เรื่องของ "นักเขียน" ที่มีมุมมองกับจุดยืน...คนละแบบ

ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก

๑. จากเฟซบุ๊กของ Punya Pappayon (28 มีนาคม เวลา 15:12 น. )
...........................................................................................

เห็นงานเขียนของ "วินทร์ เลียววาริณ"
ซึ่งในอดีตเคยเป็นนักเขียนในดวงใจของข้าพเจ้า
ในระดับที่ติดตามซื้อหนังสือเขาทุกเล่ม (แต่ปัจจุบันมิได้เป็นแล้ว)
ทำให้อดคิดถึงเรื่องความเปลี่ยนแปลงไม่ได้

ในอดีต เวลาเราชื่นชอบนักเขียน หรือแม้แต่ศิลปิน คนทำหนัง คนทำหนังคนไหน

เหตุผลที่เราชื่นชอบก็น่าจะเป็นเพราะ ผลงานออกมาดี มีความคิดสร้างสรรค์
ล้ำสมัยก้าวหน้าแปลกใหม่กว่าคนทำงานรุ่นเดียวกัน

จนกระทั่งเวลาผ่านไป รสนิยมของคนเราย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา
ประกอบกับมีคนทำงานหน้าใหม่ๆ มากขึ้น

ในขณะที่นักเขียนคนนั้นยังคงทำอะไรเหมือนเดิม
เหมือนที่เคยทำเหมือน 20 ปีที่แล้ว

และนั่นทำให้นักเขียนคนที่เราเคยชื่นชมในผลงาน
จนตามซื้อหนังสือของเขาครบทุกเล่ม
จึงกลับกลายเป็นคนที่งานได้เชยและล้าหลังจนเราเบือนหน้าหนีในปัจจุบัน

และยิ่งในยุคที่สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไปรวดเร็วอย่างน่าตกใจ

ก็อาจทำให้นักเขียนที่มัวแต่ก้มหน้าก้มตาเขียนหนังสือให้ทันเดดไลน์
หรือพยายามออกหนังสือให้ทันปีละ 4 เล่ม
ยิ่งมองไม่เห็นถึงโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วดังกล่าว

เช่นเดียวกับปกหนังสือที่เขาออกแบบ
เมื่อก่อนอาจเป็นภาพกราฟฟิคที่สวยงามโฉบเฉี่ยวดุจดังภาพโฆษณา
แต่พอเวลาผ่านไป
กราฟฟิคนั้นกลับออกมาเชยไม่ต่างจากภาพ
"สวัสดีวันจันทร์" "มีความสุขวันพระ" แบบที่ชอบส่งกันในไลน์

ด้วยเหตุนี้สิ่งที่นักเขียนควรทำนอกจากตะบี้ตะบันเขียนก็คือ
รู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงและก้าวไปให้ทันมัน

เพราะสุดท้ายถ้าใครก้าวไม่ทัน
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ความตายของนักเขียน
ซึ่งไม่ใช่เป็นความตายในเชิงชีวภาพ แต่เป็นความตายทางวรรณกรรม
คือเขียนอะไรมาก็ไม่มีใครสนใจอ่านอีกต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่