(18+) ความลับของคนข้างๆ...

ที่มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง เขตบางกะปิ ในวันที่ผมเปิดเรียนวันแรก



" หะ หะ เห้ยยยยยย  เมิง....เมิงดูนั่นดิ ชะ ชะ เชี้ยยยยยยยยย !! " ไอจืดเพื่อนสนิทของผมพูดด้วยน้ำเสียงตกใจอย่างกับเจอยูนิคอนหรือไม่ก็ยูเอฟโอบินว่อนอบู่บนท้องฟ้าอย่างไงอย่างงั้น พรางเขย่าตัวผมอย่างรุนแรงเพื่อให้ผมมองไปที่ที่หนึ่งจนหน้ากระโดดถีบ...



" ไอ้ซัจจจจจ  เป็นเฮี๊ยอะไรของเมิงวะ ? มะ มะ มี อะ...ไร...น่า....ตก....ใจ  ............ ขนาด..นั้น  "   เอ่อคือว่า...ผมปกติดีทุกอย่างนะครับ ไม่ได้มีปัญในด้านการสื่อสารการพูดจาแต่อย่างใด แต่ที่ผมถึงกับพูดตะกุกตะกักฟังไม่เป็นคำติดอ่างอย่างกับพี่อ่างเถิดเทิงแบบนั้น เพราะไอสิ่งที่กำลังปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าผมต่างหาก ...



"ผู้หญิงคนหนึ่งเธอมีผิวที่ขาวเนียนซึ่งขลับกับผมที่หนาดกดำของเธอ นัยน์ตาของเธอหวานรับกับใบหน้าและรอยยิ้มหวานๆของเธอ"




...ผู้หญิงอะไร หวานไปหมดทั้งตัว...




แล้วนั่นแหละครับคือ....สิ่งที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าผม





                  ใช่ครับ ความจริงแล้วสำหรับคนอื่นมันอาจไม่มีอะไรน่าตกใจขนาดนั้นยิ่งสำหรับผู้หญิงด้วยแล้วไอ้อะไรแบบนี้มันคงไม่ใช่อะไรที่น่าตื่นเต้นขนาดนั้นแน่ๆล่ะ แต่ยังไงก็ไม่ใช่สำหรับผู้ชายสายหื่นอย่างผมกับไอจืดน่ะนะ พอผมเห็นเธอแล้ว ผมบอกเลยครับว่าภาพที่เห็นตรงหน้ามันชวนให้ Look มากครับ...

                  

                  เอ่อคือ....ก่อนอื่นเลยบางทีคนอ่านอาจจะเกิดอาการงงและสับสนเล็กน้อยใช่ไหมครับ ? ที่ผมเปิดเรื่องมาปุ๊บผมก็ลากเข้าประเด็นอย่างเร่งด่วนอย่างกับว่า 3G ที่ใช้อยู่กำลังจะหมด จริงๆไม่ใช่ครับ ผมก็แค่อยากจะเปิดเรื่องให้น่าสนใจที่สุดก็เท่านั้นเพราะผมเป็นพวกที่ชอบเรียกร้องความสนใจอยู่เป็นประจำ คล้ายๆกับว่าขาดความอบอุ่นจากคนที่บ้าน จริงๆแล้วแม่ผมเค้าเคยบอกกับผมนะครับว่า ตอนเด็กๆอ่ะ ผมไม่ได้กินนมแม่พอผมโตมาก็เลยแลดูขาดๆเกินๆแบบนี้แต่แน่นอนครับว่าแค่เรื่องสมองเท่านั้น เพราะส่วนอื่นของผมน่ะ เรียกได้ว่า "Perfect" ด้วยความที่ผมเป็นผู้ชาย หล่อ  ใส มีเสน่ห์ หน้าหวานอย่างกับผู้หญิงก็ไม่ปาน และแค่นั่นยังไม่พอนะครับแถมพ่วงด้วยดีกรีลูกชายคนเดียวของ CEO บริษัทใหญ่ เลยทำให้ผมเป็นที่หมายตาของสาวๆทั่วราชอาณาจักร อ่านถึงตรงนี้คงจะคิดว่าผมหลงตัวเองใช่ไหมครับ ? หมั่นไส้ผมใช่ไหม ? แต่อย่าเพิ่งครับ ผมไม่ได้จะมาโอ้อวดโปรไฟล์หรือคุณสมบัติของตัวเองให้ฟังเพราะเรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นอะไรที่......



