สวัสดี สวีดัดค่ะ วันนี้มารีวิวและพรีวิวโฟโต้บุ๊คค่ะ
ต้องขอบอกก่อนนะคะว่า นี่ไม่ใช่ม้า ไม่ใช่ทีมงาน ไม่ได้รับเงิน ไม่ได้อะไรทั้งนั้น มารีวิวด้วยใจล้วนๆ
(แต่ถ้าจะให้ดี ขอโฟโต้บุ๊คฝนเบลล์อีกสักเล่มก็จะเป็นพระคุณค่ะ// อุ่ย รู้กันซะแล้ว
)
เอาล่ะ ก่อนที่จะไปรีวิวโฟโต้บุ๊ค FonxBelle Real life โฟโต้บุ๊คเล่มที่2 ของค่ายนี้
ก็ขออนุญาตโปรโมตโฟโต้บุคเล่มล่าสุด (เล่มที่3) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ ก่อนนะคะ
ซึ่งตอนนี้เค้ากำลังถ่ายทำกันอยู่ที่ญี่ปุ่นค่ะ และหนังสือจะพิมพ์ช่วงประมาณ มิถุนายน ศกนี้ค่ะ
(ส่วนเล่ม1 Tokyo Story นางแบบคือ จูนจูนเมโกะ นักแสดงนำจากเรื่อง Mary is happy, Mary is happy มีคนเคยรีวิวไว้แล้ว ตามไปเลยค่ะ
http://ppantip.com/topic/33344187 )
สำหรับ ชื่อโฟโต้บุ๊คเล่มล่าสุด ที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็คือ
8 Days 7 Nights: Chasing Mr.M
a story photobook สะกดรอยมูราคามิ
นางแบบก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นักร้องสาวเสียงดีควบตำแหน่งนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมสุพรรณหงส์ คนล่าสุด
วี วิโอเล็ต วอเทียร์
(ภาพจาก Facebook : สะกดรอยหนัง)
และ นางเอกสาวจากภาพยนตร์ในดวงใจของเราอีกหนึ่งเรื่อง “แมรี่มีความสุข แมรี่มีความสุข”
แน่นอนปีนั้น (2556) เธอก็ได้ตำแหน่งนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมสุพรรณหงส์เช่นเดียวกัน
จูนจูน พัชชา พูนพิริยะ
(ภาพจาก Facebook : สะกดรอยหนัง)
ก่อนอื่นมาดูกันก่อนนะคะว่า นายมูราคามิที่เค้าจะไปสะกดรอยกันเนี่ย เค้าเป็นใครมาจากไหน
(เรื่องราวจาก Facebook : สะกดรอยหนัง)
ฮารุกิ มูราคามิ เป็นนักเขียนชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก ผลงานหนังสือของมูราคามิถูกแปลมาแล้วกว่า 30 ภาษา
มูราคามิเกิดที่จังหวัดเกียวโต ก่อนจะย้ายมาเติบโตที่เมืองโกเบ ในวัยเด็กมูราคามิได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมตะวันตกโดยเฉพาะวรรณกรรมและดนตรี
ทำให้งานเขียนของเขาแตกต่างจากนักเขียนชาวญี่ปุ่นคนอื่นๆ
หลังจากสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวาเซดะในกรุงโตเกียว มูราคามิได้เปิดบาร์แจ๊สเล็กๆชื่อว่า Peter Cat
แน่นอนว่าดนตรีจึงมีบทบาทสำคัญในงานเขียนของเขาตลอดมา
มูราคามิเริ่มเขียนนิยายเรื่องแรกชื่อว่า Hear the Wind Sing ในปี 1979 โดยใช้เวลาว่างหลังจากปิดร้านในการเขียน
หลังจากเขียนเสร็จ เขาได้ส่งผลงานเรื่องนี้เข้าประกวดและได้รับรางวัลที่หนึ่ง
และนี่เองคือจุดเริ่มต้นของไตรภาคมุสิก Pinball, 1973 และ A Wild Sheep Chase คือผลงานต่อมาใน "Trilogy of the Rat"
โดยมีตัวละครเชื่อมโยงทั้งสามเรื่องเข้าด้วยกัน
