ตามหัวข้อกระทู้เลยคะ ใครช่วยได้ช่วยหน่อยนะคะ
1.ดอยหัวแม่คำ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,850 เมตร ดอยหัวแม่คำเป็นที่ตั้งหมู่บ้านชาวเขาขนาดใหญ่ และในเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงที่ดอยหัวแม่คำงดงามไปด้วยดอกบัวตองสีเหลืองสดใสสะพรั่งอยู่ทั่วไปตามแนวเขา เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก ดอยแห่งนี้นับเป็นเสน่ห์ที่ลงตัวในด้านบรรยากาศที่เป็นกันเอง ภายในหมู่บ้านจะมีทุ่งหญ้าที่รู้จักกันในชื่อ "ทุ่งดอกบัวตอง" มีให้ชมในช่วงเดือนธันวาคม-เดือนมกราคม ของทุกปี ปกคลุมด้วยดอกไม้หลากหลายสีสันให้ชวนชม รวมถึงวิถีชีวิตชุมชนที่มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง ภายใต้ภูมิทัศน์ลักษณะเนินเขาและมีหมู่บ้านชาวเขาอยู่เรียงราย นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ทั้งความสวยงามและความอิ่มเอมใจสำหรับผู้มาเยือนยิ่ง นอกจากนี้สามารถชมทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างสุดลูกหูลูกตา
2.พิพิธภัณฑ์บ้านดำถือเป็นศิลปะสถานที่สร้างจินตนาการให้แก่ผู้พบเห็นในหลายมุมมอง และยังเป็นที่เก็บสะสมสิ่งของต่างๆ ที่ใช้ในการดำรงชีวิตมาตั้งแต่อดีต ซึ่งของบางชิ้นคนรุ่นใหม่ ก็ไม่อาจพบเห็นหรือหาได้ในปัจจุบัน แถมมีมุมพักผ่อน สำหรับแขกผู้มาเยื่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านดำได้พักดื่มกาแฟอีกด้วยภายในพิพิธภัณฑ์บ้านดำ ประกอบด้วยอาคารสถาปัตยกรรมท้องถิ่นภาคเหนือกว่า 25 หลัง และอาคารสถาปัตยกรรมท้องถิ่นประยุกต์หลายหลัง สำหรับจัดแสดงศิลปะพื้นบ้าน ซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรค์ของช่างท้องถิ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อาคารทั้งหมดทาด้วยสีดำ แต่ละหลังประดับประดาด้วยไม้แกะสลักที่มีลวดลายงามวิจิตรยิ่ง และยังประดับด้วยเขาสัตว์ เช่น เขาควาย เขากวาง และกระดูกช้าง เป็นต้น
นอกจากนี้ ภายในพิพิธภัณฑ์บ้านดำ ยังมีบ้านดำแกลลอรี่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานทางศิลปะ และเป็นสถานที่จัดจำหน่ายของที่ระลึกสำหรับผู้ชื่นชอบผลงานของศิลปิน โดยเฉพาะของ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี เช่น เสื้อยืด กระเป๋า ภาพพิมพ์ หนังสือ เป็นต้น โดยรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นกองทุนทนุบำรุงพิพิธภัณฑ์บ้านดำ และเพื่อนักเรียก นักศึกษาศิลปะที่ขาดแคลนทุนทรัพย์
3.ไร่บุญรอดเป็นไร่ของบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ ผู้ผลิตเบียร์สิงห์ ที่ไร่บุญรอดแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งใหม่ที่น่าสนใจบนพื้นที่กว่า 8,000 ไร่ หากนักท่องเที่ยวมาถึงที่ไร่บุญรอดแล้วจะสะดุดตากับรูปปั้นสิงห์สีทองอร่ามขนาดใหญ่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนเนินหญ้าสีเขียว ทางไร่บุญรอดมีรถรางให้บริการพาทัวร์ชมไร่แบบสบายๆ และจะมีไกด์คอยอธิบายจุดเที่ยวต่างๆด้วย ภายในไร่ปลูกพืชหลายชนิดตามความเหมาะสมกับสภาพดิน มีทั้งไม้ผล อาทิ ลิ้นจี่ ลำไย มะม่วง กระท้อน พืชสวนมีชาพันธุ์อู่หลง มะนาว หม่อน ส่วนพื้นที่ราบจะปลูกพืชไร่ที่มีชื่อเสียง เช่น ข้าวบาร์เลย์ และข้าว และพืชผัก เช่น บร็อกโคลี่ ฟาร์มเห็ดหอม และการทำฟาร์มปศุสัตว์ เลี้ยงวัวนม เป็นต้น
