เมื่อนานมาแล้ว ที่หมู่บ้านนักเวทย์ มีครอบครัวนักเวทย์ได้กำเนิดเด็กทารก ซึ่งในระหว่างกำเนิดนั้นได้มีเหตุการณ์ ลมและท้องฟ้ามารวมตัวกันเป็นก้อนใหญ่ไปจนสุดสายตา เมื่อเด็กนั้นกำเนิดออกมาแล้วได้มีผ่าดังเปรี้ยงสนั่นไปทั่ว ซึ่งชาวบ้านและครอบครัวผู้ให้กำเนิดต่างก็รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันคือลิขิต ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงมันได้
สิบเจ็ดปีผ่านไป เด็กคนนั้นก็โตขึ้น ดูเป็นคนปกติ ไม่มีวี่แววว่าจะร้าย และก็เป็นนักเวทย์ที่อยู่ในกลุ่มผู้ที่เก่งประจำหมู่บ้าน เพราะทุกภาระกิจเขาทำสำเร็จหมด และเขาก็ได้มีคนรักในหมู่บ้าน ซึ่งได้คบกันมานานแล้ว ในคืนนึงคนรักของเขานั้นได้ถูกลักพาตัวไป ซึ่งคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นได้บอกว่ามีปีศาจค้างคาวตัวใหญ่โผล่มาในบ้าน ซึ่งพวกเขาก็ได้ต่อสู้เพื่อปกป้องลูกสาวของตัวเองอย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถสู้ได้ เพราะถูกเวทย์มนของปีศาจค้างคาวนั้นสะกดไว้ จะขยับ หรือร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่ได้ แต่ก่อนไปนั้นเขาได้ถูกขึ้นว่า จงพาเด็กทารกเมื่อสิบเจ็ดปีคนนั้น ไปหาข้า เพราะท่านจอมมารต้องการเจอเขา สถานที่อยู่ทางทิศตะวันตก ก่อนถึงบึงลาวา จงไปพบท่านจอมมารที่นั่น มีเวลาในสามวันเท่านั้น ไม่งั้นพวกเจ้ารู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวของเจ้า และหมู่บ้านนักเวทย์ และโลกใบนี้
เมื่อคนในหมู่บ้านรู้เรื่องนี้ จึงได้ประชุมเรื่องที่เกิดขึ้น ผู้เฒ่าประจำหมู่บ้านคนนึงได้พูดขึ้นมาว่า ข้ารู้จักสถานที่แห่งนั้น เพราะข้าเคยผ่านสถานที่ตรงนั้นมาแล้วข้าสามารถส่งพวกเขานั้นไปที่ตรงนั้นได้ การประชุมเสร็จสิ้น และตกลงกันว่าจะไปช่วยเหลือ และป้องกันหมู่บ้าน จึงได้จัดตั้งกลุ่มนักเวทย์วัยรุ่น ที่เก่งประจำหมู่บ้านขึ้นมา เมื่อรวมกลุ่มกันได้แล้ว พวกเขาจึงเดินเข้ามาล้อมกลุ่มนักเวทย์เป็นวงกลม และได้ร่ายมนต์คุ้มครองพวกเขาทั้งกลุ่ม เมื่อเสร็จแล้วผู้เฒ่าจึงได้พูดขึ้นมาว่า พวกเจ้าพร้อมแล้วใช่ไหม ข้าจะส่งพวกเจ้าไปแล้วนะ เมื่อพูดเสร็จ ผู้เฒ่าก็ร่ายมนต์ เมื่อร่ายมนต์เสร็จพวกเขาก็หายไป
