เที่ยวอิตาลีกินอะไรตอนที่ 1 : Rome
https://fovefood.wordpress.com/2014/04/27/เที่ยว-italy-กินอะไร-ตอนที่-1-rome-ก/
เที่ยวอิตาลีกินอะไรตอนที่ 2 : Venice
https://fovefood.wordpress.com/2014/05/05/เที่ยวอิตาลี-กินอะไร-ตอ/
ก่อนที่จะหายตัวไม่เขียนอะไรไปอีกสักพัก ก็ควรจะเขียนอะไรสะหน่อยเพราะเดี๋ยวจะถูกลืม ช่วงสงกรานต์นี้จะพาลูกค้า private group ไปเที่ยวทางตอนใต้ของอิตาลี Capri, Amalfi Coast และ Sicily แต่ทริปจะจบลงที่มิลาน เพราะลูกค้าอยากไป Shopping ต่อ ไอ้เราก็ถือโอกาสอยู่มิลานต่อเลย เพื่อที่จะได้ไปลองร้านอาหารที่เค้าว่าเด็ดในมิลาน แต่มิลานก็เหมือนกรุงเทพ คือ ร้านอาหารเยอะมาก ลองให้ตายก็ไม่หมด ถึงจะไม่ใช่เมืองหลวง แต่เจริญกว่าเมืองหลวงเยอะ ซึ้งผู้คนก็จะตาม style คนเมืองหลวงคือตัวใครตัวมันแล้วก็รีบร้อน อย่างตอนขับรถไฟสี่แยกเพิ่งเขียวแค่ 1 วิ ก็ถูกบีบแตรไล่งี้ คือจะรีบไปไหนค่ะ เดี๋ยวก้ไปติดอีกไฟแดงละคะ (เที่ยวมิลานนั่ง Metro หรือ Tram สบายสุดค่ะ)
มิลานเป็นเมือง Shopping และศูนย์กลาง Fashion แล้วส่วนใหญ่ก็หลีกเลี่ยงที่จะไม่มาไม่ได้เพราะว่าสนามบิน Internation (Malpensa airport) อยู่ห่างจากมิลานเพียง 45-60 นาที คนส่วนใหญ่ก่อนจะกลับเมืองไทยหรือเพิ่งมาจากเมืองไทยก็ต้องมาแวะมิลานก่อน แล้วที่นี้ถ้าใครอยากได้ความเป็นอิตาเลี้ยนแท้ๆจากอาหารที่นี้ คนอาจจะมองข้ามมิลานไป เพราะมิลานเป็นเมืองที่ถือว่ามีความหลากหลายที่สุดในอิตาลีแล้ว เพราะต่างชาติก็เยอะแล้วก็เจริญสุด แต่ความจริงแล้วอาหารท้องถิ่น(พูดสะบ้านนอกเลย)ของมิลานก็มีหลายอย่างเลย
Milan นั้นอยู่ในแคว้น lombardy ทางตอนเหนือของอิตาลี ซึ่งทางตอนเหนือจะนิยมทานข้าวกันมาก เพราะว่าข้าวปลูกได้เยอะทางตอนเหนือ รวมถึงเค้าจะนิยมใช้เนยมากกว่าน้ำมันมะกอก เพราะว่าทางเหนือเลี้ยงวัวเยอะกว่าปลูกต้น olive เนื่องจากสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่อำนวย
ทานที่เด่นที่สุดของมิลาน ก็คือ Risotto alla Milanese
Riso แปลว่าข้าว Cotto แปลว่า Cooked รวมกันเป็น Rissotto = cooked rice
alla Milanese = of Milan หรือแปลแบบง่อยๆว่า ข้าวผัดของมิลาน (เพราะ Risotto จะเรียกว่าข้าวต้มก็ไม่ใช่ ข้าวผัดก็ไม่เชิง) ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Rissotto
https://fovefood.wordpress.com/2014/06/14/risotto/
ส่วนผสมของก็จะมี
เนย
Bone Marrow (optional)
หัวหอม