ในปี 1987 มูราคามิโด่งดังมากกับผลงานหนังสือเรื่อง Norwegian Wood หลังจากนั้นเขาได้เดินทางท่องเที่ยวยุโรป
ก่อนจะย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและได้ออกผลงานมา 2 เล่มคือ Dance, Dance, Dance และ South of the Border, West of the Sun
หลังจากนั้นมูราคามิได้ออกเรื่องสั้นอยู่อีกหลายเล่ม ก่อนจะกลับมาเขียนนิยายอีกครั้งกับผลงานที่ชื่อ 1Q84
(ภาพจาก Facebook : สะกดรอยหนัง)
เอาเป็นว่า เราพอรู้กันแล้วนะคะว่าเขาเป็นใคร แลดูเป็นนักเขียนและนักแปลผู้มีโด่งดังนะคะ (ว่ากันตามตรง คือเราไม่รู้จักเขาเลยค่ะ แง่วววว)
แต่ก็เป็นที่น่าสนใจค่ะ หากเราได้รู้ได้เห็นสถานที่ที่มูราคามิซังเคยอยู่หรือเคยไป แนวทางการดำเนินชีวิตของนักเขียนผู้โด่งดังเช่นนี้
มันน่าจะสร้างแรงบันดาลใจได้ดีทีเดียว อีกทั้ง มีภาพประกอบสวยๆงามๆ ทั้งบรรยากาศและนางแบบที่น่ารักทั้งสอง
ก็ทำให้โฟโต้บุ๊คเล่มนี้ เป็นที่น่าสนใจไม่น้อย
(ภาพจาก Facebook : สะกดรอยหนัง)
สำหรับการสั่งซื้อ (Pre-order) นะคะ
ตอนนี้รอบแรกปิดรับไปแล้วค่ะ แต่ได้ยินแว่วๆมาว่า จะเปิดรอบสองอยู่ค่ะ แต่ยังไม่ทราบว่าเมื่อไร
สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : สะกดรอยหนัง หรือ Twitter : @Tontorpai ค่ะ
(ภาพจาก Facebook : สะกดรอยหนัง)
ชุดโฟโต๊บุ๊ค มีทั้งหมด 3 แบบ ด้วยกันค่ะ คือ
Set A : ราคา 1000 บาท
Set B : ราคา 550 บาท
Set C : ราคา 350 บาท
(ภาพจาก Facebook : สะกดรอยหนัง)
รายละเอียดของแต่ละชุด มีดังนี้ นะคะ
(เรื่องราวจาก Facebook : สะกดรอยหนัง)
8 Days 7 Nights: Chasing Mr. M
A Story Photobook
สะกดรอยมูราคามิ
การเดินทางครั้งสำคัญของเธอ ที่ยังไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางคือที่ใด
มีเพียงความทรงจำและเสียงแว่วจากบางสิ่งเท่านั้นที่เป็นคำใบ้...
หนังสือจำนวน 180 หน้า
ภายในประกอบด้วยภาพและนิยายเรื่องราวการเดินทางตามหาชายคนหนึ่ง
นำเรื่องราวโดย วิโอเลตและจูนจูน
ตอนนี้หนังสืออยู่ในขั้นตอนการผลิตและจะพิมพ์เสร็จเดือนมิถุนายนนี้
(ภาพจาก Facebook : สะกดรอยหนัง)
หนังสือแบ่งเป็น 3 ราคาดังนี้
+Set A Limited Edition ราคา 1,000 บาท (จำกัด 300 ชุด) ประกอบด้วย
- หนังสือ 1 เล่ม พร้อมลายเซ็น
- ดีวีดี 2 แผ่น
แผ่นแรก) เป็นรวมภาพทั้งหมดตลอดการเดินทางกว่า 1,000 ภาพ
แผ่นที่สอง) เป็น VDO Side Story บันทึกเรื่องราวจริงที่เกิดขึ้น ตลอดการเดินทาง ตัดต่อรวมไว้ด้วยกัน
- โปสการ์ดเซ็ทพิเศษ
ทั้งหมดบรรจุในกล่องแพ็คเกจพิเศษ
+Set B ราคา 550 บาท
หนังสือ 1 เล่ม พร้อมดีวีดีรวมภาพทั้งหมดตลอดการเดินทาง
+Set C ราคา 350 บาท
หนังสือ 1 เล่ม
วิธีการสั่ง สามารถสั่งได้ทาง Inbox Facebook : สะกดรอยหนัง (แต่รอเค้าเปิดพรีออเดอร์รอบ2 ก่อนนะคะ)
