สปอยล์แหลกลานบานตะไท
กราบเรียนผู้อ่านที่เคารพ
ขอต้อนรับเข้าสู่ช่วงติ่งรีเทิร์น
ไปดูมาแล้วค่ะ เราจะไม่ขอพูดแล้วกันเนอะว่าเราชอบขนาดไหน เพราะไม่เกี่ยวกับเนื้อหามู้เล้ย (ยอมรับว่าเราอาจจะรสนิยมแย่เองแหละ เราชอบ Sucker Punch ด้วย 555555)
พอดูแล้วก็ยังมีอะไรให้จับเยอะเหมือนเดิมเลยค่ะ ซึ่งก็ยังคงมาในแนวศาสนา ปรัชญา ประวัติศาสตร์ ฯลฯ (แหงล่ะ เอ็งมองเป็นอยู่แค่นั้น) เลยมาตั้งกระทู้แบ่งปันเล่นๆ ค่ะ
(เพิ่งดูไปสองรอบนะคะ รอบแฟนมีตวันพฤหัส กับเมื่อวันศุกร์ ยังไงสัปดาห์หน้าว่าจะหาเวลาไปดูอีกสักรอบสองรอบ ถ้าได้อะไรกลับมาเพิ่มจากนี้จะมาเพิ่มในคอมเมนท์/ตั้งกระทู้ใหม่น่อ)
อัพเดท: ไปดูเพิ่มมาละค่ะ เพิ่มเติมเยอะมาก
------------------------------------------------
ในภาคนี้ เราจะเห็นตัวละครที่เปรียบเทียบตัวเอง เปรียบเทียบคนอื่น ช่างเปรียบช่างเทียบเหลือเกินอย่างเช่นนนายเล็กซ์ ลูธอร์ ซึ่งโดยรวมๆ แล้วพี่แกเปรียบเทียบไว้ว่า
ซุปเปอร์แมน = พระเจ้า
แบทแมน = มนุษย์
ตัวเอง = ปีศาจ
"If man won't kill God, the Devil will do it."
"ถ้ามนุษย์ไม่ฆ่าพระเจ้า ปีศาจจะลงมือเอง"
เริ่มที่ส่วนแรก... พระเจ้า
ภาคนี้พี่ซุปก็ยังคงความเป็นพระเยซูไว้ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง... ไม่ว่าจะซีนที่ชัดเจนมากๆ อย่างในเม็กซิโก ที่ 'คนตาย' -- ผู้คนที่ใส่หน้ากาก เพนท์หน้าหัวกะโหลก เพื่อฉลอง Dia de los Muertos หรือ Day of the Dead -- ยื่นมือมาแตะพระผู้ช่วยที่มาช่วยหนึ่งในพวกเค้า เหมือนวิญญาณที่หลงทางและหวังจะได้รับพรหรือการถูกรับขึ้นสวรรค์ หรือการที่ผู้หญิงบนหลังคาบ้านเอื้อมมือไปหาพี่ท่านเหมือนพระมาโปรด ไปจนถึงอะไรอย่างเช่นตอนโดนนู้ค นิ้วชี้มาที่โลกเหมือนพระเจ้าใน The Creation of Adamไม่มีผิดเลยค่ะ
(เรื่องความเป็นเทพใน Man of Steel เราเคยเขียนไว้แล้วนะคะ เก่าละ
http://ppantip.com/topic/33524218)
ส่วนของมู้นี้ เรามีส่วนนึงที่เล่าเป็นสตอรี่ได้ค่ะ เพราะมันมีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า Stations of the Cross จ่ะ
