GHost Detective File 1-9 ตอน เหงา END

ภายในบ้านไฟทุกดวงถูกเปิดจนสว่างไสว คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในร้านก้ถูกเปิดเช่นกัน ภาพภายในบ้านจากมุมต่างๆได้ถ่ายทอดผ่านกล้องทุกตัว เชื่อมไปยังรถตู้ที่มีจอมอนิเตอร์ และทุกคนที่เฝ้ามองอย่างใจจดใจจ่อ แน่นอนภายในบ้านมีแค่ดาวเพียงคนเดียว เธอติดต่อกับภูที่อยู่ด้านนอกผ่านไมค์และหูฟังตัวเล็ก และเพื่อความไม่ประมาท เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจก้ถูกติดไว้ที่ตัวดาวเช่นกัน

และแม้ว่าในบ้านจะเปิดไฟสว่าง แต่ลึกๆดาวรู้สึกอึดอัดเป็นพิเศษ ถ้าไม่เพราะกล้องหลายๆตัวที่เฝ้ามองพฤติกรรมของเธอเหมือนรายการเรียลลิตี้ ก็อาจจะเป็นเพราะในบ้านมี "ใคร" เฝ้ามองเธออยู่จริงๆ

"นี่นาย ยังอยู่มั้ย ฉันรู้สึกแปลกๆ"ดาวพูดใส่ไมค์

"คิดไปเองรึเปล่า ภาพจากกล้องกับเซนเซอร์ค่าต่างๆยังไม่เปลี่ยนเลยนะ" ภูพูดหลังจากที่มองไปยังเซนเซอร์วัดอุณหภูมิและตัวจับคลื่นเสียงที่ยังคงไม่แสดงค่าที่ปกติแต่อย่างใด

"บางที่ฉันว่า ฉันเข้าใจความรู้สึกของหมอเจี๊ยบแล้วแหละ" ดาวพูดในขณะที่กำลังนึกถึงเรื่องที่หมอเจี๊ยบเล่าให้เธอฟังเมื่อตอนเช้า

(สิ่งที่เหนือกว่าความกลัวอย่างนั้นเหรอ)

"ถ้าฉันจะให้เธอนอนเลยพอจะไหวมั้ย" ภูพูดเปิดประเด็นทันที แม้เค้าจะรู้ดีว่า ดาวพึ่งหลับไปในตอนบ่าย แต่ด้วยสภาพการที่เกิดขึ้น ภูไม่อยากเสี่ยงที่จะไม่ได้ผลอย่างที่คาดไว้

ไม่มีคำตอบจากดาว แต่จากการที่เธอเดินไปที่ห้องนอนของพี่แก้มนั่นแสดงว่าเธอก้เห็นด้วยในข้อเสนอของภู

ทันทีที่เดินเข้ามาในห้อง เพียงก้าวแรกของดาวก็ขาตายอยู่หน้าประตู ภาพเหตุการณ์ในฝันที่ทำให้เธอกลัวสุดขีดจนเกิดอาการผีอำนั้น ผุดขึ้นมาในหัวเธออีก ดาวยืนนิ่งจนภูต้อง ถามซ้ำๆว่าเธอไหวหรือเปล่า

(ใช่แล้ว เรามีสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าความกลัวนี่นา)

ภูมองภาพดาวเดินเข้าไปห้องหลังจากที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตู เข้าพยายามถามว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า แต่ดาวก็ตอบแต่เพียงว่าไม่เป็นไร

ในห้องดาวเลือกที่จะไม่เปิดไฟ เพราะมันทำให้เธอนอนหลับได้ง่ายขึ้น ดาวนอนทำสมาธิอยู่นานเพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกเกร็งจนพาลจะไม่หลับเอาเสียดื้อๆ ทุกคนที่เฝ้ามองไปที่หน้าจอต่างนิ่งเงียบ โดยเฉพาะพ่อของดาวที่มองดูด้วยความเป็นห่วง

...............................................

