เช้าวันอาทิตย์ที่วัดใกล้หมู่บ้าน โลงศพที่บรรจุร่างของโหน่ง ถูกหามลงมาจากรถเพื่อนำมาไว้ที่ศาลา บรรยากาศในวัดดูเงียบเหงา นอกจากพระเณรในวัดที่มีอยู่ไม่กี่รูป ก็มีพ่อแม่ของโหน่ง บ้านใกล้เรือนเคียงที่สนิทกัน ยังมีพี่แก้มและดาวที่มาช่วยงานศพของโหน่ง น้าสายและพ่อของโหน่งดูจะทำใจเรื่องของลูกได้มากขึ้น แต่ก็ยังมีแววตาที่ดูเศร้าต่อการจากไปอย่างกะทันหันของลูกอยู่
ช่วงหลังเพล คนที่มาช่วยงานทยอยกลับบ้านไปก่อน เพื่อเตรียมตัวมาฟังสวดในตอนเย็น มีเพียงพี่แก้มและดาวที่อยู่เป็นเพื่อพ่อแม่ของโหน่ง น้าสายเริ่มเข้าใจพี่แก้มมากขึ้นหลังจากเมื่อวานที่เธอเสียใจจนขาดสติจนโผเข้าทำร้ายพี่แก้ม ส่วนพ่อของโหน่งที่ท่าทางดุ หน้าเข้มเหมือนนักเลง ดาวก็สังเกตเห็นว่าพี่ของโหน่งมีอาการบวมใต้ตา คงเพราะเขาคงร้องไห้เหมือนกัน
ซักพัก รถหรูสีดำก็ขับเข้ามาจอดที่ข้างๆศาลา ผู้กองต้อม ที่วันนี้ใส่สูทสีดำเรียบแต่ดูหราหรา ลงมาพร้อมกับผู้ชายอีกคนหนึ่งที่หล่อเหลาเหมือนดารา ในมือถือพวงหรีดที่มีป้ายเขียนว่า "สำนักงานกฏหมายและนักสืบเอกชนภูเตศวร"
พ่อแม่ของโหน่งรีบออกไปต้อนรับผู้กองต้อมเนื่องจากเป็นผู้ดูแลคดีของลูกชาย ส่วนพี่แก้มก็ไปเตรียมน้ำมาตอนรับแขกทั้งสองคน ส่วนดาวก็ไปช่วยผู้ชายคนนั้นติดพวกหรีดที่เสา
(หล่อจัง) ดาวมองชายหนุ่มอย่างไม่ละสายตา แต่ก็ไม่แปลกเพราะรูปร่างหน้าตาของผู้ชายคนนี้ดูดีขนาดเข้าวงการบันเทิงได้อย่างสบายๆ
"มีอะไรเหรอ" เขาหันมามองดาว หลังจากที่ติดพวงหรีดเสร็จ จนดาวที่เริ่มรู้สึก จนออกอาการเขินไปตามระเบียบ
"มะ...ไม่มีอะไรค่ะ" ดาวตอบด้วยเสียงอันแผ่วเบาด้วยความอาย
"เธอคงชื่ออิงดาวใช่มั้ย" เขาถาม โดยดาวพยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไร
"ฟังจากพี่ต้อมคำให้การของเธอน่าสนใจดี เรื่องที่ฉันมาก็เกี่ยวกับคดีนี่แหละ อยากให้เธอมาฟังด้วยกัน" ดาวทำหน้าสงสัยในคำพูดของชายหนุ่ม ใบหน้าของเขาแฝงไปด้วยความลึกลับที่ซ่อนอยู่ข้างใน
...................................................
ด้านหลังของศาลา คอมพิวเตอร์โน๊ตบ็คถูกตั้งไว้บนโต๊ะ เบื้องหน้ามีพ่อแม่ของโหน่ง พี่แก้มและดาว โดยมีผู้กองต้อม และชายหนุ่มคนนั้นนักอยู่ข้างๆ
"ลืมแนะนำไป นี่รุ่นน้องผมชื่อว่าภูเตศวร เป็นทนายความและนักสืบ วันนี้เขาจะมาช่วยผมอธิบายเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นครับ"
"ผมชื่อภูเตศวร หรือจะเรียกว่าภูก็ได้ ผมอยากบอกไว้ก่อนว่า หลังจากที่ผมอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น การดำเนินการตามกฏหมาย อยากให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจให้ดีว่าจะทำยังไงต่อ เพราะ ถ้าเลือกที่จะสู้คดี มันจะไม่มีประโยชน์ต่อใครทั้งสิ้น" หลังจากที่ภูพูดจบ ทุกคนเริ่มหน้าเสีย โดยเฉพาะพ่อแม่ของโหน่ง เพราะคำพูดของภู ทำให้พวกเขาเดาไม่ถูกว่ามีอะไรเกิดขึ้น
"ก่อนอื่น วีดีโอที่จะให้ดูเป็นภาพที่ถูกถ่ายย้อนไปจากวันที่พบศพสามวัน ก่อนอื่นผมขอฟังการยืนยันจากคุณแก้มอีกครั้งว่าคุณไม่เคยดูวีดีโอนี้มาก่อน" ผู้กองต้อมพูด
"ค่ะ ตอนที่เอาให้สามีเพื่อเอามาให้ผู้กอง ดิฉันก็ไม่ได้ดูมาก่อนค่ะ" พี่แก้มยืนยัน