ข้าว พันธ์ข้าวที่ดีที่สุดสำหรับทำ Risotto คือ Carnaroli ซึ่งถือเป็น the king of rices เหมาะสุดที่จะทำ risotto เพราะว่า มันจะดูดซึมน้ำซุปเท่ากัน ส่วนตัวข้าวถึงแม้ว่าจะ cook เป็นเวลานานก็จะยังคง firm อยู่แล้วก็ไม่เกาะกันเป็นก้อนเหนียวๆ
Dry white wine
Saffron คือเกสรของดอกไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งถ้าเทียบตามน้ำหนัก ถือว่าเป็นของกินที่แพงที่สุดในโลก แพงกว่า Truffle หรือ Caviar สะอีก
เกลือกับพริกไทย
Parmesan cheese
โดยปกติแล้ว Risotto alla Milanese นั้นจะทานคู่กับ Osso Bucco (สตูขาลูกวัว)
ตอนที่ไปมิลานก็ลองหลายที่มาก ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร จนในที่สุดมาเจอร้านนึงเด็ดมาก แล้วก็จะต้องบอกให้ลูกค้าไม่ว่าจะพาไปเองหรือ consult ทุกคนไปร้านนี้ เพราะทานกี่ทีก็ไม่เบื่อ แต่ถ้าร้านอื่นก็ 50-50 ที่เมนูนี้จะอร่อย ขอให้ทุกท่านโชคดีตอนไปเที่ยวมิลานและสั่งได้ Risotto alla Milanese ที่อร่อย
อีกตัวเลยที่ไปเกือบทุกร้านในมิลานจะต้องมีเมนูนี้ แต่สั่งกี่รอบก็ไม่เคยอร่อย จนเลิกลองไปแล้ว คือ Cotlette alla Milanese (แผ่นเนื้อชุปแป้งขนมปังทอด) แล้วเค้าก็จะให้มะนาวมาบีบแค่นั้น ฟังก็ไม่อร่อย กินก็ไม่อร่อย (นี่ taste ส่วนบุคคลนะคะ เพราะคนอิตาเลียนแท้ๆเค้าก็ชอบกันเยอะแยะ)
นอกเหนือจากสองเมนูนี้ที่เด่นที่สุดก็จะมี
Mondeghili = Meatballs
Scaloppine al Limone = Veal cutlet with lemon sauce
อีกอย่างที่เป็นของที่นี้ คือ Salame di Milano ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน Salami ที่ดังที่สุดของอิตาลี คุณอาจจะเคยทานแล้วแต่ไม่รู้ว่ามันเป็น Salame di Milano ตัวนี้มันจะแท่งใหญ่กว่า Salami ปกติ แล้วก็มีส่วนผสมของเนื้อวัวด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีแต่เนื้อหมู
ถ้าเป็นชีส ก็จะมีสองตัวที่ดังๆ คือ Gorgonzola (blue cheese ชนิดหนึ่ง) ซึ่งเบนจะแนะนำว่าให้หาซื้อ Gorgonzola Dolce เพราะว่ามันจะเป็น Blue cheese ที่รสชาติอ่อนและทานง่าย คู่กับ cracker ยิ่งอร่อย
https://fovefood.wordpress.com/2013/11/01/gorgonzola-เท้านางฟ้าแห่ง-blue-cheese/
ชีสอีกตัวคือ Grana Padano คล้าย Parmesan แต่รสชาติมันกว่า และกลิ่นอ่อนกว่า
สำหรับใครที่ไปเที่ยวมิลาน มีอีกย่างที่น่าสนใจมากคือ การได้ไปนั่งทาน Dinner ในรถรางที่วิ่งรอบเมือง คือมันเป็นประสบการณ์ที่ดีและสนุก (แต่อาหารไม่อร่อยเลย) ถ้าใครสนใจต้องจองกันก่อนล่วงหน้านานมากนะคะ หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.atm.it/it/AltriServizi/TempoLibero/Pagine/ATMosfera.aspx
