ไปดูมาแล้ว...
ด้วยข้อสงสัยนำไปสู่ความอยากรู้ 10 Cloverfield Lane (ให้ 8.5/10)
***** ไม่สปอยล์ ******
ว่ากันว่าโดยปกติของมนุษย์เป็นผู้ที่มีความพยายามเสาะแสวงหาข้อเท็จจริง เนื่องจากมนุษย์มีธรรมชาติของความอยากรู้อยากเห็น ต้องการความเข้าใจในสิ่งต่าง ๆ ที่ประสบหรือพบเจอ ดังนั้นเมื่อเจอเหตุการณ์ไม่คุ้นชิน มนุษย์ก็จะหาทางเอาคำตอบจากสิ่งที่เจอมาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งให้จงได้
.
10 Cloverfield Lane ว่าด้วยเรื่องราวของหญิงสาวที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ห้องใต้ดินร่วมกับชายแปลกหน้าอีก 2 คน หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อเธอตื่นขึ้นมา หนึ่งในนั้นเล่าว่า เขาเป็นคนช่วยชีวิตเธอไว้จากการโจมตีทางเคมีที่ทำให้โลกภายนอกนั้นไม่สามารถอยู่อาศัยได้ และเมื่อเธอพยายามหลบหนี ชายแปลกหน้ากลับพูดเตือนเธอว่าอย่าออกไปเด็ดขาดเพราะโลกใบนี้กำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างร้ายแรง
.
ตัวหนังเกือบทั้งเรื่องดำเนินเรื่องด้วยความน่าสงสัย ยิ่งช่วงแรกของหนังเป็นอะไรที่งงมาก ในใจมีแต่คำถามว่ามันคืออะไร เกิดอะไรขึ้น ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ แล้วหนังก็จะค่อยๆ พีคขึ้นเรื่อยๆ จนในตอนท้ายความพีคพุ่งปรี๊ด ใจเต้นระรัวมาก ดังนั้นจงอย่าฟังใครหรือพยายามรู้ข้อมูลเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้มาให้น้อยที่สุด เพราะถ้ารู้มาก่อนแล้วอรรถรสในการดูหนังจะลดไปเยอะทีเดียว ซึ่งหนังก็ท้าทายความคิดของผู้ชมอยู่ไม่น้อยด้วยการนำเสนอ "ผล" มาก่อน "เหตุ"
.
แม้ว่าตัวละครในเรื่องจะมีอยู่แค่ 3 ตัวละคร แต่ทุกตัวละครมีเรื่องราวมีปมหลังที่ทำให้คนดูอย่างเราอยากรู้ว่าเพราะเหตุใดพวกเขาถึงมาอยู่ด้วยกันในสถานที่แห่งนี้ นี่แหละจึงทำให้หนังใช้ตัวดำเนินเรื่องน้อยแต่เอาหนังทั้งเรื่องอยู่หมัดมาก
.
หลายครั้งเวลาเราดูผู้เข้าประกวดตอบคำถามจากคณะกรรมการ มักจะเจอคำถามที่ว่า "หากคุณย้อนเวลากลับไปแก้ไขเรื่องราวในอดีตได้ คุณอยากจะแก้ไขอะไร? และเพราะเหตุใด?" หนังเรื่องนี้ก็คงเป็นตัวเต็งในการประกวดเวทีนั้นอย่างแน่นอนด้วยคำตอบที่ว่า "ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่มีเหตุมีผลของมัน ไม่มีวันนั้นก็อาจไม่มีวันนี้ อดีตอาจไม่สำคัญทำปัจจุบันให้ดีเท่านั้นพอ"
.
สิ่งหนึ่งที่น่าคิดจากหนังเรื่องนี้คือคนเรามักมองคนที่ "เตรียมพร้อม" เป็นคนที่ "เพ้อเจ้อ" จริงอยู่ที่เรื่องราวในอนาคตเป็นสิ่งที่ยากเกินคาดเดา แต่หากเราเผื่อใจฉุกคิดขึ้นสักนิดบ้าง และเตรียมพร้อมล่วงหน้ากับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คงจะไม่ต้องมานั่งกังวลกับคำว่า "เส้นตาย" มากเท่าไหร่นัก
.
สุดท้ายนี้คงจะอดชื่นชมกับการแสดงของนางเอกของเรื่องไม่ได้ (แมรี่ อลิซาเบธ วินสตีด เล่นเป็น มิแชล) เพราะเธอคือกุญแจสำคัญที่จะไขไปสู่ประตูบานถัดไปของจักรวาล Cloverfield การแสดงความรู้สึกอึดอัดและพร้อมจะสู้โดยอาศัยสิ่งที่มีอยู่ของเธอทำให้เราตระหนักได้ว่า "หากชีวิตไม่สิ้น ก็ต้องดิ้นด้วยไหวพริบ"
.
หนังยังได้ เจเจ อับรามส์ (J.J. Abrams) รับหน้าที่อำนวยการสร้าง ซึ่งเขายืนยันว่า "10 Cloverfield Lane มีความเกี่ยวข้องกับ Cloverfield อย่างแน่นอน (แต่ใครไม่เคยดูภาคแรกมาก็ดูได้นะ) โดยรวมคิดว่าสนุกไม่เสียดายเงินอย่างแน่นอน
Cr.รีวิวเรื่อยเปื่อย
https://goo.gl/H7jAoG
[CR] ด้วยข้อสงสัยนำไปสู่ความอยากรู้ 10 Cloverfield Lane ดูแล้วได้อะไร (ไม่สปอยด์)
ไปดูมาแล้ว...