สะเตชั่น ณ ที่นี้ไม่ได้แปลว่าสถานีแต่อย่างใด แต่เป็นจุดเหมือนแลนด์มาร์คที่บ่งบอกถึงเหตุการณ์สำคัญๆ ในชีวิตช่วงหลังของพระเยซูที่นำไปสู่การถูกตรึงกางเขนนั่นเองค่ะ
station มีหลายเวอร์ชั่นด้วยกัน ที่เห็นเด่นๆ จะมีสามเวอร์ชั่น ทุกเวอร์ชั่นจะมี 14 เหตุการณ์สำคัญเท่ากัน แต่ดันนับไม่เหมือนกันว่าเหตุการณ์นี้อยู่จุดที่เท่าไหร่ หรือเหตุการณ์นี้มีในเวอร์ชั่น ไม่มีในเวอร์ชั่นนั้น แต่รวมๆ แล้วหลายเหตุการณ์ใน BvS สามารถนำมาเชื่อมกับ stations of the cross ได้ดังนี้จ่ะ (เราเอาทั้งสามเวอร์ชั่นมาปนๆ กันแล้วพยายามเรียงตามลำดับเวลา แต่เราก็ไม่แม่นเพะนะคะว่าอะไรมาก่อนหลัง ไม่ได้เป็นศาสนิกชน = =' )
- พระเยซูคร่ำครวญต่อพระบิดาในสวนเกทเสมนี (ซึ่งสวนอยู่บนภูเขามะกอก และเป็นสุสานด้วย)
ทุกคนจำได้ถึงฉากที่พี่ซุปของเราปีนขึ้นเขาไปคุยกับมโนภาพของทั่นพ่อ (ฮืออออ) และเราจะเห็นว่าบนเขานั้นมีเหมือนหินหน้าหลุมศพที่น่าจะเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงโจนาธาน เคนท์ ซึ่งพี่คลาร์กอาจจะได้มาทำไว้หลังจากพ่อเสีย
"While I ate my hero cake, their horses were drowning."
"พ่อกินเค้กที่ได้รางวัลจากการเป็นฮีโร่ ส่วนม้าพวกนั้นจมน้ำตาย"
แต่บางทีคลาร์กก็คงนึก
การที่ตัวเองได้ทำอะไรจากความหวังดี การได้เป็นฮีโร่ในสายตาของคนกลุ่มหนึ่ง อาจจะทำให้คนอีกกลุ่มหนึ่งสูญเสียทุกอย่าง?
- พระเยซูถูกประณามที่ศาลแซนเฮดริน
"We talk to each other."
"เราต้องพูดคุยกัน"
แต่เขาได้มีโอกาสพูดอะไรสักอย่างก่อนที่คนพวกนั้นจะถูกระเบิดตายไปหรือยัง?
ไม่มีคำแก้ตัว เพราะยังไม่มีแม้โอกาสให้ได้แก้
- พระเยซูถูกตัดสินประหารชีวิต
พี่คลาร์กถูกหมายหัวด้วยความแค้นโดยทั้งวอลลี่ ป๋าค้างคาวหมี และเล็กซ์ในตอนต้นเรื่องเรียบร้อยแล้ว
-พระเยซูแบกไม้กางเขน
(ทำไหมต้องแบก เดี๋ยวจะกล่าวในข้อต่อๆไปจ้ะ)
- พระเยซูพบพระนางมารีย์พรหมจารี
กลับไปหาคุณแม่ที่สมอลวิลล์ ขอคำปรึกษาท่ามกลางดวงตาบนท้องฟ้ามากมาย
"Be their hero. Be their monument. Be their angel. Be whatever they need. Or be none of it."