ลูกค้าที่แสนประเสริฐสุดน่ารัก กราบงามๆสาธุ
เที่ยวอิตาลีกินอะไร ตอนที่ 3 : Milan
เที่ยวอิตาลีกินอะไรตอนที่ 2 : Venice https://fovefood.wordpress.com/2014/05/05/เที่ยวอิตาลี-กินอะไร-ตอ/
ก่อนที่จะหายตัวไม่เขียนอะไรไปอีกสักพัก ก็ควรจะเขียนอะไรสะหน่อยเพราะเดี๋ยวจะถูกลืม ช่วงสงกรานต์นี้จะพาลูกค้า private group ไปเที่ยวทางตอนใต้ของอิตาลี Capri, Amalfi Coast และ Sicily แต่ทริปจะจบลงที่มิลาน เพราะลูกค้าอยากไป Shopping ต่อ ไอ้เราก็ถือโอกาสอยู่มิลานต่อเลย เพื่อที่จะได้ไปลองร้านอาหารที่เค้าว่าเด็ดในมิลาน แต่มิลานก็เหมือนกรุงเทพ คือ ร้านอาหารเยอะมาก ลองให้ตายก็ไม่หมด ถึงจะไม่ใช่เมืองหลวง แต่เจริญกว่าเมืองหลวงเยอะ ซึ้งผู้คนก็จะตาม style คนเมืองหลวงคือตัวใครตัวมันแล้วก็รีบร้อน อย่างตอนขับรถไฟสี่แยกเพิ่งเขียวแค่ 1 วิ ก็ถูกบีบแตรไล่งี้ คือจะรีบไปไหนค่ะ เดี๋ยวก้ไปติดอีกไฟแดงละคะ (เที่ยวมิลานนั่ง Metro หรือ Tram สบายสุดค่ะ)
มิลานเป็นเมือง Shopping และศูนย์กลาง Fashion แล้วส่วนใหญ่ก็หลีกเลี่ยงที่จะไม่มาไม่ได้เพราะว่าสนามบิน Internation (Malpensa airport) อยู่ห่างจากมิลานเพียง 45-60 นาที คนส่วนใหญ่ก่อนจะกลับเมืองไทยหรือเพิ่งมาจากเมืองไทยก็ต้องมาแวะมิลานก่อน แล้วที่นี้ถ้าใครอยากได้ความเป็นอิตาเลี้ยนแท้ๆจากอาหารที่นี้ คนอาจจะมองข้ามมิลานไป เพราะมิลานเป็นเมืองที่ถือว่ามีความหลากหลายที่สุดในอิตาลีแล้ว เพราะต่างชาติก็เยอะแล้วก็เจริญสุด แต่ความจริงแล้วอาหารท้องถิ่น(พูดสะบ้านนอกเลย)ของมิลานก็มีหลายอย่างเลย
Milan นั้นอยู่ในแคว้น lombardy ทางตอนเหนือของอิตาลี ซึ่งทางตอนเหนือจะนิยมทานข้าวกันมาก เพราะว่าข้าวปลูกได้เยอะทางตอนเหนือ รวมถึงเค้าจะนิยมใช้เนยมากกว่าน้ำมันมะกอก เพราะว่าทางเหนือเลี้ยงวัวเยอะกว่าปลูกต้น olive เนื่องจากสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่อำนวย
ทานที่เด่นที่สุดของมิลาน ก็คือ Risotto alla Milanese
Riso แปลว่าข้าว Cotto แปลว่า Cooked รวมกันเป็น Rissotto = cooked rice
alla Milanese = of Milan หรือแปลแบบง่อยๆว่า ข้าวผัดของมิลาน (เพราะ Risotto จะเรียกว่าข้าวต้มก็ไม่ใช่ ข้าวผัดก็ไม่เชิง) ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Rissotto https://fovefood.wordpress.com/2014/06/14/risotto/
ส่วนผสมของก็จะมี
เนย
Bone Marrow (optional)
หัวหอม
ข้าว พันธ์ข้าวที่ดีที่สุดสำหรับทำ Risotto คือ Carnaroli ซึ่งถือเป็น the king of rices เหมาะสุดที่จะทำ risotto เพราะว่า มันจะดูดซึมน้ำซุปเท่ากัน ส่วนตัวข้าวถึงแม้ว่าจะ cook เป็นเวลานานก็จะยังคง firm อยู่แล้วก็ไม่เกาะกันเป็นก้อนเหนียวๆ