ด้วยข้อสงสัยนำไปสู่ความอยากรู้ 10 Cloverfield Lane (ให้ 8.5/10)
***** ไม่สปอยล์ ******
ว่ากันว่าโดยปกติของมนุษย์เป็นผู้ที่มีความพยายามเสาะแสวงหาข้อเท็จจริง เนื่องจากมนุษย์มีธรรมชาติของความอยากรู้อยากเห็น ต้องการความเข้าใจในสิ่งต่าง ๆ ที่ประสบหรือพบเจอ ดังนั้นเมื่อเจอเหตุการณ์ไม่คุ้นชิน มนุษย์ก็จะหาทางเอาคำตอบจากสิ่งที่เจอมาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งให้จงได้
.
10 Cloverfield Lane ว่าด้วยเรื่องราวของหญิงสาวที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ห้องใต้ดินร่วมกับชายแปลกหน้าอีก 2 คน หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อเธอตื่นขึ้นมา หนึ่งในนั้นเล่าว่า เขาเป็นคนช่วยชีวิตเธอไว้จากการโจมตีทางเคมีที่ทำให้โลกภายนอกนั้นไม่สามารถอยู่อาศัยได้ และเมื่อเธอพยายามหลบหนี ชายแปลกหน้ากลับพูดเตือนเธอว่าอย่าออกไปเด็ดขาดเพราะโลกใบนี้กำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างร้ายแรง
.
ตัวหนังเกือบทั้งเรื่องดำเนินเรื่องด้วยความน่าสงสัย ยิ่งช่วงแรกของหนังเป็นอะไรที่งงมาก ในใจมีแต่คำถามว่ามันคืออะไร เกิดอะไรขึ้น ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ แล้วหนังก็จะค่อยๆ พีคขึ้นเรื่อยๆ จนในตอนท้ายความพีคพุ่งปรี๊ด ใจเต้นระรัวมาก ดังนั้นจงอย่าฟังใครหรือพยายามรู้ข้อมูลเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้มาให้น้อยที่สุด เพราะถ้ารู้มาก่อนแล้วอรรถรสในการดูหนังจะลดไปเยอะทีเดียว ซึ่งหนังก็ท้าทายความคิดของผู้ชมอยู่ไม่น้อยด้วยการนำเสนอ "ผล" มาก่อน "เหตุ"
.
แม้ว่าตัวละครในเรื่องจะมีอยู่แค่ 3 ตัวละคร แต่ทุกตัวละครมีเรื่องราวมีปมหลังที่ทำให้คนดูอย่างเราอยากรู้ว่าเพราะเหตุใดพวกเขาถึงมาอยู่ด้วยกันในสถานที่แห่งนี้ นี่แหละจึงทำให้หนังใช้ตัวดำเนินเรื่องน้อยแต่เอาหนังทั้งเรื่องอยู่หมัดมาก
.
หลายครั้งเวลาเราดูผู้เข้าประกวดตอบคำถามจากคณะกรรมการ มักจะเจอคำถามที่ว่า "หากคุณย้อนเวลากลับไปแก้ไขเรื่องราวในอดีตได้ คุณอยากจะแก้ไขอะไร? และเพราะเหตุใด?" หนังเรื่องนี้ก็คงเป็นตัวเต็งในการประกวดเวทีนั้นอย่างแน่นอนด้วยคำตอบที่ว่า "ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่มีเหตุมีผลของมัน ไม่มีวันนั้นก็อาจไม่มีวันนี้ อดีตอาจไม่สำคัญทำปัจจุบันให้ดีเท่านั้นพอ"
.
สิ่งหนึ่งที่น่าคิดจากหนังเรื่องนี้คือคนเรามักมองคนที่ "เตรียมพร้อม" เป็นคนที่ "เพ้อเจ้อ" จริงอยู่ที่เรื่องราวในอนาคตเป็นสิ่งที่ยากเกินคาดเดา แต่หากเราเผื่อใจฉุกคิดขึ้นสักนิดบ้าง และเตรียมพร้อมล่วงหน้ากับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คงจะไม่ต้องมานั่งกังวลกับคำว่า "เส้นตาย" มากเท่าไหร่นัก
.
สุดท้ายนี้คงจะอดชื่นชมกับการแสดงของนางเอกของเรื่องไม่ได้ (แมรี่ อลิซาเบธ วินสตีด เล่นเป็น มิแชล) เพราะเธอคือกุญแจสำคัญที่จะไขไปสู่ประตูบานถัดไปของจักรวาล Cloverfield การแสดงความรู้สึกอึดอัดและพร้อมจะสู้โดยอาศัยสิ่งที่มีอยู่ของเธอทำให้เราตระหนักได้ว่า "หากชีวิตไม่สิ้น ก็ต้องดิ้นด้วยไหวพริบ"
.
หนังยังได้ เจเจ อับรามส์ (J.J. Abrams) รับหน้าที่อำนวยการสร้าง ซึ่งเขายืนยันว่า "10 Cloverfield Lane มีความเกี่ยวข้องกับ Cloverfield อย่างแน่นอน (แต่ใครไม่เคยดูภาคแรกมาก็ดูได้นะ) โดยรวมคิดว่าสนุกไม่เสียดายเงินอย่างแน่นอน
Cr.รีวิวเรื่อยเปื่อย
https://goo.gl/H7jAoG