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้จากไร่บุญรอด นอกจากส่งออกไปยังไต้หวันโดยเฉพาะชาแล้วก็ยังมีการจัดจำหน่ายในช็อบบริเวณทางเข้าไร่ ซึ่งมีครบทั้งแอลกอฮอล และนอนแอลกอฮอล์ ซึ่งจะมีสัดส่วนมากกว่า ทั้งกาแฟสด ชาผสมบาร์เลย์ ชาอู่หลง ซีอิ้ว และสินค้าแบรนด์ของเบียร์สิงห์ที่หลากหลาย
4.วนาฟาร์มม้าและนกกระจอกเทศ เป็นฟาร์มนกกระจอกเทศที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงราย ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ สามารถเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมกันได้ฟรีทุกวัน ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่แวดล้อมด้วยนกกระจอกเทศ ม้า สัตว์นานาชนิด และแมกไม้นานาพันธุ์ อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งทำกิจกรรมในฟาร์ม อาทิเช่น ขี่นกกระจอกเทศ ขี่ม้ารอบฟาร์มหรือขี่ม้าออกท่องเที่ยวไปตามเส้นทางทุ่งหญ้าหรือป่าเขา นั่งรถม้ารอบฟาร์มหรือนั่งรถม้าออกไปชมตลาดบ้านหัวดอย รวมไปถึงพาทัวร์รอบฟาร์ม โชว์ขี่นกกระจอกเทศ ชมห้องฟักไข่ และการฟักไข่นกตามธรรมชาติสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อน เลี้ยงสังสรรค์ อบรมสัมมนานอกสถานที่ ทัศนศึกษาดูงาน เป็นต้น นอกจากเที่ยวชมและทำกิจกรรมแล้ว ยังให้บริการที่พักสไตล์แคมป์ปิ้ง นอนเต็นท์ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมได้อิ่มอร่อยกับอาหารจานเด็ด เมนูแนะนำต่างๆ พร้อมชิมกาแฟชั้นยอดจากดอยช้าง ที่วนา กาแฟสด และสามารถเยี่ยมชมของฝากของที่ระลึกจากผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนกกระจอกเทศ หลากหลายรูปแบบให้ท่านเลือกซื้อและเลือกชม ทั้งหมดนี้ได้ถูกรวบรวมไว้รอให้ท่านมาสัมผัส ณ วนา ฟาร์มม้าและนกกระจอกเทศ
5. ภูชี้ฟ้า เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่น ติดชายแดนไทย - สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติด้วยลักษณะหน้าผาปลายยอดแหลม เป็นแนวยาวที่ชี้ไปบนฟ้า มีเนื้อที่ประมาณ 2,500 ไร่ สำหรับไฮไลท์สำคัญของ ภูชี้ฟ้า ต้องยกให้จุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม อีกทั้งทิวทัศน์ของภูเขาสลับซับซ้อนดูกว้างไกล โดยในตอนเช้าจะมีทะเลหมอกปกคลุมในหุบเขาเบื้องล่าง มีพระอาทิตย์ขึ้นผ่านพ้นทะเลหมอก ท่ามกลางทุ่งหญ้า แซมด้วยทุ่งดอกโคลงเคลง (ในช่วงฤดูฝนไปจนถึงฤดูหนาว) และหากรอจนสายหมอกถูกความร้อนระเหยหมดแล้ว ก็ยังคงมองเห็นสายน้ำโขงไหลคดเคี้ยว ท่ามกลางป่าไม้ของฝั่งลาวที่เขียวสุดสมบูรณ์อีกด้วย หากมาเที่ยวภูชี้ฟ้า ในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม เส้นทางขึ้น ภูชี้ฟ้า จะผ่านป่าซากุระหรือต้นพญาเสือโคร่งสีชมพูสวยงามมากอีกเช่นกัน สำหรับภูมิอากาศบนภูเขา จะค่อนข้างเย็นแต่ฤดูกาลจะเป็นแบบมรสุมเมืองร้อน โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในช่วงฤดูฝน และลมตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงฤดูหนาว แบ่งเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม และฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์