"เป็นฮีโร่ของพวกเขา เป็นอนุสรณ์ของพวกเขา เป็นเทพ เป็นอะไรก็ตามที่พวกเขาต้องการ หรือไม่ต้องเป็นอะไรเลย"
-นักบุญเวโรนีกาซับพระพักตร์พระเยซู
-พระเยซูพบสาธุชนสตรีแห่งเยรูซาเลม
สองสเตชั่นนี้เราขอเอามารวมกันนะคะ คือเวโรนิก้าเนี่ย ชื่อของนางแปลว่า bearer of victory เหมือนผู้ค้ำชูแห่งชัยชนะ ประมาณนั้น และสิ่งที่โลอิส เลน ' ชู' (ถือ)ไปทิ้ง แล้วก็พยายามไปงมกลับมา ( = = เหนื่อยมั้ยคนดี) เป็นอาวุธที่ทำให้ trinity ทั้งสามของเราพิชิตดูมสเดย์ได้ ก็คือหอกคริปตอนไนท์นั่นเอง (เหมือนจะเป็นการอ้างถึงหอกที่ใช้ทิ่มสีข้างพระเยซูตอนอยู่บนไม้กางเขนด้วย ทิ่มเพื่อให้รู้น่ะว่าตายจริงยัง ซึ่งคนเรารู้จักกันในนามหอกลองกินุส ที่จริงๆ ลองกินุสนั้นเป็นชื่อทหารเซนจูเรียนโรมันที่เป็นคนถือหอกนั้นมากกว่าค่ะ)
ส่วนสาธุชนสตรี จริงๆแล้วมีหลายคน แต่เราเอามาเหมาเป็นโลอิสคนเดียวเพราะคำพูดที่พระเยซูพูดไว้กับพวกนางค่ะ ประมาณว่าอย่าห่วงเราเลย ดูแลตัวเอง อะไรแบบนี้ เหมือนที่พี่ซุปบอกโลอิสว่า
"This is my world. You are my world."
"นี่คือโลกของผม คุณคือโลกของผม"
(ดูแลตัวเองดีๆ ด้วย ทำให้ขนาดนี้แล้ว)
ในเวลาที่ตัดสินใจว่าถึงเวลาตาย
- พระเยซูล้มลงใต้น้ำหนักของกางเขน (อันนี้บางเวอร์ชั่นก็ล้มเสียสามหน บางเวอร์ชั่นก็หนเดียว เราขอเขียนรวมๆนะคะ)
ส่วนใหญ่ในหนัง BvS พี่ซุปจะล้มส่วนใหญ่เพราะป๋าค้างคาวหมีเนี่ยแหละ แต่เราก็ยังไม่ได้บ้าจี้นับมาว่าล้มกี่หน เดี๋ยวครั้งหน้าไปดูจะนับมาค่ะ สัญญา 555555
ส่วน "น้ำหนักของกางเขน" (และการแบกมันไว้) โดยนัยแล้วมีความว่าแบกรับน้ำหนักของความทุกข์ ความบาปของมนุษย์ไว้น่ะค่ะ ซึ่งตาแบทเองก็มาชำระความเจ็บปวดของมนุษย์ที่ต้องสูญเสีย ความโกรธ(บาปหนึ่งในเจ็ด)ที่บ่มเพาะมาลงกับพี่ท่านไปเต็มเหนี่ยวเลยทีเดียว (อ่างล่างหน้าไหมล่ะนาย)
"ํI bet your parents taught you you mean something."
"พนันว่าพ่อแม่นายสอนมาว่านายเป็นคนสำคัญ"
แค่เพราะเกิดมามีพลัง จึงสำคัญหรือ?
พ่อกับแม่ของเขาก็มีอำนาจ มีชีวิต เพื่อนร่วมงาน โรบิน ทำไมทุกคนถึงตายไปเหมือนไม่มีค่า?
- พระเยซูฝากฝังแม่กับนักบุญจอห์น
"ผมเป็นเพื่อนของลูกชายคุณ"
และนักบุญจอห์นเองเป็นเหมือนเสาหลักของศาสนาเลยล่ะค่ะหลังจากยุคของพระเยซู เหมือนที่บรูซบอกว่า I failed him in life. I won't fail him in death. จะสานต่อเจตนารมของพี่คลาร์กไว้แน่นอน
"I figured. The cape.""
