ดูมาคาดว่าคงกลางเรื่อง แล้ว สำหรับละครเรื่องนี้ คนส่วนใหญ่ที่ได้ดู คงได้เก็บเรื่องราว ที่ผู้จัด ทีมนักแสดง ผู้กำกับอยากสื่อไปได้หลายอย่าง แต่สำหรับเรา สิ่งที่ได้จากละครเรื่องนี้คือ

- ผู้จัด คุณเอิน ที่มีความสามารถ ก่อนหน้าตามดูงานมาตลอด ก็จะเห็นคุณเอิน ทำละคร romantic comedy สบายๆ แต่ บทดีนะ ไม่เวิ่นเว้อ พระนางล้มทับสบตาปิ๊งๆ เป็นละครที่พระนางฟินกันแบบ ไม่ใช้คู่จิ้น ใช้บทที่มีที่มาที่ไปสมเหตุ โดยตอนแรก ก็คือ คิดว่า เอ เปลี่ยนแนวหนักๆ จะ โอไหม แต่ดูมา คุณเอิน ต่อไป ไม่ว่าละครแนวไหน คุณคงทำได้หมด เพราะขนาดดราม่าหนักหน่วงยังจัดได้ขนาดนี้ ฝีมือดีจริง

- เป็นละครที่บท นั้น ผู้เขียน คือ คุณนัท ได้ลงมือเก็บข้อมูล จริง จากนักจิตวิทยา มีการตรวจสอบบทสอบถามทางผู้เชี่ยวชาญจริง น่าชื่นชม ตรงที่สร้างบรรทัดฐานให้ละครมีความสมจริงมากขึ้น และให้ประโยชนฺแก่คนดู มากกว่าแค่ดูละคร

- ผู้กำกับ ถึงแม้จะเปลี่ยนตัว แต่การทำงานกำกับภาพนั้น ไม่ได้แย่เลย หลายๆ ฉาก สื่อซ่อนความหมายไว้ เช่น ฉากแสงเงาที่ตังเมโดนมัด เหมือนคุกอย่างที่หลายคนสังเกตเห็น

- นักแสดง ต้องยกความดีให้เด็กๆ น้องชาเล็ท กะน้องเดียร์ นี่ เอาไปเลยสามกระโหลก คือ อินเนอร์มาเต็มจริงๆ ส่วนคนอื่นๆ ก็ ยังมีที่ยังจัดไม่เต็ม แต่ก็คงต้องพัฒนาต่อ ส่วนจ๊ะ เรื่องนี้ คือ การแสดงเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว น้ำเสียงสายตา ท่าทาง คือ มันเป็นแนวนักจิตวิทยาจริงๆ คำพูดที่เปิดมาคุยกับเด็ก มันตรงเป๊ะ ที่เป็นคำถามปลายเปิด ว่า หนูรู้สึกยังไงบ้างค่ะ คือ นักจิตไม่ชี้นำ ไม่ปิดกั้นการแสดงออก ปล่อยให้คนที่บำบัดเปิดใจพูดอย่างที่คิด

-ฉากทางการแพทย์ ที่สมจริง ตั้งแต่อาการมินนี่ที่เป็น hyperventilation syndrome การใส่  NG lavage (การใส่สายทางจมูกเพื่อล้างท้อง) นั้น ความสมจริงใกล้เคียงค่ะ ชมจากใจ ว่าในที่สุดคนทำละคร ไม่ทำลวกๆ โดยคิดว่าคนดูไม่รู้หรอก ขอบคุณๆ ที่คิดถึงจุดนี้