ซึ่งสำหรับผู้ที่สั่ง Pre-order แว่วๆ ว่าทางแฟนเพจมีกิจกรรมร่วมสนุกให้ชิงรางวัลด้วยนะคะ
(ภาพจาก Facebook : สะกดรอยหนัง)
สังเกตว่าสิ่งที่ Set A จะได้มากกว่า Set B (ในราคาที่ต่างกันถึง 450บาท) คือ ลายเซ็น, โปสการ์ดและดีวีดี2แผ่น
(Set B บอกแค่ว่ามีดีวีดีรวมภาพ แต่Set A มีรวมภาพและVDO การเดินทางด้วย)
ดังนั้น การตัดสินใจที่จะเลือกซื้อเซตใดนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแฟนๆของน้องทั้งสองนะคะ เรื่องนี้ จขกท จิไม่ยุ่งค่ะ 5555
(ภาพจาก Facebook : สะกดรอยหนัง)
เอาล่ะค่ะ Preview พอหอมปากหอมคอพอเนาะ เพิ่มเติมสามารถ ติดตามได้ที่
Facebook Fanpage : สะกดรอยหนัง ได้เลยค่ะ
ต่อไป ก็ถึงตา Review โฟโต้บุ๊ค FonxBelle Real life แล้วค่ะ
สำหรับ โฟโต้บุ๊ค FonxBelle Real life ของ จขกท ที่ได้มานั้น คือ Set A ค่ะ
ตอนจองคือเครียดมาก กว่าแอดมินเพจจะตอบกลับก็ปาไปอีกวัน นึกว่าจะไม่ทัน 300 ชุดแล้ว
ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายสำหรับคนที่จองไม่ทัน สำหรับเรา คิดว่า ไหนๆก็ Pre-order แล้ว แถมยังให้จองก่อนไปถ่ายทำอีกด้วย
ก็น่าจะสามารถจัดทำเท่าจำนวนคนที่สั่งได้นะคะ ในทางธุรกิจเราคิดว่ามันดีกว่านะคะ ที่จะมีคนสั่ง Set A เยอะ
หรือจริงๆแล้ว Set A ทำออกมาแล้วไม่คุ้มเลยต้องไปถมกับ Set B และ Set C อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกัน
(ภาพจาก Facebook : สะกดรอยหนัง)
โอเค ผ่านเรื่องนี้ไปดีกว่าเนาะ มาดูโฟโต้บุ๊คกันดีกว่าค่ะ
โดย Set A นั้น สิ่งที่ได้มาคือ
1. Photobook
2. Flip book 2 เล่ม (ฝน1เล่ม, เบลล์ฝน1เล่ม)
3. DVD รูปถ่ายกล้องหลักและกล้องมือถือ รวมถึง คลิประหว่างการเดินทางอัดรวมใน 1 แผ่น
4. รูปถ่ายกล้องฟิล์ม 2 ใบ พร้อมลายเซ็น (ฝน1ใบ , เบลล์1ใบ)
5. โปสการ์ด4ใบ
6. จดหมายจากฝนและเบลล์
(ภาพถ่ายจาก Smartphone : LG G4 ค่ะ และถ่ายในยามค่ำคืนใต้แสงไฟนีออนค่ะ -- เบลอไปไหนคะนั่น)
โดย โฟโต้บุ๊ค เล่ม2 Real life : Fon x Belle เล่มนี้ มีคอนเซปต์คือ ตามรอยการ์ตูนชื่อดังในอดีตและปัจจุบันค่ะ
ขออนุญาตยกตัวอย่างมาบางเรื่องนะคะ
Umimachi Diary
เรื่องนี้มีสร้างเป็นภาพยนตร์เมื่อเร็วๆนี้ ด้วยค่ะ ชื่อเรื่องก็ Our Little Sister / เพราะเราพี่น้องกัน
(ภาพจาก
http://blog.roodo.com/lucialucy/archives/cat_865723.html )
(ภาพถ่ายจาก Smartphone : LG G4 และถ่ายในยามค่ำคืนใต้แสงไฟนีออน)
สังเกตได้ว่า ทีมงานเค้าใจดี บอกพิกัดสถานที่ มาให้ด้วย
(ภาพถ่ายจาก Smartphone : LG G4 และถ่ายในยามค่ำคืนใต้แสงไฟนีออน)
(ภาพจาก DVD)
(ภาพถ่ายจาก Smartphone : LG G4 และถ่ายในยามค่ำคืนใต้แสงไฟนีออน)
แหน่ะ แอบมีเพื่อนพระเอกมาแจมด้วยค่ะ น่ารักดี แต่บางทีเราก็ว่าแอบแปลกๆ ยังไงไม่รู้