(ที่นี่ที่ไหน) ดาวนึกในใจรอบตัวเธอมันรู้สึกแตกต่าง รอบๆตัวเธอคือหน้าบ้านพี่แก้มที่ดูไม่เหมือนบ้านพี่แก้ม ตรงรั้ว มีป้ายที่วาดด้วยสีน้ำเขียนตัวตัวหนังสือสีแดงตัวโตๆว่า "สมศรีซาลอน" ดาวพยายามรวบรวมสติ เธอจำได้ว่าตอนเด็กๆ บ้านพี่แก้มหลังนี้เคยเป็นร้านเสริมสวยมาก่อน

(งั้นก็หมายความว่า) แม้เพียงความคิด แต่ก็มีเสียงที่เหมือนจะเปร่งเข้ามาในหัวสมองเธอโดยตรงจนทำให้ดาวรู้สึกตกใจ

(ใช่แล้วครัว นี่คือเรื่องพี่อยากรู้และเรื่องราวทั้งหมด) ดาวหันไปด้านหลัง เด็กผู้ชายตัวเล็กๆแต่งตัวมอมแมมยืนอยู่ด้านหลังเธอ แม้แววตาเด็กคนนี้จะดูว่างเปล่า แต่ดาวก็ไม่รู้สึกว่าเด็กจะคิดร้ายกับเธอแม้แต่น้อย

"หนูคือคนที่ช่วยพี่ไว้เมื่อคืนใช่มั้ย" แต่ไม่มีคำตอบจากเด้กชาย มีแต่เพียงการยกมือชี้ให้ดาวมองไปยังบ้าน ผู้หญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวเปรี้ยวไม่สมกับวัยไว้ผมหยิกเป็นลอน เดินออกมาพร้อมกับเด็ก5คน และหนึ่งในนั้นก็คือเด็กคนที่กำลังชี้ให้ดาวไปดูนั่นเอง เด็กคนนั้นดูตัวโตกว่าเป็นคนอื่น อาจจะเป็นพี่คนโตของน้องๆก็ได้

ซักพัก ภาพก็ตัดมาที่ในบ้าน ภายในบ้านส่วนที่ควรจะเป็นร้านเกมส์ แต่ตอนนี้เป็นร้านเสริมสวย ผู้หญิงคนนั้นกำลังทำผมให้ลูกค้าอย่างยิ้มแย้ม ขณะที่ลูกๆของเธอก้กำลังเล่นกันอย่างมีความสุข ทุกคนสวมเสื้อใหม่ กำลังเล่นของเล่นกันอย่างสนุกสนาน โดยมีพี่คนโตคอยดูแลน้องๆ มันเป็นภาพของครอบครัวที่มีความสุข

แต่มันก็ไม่เป็นเช่นนั้น เด็กคนนั้นก็สะกิดสีข้างของดาว พอดาวหันไปหา เด้กน้อยก็ค่อยร้องไห้ ดาวก้มลงไปปลอบคอยถามว่า หนูเป็นอะไร เด็กน้อยได้แต่ส่ายหน้าแล้วร้องไห้ เด็กชี้ให้ดาวมองไปยังภาพที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า

ร้านเสริมสวยไม่มีลูกค้า ผู้หญิงคนนั้นนั่งหน้านิ่วบนเก้าอี้ทำผม ตรงหน้ามีกองบิลกองโต เหล่าเด็กๆที่ยืนมองอยู่ด้านหลัง แต่ตอนนี้สีหน้าเด็กเหล่านั้นเริ่มไม่สดใส บางคนร้องไห้ ในขณะที่เนื้อตัวก็มอมแมม พี่ใหญ่ได้แต่กอดน้องเล็กที่กำลังร้องไห้

"แม่ไม่รักเราแล้ว ฮือๆๆๆ" เสียงของเด็กน้อยที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นข้างๆดาว ภาพต่อไปที่ดาวเห็น มันทำให้เธอแทบจะทรุด

ผู้หญิงคนนั้นด่าลูกๆของเธออย่างหยาบคายด้วยถ้อยคำที่ไม่สมควรกับเด็ก บางครั้งก็ตีลูกอย่างแรง และภาพที่ทำให้ดาวอึ้งก็คือ เธอจับเด็กแต่ละคนไปขังไว้ตรงฝ้าเพดาน ในห้องนอน

