คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
หุ้นจำนวน 59,000 หุ้น สัดส่วนผู้ถือหุ้น
-นายศิริชัย แดงสุภา 20,000 หุ้น
-นางประนอม แดงสุภา 18,200 หุ้น
-นางศิริพร (แม่ให้เป็นกรรมการบริหาร) 20,000 หุ้น
-น.ส.ศิริวัลย์ 350 หุ้น
ต่อมานายศิริชัยตาย ก.ย.ปี 56
การแบ่งสัดส่วนหุ้นที่ถูกต้อง
20,000 หุ้น หาร 2 = 10000 หุ้น เป็นสินสมรสของแม่ประนอม
แบ่งหุ้นที่เหลือ 4 ส่วน = 2500 หุ้น
ลูก 3 ส่วน แม่ 1 ส่วน ตามกฏหมายมรดก
================================
หุ้นจำนวน 59,000 หุ้น สัดส่วนผู้ถือหุ้น ที่จะเป็น
-นายศิริชัย แดงสุภา 0 หุ้น ให้เป็มรดกลูก1คนที่ไม่ได้เป็นกรรมการ จำนวน 2500 หุ้น
-นางประนอม แดงสุภา 18,200 +10000 + 2500 หุ้น = 30,700 หุ้น
-นางศิริพร 22,500 หุ้น
-น.ส.ศิริวัลย์ 2850 หุ้น
+++++++++++++++อ้างอิง
http://ppantip.com/topic/34965869
ความคิดเห็นที่ 25-10
25-8 คุณอ่ะแหละมั่ว
กลับไปเปิดปพพ.ใหม่นะคะ แยกเรื่องกม.ครอบครัวออกจากกม.มรดกด้วย
คู่สมรสตายน่ะ แบ่งสินสมรสกันคนละครึ่ง แม่ได้ไปครึ่งเดียวในฐานะสินสมรส
อีกครึ่งของสินสมรสของพ่อ + สินส่วนตัวของพ่อ ทั้งหมดนี้เรียกมรดก
คราวนี้ถึงมาพิจารณา ..... ว่าถ้าไม่ได้ทำพินัยกรรม ใครเป็นทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกบ้าง
ลำดับแรก คือ ลูก มีลูกกี่คนก็แบ่งไปตามนั้น และถ้ายังมีภรรยา ภรรยา (โดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น) ได้ส่วนแบ่งเท่าทายาทชั้นบุตร
แปลว่าถ้าสมมติสามีแม่ประนอมมีลูก 3 คน แม่ประนอมก็จะไปเป็นคนที่ 4 ก็เอา 4 หารมรดก แล้วแบ่งให้ตามนั้น
หรือถ้ามีลูกคนเดียว ลูกก็แบ่งกับแม่ไปคนละครึ่ง
แต่ถ้าภรรยาไม่ได้จดทะเบียน (หรือไม่ได้แต่งงานตั้งแต่สมัยยังไม่ต้องจดทะเบียน ไม่แน่ใจพศ.24 อะไรซักอย่าง) อันนี้จะไม่ได้ส่วนแบ่งในมรดกเลย ส่วนลูก ถึงเป็นลูกนอกกฎหมาย แต่มีพฤติการณ์ที่พ่อยอมรับว่าเป็นลูก ก็รับมรดกได้ คนไหนพ่อยอมรับ คนนั้นก็ได้มรดกไป ... มีกี่คนก็หารไปตามนั้น
เพราะฉะนั้น พ่อเสีย ทุกอย่างไม่ใช่สินสมรส และไม่ได้ตกไปที่แม่หมด
แม่ได้เยอะจริงเพราะได้ครึ่งนึงก่อน แต่ที่เหลือต้องไปหารกับลูก ..... ลูกได้มรดกด้วย ไม่ใช่ไม่ได้อะไรเลย
คราวหลังถ้าไม่มั่นใจ อย่าแนะนำหรือสอนกฎหมายใครมั่วๆค่ะ
สมาชิกหมายเลข 2776981
-นายศิริชัย แดงสุภา 20,000 หุ้น
-นางประนอม แดงสุภา 18,200 หุ้น
-นางศิริพร (แม่ให้เป็นกรรมการบริหาร) 20,000 หุ้น
-น.ส.ศิริวัลย์ 350 หุ้น
ต่อมานายศิริชัยตาย ก.ย.ปี 56
การแบ่งสัดส่วนหุ้นที่ถูกต้อง
20,000 หุ้น หาร 2 = 10000 หุ้น เป็นสินสมรสของแม่ประนอม