(ภาพจาก DVD - จำได้ว่ามีรูปที่ดูดีและใกล้เคียงกว่านี้ แต่หาไม่เจอค่ะ 555)
(ภาพถ่ายจาก Smartphone : LG G4 และถ่ายในยามค่ำคืนใต้แสงไฟนีออน)
และยังมีอีกหลายๆที่น่าสนใจค่ะ
เช่น สถานที่จากเรื่อง The cat returns, Slam dunk, พิพิธภัณฑ์ Fujiko F. Fujio,
Tokyo One piece Tower, Edo-Tokyo Open Air Architectural Museam และ Ghibli Museam เป็นต้นค่ะ
(ภาพถ่ายจาก Smartphone : LG G4 และถ่ายในยามค่ำคืนใต้แสงไฟนีออน)
หน้ากระดาษหมด ต่อด้านล่างนะคะ
[CR] [รีวิว] โฟโต้บุ๊ค “Real life FonxBelle” & [พรีวิว] “สะกดรอยมูราคามิ” (วี วิโอเลต&จูนจูน)
ต้องขอบอกก่อนนะคะว่า นี่ไม่ใช่ม้า ไม่ใช่ทีมงาน ไม่ได้รับเงิน ไม่ได้อะไรทั้งนั้น มารีวิวด้วยใจล้วนๆ
(แต่ถ้าจะให้ดี ขอโฟโต้บุ๊คฝนเบลล์อีกสักเล่มก็จะเป็นพระคุณค่ะ// อุ่ย รู้กันซะแล้ว )
เอาล่ะ ก่อนที่จะไปรีวิวโฟโต้บุ๊ค FonxBelle Real life โฟโต้บุ๊คเล่มที่2 ของค่ายนี้
ก็ขออนุญาตโปรโมตโฟโต้บุคเล่มล่าสุด (เล่มที่3) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ ก่อนนะคะ
ซึ่งตอนนี้เค้ากำลังถ่ายทำกันอยู่ที่ญี่ปุ่นค่ะ และหนังสือจะพิมพ์ช่วงประมาณ มิถุนายน ศกนี้ค่ะ
(ส่วนเล่ม1 Tokyo Story นางแบบคือ จูนจูนเมโกะ นักแสดงนำจากเรื่อง Mary is happy, Mary is happy มีคนเคยรีวิวไว้แล้ว ตามไปเลยค่ะ http://ppantip.com/topic/33344187 )
8 Days 7 Nights: Chasing Mr.M
a story photobook สะกดรอยมูราคามิ
นางแบบก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นักร้องสาวเสียงดีควบตำแหน่งนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมสุพรรณหงส์ คนล่าสุด
วี วิโอเล็ต วอเทียร์
(ภาพจาก Facebook : สะกดรอยหนัง)
แน่นอนปีนั้น (2556) เธอก็ได้ตำแหน่งนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมสุพรรณหงส์เช่นเดียวกัน
จูนจูน พัชชา พูนพิริยะ
(ภาพจาก Facebook : สะกดรอยหนัง)
(เรื่องราวจาก Facebook : สะกดรอยหนัง)
ฮารุกิ มูราคามิ เป็นนักเขียนชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก ผลงานหนังสือของมูราคามิถูกแปลมาแล้วกว่า 30 ภาษา
มูราคามิเกิดที่จังหวัดเกียวโต ก่อนจะย้ายมาเติบโตที่เมืองโกเบ ในวัยเด็กมูราคามิได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมตะวันตกโดยเฉพาะวรรณกรรมและดนตรี
ทำให้งานเขียนของเขาแตกต่างจากนักเขียนชาวญี่ปุ่นคนอื่นๆ
หลังจากสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวาเซดะในกรุงโตเกียว มูราคามิได้เปิดบาร์แจ๊สเล็กๆชื่อว่า Peter Cat
แน่นอนว่าดนตรีจึงมีบทบาทสำคัญในงานเขียนของเขาตลอดมา
มูราคามิเริ่มเขียนนิยายเรื่องแรกชื่อว่า Hear the Wind Sing ในปี 1979 โดยใช้เวลาว่างหลังจากปิดร้านในการเขียน