เอ้อลืมไป ผมลืมบอกชื่อผมเลย ผมมีชื่อว่า เจมส์ ครับ (คนอ่านจะจินตนาการว่าผมหน้าเหมือน เจมส์จิก็ไม่ว่าอะไรนะเพราะคือๆกันอยู่ ตามบายเลยครับ)



อ่ะโอเคตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมเริ่มออกทะเลไปไกลแล้วล่ะ ..



ตัดภาพกลับมาที่น้องนางฟ้าคนนั้นของผมเลยล่ะกันครับ




                        หลังจากที่ผมเห็นนางฟ้าจำแลงมาปากฎกายอยู่ตรงหน้า .. ขาทั้งสองข้างของไอเจมส์คาสโนว่าตัวพ่ออย่างผม ก็ตรงดิ่งเข้าไปทำความรู้จักแล้วทักทายน้องด้วยความมั่นใจในโปรไฟล์ของตัวเองทันที


ผม : สวัสดีครับ พี่ชื่อพี่เจมส์นะครับ อยู่คณะวิศวะ ปี 4 แล้วน้องชื่ออะไรครับ อยู่คณะไหน มีอะไรให้รุ่นพี่คนนี้ช่วยมั้ย ?


ผมทักทายน้องเขาอย่างสุภาพอ่อนน้อมและส่งสายตาเป็นมิตรอย่างที่สุด สิ้นประโยคแนะนำของผม น้องเขาก็หันมา ทันทีที่น้องเขาเห็นใบหน้าของผม เขาจ้องมองด้วยความประหลาดใจ (สงสัยอึ้งในความหล่อ) แล้วสักพักคำแรกที่น้องเขาพูดออกมาก็คืออ... " พี่แจม "


ปะ ปะ ปะ ปะ ปะ แป่ว ...


สงสัยตอนผมพูดแนะนำตัว ผมคงจะตื่นเต้นไปหน่อยเลยพูดไม่รู้เรื่อง


"อ่อไม่ใช่ครับๆ เจมส์ครับ เจมส์" ผมรีบแก้ตัวในความขายขี้หน้าทันที  


น้องเขามองหน้าผมอีกครั้งแล้วนิ่งไป สักพักน้องเขาก็ตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ  


"อ่อค่ะ เนยชื่อเนยนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่เจมส์"


"อ่อครับผม ขอโทษนะครับที่เมื่อกี้ทำให้เข้าใจผิด  ยังไงพี่ก็ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ น้องเนย"  ผมพูดพร้อมส่งรอยยิ้มพิฆาตนารี พร้อมกับยิงคำถามต่อไป  "เอ่อแล้วน้องเนยอยู่ปีไหนครับเนี่ย ไม่คุ้นหน้าเลย"


"เนยอยู่ ปี 3 ค่ะ" น้องเนยตอบด้วยสีหน้าเป็นมิตรไม่ได้หยิ่งอะไร (ตอนแรกผมก็เผลอคิดไปว่าคนสวยขนาดนี้จะหยิ่งสะบัดซะอีกนะ)


"อ่อครับ แล้วเรียนคณะอะไรครับ ให้พี่พาไปมั้ย" ผมเสนอตัวจะให้ความช่วยเหลือแบบสุภาพบุรุษ


"เนยเรียนอยู่คณะแพทย์ค่ะ" เนยตอบ..