แบ่งหุ้นที่เหลือ 4 ส่วน = 2500 หุ้น
ลูก 3 ส่วน แม่ 1 ส่วน ตามกฏหมายมรดก
================================
หุ้นจำนวน 59,000 หุ้น สัดส่วนผู้ถือหุ้น ที่จะเป็น
-นายศิริชัย แดงสุภา 0 หุ้น ให้เป็มรดกลูก1คนที่ไม่ได้เป็นกรรมการ จำนวน 2500 หุ้น
-นางประนอม แดงสุภา 18,200 +10000 + 2500 หุ้น = 30,700 หุ้น
-นางศิริพร 22,500 หุ้น
-น.ส.ศิริวัลย์ 2850 หุ้น
+++++++++++++++อ้างอิง
http://ppantip.com/topic/34965869
ความคิดเห็นที่ 25-10
25-8 คุณอ่ะแหละมั่ว
กลับไปเปิดปพพ.ใหม่นะคะ แยกเรื่องกม.ครอบครัวออกจากกม.มรดกด้วย
คู่สมรสตายน่ะ แบ่งสินสมรสกันคนละครึ่ง แม่ได้ไปครึ่งเดียวในฐานะสินสมรส
อีกครึ่งของสินสมรสของพ่อ + สินส่วนตัวของพ่อ ทั้งหมดนี้เรียกมรดก
คราวนี้ถึงมาพิจารณา ..... ว่าถ้าไม่ได้ทำพินัยกรรม ใครเป็นทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกบ้าง
ลำดับแรก คือ ลูก มีลูกกี่คนก็แบ่งไปตามนั้น และถ้ายังมีภรรยา ภรรยา (โดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น) ได้ส่วนแบ่งเท่าทายาทชั้นบุตร
แปลว่าถ้าสมมติสามีแม่ประนอมมีลูก 3 คน แม่ประนอมก็จะไปเป็นคนที่ 4 ก็เอา 4 หารมรดก แล้วแบ่งให้ตามนั้น
หรือถ้ามีลูกคนเดียว ลูกก็แบ่งกับแม่ไปคนละครึ่ง
แต่ถ้าภรรยาไม่ได้จดทะเบียน (หรือไม่ได้แต่งงานตั้งแต่สมัยยังไม่ต้องจดทะเบียน ไม่แน่ใจพศ.24 อะไรซักอย่าง) อันนี้จะไม่ได้ส่วนแบ่งในมรดกเลย ส่วนลูก ถึงเป็นลูกนอกกฎหมาย แต่มีพฤติการณ์ที่พ่อยอมรับว่าเป็นลูก ก็รับมรดกได้ คนไหนพ่อยอมรับ คนนั้นก็ได้มรดกไป ... มีกี่คนก็หารไปตามนั้น
เพราะฉะนั้น พ่อเสีย ทุกอย่างไม่ใช่สินสมรส และไม่ได้ตกไปที่แม่หมด
แม่ได้เยอะจริงเพราะได้ครึ่งนึงก่อน แต่ที่เหลือต้องไปหารกับลูก ..... ลูกได้มรดกด้วย ไม่ใช่ไม่ได้อะไรเลย
คราวหลังถ้าไม่มั่นใจ อย่าแนะนำหรือสอนกฎหมายใครมั่วๆค่ะ
สมาชิกหมายเลข 2776981
แสดงความคิดเห็น
การบ้าน ถ้าทดลองแบ่งมรดก คดีน้ำพริกแม่ประนอม แบบนี้ถูกต้องไหม
-นายศิริชัย แดงสุภา 20,000 หุ้น
-นางประนอม แดงสุภา 18,200 หุ้น
-นางศิริพร (แม่ให้เป็นกรรมการบริหาร) 20,000 หุ้น
-น.ส.ศิริวัลย์ 350 หุ้น
ต่อมานายศิริชัยตาย ก.ย.ปี 56
การแบ่งสัดส่วนหุ้นที่ถูกต้อง
20,000 หุ้น หาร 8 = 2500 หุ้น
แบ่งหุ้นให้แม่ 5 ส่วน
ลูก 3 ส่วน
ตามกฏหมาย
หุ้นจำนวน 59,000 หุ้น สัดส่วนผู้ถือหุ้น ที่จะเป็น
-นายศิริชัย แดงสุภา 0 หุ้น ให้เป็มรดกลูกสองคนที่ไม่ได้ถือหุ้น
-นางประนอม แดงสุภา 30,700 หุ้น
-นางศิริพร (แม่ให้เป็นกรรมการบริหาร) 22,500 หุ้น
-น.ส.ศิริวัลย์ 2850 หุ้น
ผลก็คือผู้บริหารเปลี่ยนมือ ถ้าไม่รีบจัดการก็ต้องเสียอำนาจแน่นอน