ซึ่งเป็นห้องนอนของพี่แก้มพอดี

ทันที่ที่ช่องของฝ้าเพดานถูกปิดตาย เสียงร้องไห้ระงมของเหล่าเด็กอย่างน่าสังเวช ดังออกมาจากบนเพดานเป็นระยะๆ และจากนั้นก็ค่อยๆเงียบไป น้ำตาของดาวค่อยๆไหลริน ด้วยไม่นึกว่าในโลกนี้จะมีคนใจร้ายแบบนี้อยู่

ภาพกลับมาเป็นห้องพี่แก้มปัจจุบัน เด็กน้อยยังคงยืนอยู่ข้างๆเธอ แต่ตอนนี้เด็ก ร้องไห้ซบดาว

"พี่สาว ช่วยพวกเราด้วย พวกเราเหงา ที่น้องๆทำลงไปก็เพราะว่าเหงา อย่าไปว่าน้องๆเลยนะ" เสียงของเด็กน้อยชวนให้น่าสงสาร เธอคิดว่าถ้าเป็นเพราะวิญญาณที่รู้เท่าไม่ถึงการ จนทำให้เกิดเรื่องสลดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

"พี่ทรยศเรา พี่ไม่รักเราแล้ว" เสียงของเด็กหลายๆเสียงดังก้องอยู่รอบตัว ในห้องยังคงมืดมิด แต่แปลกที่ดาวกลับเห็นภาพที่น่าสยดสยองได้อย่างชัดเจน

ตะปูที่ตอกบนช่องฝ้าเพดานที่ถูกกปิด ตอนนี้มันหลุดออกมาที่ละตัว พร้อมกับเสียงกระแทกตึงตังบนเพดาน เสียงหัวเราะคิกคักอันน่าคนลุกได้เสียดแทงเข้ามาถึงจิตใจทำให้ดาวรู้สึกสั่นไปทั้งตัว

"อย่าทำอะไรพี่เค้านะ" เด็กชายที่เมื่อกี้ยังร้องไห้ แต่ตอนนี้เข้าเปลี่ยนมายืนตรงหน้าดาวพร้อมทำท่าทางแขนทั้งสองข้างเหมือนว่ากำลังจะปกป้องเธออยู่

"พี่ไปช่วยมันทำไม พี่ไม่รักเราแล้วเหรอ"เสียงเหล่านั้นเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่ดูโกรธ พร้อมกับเสียงตึงตังที่ตอนนี้ได้เงียบลงไปซะเฉยๆ

"โครม" แผ่นปิดฝ้าเพดานร่วงหล่นลงบนพื้น

ดาวได้แต่ยืนตัวแข็ง ขระที่เด็กที่พยายามปกป้องเธอก็ยังยืนอยู่ไม่ไปไหน

เงาสีดำคืบคลานออกมาจากช่องบนฝ้าเพดานนั้น

มือเล็กๆของเด็กค่อยๆโผล่ออกมาจากช่องนั้น

หนึ่งข้าง

สองข้าง

สามข้าง

สี่ข้าง

ทันใดนั้น!

กลุ่มของหัวก้โผลพลวดออกมาจากช่อง กลุ่มหัวนั้นเหมือนพวกอะไรซักอย่างติดกันอยู่4หัว ดวงตาที่แดงก่ำจนเห็นได้ในความมืดเหมือนแสงจากดวงไฟ มันทำให้ดาวเห็นใบหน้าทั้ง4อย่างชัดเจน รอยยิ้มที่แสยะจนถึงหู พร้อมกับลิ้นที่แลบยาวออกมาซักไม้บันทัดนึงได้ พร้อมกับเสียงหัวเราะที่ดังมาจากรอบทิศทาง แต่จู่ๆร่างที่น่ากลัว กับเด้กชายที่ปกป้งอดาวนั้นก็หายไป พร้อมกับเสียงร้องห้ามอย่างทุรนทุราย

ในตอนนี้ดาวไม่สามารถแม้แต่จะหลับตา เธอเลือกที่จะไม่มองไปทางอื่น ใช่แล้ว เธอกำลังกลัว