"รู้อยู่แล้วละ่... เพราะผ้าคลุม"
- การตรึงพระเยซูที่กางเขน
ซุปเปอร์แมนโดนดูมส์เดย์เสียบกลางอก... ;-;
- พระเยซูสิ้นพระชนม์บนกางเขน
.............................
(ตายท่ากางแขนด้วยนะ)
- การอัญเชิญพระศพลงจากกางเขน
เราจะเห็นพี่แบท วันเดอร์วูแมน กับโลอิสช่วยกันค่อยๆ ย้ายร่างไร้ชีวิตของพ่อพระเอกจากที่สูงลงไปค่ะ
ถ้าสังเกตจะเห็นไม้กางเขนในฉากประปรายด้วยนะ
และบนกางเขนมีนกพิราบบินมาเกาะด้วยค่ะ (นกพิราบขาวทางศาสนาคือสัญลักษณ์ของพระจิต) พวกแกไม่กลัวกลายเป็นนกย่างกันรึไง -*-
- ร่างของพระเยซูถูกวางไว้ในที่ฝัง
สรุปแล้วพี่ซุปของเราก็ยังคงถูกพรีเซนต์ให้เป็นพระผู้ช่วยจนวินาทีสุดท้ายเลยค่ะ
วายชนม์คือผู้กล้า.
แต่เขาก็เป็นคน ที่โดนแม่สอนมาตั้งแต่ตอนเด็ก ( Man of Steel) ให้เก็บพลังเอาไว้ให้ได้ ซุปเปอร์แมนจึงมีความเป็นมนุษย์ ที่จะไม่ได้ใช้พลังตลอดเวลาถ้าหากจิตใจว้าวุ่น หรือมีความรู้สึกผิดเกี่ยวกับพลังของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม มีคนที่ตอนต้นมองว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ และกล่าวไว้ว่า
"You're not brave. Men are brave. "
มนุษย์ต่างหากที่กล้าหาญ
(ต่อด้านล่าง)
[Batman v Superman] พระเจ้า ปีศาจ มนุษย์
กราบเรียนผู้อ่านที่เคารพ ขอต้อนรับเข้าสู่ช่วงติ่งรีเทิร์น
ไปดูมาแล้วค่ะ เราจะไม่ขอพูดแล้วกันเนอะว่าเราชอบขนาดไหน เพราะไม่เกี่ยวกับเนื้อหามู้เล้ย (ยอมรับว่าเราอาจจะรสนิยมแย่เองแหละ เราชอบ Sucker Punch ด้วย 555555)
พอดูแล้วก็ยังมีอะไรให้จับเยอะเหมือนเดิมเลยค่ะ ซึ่งก็ยังคงมาในแนวศาสนา ปรัชญา ประวัติศาสตร์ ฯลฯ (แหงล่ะ เอ็งมองเป็นอยู่แค่นั้น) เลยมาตั้งกระทู้แบ่งปันเล่นๆ ค่ะ
(เพิ่งดูไปสองรอบนะคะ รอบแฟนมีตวันพฤหัส กับเมื่อวันศุกร์ ยังไงสัปดาห์หน้าว่าจะหาเวลาไปดูอีกสักรอบสองรอบ ถ้าได้อะไรกลับมาเพิ่มจากนี้จะมาเพิ่มในคอมเมนท์/ตั้งกระทู้ใหม่น่อ)
อัพเดท: ไปดูเพิ่มมาละค่ะ เพิ่มเติมเยอะมาก
------------------------------------------------
ในภาคนี้ เราจะเห็นตัวละครที่เปรียบเทียบตัวเอง เปรียบเทียบคนอื่น ช่างเปรียบช่างเทียบเหลือเกินอย่างเช่นนนายเล็กซ์ ลูธอร์ ซึ่งโดยรวมๆ แล้วพี่แกเปรียบเทียบไว้ว่า
ซุปเปอร์แมน = พระเจ้า
แบทแมน = มนุษย์
ตัวเอง = ปีศาจ
"If man won't kill God, the Devil will do it."