เมื่อกลุ่มนักเวทย์มาถึงหน้าบึงลาวา พวกเขาได้เจอกับค้างคาวยัก ค้าวคาวยักจึงพูดขึ้นว่า นายท่านรออยู่ ขอให้เดินเข้าไปได้เลย เมื่อกลุ่มนักเวทย์เดินเข้าไปข้างในประสาท ได้เห็นท่านจอมมาร และคนรัก จอมมารจึงพูดขึ้น ว่าไงลูกชายของ ข้าได้ส่งเจ้าไปเกิดยังหมู่บ้าน เพราะข้าไม่สามารถให้กำเนิดแบบสมบูรณ์ได้ ข้าจึงได้อาศัยมนุษย์ นักเวทย์คนนั้นได้พูดขึ้นทันที ได้โปรดส่งคนรักของข้ากลับไปยังหมู่บ้าน จอมมารจึงพูดขึ้นว่า ได้ เพราะข้าได้เจอหน้าลูกชายข้าแล้ว จอมมารจึงบอกค้างคาวยักให้นำผู้หญิงส่งกลับไปยังหมู่บ้าน แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนิดนึง เมื่อส่งกลับไปยังหมู่บ้าน พวกเจ้าต้องสู้กับข้า ไม่เช่นนั้นโลกนี้เป็นของข้าแน่นอน กลุ่มนักเวทย์จึงได้ตอบตกลง และก็มียื่นข้อเสนกลับ ถ้าข้าเป็นลูกของเจ้าจริง จงรับข้อเสนอนี้ไปด้วย ถ้าพวกข้าแพ้ ได้โปรดอย่าทำลายโลกนี้ จอมมารจึงได้ตอบตกลง แต่สัญญานี้จะมีผลเพียงแค่หนึ่งร้อยปีเท่านั้น
เมื่อถึงกำหนด ยังไม่มีใครสามารถชนะข้าได้ โลกนี้จะต้องอยู่ในกำมือของข้าตลอดไป เมื่อจอมมารพูดเสร็จค้างคาวยักก็นำตัวผู้หญิงกลับไปยังหมู่บ้าน ก่อนกลับผู้หญิงได้พูดขึ้นว่า เจ้าต้องกลับมานะ พร้อมทั้งน้ำตาที่ไหล แล้วก็หายไป และได้เริ่มการต่อสู้ขึ้นระหว่างกลุ่มนักเวทย์ และจอมมาร หนึ่งวันผ่านไปกลุ่มนักเวทย์หมดแรงที่จะสู้ จอมมารเห็นโอกาสจึงได้ใช้เวทย์มนควบคุมจิตรใจ กลุ่มนักเวทย์ทั้งห้าคน ไม่ทันได้ตั้งตัว จึงได้ถูกควบคุมจิตใจกันหมดทุกคน และทุกอย่างก็เงียบหายไป จนกลายเป็นเรื่องที่เล่าขานไปทั่วว่ากลุ่มนักเวทย์หายไปไหน ตายหรือยัง?
ช่วยวิเคราะห์เรื่องของผมหน่อย ว่าควรจะปรับเปลี่ยนตรงไหนบ้าง
สิบเจ็ดปีผ่านไป เด็กคนนั้นก็โตขึ้น ดูเป็นคนปกติ ไม่มีวี่แววว่าจะร้าย และก็เป็นนักเวทย์ที่อยู่ในกลุ่มผู้ที่เก่งประจำหมู่บ้าน เพราะทุกภาระกิจเขาทำสำเร็จหมด และเขาก็ได้มีคนรักในหมู่บ้าน ซึ่งได้คบกันมานานแล้ว ในคืนนึงคนรักของเขานั้นได้ถูกลักพาตัวไป ซึ่งคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นได้บอกว่ามีปีศาจค้างคาวตัวใหญ่โผล่มาในบ้าน ซึ่งพวกเขาก็ได้ต่อสู้เพื่อปกป้องลูกสาวของตัวเองอย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถสู้ได้ เพราะถูกเวทย์มนของปีศาจค้างคาวนั้นสะกดไว้ จะขยับ หรือร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่ได้ แต่ก่อนไปนั้นเขาได้ถูกขึ้นว่า จงพาเด็กทารกเมื่อสิบเจ็ดปีคนนั้น ไปหาข้า เพราะท่านจอมมารต้องการเจอเขา สถานที่อยู่ทางทิศตะวันตก ก่อนถึงบึงลาวา จงไปพบท่านจอมมารที่นั่น มีเวลาในสามวันเท่านั้น ไม่งั้นพวกเจ้ารู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวของเจ้า และหมู่บ้านนักเวทย์ และโลกใบนี้