- บท ใครๆ ก็บอก แหม ละครเด็กมีปัญหาสะท้อนสังคม มีเยอะแยะ ดีกว่าวัยแสบตั้งเยอะ บทสนุกกว่าด้วย เราฟัง แล้วก็ ค่ะ ให้เหตุผลเค้าต่อว่า ใช่ละครสะท้อนปัญหาเด็ก และครอบครัวมีเยอะ แต่เรื่องนี้ต่างที่นอกจากสะท้อนปัญหา แล้วยังให้คนดูที่เป็นผู้ใหญ่เป็นพ่อแม่ เห็นต้นตอปัญหาว่า การกระทำของเด็ก คือ กระจกสะท้อนการเลี้ยงดู เด็กในละคร 5 คนเป็นตัวแทนที่เกิดจากการเลี้ยงดูต่างๆ กัน แล้วยังชี้จุดที่ปัญหาต้นตอที่พ่อแม่ต้องแกตัวเองด้วย เหมือนเมื่อว่า ที่พ่อแม่โชกุน มีปัญหาทางการแต่งงาน ชีวิตคู่ การทำ couple counselling  คือ แนวทางช่วยแก้ปัญหาชีวิตคู่ได้ จะเห็นจากทางฝรั่งเวลาเค้าว่าชีวิตคู่เค้าเริ่มระหองระแหง แทนที่เค้าจะเหมือนบ้านเรา ระเบิดตู้ม ไป เราไปหย่ากัน เค้ายังให้โอกาสหาทางแก้ปัญหาร่วมกันเผื่อว่าเราจะกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันได้ คือ บทละครเรื่องนี้ มันแสดงให้เห็นหลายๆ มิติ ไม่ใช่นำเสนอแต่ปัญหาเด็ก เอาบทเด็กติดยามาใส่ เด็กทำแท้งมาใส่ เด็กมีเซ็กส์ก่อนวัย แล้วก็บอกนี่ไงละครสะท้อนสังคม ไม่ค่ะ สังคม ครอบครัว ประกอบด้วยหลายอย่าง ทั้ง พ่อแม่ ญาติ เด็กเอง เพื่อน ครู โรงเรียน เรื่องนี้มันใส่มาครบถ้วน ทุกๆ ตัวละครมีอิทธิพลซึ่งกันและกัน มีปมปัญหาที่ตัวเองก็ต้องการรับการแก้ไขอยู่

- มีการพูดถึงสื่อ ทุกวันนี้ ในกรณีมินนี่เห็นชัดจริงๆ การที่ต้องติดการใช้สื่อ การต้องการการยอมรับตัวตน ซึ่งเราจะเห็นเด็กสมัยนี้ การมีตัวตนของเค้ากลับไปทางที่ไม่ถูก ไม่เคารพตัวเอง ต้องการให้ชั้นเป็น somebody ของใคร ดังนั้นการที่เน็ตไอดอลบางรายที่ใช้การเรียกร้องให้ตนเองเป็นที่รู้จัก ยอมรับ โดยการใช้อย่างอื่นที่ไม่ใช่ความสามารถ เช่น โชว์เรือนร่าง โชว์ความรุนแรง มีให้พบเสมอ และทำร้ายทิ่มแทงคนอื่นด้วยการโพสถ้อยคำหยาบคายดูถูกรุนแรง ผ่านทางโซเซี่ยล  ที่วัยรุ่นสมัยนี้เห็นเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

ละครเรื่องนี้ เราว่าไม่ใช่ละครของเด็กซะทีเดียว เรากลับคิดว่า มันถูกทำมาเพื่อให้คนเป็นผู้ใหญ่ คนเป็นพ่อแม่ ดูจะเหมาะมาก
ใครที่ไม่ดูละครเรื่องนี้ ไม่ชอบ อยากเซะละครเรื่องนี้ อันนี้เราห้ามคุณไม่ได้ เพราะ ความคิด ความเห็น ความรู้สึก คนเราต่างกัน
แต่เราเชื่อว่า คนดูคนไทยกลุ่มหนึ่งอยากเหลือเกิน ที่จะได้เห็นละครไทยที่แหวกจาก ละครปกติ ละครรีเมค ละครที่มีการทำการบ้าน ข้อมูลที่ได้มามาจากการเขียนที่ได้จากผู้เชี่ยวชาญ

ขอบคุณความกล้าของคุณเอิน
ขอบคุณความเก่งของผู้เขียนบท ทีมนักแสดง ผู้กำกับ
ขอบคุณช่องที่ยังเปิดโอกาสให้ละครแบบนี้

และชอบประโยคนี้ ‪#‎พ่อแม่คือรักแรกของลูก# ‬ ถ้ารักแรกมันแตกสลาย แล้วเด็กจะหาความรักได้จากไหน ‪