"ถ้ามนุษย์ไม่ฆ่าพระเจ้า ปีศาจจะลงมือเอง"
เริ่มที่ส่วนแรก... พระเจ้า
ภาคนี้พี่ซุปก็ยังคงความเป็นพระเยซูไว้ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง... ไม่ว่าจะซีนที่ชัดเจนมากๆ อย่างในเม็กซิโก ที่ 'คนตาย' -- ผู้คนที่ใส่หน้ากาก เพนท์หน้าหัวกะโหลก เพื่อฉลอง Dia de los Muertos หรือ Day of the Dead -- ยื่นมือมาแตะพระผู้ช่วยที่มาช่วยหนึ่งในพวกเค้า เหมือนวิญญาณที่หลงทางและหวังจะได้รับพรหรือการถูกรับขึ้นสวรรค์ หรือการที่ผู้หญิงบนหลังคาบ้านเอื้อมมือไปหาพี่ท่านเหมือนพระมาโปรด ไปจนถึงอะไรอย่างเช่นตอนโดนนู้ค นิ้วชี้มาที่โลกเหมือนพระเจ้าใน The Creation of Adamไม่มีผิดเลยค่ะ
(เรื่องความเป็นเทพใน Man of Steel เราเคยเขียนไว้แล้วนะคะ เก่าละ http://ppantip.com/topic/33524218)
ส่วนของมู้นี้ เรามีส่วนนึงที่เล่าเป็นสตอรี่ได้ค่ะ เพราะมันมีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า Stations of the Cross จ่ะ
สะเตชั่น ณ ที่นี้ไม่ได้แปลว่าสถานีแต่อย่างใด แต่เป็นจุดเหมือนแลนด์มาร์คที่บ่งบอกถึงเหตุการณ์สำคัญๆ ในชีวิตช่วงหลังของพระเยซูที่นำไปสู่การถูกตรึงกางเขนนั่นเองค่ะ
station มีหลายเวอร์ชั่นด้วยกัน ที่เห็นเด่นๆ จะมีสามเวอร์ชั่น ทุกเวอร์ชั่นจะมี 14 เหตุการณ์สำคัญเท่ากัน แต่ดันนับไม่เหมือนกันว่าเหตุการณ์นี้อยู่จุดที่เท่าไหร่ หรือเหตุการณ์นี้มีในเวอร์ชั่น ไม่มีในเวอร์ชั่นนั้น แต่รวมๆ แล้วหลายเหตุการณ์ใน BvS สามารถนำมาเชื่อมกับ stations of the cross ได้ดังนี้จ่ะ (เราเอาทั้งสามเวอร์ชั่นมาปนๆ กันแล้วพยายามเรียงตามลำดับเวลา แต่เราก็ไม่แม่นเพะนะคะว่าอะไรมาก่อนหลัง ไม่ได้เป็นศาสนิกชน = =' )
- พระเยซูคร่ำครวญต่อพระบิดาในสวนเกทเสมนี (ซึ่งสวนอยู่บนภูเขามะกอก และเป็นสุสานด้วย)
ทุกคนจำได้ถึงฉากที่พี่ซุปของเราปีนขึ้นเขาไปคุยกับมโนภาพของทั่นพ่อ (ฮืออออ) และเราจะเห็นว่าบนเขานั้นมีเหมือนหินหน้าหลุมศพที่น่าจะเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงโจนาธาน เคนท์ ซึ่งพี่คลาร์กอาจจะได้มาทำไว้หลังจากพ่อเสีย
"While I ate my hero cake, their horses were drowning."