หลังจากเขียนเสร็จ เขาได้ส่งผลงานเรื่องนี้เข้าประกวดและได้รับรางวัลที่หนึ่ง
และนี่เองคือจุดเริ่มต้นของไตรภาคมุสิก Pinball, 1973 และ A Wild Sheep Chase คือผลงานต่อมาใน "Trilogy of the Rat"
โดยมีตัวละครเชื่อมโยงทั้งสามเรื่องเข้าด้วยกัน
ในปี 1987 มูราคามิโด่งดังมากกับผลงานหนังสือเรื่อง Norwegian Wood หลังจากนั้นเขาได้เดินทางท่องเที่ยวยุโรป
ก่อนจะย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและได้ออกผลงานมา 2 เล่มคือ Dance, Dance, Dance และ South of the Border, West of the Sun
หลังจากนั้นมูราคามิได้ออกเรื่องสั้นอยู่อีกหลายเล่ม ก่อนจะกลับมาเขียนนิยายอีกครั้งกับผลงานที่ชื่อ 1Q84
เอาเป็นว่า เราพอรู้กันแล้วนะคะว่าเขาเป็นใคร แลดูเป็นนักเขียนและนักแปลผู้มีโด่งดังนะคะ (ว่ากันตามตรง คือเราไม่รู้จักเขาเลยค่ะ แง่วววว)
แต่ก็เป็นที่น่าสนใจค่ะ หากเราได้รู้ได้เห็นสถานที่ที่มูราคามิซังเคยอยู่หรือเคยไป แนวทางการดำเนินชีวิตของนักเขียนผู้โด่งดังเช่นนี้
มันน่าจะสร้างแรงบันดาลใจได้ดีทีเดียว อีกทั้ง มีภาพประกอบสวยๆงามๆ ทั้งบรรยากาศและนางแบบที่น่ารักทั้งสอง
ก็ทำให้โฟโต้บุ๊คเล่มนี้ เป็นที่น่าสนใจไม่น้อย
สำหรับการสั่งซื้อ (Pre-order) นะคะ
ตอนนี้รอบแรกปิดรับไปแล้วค่ะ แต่ได้ยินแว่วๆมาว่า จะเปิดรอบสองอยู่ค่ะ แต่ยังไม่ทราบว่าเมื่อไร
สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : สะกดรอยหนัง หรือ Twitter : @Tontorpai ค่ะ
ชุดโฟโต๊บุ๊ค มีทั้งหมด 3 แบบ ด้วยกันค่ะ คือ
Set A : ราคา 1000 บาท
Set B : ราคา 550 บาท
Set C : ราคา 350 บาท
(เรื่องราวจาก Facebook : สะกดรอยหนัง)
8 Days 7 Nights: Chasing Mr. M
A Story Photobook
สะกดรอยมูราคามิ
การเดินทางครั้งสำคัญของเธอ ที่ยังไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางคือที่ใด
มีเพียงความทรงจำและเสียงแว่วจากบางสิ่งเท่านั้นที่เป็นคำใบ้...
หนังสือจำนวน 180 หน้า
ภายในประกอบด้วยภาพและนิยายเรื่องราวการเดินทางตามหาชายคนหนึ่ง
นำเรื่องราวโดย วิโอเลตและจูนจูน
ตอนนี้หนังสืออยู่ในขั้นตอนการผลิตและจะพิมพ์เสร็จเดือนมิถุนายนนี้
(ภาพจาก Facebook : สะกดรอยหนัง)
หนังสือแบ่งเป็น 3 ราคาดังนี้
+Set A Limited Edition ราคา 1,000 บาท (จำกัด 300 ชุด) ประกอบด้วย
- หนังสือ 1 เล่ม พร้อมลายเซ็น
- ดีวีดี 2 แผ่น
แผ่นแรก) เป็นรวมภาพทั้งหมดตลอดการเดินทางกว่า 1,000 ภาพ
แผ่นที่สอง) เป็น VDO Side Story บันทึกเรื่องราวจริงที่เกิดขึ้น ตลอดการเดินทาง ตัดต่อรวมไว้ด้วยกัน
- โปสการ์ดเซ็ทพิเศษ
ทั้งหมดบรรจุในกล่องแพ็คเกจพิเศษ
+Set B ราคา 550 บาท
หนังสือ 1 เล่ม พร้อมดีวีดีรวมภาพทั้งหมดตลอดการเดินทาง
+Set C ราคา 350 บาท
หนังสือ 1 เล่ม
