ ฝั่ง J กูก็เข้าใจนะ เค้าเป็นคนดี ขี้สงสาร แล้วก็เป็นเพื่อนมาเป็น20ปีแล้ว แต่กูไม่ชอบที่ที่กูอยู่ตรงนี้ กูแกล้งทำไม่เห็นไม่สงสัยไม่ได้ เลยไม่อยากรู้
แล้วก็อยากเที่ยวเหมือนแต่ก่อนด้วย กูชอบกินเหล้า เมา แดนซ์ หลังเลิกงานอ่ะ 555 แต่มันบั่นทอน ครอบครัว ไง ...เงิน ทองก็หาไม่ได้ ยังจะผลาญมันก็ไม่ถูก กูก็อึดอัด
อีกอย่าง กูไม่มีทางโกรธหรือน้อยใจ ถ้าเค้าจะรู้สึก สงสาร เห็นใจ แล้วกลายเป็นความรัก ความผูกผัน ถ้ากูไม่ได้อยู่ตรงนี้ กูชอบเห็นคนที่กูรัก ได้อยู่กับคนที่ใช่สำหรับเค้าอยู่แล้ว แต่เค้าควรพูดกับกูตรงๆ เมื่อเค้าไม่รู้สึกกับกูเหมือนเดิม หรือเค้าสงสาร และอยากดูแลคนอื่นแล้ว
กูอยากห่างกันสักพัก จะได้รู้ใจกันให้มากกว่านี
W : อ่าฮะ มันอาจเป็นทางออกทีดีก็ได้
จบ part1 แล้ว แล้วก็ได้แต่หวังว่าจะไม่มี part ต่อต่อไป
ได้แต่หวังว่า JJ จะสามารถคิดได้ว่า อะไรควรรู้สึก อะไรควรปล่อยวาง อะไรควรให้ความสำคัญในชีวิตคู่ แล้วก็รักกันกับ J ไปได้จนถึงวันแต่งงาน หรือวันที่ทั้งคู่เรียกอีกคนได้เต็มปาก ว่า "คู่ชีวิต"
ทีนี้ เราในฐานะนักอ่าน เราจะแนะนำ JJ กันว่ายังไงดี เชื่อว่าหลายๆล็อกอินในพันทิปจะเคยเจอเหตุการณ์สั่นคอนอารมณ์แบบนี้เหมือนเหมือนกัน
เอาประสบการณ์ในชีวิตคู่มาบอกต่อ มาสอน JJ ให้นางมีแนวคิดไว้เป็นยาใจ ให้เรื่องนี้ได้จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง อย่างที่คนเขียนตั้งใจไว้ในตอนที่เริ่มเขียนเรื่องนี้
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบค่ะ
JJ