จุดน่าสังเกตุ แม่ประนอม ข้อมูลข้อเท็จจริงรวบรวมจากสื่อต่างๆ
ความสัมพันธ์ครอบครัว
1. พ่อและลูกสาว บริหารงานร่วมกัน ลูกถูกเลี้ยงให้ช่วยเหลือตัวเอง ลูกรู้สึกขาดความอบอุ่น
อ้างอิงหนังสืองานศพ : "พ่อไม่ค่อยแสดงความรักและการชื่นชมใดๆ ทำให้เราเหมือนคนขาดความอบอุ่น ขาดความรักจากพ่อ...อ้อยถูกเลี้ยงมาแบบที่ทุกอย่างต้องช่วยเหลือตัวเองทั้งหมด ขณะที่กำลังศึกษาอยู่ก็ต้องช่วยพ่อทำงาน ตั้งแต่ทำน้ำพริก ทำบัญชี...เวลาพ่อคุยกับลูกค้าก็ต้องคอยนั่งจดบันทึกอยู่ข้างๆ"
2. คาดว่าแม่ประนอมเลิกทำงานตอนคลอดลูกคนที่ 3
อ้างอิงหนังสืองานศพ : "พี่จะสอนให้นอมทำเองเป็นทุกอย่าง ทั้งผลิตและเป็นเซลส์ ทำงานด้วยกันมาตลอด ทั้งออกต่างจังหวัดด้วยกัน...จนลูกคนที่สามคือ “ใหญ่”...ไปคลอดที่โคราช"
3. พ่อมีอาการหลง 3-4 ปีก่อนตาย (โอนหุ้น 18 พ.ย. 52 ตาย ปี 56) เป็นเบาหวาน ตายด้วยโรคมะเร็งปอด
อ้างอิงหนังสืองานศพ : "อ้อยมีพ่อเป็นแบบอย่างและปูทางให้อ้อยเดินอย่างสะดวกในการดำเนินธุรกิจต่อไป เพราะระยะ 3 ปีหลังนั้น...พ่อมีอาการหลงบ้าง"
"พี่ไม่เคยเจ็บ ไม่เคยป่วย จนกระทั่งมาระยะหลังที่เริ่มรักษาตัวด้วยโรคเบาหวาน อาการมาเริ่มเห็นชัดตอนน้ำท่วมเมื่อปี 2554 พี่เริ่มมีอาการหลง..."
การบริหารบริษัท
1.แม่ประนอมไม่ได้เป็นกรรมการผู้มีอำนาจมาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
2.เจ้าของโลโก้แม่ประนอมคือนางศิริพร เพราะได้ไปขอจดกับกรมการค้าภายในโดยใช้ชื่อตัวเอง
3. เอกสารก่อตั้งบริษัทปี 24 เขียนว่า กรรมการผู้มีอำนาจ พ่อ หรือ ลูก (คนใดคนหนึ่งก็ได้) มีอำนาจในการเซ็นเอกสารของบริษัท
4. การถอดชื่อนายศิริชัย-นางประนอม รวมทั้ง น.ส.ศิริวัลย์ ตั้งแต่ปี 52 แต่ช่วงปี 52-56 ยังมีคงมีชื่อนายศิริชัย-นางประนอม เป็นประธานกรรมการบริษัท และรองประธานกรรมการบริษัท ตามงานสังคมต่างๆ มาตลอด
5. ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา นายศิริชัยในฐานะกรรมการบริษัทไม่เคยเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารสักครั้ง และสมุดผู้ถือหุ้นของบริษัท ก็อยู่ในความดูแลของกรรมการผู้จัดการบริษัท
การโอนหุ้น
1.การโอนหุ้นในปี 52 ทำก่อนที่พ่อจะลาออกจากกรรมการบริษัท 1 สัปดาห์
2. ศาลมีคำสั่งให้นางประนอมเป็นผู้จัดการมรดก ในปี 2557 จึงตรวจสอบทรัพย์สิน เพื่อแบ่งมรดกให้ลูก
3. นางประนอมและ น.ส.ศิริวัลย์ รวมถึงคนเก่าแก่ในบริษัท "เพิ่งรู้" ความจริงในปี 57 ว่า ที่ดินกว่า 100 แปลง ที่นายศิริชัยซื้อไว้ ถูกโอนไปอยู่ในชื่อนางศิริพร และรายชื่อผู้ถือหุ้นถูกเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ปี 52
4. น.ส.ศิริวัลย์ให้สัมภาษณ์ว่า มีหุ้นในบริษัทประมาณ 350 หุ้น แต่เพิ่งรู้เมื่อปี 57 พร้อมกับแม่ว่าหุ้นหาย
5. น.ส.ศิริวัลย์ให้สัมภาษณ์ว่า แม่ถูกถอดจากกรรมการบริษัท โดยเปลี่ยนมือเป็นของพี่สาว (ข้อนี้ไม่จริง เพราะตามเอกสารก่อตั้งบริษัทปี 24 ไม่มีชื่อแม่ประนอมตั้งแต่แรก)