วิธีการสั่ง สามารถสั่งได้ทาง Inbox Facebook : สะกดรอยหนัง (แต่รอเค้าเปิดพรีออเดอร์รอบ2 ก่อนนะคะ)
ซึ่งสำหรับผู้ที่สั่ง Pre-order แว่วๆ ว่าทางแฟนเพจมีกิจกรรมร่วมสนุกให้ชิงรางวัลด้วยนะคะ
สังเกตว่าสิ่งที่ Set A จะได้มากกว่า Set B (ในราคาที่ต่างกันถึง 450บาท) คือ ลายเซ็น, โปสการ์ดและดีวีดี2แผ่น
(Set B บอกแค่ว่ามีดีวีดีรวมภาพ แต่Set A มีรวมภาพและVDO การเดินทางด้วย)
ดังนั้น การตัดสินใจที่จะเลือกซื้อเซตใดนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแฟนๆของน้องทั้งสองนะคะ เรื่องนี้ จขกท จิไม่ยุ่งค่ะ 5555
Facebook Fanpage : สะกดรอยหนัง ได้เลยค่ะ
ต่อไป ก็ถึงตา Review โฟโต้บุ๊ค FonxBelle Real life แล้วค่ะ
สำหรับ โฟโต้บุ๊ค FonxBelle Real life ของ จขกท ที่ได้มานั้น คือ Set A ค่ะ
ตอนจองคือเครียดมาก กว่าแอดมินเพจจะตอบกลับก็ปาไปอีกวัน นึกว่าจะไม่ทัน 300 ชุดแล้ว
ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายสำหรับคนที่จองไม่ทัน สำหรับเรา คิดว่า ไหนๆก็ Pre-order แล้ว แถมยังให้จองก่อนไปถ่ายทำอีกด้วย
ก็น่าจะสามารถจัดทำเท่าจำนวนคนที่สั่งได้นะคะ ในทางธุรกิจเราคิดว่ามันดีกว่านะคะ ที่จะมีคนสั่ง Set A เยอะ
หรือจริงๆแล้ว Set A ทำออกมาแล้วไม่คุ้มเลยต้องไปถมกับ Set B และ Set C อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกัน
โอเค ผ่านเรื่องนี้ไปดีกว่าเนาะ มาดูโฟโต้บุ๊คกันดีกว่าค่ะ
โดย Set A นั้น สิ่งที่ได้มาคือ
1. Photobook
2. Flip book 2 เล่ม (ฝน1เล่ม, เบลล์ฝน1เล่ม)
3. DVD รูปถ่ายกล้องหลักและกล้องมือถือ รวมถึง คลิประหว่างการเดินทางอัดรวมใน 1 แผ่น
4. รูปถ่ายกล้องฟิล์ม 2 ใบ พร้อมลายเซ็น (ฝน1ใบ , เบลล์1ใบ)
5. โปสการ์ด4ใบ
6. จดหมายจากฝนและเบลล์
ขออนุญาตยกตัวอย่างมาบางเรื่องนะคะ
Umimachi Diary
เรื่องนี้มีสร้างเป็นภาพยนตร์เมื่อเร็วๆนี้ ด้วยค่ะ ชื่อเรื่องก็ Our Little Sister / เพราะเราพี่น้องกัน
(ภาพจาก http://blog.roodo.com/lucialucy/archives/cat_865723.html )
สังเกตได้ว่า ทีมงานเค้าใจดี บอกพิกัดสถานที่ มาให้ด้วย
เรื่องนี้น่าสนใจ นางเอกเค้าย้อนเวลาได้ค่ะ
(ภาพจาก http://www.mangauk.com/post.php?p=11936 )
(ภาพจาก http://www.gconhub.com/?page=news&id=72595 )
แหน่ะ แอบมีเพื่อนพระเอกมาแจมด้วยค่ะ น่ารักดี แต่บางทีเราก็ว่าแอบแปลกๆ ยังไงไม่รู้
โห ชื่อไทย เศร้าได้อีกค่ะ
(ภาพจาก https://www.tumblr.com/search/5%20centimeters%20per%20sec )
(ภาพจาก http://www.ricedigital.co.uk/garden-words-review-ending-bit-top-tastes )
เช่น สถานที่จากเรื่อง The cat returns, Slam dunk, พิพิธภัณฑ์ Fujiko F. Fujio,
Tokyo One piece Tower, Edo-Tokyo Open Air Architectural Museam และ Ghibli Museam เป็นต้นค่ะ
หน้ากระดาษหมด ต่อด้านล่างนะคะ