"พ่อกินเค้กที่ได้รางวัลจากการเป็นฮีโร่ ส่วนม้าพวกนั้นจมน้ำตาย"
แต่บางทีคลาร์กก็คงนึก
การที่ตัวเองได้ทำอะไรจากความหวังดี การได้เป็นฮีโร่ในสายตาของคนกลุ่มหนึ่ง อาจจะทำให้คนอีกกลุ่มหนึ่งสูญเสียทุกอย่าง?
- พระเยซูถูกประณามที่ศาลแซนเฮดริน
"We talk to each other."
"เราต้องพูดคุยกัน"
แต่เขาได้มีโอกาสพูดอะไรสักอย่างก่อนที่คนพวกนั้นจะถูกระเบิดตายไปหรือยัง?
ไม่มีคำแก้ตัว เพราะยังไม่มีแม้โอกาสให้ได้แก้
- พระเยซูถูกตัดสินประหารชีวิต
พี่คลาร์กถูกหมายหัวด้วยความแค้นโดยทั้งวอลลี่ ป๋าค้างคาวหมี และเล็กซ์ในตอนต้นเรื่องเรียบร้อยแล้ว
-พระเยซูแบกไม้กางเขน
(ทำไหมต้องแบก เดี๋ยวจะกล่าวในข้อต่อๆไปจ้ะ)
- พระเยซูพบพระนางมารีย์พรหมจารี
กลับไปหาคุณแม่ที่สมอลวิลล์ ขอคำปรึกษาท่ามกลางดวงตาบนท้องฟ้ามากมาย
"Be their hero. Be their monument. Be their angel. Be whatever they need. Or be none of it."
"เป็นฮีโร่ของพวกเขา เป็นอนุสรณ์ของพวกเขา เป็นเทพ เป็นอะไรก็ตามที่พวกเขาต้องการ หรือไม่ต้องเป็นอะไรเลย"
-นักบุญเวโรนีกาซับพระพักตร์พระเยซู
-พระเยซูพบสาธุชนสตรีแห่งเยรูซาเลม
สองสเตชั่นนี้เราขอเอามารวมกันนะคะ คือเวโรนิก้าเนี่ย ชื่อของนางแปลว่า bearer of victory เหมือนผู้ค้ำชูแห่งชัยชนะ ประมาณนั้น และสิ่งที่โลอิส เลน ' ชู' (ถือ)ไปทิ้ง แล้วก็พยายามไปงมกลับมา ( = = เหนื่อยมั้ยคนดี) เป็นอาวุธที่ทำให้ trinity ทั้งสามของเราพิชิตดูมสเดย์ได้ ก็คือหอกคริปตอนไนท์นั่นเอง (เหมือนจะเป็นการอ้างถึงหอกที่ใช้ทิ่มสีข้างพระเยซูตอนอยู่บนไม้กางเขนด้วย ทิ่มเพื่อให้รู้น่ะว่าตายจริงยัง ซึ่งคนเรารู้จักกันในนามหอกลองกินุส ที่จริงๆ ลองกินุสนั้นเป็นชื่อทหารเซนจูเรียนโรมันที่เป็นคนถือหอกนั้นมากกว่าค่ะ)
ส่วนสาธุชนสตรี จริงๆแล้วมีหลายคน แต่เราเอามาเหมาเป็นโลอิสคนเดียวเพราะคำพูดที่พระเยซูพูดไว้กับพวกนางค่ะ ประมาณว่าอย่าห่วงเราเลย ดูแลตัวเอง อะไรแบบนี้ เหมือนที่พี่ซุปบอกโลอิสว่า
"This is my world. You are my world."