6. แม่ประนอมอ้างถูกหลอกให้เซ็นเอกสาร จบแค่ ป.2 อ่านหนังสือไม่ค่อยออกและเชื่อใจ เรื่องทำนองนี้ เกิดขึ้นมาตั้งแต่พ่ออยู่โรงพยาบาล ก่อนที่จะเสีย
7. กรมการค้าภายในตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ไม่พบความผิดปกติในการโอนหุ้น เพราะบริษัทได้แจ้งข้อมูลให้กรมทราบอย่างถูกต้อง
การฟ้องร้อง
1. แม่ประนอมฟ้องศาลว่า นางศิริพรได้ปลอมหนังสือมอบอำนาจ โอนที่ดินกองมรดก 11 แปลงให้เป็นของตัวเอง
2. หนึ่งในทรัพย์สินที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง คือที่ดินในหมู่บ้านเศรษฐกิจ พบว่าถูกดัดแปลงเป็นหอพัก และที่จอดรถให้เช่ารายเดือนไปแล้ว
การถอนฟ้องและกลับมาฟ้องใหม่
1.เมื่อ 2-3 เดือนก่อนได้มีผู้ใหญ่คนหนึ่ง (ญาติฝ่ายสามี) บอกจะเคลียร์เรื่องให้ มาพูดคุยกับนางประนอม ซึ่งนางประนอมได้เซ็นหนังสือฉบับหนึ่งโดยไม่ได้รับการอธิบายว่าเป็นหนังสืออะไร แต่มาทราบภายหลังว่าเป็นหนังสือให้ยกฟ้องเรื่องต่างๆ และขอไม่รับสมบัติอะไรทั้งสิ้น จึงกลับมาฟ้องใหม่อีกรอบ บอกศาลว่าการถอนฟ้องครั้งนั้นไม่ได้เกิดจากเจตนาที่แท้จริง
2.แม่ประนอมเกรงว่าผลคำตัดสินที่ออกมาจะเป็นโมฆะ จึงมาร้องเรียนให้สังคมได้ทราบเรื่อง
3.น.ส.ศิริลักษณ์ ลูกสาวคนเล็ก ซึ่งพิการและอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด อาจจะเป็นคนที่ได้รับความเดือดร้อนที่สุด
4.ทำไมฝ่ายลูกสาวไม่ชี้แจง? หากนำมาเปิดเผยต่อสื่อ อาจเกิดการละเมิด ทำให้แพ้คดี เป็นโมฆะ หรือโดนฟ้องเพิ่ม
รวมจุดน่าสังเกตุ ปัญหาแม่ประนอม-ลูกสาว ทั้งความสัมพันธ์-ฟ้องร้อง
ความสัมพันธ์ครอบครัว
1. พ่อและลูกสาว บริหารงานร่วมกัน ลูกถูกเลี้ยงให้ช่วยเหลือตัวเอง ลูกรู้สึกขาดความอบอุ่น
อ้างอิงหนังสืองานศพ : "พ่อไม่ค่อยแสดงความรักและการชื่นชมใดๆ ทำให้เราเหมือนคนขาดความอบอุ่น ขาดความรักจากพ่อ...อ้อยถูกเลี้ยงมาแบบที่ทุกอย่างต้องช่วยเหลือตัวเองทั้งหมด ขณะที่กำลังศึกษาอยู่ก็ต้องช่วยพ่อทำงาน ตั้งแต่ทำน้ำพริก ทำบัญชี...เวลาพ่อคุยกับลูกค้าก็ต้องคอยนั่งจดบันทึกอยู่ข้างๆ"
2. คาดว่าแม่ประนอมเลิกทำงานตอนคลอดลูกคนที่ 3
อ้างอิงหนังสืองานศพ : "พี่จะสอนให้นอมทำเองเป็นทุกอย่าง ทั้งผลิตและเป็นเซลส์ ทำงานด้วยกันมาตลอด ทั้งออกต่างจังหวัดด้วยกัน...จนลูกคนที่สามคือ “ใหญ่”...ไปคลอดที่โคราช"
3. พ่อมีอาการหลง 3-4 ปีก่อนตาย (โอนหุ้น 18 พ.ย. 52 ตาย ปี 56) เป็นเบาหวาน ตายด้วยโรคมะเร็งปอด
อ้างอิงหนังสืองานศพ : "อ้อยมีพ่อเป็นแบบอย่างและปูทางให้อ้อยเดินอย่างสะดวกในการดำเนินธุรกิจต่อไป เพราะระยะ 3 ปีหลังนั้น...พ่อมีอาการหลงบ้าง"
"พี่ไม่เคยเจ็บ ไม่เคยป่วย จนกระทั่งมาระยะหลังที่เริ่มรักษาตัวด้วยโรคเบาหวาน อาการมาเริ่มเห็นชัดตอนน้ำท่วมเมื่อปี 2554 พี่เริ่มมีอาการหลง..."