(ฉันต้องสู้สิ ถ้าเรากลัวแล้วเด็กๆพวกนี่แหละ) เธอคิด เพื่อจะจะเอาชนะความกลัวนั้น

"พวกเราทำไมเหรอ" เสียงพูดยานคางดังมาจากข้างๆหัว ดาวหันไปมองโดยทันที่ กลุ่มหัวของเด็กนั้นหันมาแสยะยิ้มใส่เธอพร้อมกัน โดยห่างจากหน้าดาวไม่ถึงคืบ "มัน" ยืนห้องหัวลงจากเพดาน ข้างสองข้างยืดยาวจนทำให้ลพตัวสั้นของเด็กยืนจะหัวทั้งสี่ลงมาอยู่ในระดับเดียวกับหน้าดาว มีทั้งสี่ของมันได้จับหัวดาวไว้อย่างไม่ทันตั้งตัว มันช่วงเป็นภาพที่น่าสยดสยองที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอ

"ช่วยด้วยยยยยยยยยยยยยยยย" ดาวตะโกนอย่างสุดเสียงจากนั้นเธอก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย

...........................................

"ดาวตื่นแล้ว พ่อครับ ดาวตื่นแล้ว" นี่เป็นเสียงแรกที่เธอได้ยิน ภาพเพดานที่ค่อยๆชัดขึ้น เธอจำได้ว่านี่เป็นห้องของพี่แก้ม

"พ่อ" ดาวเห็นพ่อของเธอที่อยู่ข้างๆ สีหน้าของพ่อที่ดาวเห็นทำให้เธอโล่งใจ พอมีสีหน้าที่ดีขึ้นแม้ว่าจะดูโทรมๆเหมือนกังวลมาทั้งคืน

"พ่อคะ ขอหนูคุยกับภูค่อยหน่อยได้มั้ยคะ" ดาวพยุงตัวขึ้นจากเตียง โดยมีพ่อคอยช่วย

"นี่นายฉันเห็นมาแล้ว ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้น"ดาวอธิบาย แต่ภูได้แต่ส่ายหน้าและบอกว่าเธอไม่ต้องพูดแล้วให้นอนพักไปก่อน

จนช่วงเที่ยง ดาวก็ได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น น้ำตาของเธอไหลโดยไม่รู้ตัว ภาพจากกล้องที่ถ่ายในห้องนอนพี่แก้ม หลังจากที่ดาวนอนหลับได้ซักพัก จู่ๆหัวใจของดาวก็เต้นแรงขึ้น ทันได้นั้น ฝาปิดช่องเพดานก็หล่นลงมา ทำให้พ่อและภูตัดสินใจทันทีที่จะเข้าไปช่วยดาว และสิ่งที่ดาวต้องแปลกใจขึ้นไปอีกหลังจากที่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นก็คือ ไม่มีศพของเด็กบนเพดาน แต่พ่อของดาวกลับเจอห่อผ้าห่อหนึ่ง

มันคือตู๊กตาที่เหมือนกุมารทองเก่าๆห้าตัว

"นี่มันหมายความว่ายังไง" ดาวถามไปที่ภู ที่ตอนนี้เหมือนว่าเขาจะรู้คำตอบทุกอย่างแล้ว

"ที่เธอเจอ ก็คือกุมารทองตัวหนึ่ง แต่สำนึกในตัวตนของเค้ามองว่าเค้าก็คือเด็กเป็นลูกของคุณสมศรี แน่นอนช่วงแรกกุมารทองเหล่านี้ถูกเลี้ยงดูอย่างดี เพราะร้านไปได้สวย แต่ต่อให้กุมารช่วยแค่ไหน แต่ขาดแผนธุรกิจที่ดีมันก็เจ๊งได้เหมือนกัน เมื่อบ้านถูกยึดและจากพฤติการที่ทำเค้าคงต้องการให้กุมารทองทำให้ผู้ที่ซื้อบ้านคนต่อๆไปล่มจมเหมือนเค้า จนบ้านเปลี่ยนมือมาที่ลุงดาบ และพี่แก้มเปิดร้านเกมส์ ทุกอย่างก็ลงล็อค"