ใครมีความรู้ภาษาอังกฤษ ช่วยแปลบทความไทยเป็นอังกฤษ ให้หน่อยนะคะ
1.ดอยหัวแม่คำ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,850 เมตร ดอยหัวแม่คำเป็นที่ตั้งหมู่บ้านชาวเขาขนาดใหญ่ และในเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงที่ดอยหัวแม่คำงดงามไปด้วยดอกบัวตองสีเหลืองสดใสสะพรั่งอยู่ทั่วไปตามแนวเขา เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก ดอยแห่งนี้นับเป็นเสน่ห์ที่ลงตัวในด้านบรรยากาศที่เป็นกันเอง ภายในหมู่บ้านจะมีทุ่งหญ้าที่รู้จักกันในชื่อ "ทุ่งดอกบัวตอง" มีให้ชมในช่วงเดือนธันวาคม-เดือนมกราคม ของทุกปี ปกคลุมด้วยดอกไม้หลากหลายสีสันให้ชวนชม รวมถึงวิถีชีวิตชุมชนที่มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง ภายใต้ภูมิทัศน์ลักษณะเนินเขาและมีหมู่บ้านชาวเขาอยู่เรียงราย นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ทั้งความสวยงามและความอิ่มเอมใจสำหรับผู้มาเยือนยิ่ง นอกจากนี้สามารถชมทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างสุดลูกหูลูกตา
2.พิพิธภัณฑ์บ้านดำถือเป็นศิลปะสถานที่สร้างจินตนาการให้แก่ผู้พบเห็นในหลายมุมมอง และยังเป็นที่เก็บสะสมสิ่งของต่างๆ ที่ใช้ในการดำรงชีวิตมาตั้งแต่อดีต ซึ่งของบางชิ้นคนรุ่นใหม่ ก็ไม่อาจพบเห็นหรือหาได้ในปัจจุบัน แถมมีมุมพักผ่อน สำหรับแขกผู้มาเยื่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านดำได้พักดื่มกาแฟอีกด้วยภายในพิพิธภัณฑ์บ้านดำ ประกอบด้วยอาคารสถาปัตยกรรมท้องถิ่นภาคเหนือกว่า 25 หลัง และอาคารสถาปัตยกรรมท้องถิ่นประยุกต์หลายหลัง สำหรับจัดแสดงศิลปะพื้นบ้าน ซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรค์ของช่างท้องถิ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อาคารทั้งหมดทาด้วยสีดำ แต่ละหลังประดับประดาด้วยไม้แกะสลักที่มีลวดลายงามวิจิตรยิ่ง และยังประดับด้วยเขาสัตว์ เช่น เขาควาย เขากวาง และกระดูกช้าง เป็นต้น
นอกจากนี้ ภายในพิพิธภัณฑ์บ้านดำ ยังมีบ้านดำแกลลอรี่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานทางศิลปะ และเป็นสถานที่จัดจำหน่ายของที่ระลึกสำหรับผู้ชื่นชอบผลงานของศิลปิน โดยเฉพาะของ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี เช่น เสื้อยืด กระเป๋า ภาพพิมพ์ หนังสือ เป็นต้น โดยรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นกองทุนทนุบำรุงพิพิธภัณฑ์บ้านดำ และเพื่อนักเรียก นักศึกษาศิลปะที่ขาดแคลนทุนทรัพย์
3.ไร่บุญรอดเป็นไร่ของบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ ผู้ผลิตเบียร์สิงห์ ที่ไร่บุญรอดแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งใหม่ที่น่าสนใจบนพื้นที่กว่า 8,000 ไร่ หากนักท่องเที่ยวมาถึงที่ไร่บุญรอดแล้วจะสะดุดตากับรูปปั้นสิงห์สีทองอร่ามขนาดใหญ่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนเนินหญ้าสีเขียว ทางไร่บุญรอดมีรถรางให้บริการพาทัวร์ชมไร่แบบสบายๆ และจะมีไกด์คอยอธิบายจุดเที่ยวต่างๆด้วย ภายในไร่ปลูกพืชหลายชนิดตามความเหมาะสมกับสภาพดิน มีทั้งไม้ผล อาทิ ลิ้นจี่ ลำไย มะม่วง กระท้อน พืชสวนมีชาพันธุ์อู่หลง มะนาว หม่อน ส่วนพื้นที่ราบจะปลูกพืชไร่ที่มีชื่อเสียง เช่น ข้าวบาร์เลย์ และข้าว และพืชผัก เช่น บร็อกโคลี่ ฟาร์มเห็ดหอม และการทำฟาร์มปศุสัตว์ เลี้ยงวัวนม เป็นต้น