เมื่อคนในหมู่บ้านรู้เรื่องนี้ จึงได้ประชุมเรื่องที่เกิดขึ้น ผู้เฒ่าประจำหมู่บ้านคนนึงได้พูดขึ้นมาว่า ข้ารู้จักสถานที่แห่งนั้น เพราะข้าเคยผ่านสถานที่ตรงนั้นมาแล้วข้าสามารถส่งพวกเขานั้นไปที่ตรงนั้นได้ การประชุมเสร็จสิ้น และตกลงกันว่าจะไปช่วยเหลือ และป้องกันหมู่บ้าน จึงได้จัดตั้งกลุ่มนักเวทย์วัยรุ่น ที่เก่งประจำหมู่บ้านขึ้นมา เมื่อรวมกลุ่มกันได้แล้ว พวกเขาจึงเดินเข้ามาล้อมกลุ่มนักเวทย์เป็นวงกลม และได้ร่ายมนต์คุ้มครองพวกเขาทั้งกลุ่ม เมื่อเสร็จแล้วผู้เฒ่าจึงได้พูดขึ้นมาว่า พวกเจ้าพร้อมแล้วใช่ไหม ข้าจะส่งพวกเจ้าไปแล้วนะ เมื่อพูดเสร็จ ผู้เฒ่าก็ร่ายมนต์ เมื่อร่ายมนต์เสร็จพวกเขาก็หายไป
เมื่อกลุ่มนักเวทย์มาถึงหน้าบึงลาวา พวกเขาได้เจอกับค้างคาวยัก ค้าวคาวยักจึงพูดขึ้นว่า นายท่านรออยู่ ขอให้เดินเข้าไปได้เลย เมื่อกลุ่มนักเวทย์เดินเข้าไปข้างในประสาท ได้เห็นท่านจอมมาร และคนรัก จอมมารจึงพูดขึ้น ว่าไงลูกชายของ ข้าได้ส่งเจ้าไปเกิดยังหมู่บ้าน เพราะข้าไม่สามารถให้กำเนิดแบบสมบูรณ์ได้ ข้าจึงได้อาศัยมนุษย์ นักเวทย์คนนั้นได้พูดขึ้นทันที ได้โปรดส่งคนรักของข้ากลับไปยังหมู่บ้าน จอมมารจึงพูดขึ้นว่า ได้ เพราะข้าได้เจอหน้าลูกชายข้าแล้ว จอมมารจึงบอกค้างคาวยักให้นำผู้หญิงส่งกลับไปยังหมู่บ้าน แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนิดนึง เมื่อส่งกลับไปยังหมู่บ้าน พวกเจ้าต้องสู้กับข้า ไม่เช่นนั้นโลกนี้เป็นของข้าแน่นอน กลุ่มนักเวทย์จึงได้ตอบตกลง และก็มียื่นข้อเสนกลับ ถ้าข้าเป็นลูกของเจ้าจริง จงรับข้อเสนอนี้ไปด้วย ถ้าพวกข้าแพ้ ได้โปรดอย่าทำลายโลกนี้ จอมมารจึงได้ตอบตกลง แต่สัญญานี้จะมีผลเพียงแค่หนึ่งร้อยปีเท่านั้น
เมื่อถึงกำหนด ยังไม่มีใครสามารถชนะข้าได้ โลกนี้จะต้องอยู่ในกำมือของข้าตลอดไป เมื่อจอมมารพูดเสร็จค้างคาวยักก็นำตัวผู้หญิงกลับไปยังหมู่บ้าน ก่อนกลับผู้หญิงได้พูดขึ้นว่า เจ้าต้องกลับมานะ พร้อมทั้งน้ำตาที่ไหล แล้วก็หายไป และได้เริ่มการต่อสู้ขึ้นระหว่างกลุ่มนักเวทย์ และจอมมาร หนึ่งวันผ่านไปกลุ่มนักเวทย์หมดแรงที่จะสู้ จอมมารเห็นโอกาสจึงได้ใช้เวทย์มนควบคุมจิตรใจ กลุ่มนักเวทย์ทั้งห้าคน ไม่ทันได้ตั้งตัว จึงได้ถูกควบคุมจิตใจกันหมดทุกคน และทุกอย่างก็เงียบหายไป จนกลายเป็นเรื่องที่เล่าขานไปทั่วว่ากลุ่มนักเวทย์หายไปไหน ตายหรือยัง?