ตอนนี้ข้อสงสัยทุกอย่างของดาวเริ่มกระจ่างแล้ว

"หมายความว่ากุมารอีกสี่ตัวเข้าสิงเด็กเพื่อที่จะเล่นเกมส์งั้นเหรอ" ดาวถาม

"ใช่แล้ว ความเหงา และด้วยความเป็นเด็ก เกมส์คอมพิวเตอร์ที่พวกกุมารเห็นมันน่าสนุก ดังนั้นเด็กอย่างโหน่งก็เลยกลายเป็นเหมือนร่างที่กุมารเหล่านั้นจะเข้าสิงเพื่อเล่นเกมส์ แต่ด้วยการสิงที่มากถึงสี่ ทำให้ร่างกายของเด็กรับไม่ไหว จนเกิดเรื่องน่าเศร้า และสาเหตุที่ทำให้โหน่งและเด็กอีกคนหายไปก็คงเพราะ การเข้าสิงที่มากเกินไปจนทำให้ร่างที่ถูกสิงกลายเป็นเหมือนวิญยาณชั่วคราว ทำให้คนธรรมดาไม่สามารถเห็นได้"

คำตอบของภูทำให้ดาวและพี่แก้มน้ำตาไหล ดาวร้องไห้เพราะสงสารโหน่ง แต่พี่แก้มร้องไห้เพราะสงสารกุมารเหล่านั้น เพราะทั้งสองฝ่ายขาดทั้งความรักจากแม่ และลูก

.............................................................

เกือบสองเดือนที่ภู ดาว พี่แก้ม ลุงดาบ ตัดสินใจทำพิธีศพให้ตุ๊กตากุมารเหล่านั้น ก่อนที่จะเผาตุ๊กตา ภูได้จับตุ๊กตาทั้งห้าตัว และด้วยความสามารถของเขา พลังที่ยึดโยงดวงวิญญาณกับตุ๊กตากุมารถูกทำลาย ทำให้วิญญาณของกุมารทั้งห้าถูกปลดปล่อยให้ไปเกิดตามบุญตามกรรม พี่แก้มและลุงดาบได้ทำพิธีตั้งศาลพระภูมิอีกครั้ง และหลังจากนั้นก็ไม่มีเรื่องแบบโหน่งเกิดขึ้นอีก วันนั้นหลังเลิกเรียน ดาวได้ไปเยี่ยมพี่แก้มที่บ้าน พร้อมกับตูกตายัดนุ่นตัวใหญ่ที่เธอนำกลับมาจากโรงเรียน เพราะเะอได้ข่าวว่า พี่แก้มกำลังจะเป็นแม่คน พี่แก้มท้องได้6สัปดาห์ และดูเหมือนลุงดาบจะประคบประหงมภรรยาไม่ห่าง และนี่ก็เป็นแรงฮึดที่ทำให้ลุงดาบพยายามสอบเป็นนายร้อยให้ได้

ก่อนกลับดาวแอบเห็นสุนัขแม่ลูกอ่อนตัวหนึ่งกำลังให้นมลูกแรกเกิดสี่ตัวอยู่ริมศาลบริเวณต้นไทร ความบังเอิญนี้ทำให้ดาวอดคิดไม่ได้ว่ากุมารคนพี่กับน้องๆอีกสี่เค้าจะไปเกิดเป็นอะไรกันนะ

จู่ๆข้อความในไลน์ของดาวก็เข้ามา เป็นข้อความจากภู

"พรุ่งนี้ฉันจะมาหา มีคดีเกิดขึ้น ที่โรงเรียนเธอ"

...................................................

ตอน1-1 http://ppantip.com/topic/34830541

ตอน1-2 http://ppantip.com/topic/34839276

ตอน1-3 http://ppantip.com/topic/34847169

ตอน1-4 http://ppantip.com/topic/34854680

ตอน1-5 http://ppantip.com/topic/34858760

ตอน1-6 http://ppantip.com/topic/34870989

ตอน1-7 http://ppantip.com/topic/34891549

ตอน1-8 http://ppantip.com/topic/34953801

จบไปแล้วสำหรับคดีแรก ขอโทษที่เว้นหายไปนอนไม่รู้ว่ายังมีคนติดตามหรือเปล่า ถ้ายังมีคนตามอยู่ คดีต่อไป พบกับ พิธีกรรมสยองขวัญ เป็นคดียาวน่าจะมากกว่า10ตอน จะมาในอีก2-3วัน ระหว่างนี้ขอผมตรวจแก้ คำผิดอันเก่าก่อนนะครับ

file 2 พิธีกรรมสยองขวัญ  http://ppantip.com/topic/34973254
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่