"นี่คือโลกของผม คุณคือโลกของผม"
(ดูแลตัวเองดีๆ ด้วย ทำให้ขนาดนี้แล้ว)
ในเวลาที่ตัดสินใจว่าถึงเวลาตาย
- พระเยซูล้มลงใต้น้ำหนักของกางเขน (อันนี้บางเวอร์ชั่นก็ล้มเสียสามหน บางเวอร์ชั่นก็หนเดียว เราขอเขียนรวมๆนะคะ)
ส่วนใหญ่ในหนัง BvS พี่ซุปจะล้มส่วนใหญ่เพราะป๋าค้างคาวหมีเนี่ยแหละ แต่เราก็ยังไม่ได้บ้าจี้นับมาว่าล้มกี่หน เดี๋ยวครั้งหน้าไปดูจะนับมาค่ะ สัญญา 555555
ส่วน "น้ำหนักของกางเขน" (และการแบกมันไว้) โดยนัยแล้วมีความว่าแบกรับน้ำหนักของความทุกข์ ความบาปของมนุษย์ไว้น่ะค่ะ ซึ่งตาแบทเองก็มาชำระความเจ็บปวดของมนุษย์ที่ต้องสูญเสีย ความโกรธ(บาปหนึ่งในเจ็ด)ที่บ่มเพาะมาลงกับพี่ท่านไปเต็มเหนี่ยวเลยทีเดียว (อ่างล่างหน้าไหมล่ะนาย)
"ํI bet your parents taught you you mean something."
"พนันว่าพ่อแม่นายสอนมาว่านายเป็นคนสำคัญ"
แค่เพราะเกิดมามีพลัง จึงสำคัญหรือ?
พ่อกับแม่ของเขาก็มีอำนาจ มีชีวิต เพื่อนร่วมงาน โรบิน ทำไมทุกคนถึงตายไปเหมือนไม่มีค่า?
- พระเยซูฝากฝังแม่กับนักบุญจอห์น
"ผมเป็นเพื่อนของลูกชายคุณ"
และนักบุญจอห์นเองเป็นเหมือนเสาหลักของศาสนาเลยล่ะค่ะหลังจากยุคของพระเยซู เหมือนที่บรูซบอกว่า I failed him in life. I won't fail him in death. จะสานต่อเจตนารมของพี่คลาร์กไว้แน่นอน
"I figured. The cape.""
"รู้อยู่แล้วละ่... เพราะผ้าคลุม"
- การตรึงพระเยซูที่กางเขน
ซุปเปอร์แมนโดนดูมส์เดย์เสียบกลางอก... ;-;
- พระเยซูสิ้นพระชนม์บนกางเขน
.............................
(ตายท่ากางแขนด้วยนะ)
- การอัญเชิญพระศพลงจากกางเขน
เราจะเห็นพี่แบท วันเดอร์วูแมน กับโลอิสช่วยกันค่อยๆ ย้ายร่างไร้ชีวิตของพ่อพระเอกจากที่สูงลงไปค่ะ
ถ้าสังเกตจะเห็นไม้กางเขนในฉากประปรายด้วยนะ
และบนกางเขนมีนกพิราบบินมาเกาะด้วยค่ะ (นกพิราบขาวทางศาสนาคือสัญลักษณ์ของพระจิต) พวกแกไม่กลัวกลายเป็นนกย่างกันรึไง -*-
- ร่างของพระเยซูถูกวางไว้ในที่ฝัง
สรุปแล้วพี่ซุปของเราก็ยังคงถูกพรีเซนต์ให้เป็นพระผู้ช่วยจนวินาทีสุดท้ายเลยค่ะ
วายชนม์คือผู้กล้า.
แต่เขาก็เป็นคน ที่โดนแม่สอนมาตั้งแต่ตอนเด็ก ( Man of Steel) ให้เก็บพลังเอาไว้ให้ได้ ซุปเปอร์แมนจึงมีความเป็นมนุษย์ ที่จะไม่ได้ใช้พลังตลอดเวลาถ้าหากจิตใจว้าวุ่น หรือมีความรู้สึกผิดเกี่ยวกับพลังของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม มีคนที่ตอนต้นมองว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ และกล่าวไว้ว่า
"You're not brave. Men are brave. "
มนุษย์ต่างหากที่กล้าหาญ
(ต่อด้านล่าง)