Dry white wine
Saffron คือเกสรของดอกไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งถ้าเทียบตามน้ำหนัก ถือว่าเป็นของกินที่แพงที่สุดในโลก แพงกว่า Truffle หรือ Caviar สะอีก
เกลือกับพริกไทย
Parmesan cheese
โดยปกติแล้ว Risotto alla Milanese นั้นจะทานคู่กับ Osso Bucco (สตูขาลูกวัว)
ตอนที่ไปมิลานก็ลองหลายที่มาก ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร จนในที่สุดมาเจอร้านนึงเด็ดมาก แล้วก็จะต้องบอกให้ลูกค้าไม่ว่าจะพาไปเองหรือ consult ทุกคนไปร้านนี้ เพราะทานกี่ทีก็ไม่เบื่อ แต่ถ้าร้านอื่นก็ 50-50 ที่เมนูนี้จะอร่อย ขอให้ทุกท่านโชคดีตอนไปเที่ยวมิลานและสั่งได้ Risotto alla Milanese ที่อร่อย
อีกตัวเลยที่ไปเกือบทุกร้านในมิลานจะต้องมีเมนูนี้ แต่สั่งกี่รอบก็ไม่เคยอร่อย จนเลิกลองไปแล้ว คือ Cotlette alla Milanese (แผ่นเนื้อชุปแป้งขนมปังทอด) แล้วเค้าก็จะให้มะนาวมาบีบแค่นั้น ฟังก็ไม่อร่อย กินก็ไม่อร่อย (นี่ taste ส่วนบุคคลนะคะ เพราะคนอิตาเลียนแท้ๆเค้าก็ชอบกันเยอะแยะ)
นอกเหนือจากสองเมนูนี้ที่เด่นที่สุดก็จะมี
Mondeghili = Meatballs
Scaloppine al Limone = Veal cutlet with lemon sauce
อีกอย่างที่เป็นของที่นี้ คือ Salame di Milano ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน Salami ที่ดังที่สุดของอิตาลี คุณอาจจะเคยทานแล้วแต่ไม่รู้ว่ามันเป็น Salame di Milano ตัวนี้มันจะแท่งใหญ่กว่า Salami ปกติ แล้วก็มีส่วนผสมของเนื้อวัวด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีแต่เนื้อหมู
ถ้าเป็นชีส ก็จะมีสองตัวที่ดังๆ คือ Gorgonzola (blue cheese ชนิดหนึ่ง) ซึ่งเบนจะแนะนำว่าให้หาซื้อ Gorgonzola Dolce เพราะว่ามันจะเป็น Blue cheese ที่รสชาติอ่อนและทานง่าย คู่กับ cracker ยิ่งอร่อย https://fovefood.wordpress.com/2013/11/01/gorgonzola-เท้านางฟ้าแห่ง-blue-cheese/
ชีสอีกตัวคือ Grana Padano คล้าย Parmesan แต่รสชาติมันกว่า และกลิ่นอ่อนกว่า
สำหรับใครที่ไปเที่ยวมิลาน มีอีกย่างที่น่าสนใจมากคือ การได้ไปนั่งทาน Dinner ในรถรางที่วิ่งรอบเมือง คือมันเป็นประสบการณ์ที่ดีและสนุก (แต่อาหารไม่อร่อยเลย) ถ้าใครสนใจต้องจองกันก่อนล่วงหน้านานมากนะคะ หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.atm.it/it/AltriServizi/TempoLibero/Pagine/ATMosfera.aspx
ลูกค้าที่แสนประเสริฐสุดน่ารัก กราบงามๆสาธุ