การบริหารบริษัท
1.แม่ประนอมไม่ได้เป็นกรรมการผู้มีอำนาจมาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
2.เจ้าของโลโก้แม่ประนอมคือนางศิริพร เพราะได้ไปขอจดกับกรมการค้าภายในโดยใช้ชื่อตัวเอง
3. เอกสารก่อตั้งบริษัทปี 24 เขียนว่า กรรมการผู้มีอำนาจ พ่อ หรือ ลูก (คนใดคนหนึ่งก็ได้) มีอำนาจในการเซ็นเอกสารของบริษัท
4. การถอดชื่อนายศิริชัย-นางประนอม รวมทั้ง น.ส.ศิริวัลย์ ตั้งแต่ปี 52 แต่ช่วงปี 52-56 ยังมีคงมีชื่อนายศิริชัย-นางประนอม เป็นประธานกรรมการบริษัท และรองประธานกรรมการบริษัท ตามงานสังคมต่างๆ มาตลอด
5. ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา นายศิริชัยในฐานะกรรมการบริษัทไม่เคยเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารสักครั้ง และสมุดผู้ถือหุ้นของบริษัท ก็อยู่ในความดูแลของกรรมการผู้จัดการบริษัท
การโอนหุ้น
1.การโอนหุ้นในปี 52 ทำก่อนที่พ่อจะลาออกจากกรรมการบริษัท 1 สัปดาห์
2. ศาลมีคำสั่งให้นางประนอมเป็นผู้จัดการมรดก ในปี 2557 จึงตรวจสอบทรัพย์สิน เพื่อแบ่งมรดกให้ลูก
3. นางประนอมและ น.ส.ศิริวัลย์ รวมถึงคนเก่าแก่ในบริษัท "เพิ่งรู้" ความจริงในปี 57 ว่า ที่ดินกว่า 100 แปลง ที่นายศิริชัยซื้อไว้ ถูกโอนไปอยู่ในชื่อนางศิริพร และรายชื่อผู้ถือหุ้นถูกเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ปี 52
4. น.ส.ศิริวัลย์ให้สัมภาษณ์ว่า มีหุ้นในบริษัทประมาณ 350 หุ้น แต่เพิ่งรู้เมื่อปี 57 พร้อมกับแม่ว่าหุ้นหาย
5. น.ส.ศิริวัลย์ให้สัมภาษณ์ว่า แม่ถูกถอดจากกรรมการบริษัท โดยเปลี่ยนมือเป็นของพี่สาว (ข้อนี้ไม่จริง เพราะตามเอกสารก่อตั้งบริษัทปี 24 ไม่มีชื่อแม่ประนอมตั้งแต่แรก)
6. แม่ประนอมอ้างถูกหลอกให้เซ็นเอกสาร จบแค่ ป.2 อ่านหนังสือไม่ค่อยออกและเชื่อใจ เรื่องทำนองนี้ เกิดขึ้นมาตั้งแต่พ่ออยู่โรงพยาบาล ก่อนที่จะเสีย
7. กรมการค้าภายในตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ไม่พบความผิดปกติในการโอนหุ้น เพราะบริษัทได้แจ้งข้อมูลให้กรมทราบอย่างถูกต้อง
การฟ้องร้อง
1. แม่ประนอมฟ้องศาลว่า นางศิริพรได้ปลอมหนังสือมอบอำนาจ โอนที่ดินกองมรดก 11 แปลงให้เป็นของตัวเอง
2. หนึ่งในทรัพย์สินที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง คือที่ดินในหมู่บ้านเศรษฐกิจ พบว่าถูกดัดแปลงเป็นหอพัก และที่จอดรถให้เช่ารายเดือนไปแล้ว
การถอนฟ้องและกลับมาฟ้องใหม่
1.เมื่อ 2-3 เดือนก่อนได้มีผู้ใหญ่คนหนึ่ง (ญาติฝ่ายสามี) บอกจะเคลียร์เรื่องให้ มาพูดคุยกับนางประนอม ซึ่งนางประนอมได้เซ็นหนังสือฉบับหนึ่งโดยไม่ได้รับการอธิบายว่าเป็นหนังสืออะไร แต่มาทราบภายหลังว่าเป็นหนังสือให้ยกฟ้องเรื่องต่างๆ และขอไม่รับสมบัติอะไรทั้งสิ้น จึงกลับมาฟ้องใหม่อีกรอบ บอกศาลว่าการถอนฟ้องครั้งนั้นไม่ได้เกิดจากเจตนาที่แท้จริง
2.แม่ประนอมเกรงว่าผลคำตัดสินที่ออกมาจะเป็นโมฆะ จึงมาร้องเรียนให้สังคมได้ทราบเรื่อง
3.น.ส.ศิริลักษณ์ ลูกสาวคนเล็ก ซึ่งพิการและอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด อาจจะเป็นคนที่ได้รับความเดือดร้อนที่สุด
4.ทำไมฝ่ายลูกสาวไม่ชี้แจง? หากนำมาเปิดเผยต่อสื่อ อาจเกิดการละเมิด ทำให้แพ้คดี เป็นโมฆะ หรือโดนฟ้องเพิ่ม