หืมมมม  นี่กูกำลังจะได้ว่าที่แฟนเป็นหมอหรือนี่ ช่างเหมาะสมกันซะนี่กระไร


"อ่อครับ งั้นเดี๋ยวพี่ขออาสาพาไปละกันนะครับ" ผมยังคงแสดงความแมนต่อไป


"ค่ะ" น้องเนยตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มที่หวานเหมือนเดิม



เอ่อคือ...
ผมมีคำถามครับ ...
Q : ผู้ชายเกือบทุกคนบนโลกนี้ชอบผู้หญิงสวยๆถูกต้องมั้ยครับ
A : ใช่ .... ผู้ชายเกือบทุกคนบนโลกนี้ชอบผู้หญิงสวย




เพราะฉะนั้น...
คู่แข่งของผมแม้งจึงโผล่ขึ้นมาอย่างกับอึ่งอ่างตอนฝนตก แน่นอนว่าในมหาวิทยาลัยไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวที่ชอบเนย ผู้ชายคนอื่นๆก็ต่างรุมชอบเนยแล้วมีความพยายามที่จะคว้าเนยหวานก้อนนั้นมารับประทานด้วยเหมือนกัน ผมเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่อยากลองทานเนยหวานก้อนนั้นดูสักครั้งเหมือนกัน ผมไม่ลดละความพยายามแม้จะมีคู่แข่งมากมาย


                 สำหรับ เนย นั้นเป็นที่รู้กันว่าเป็นเด็กเข้าใหม่สุดป๊อปว่าที่ หมอเนย เธอนั้นอยู่สูง ทั้งฐานะและหน้าตายากเกินที่ผู้ชายธรรมดาโปรไฟล์ธรรมดาจะไขว่คว้า เนยมีความเป็นลูกคุณหนูสูง สังเกตุได้จากหลายครั้งที่คุณพ่อของเนยจะเป็นคนนั่งรถหรูคันโตมารับ แหมหวงลูกสาวน่าดูและนะครับ คุณพ่อตา...
              

                 อาจเพราะว่าหน้าตาและฐานะที่โดดเด่นเลยทำให้เนยไม่มีเพื่อนคงเป็นอาจไม่มีใครกล้าคบเนย นอกจากเรื่องหน้าตาและผลการเรียนอีกอย่างที่เป็นที่เลื่องลือไม่แพ้กันคือ ความหยิ่ง ไม่ว่าจะใครที่ดาหน้าเข้ามาจีบไม่สนใจ ไม่ใยดี ไม่แยแส ใครหน้าไหนทั้งนั้น


                 แต่ว่าดั่งสุภาษิตคำพังเพย "สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร" ยังมีทหารกล้าอีกหลายนายที่ไม่ลดละที่จะเด็ดดอกฟ้าดอกนี้ ผมก็เช่นกัน ถ้าเปรียบนี่เป็นรอบคัดเลือกเดอะสตาร์ ตอนนี้คงแค่เหลือแค่เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายแล้วแหละครับ


แล้วเวลาก็ผ่านไปได้เดือนกว่าๆ


                 การแข่งขันค้นฟ้าคว้าเธอแล้วก็กำลังดำเนินต่อไป แต่คนที่เห็นว่าจะได้คะแนนนำโด่งที่สุดก็เห็นจะมีแต่ผมนี่แหละ เพราะอะไรน่ะเหรอ ผมก็ไม่รู้ มันน่าแปลกที่เขาเปิดใจให้ผมมากกว่าคนอื่น ทั้งที่คนอื่นที่มาจีบเขาแต่ละคนก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าผมเลย แต่ชั่งมันเถอะ เพราะนั่นก็ถือเป็นเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นกับผม ผมกับเขาแลกไลน์กัน ผมก็คุยกับเขาตลอดแต่ว่าด้วยความที่ดูเขาเป็นลูกคุณหนูผมเลยไม่กล้าที่จะรุกหนักและออกตัวแรงเกินไป อย่างเช่นว่า ดูหนัง เดินห้าง ทานข้าง อะไรแบบนี้ ผมพยายามรักษาระยะห่าง รอเวลา และสร้างภาพพจน์สุภาพบุรุษผู้อ่อนโยนและอบอุ่นที่คอยดูแลปกป้องเธอขึ้นมา แล้วทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่ผมคาด เวลาผ่านไปได้ 2 เดือนกว่าๆ ผมก็คือผู้เหลือรอดชีวิตเป็นคนสุดท้าย ผมกับเนยเราตกลงคบกันเป็นแฟน

          


แล้วนั่น ...

คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทุกอย่างที่จะเปลี่ยนแปลงผมไปตลอด...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่