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้จากไร่บุญรอด นอกจากส่งออกไปยังไต้หวันโดยเฉพาะชาแล้วก็ยังมีการจัดจำหน่ายในช็อบบริเวณทางเข้าไร่ ซึ่งมีครบทั้งแอลกอฮอล และนอนแอลกอฮอล์ ซึ่งจะมีสัดส่วนมากกว่า ทั้งกาแฟสด ชาผสมบาร์เลย์ ชาอู่หลง ซีอิ้ว และสินค้าแบรนด์ของเบียร์สิงห์ที่หลากหลาย
4.วนาฟาร์มม้าและนกกระจอกเทศ เป็นฟาร์มนกกระจอกเทศที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงราย ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ สามารถเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมกันได้ฟรีทุกวัน ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่แวดล้อมด้วยนกกระจอกเทศ ม้า สัตว์นานาชนิด และแมกไม้นานาพันธุ์ อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งทำกิจกรรมในฟาร์ม อาทิเช่น ขี่นกกระจอกเทศ ขี่ม้ารอบฟาร์มหรือขี่ม้าออกท่องเที่ยวไปตามเส้นทางทุ่งหญ้าหรือป่าเขา นั่งรถม้ารอบฟาร์มหรือนั่งรถม้าออกไปชมตลาดบ้านหัวดอย รวมไปถึงพาทัวร์รอบฟาร์ม โชว์ขี่นกกระจอกเทศ ชมห้องฟักไข่ และการฟักไข่นกตามธรรมชาติสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อน เลี้ยงสังสรรค์ อบรมสัมมนานอกสถานที่ ทัศนศึกษาดูงาน เป็นต้น นอกจากเที่ยวชมและทำกิจกรรมแล้ว ยังให้บริการที่พักสไตล์แคมป์ปิ้ง นอนเต็นท์ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมได้อิ่มอร่อยกับอาหารจานเด็ด เมนูแนะนำต่างๆ พร้อมชิมกาแฟชั้นยอดจากดอยช้าง ที่วนา กาแฟสด และสามารถเยี่ยมชมของฝากของที่ระลึกจากผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนกกระจอกเทศ หลากหลายรูปแบบให้ท่านเลือกซื้อและเลือกชม ทั้งหมดนี้ได้ถูกรวบรวมไว้รอให้ท่านมาสัมผัส ณ วนา ฟาร์มม้าและนกกระจอกเทศ
5. ภูชี้ฟ้า เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่น ติดชายแดนไทย - สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติด้วยลักษณะหน้าผาปลายยอดแหลม เป็นแนวยาวที่ชี้ไปบนฟ้า มีเนื้อที่ประมาณ 2,500 ไร่ สำหรับไฮไลท์สำคัญของ ภูชี้ฟ้า ต้องยกให้จุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม อีกทั้งทิวทัศน์ของภูเขาสลับซับซ้อนดูกว้างไกล โดยในตอนเช้าจะมีทะเลหมอกปกคลุมในหุบเขาเบื้องล่าง มีพระอาทิตย์ขึ้นผ่านพ้นทะเลหมอก ท่ามกลางทุ่งหญ้า แซมด้วยทุ่งดอกโคลงเคลง (ในช่วงฤดูฝนไปจนถึงฤดูหนาว) และหากรอจนสายหมอกถูกความร้อนระเหยหมดแล้ว ก็ยังคงมองเห็นสายน้ำโขงไหลคดเคี้ยว ท่ามกลางป่าไม้ของฝั่งลาวที่เขียวสุดสมบูรณ์อีกด้วย หากมาเที่ยวภูชี้ฟ้า ในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม เส้นทางขึ้น ภูชี้ฟ้า จะผ่านป่าซากุระหรือต้นพญาเสือโคร่งสีชมพูสวยงามมากอีกเช่นกัน สำหรับภูมิอากาศบนภูเขา จะค่อนข้างเย็นแต่ฤดูกาลจะเป็นแบบมรสุมเมืองร้อน โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในช่วงฤดูฝน และลมตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงฤดูหนาว แบ่งเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม และฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์