"ส่วนหลักฐานการชันสูตร โหน่งเสียชีวิตจากการขาดน้ำอย่างรุนแรงและหัวใจวาย เวลาการเสียชีวิตประมาณ7-8ชั่วโมงก่อนที่จะพบศพครับ"ผู้กองต้อมพูดถึงผลชันสูตร จากนั้นภูจึงเปิดวีดีโอ
วีดีโอเริ่มต้นที่เย็นวันพุธ เวลาประมาณ5โมงเย็น โหน่งเข้ามาในร้าน เพื่อจ่ายเงินกับพี่แก้มที่อยู่ที่โต๊ะเก็บเงิน ตรงจุดนี้ พี่แก้มยืนยันว่าโหน่งได้จ่ายเงินเพื่อเล่นเกมส์เป็นเวลาสองชั่วโมงเหมือนปกติ จากนั้นภูก็เร่งวีดีโอให้เร็วขึ้น จนถึงเวลาประมาณสามทุ่มครึ่ง น้าสายก็เข้ามาในร้านแล้วมาหาพี่แก้ม จากนั้นพี่แก้มก็เดินดูภายในร้านแล้วกลับมาคุยกับน้าสายอีกครั้งจากนั้น น้าสายก็เดินออกจากไป ตรงจุดนี้ น้าสายบอกว่าเธอเข้ามาตามหาโหน่งที่ร้านเพราะยังไม่กลับบ้าน ซึ่งพี่แก้มก็ยืนยันเรื่องนี้ เธอยังบอกอีกว่า ได้เดินดูในร้านเพื่อหาโหน่ง แต่ก็ไม่เจอ เธอจึงกลับมาบอกน้าสายว่าโหน่งคงกลับบ้านไปแล้ว เพราะโหน่ง เล่นแค่สองชั่วโมงเหมือนทุกวัน
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจก็คือในภาพวีดีโอ โหน่งยังคงเล่นเกมส์อยู่ที่เครื่องเดิม แม้ว่าพี่แก้มจะปิดร้าน วึ่งก่อนที่เธอจะปิด มีการเช็ดทำความสะอาดทุกเครื่องแต่ก็เว้นเครื่องที่โหน่งเล่นอยู่ ราวกับว่าไม่มีใครอยู่ตรงนั้น
วีดีโอถูกเร่งไปจนถึงช่วงของอีกวัน พี่แก้มยังคงเปิดร้านตามปกติ โดยมีโหน่งที่ยังคงเล่นเกมส์ ไม่ได้ลุกไปไหน ช่วงสายของวันนั้น น้าสายกับพ่อของโหน่งเข้ามาหาพี่แก้มอีกครั้ง จากนั้นน้าสายและพ่อของโหน่งก็เดิม หาโหน่งทั้งร้าน ไปจนถึงส่วนต่างๆของบ้าน แต่ก็เช่นเดียวกัน แม้จะหาอย่างละเอียดแค่ไหน แต่ทุกคนก็เว้นเครื่องที่โหน่งเล่น โดยเหมือนกับว่าไม่มีใครอยู่ตรงนั้น ซึ่งเมื่อเห็นภาพวีดีโอ ทุกคนก็น้ำตาไหล โดยเฉพาะแม่ของโหน่ง ที่ถึงกับเรียกชื่อโหน่งออกมาโดยไม่รู้ตัว
จนมาถึงเวลาห้าทุ่มกว่าในคืนวันศุกร์ หลังจากพี่แก้มปิดร้าน จู่ๆร่างของโหน่งก็ล้มฟุบลงไปกับโต๊ะ จนถึงเวลาเช้าที่พี่แก้มเดินลงมาจากชั้นสอง ความนี้เธอมองเห็นโหน่งซึ่งตอนนี้เหลือแต่ร่างไร้วิญญาณ พี่แก้มเดิมเข้าไปพยายามปลุก แต่หลังจากนั้นพี่แก้มกรีดร้องและรีบวิ่งขึ้นไปเอาโทรศัพท์ เพื่อโทรหาใครบอกคน พี่แก้มบอกว่าเหตุการณ์นี้ เธอเห็นโหน่งฟุบอยู่บนโต๊ะ ตอนนั้นเธอคิดว่าโหน่งคงแอบเข้ามาเล่นเกมส์ เธอจึงเข้าไปปลุก แต่พอรู้ว่าโหน่งตายแล้วเธอจึงกรีดร้อง และไปโทรศัพท์เพื่อบอกกับลุงดาบสามีของเธอ
หลังจากวีดีโอภาพเหตุการณ์จบลงทุกคนดูอึ้ง พ่อแม่ของโหน่งร้องไห้ ในขณะที่พี่แก้มและดาวไม่เชื่อสายตาตัวเองที่เห็นอะไรแบบนี้ โดยเฉพาะดาว
"ถ้างั้นที่ฉันเจอโหน่งเมื่อคือนั้นก็...."
"ใช่แล้ว ตอนนั้นโหน่งตายแล้ว แต่ที่เธอเจอชั้นคิดว่า โหน่งคงยังไม่รู้ว่าตัวเองตาย ช่วงนี้วิญญาณยังมีความเป็นมนุษย์สูง ทำให้บางที เราก็ไม่รู้คิดว่าเขายังไม่ตาย" ภูตอบ ขณะที่ดาวยังคงไม่เชื่อว่าเธอจะเจอผีจริงๆ
"ทีนี้คงเข้าใจเหตุผลแล้วใช่มั้ยครับว่า ทำให้เรื่องคดี ผมถึงให้คุณพ่อคุณแม่ไปคิดดูอีกที" ภูพูดกับพ่อกับแม่ของโหน่ง เพราะเขารู้ดีภาพในกล่องวงจรปิดจะเป็นข้ออ้างให้กับทั้งสองฝ่ายว่าประมาทเลินเล่อได้
"ตะ..แต่ว่า....ช่วยบอกฉันทีได้มั้ยว่ามันเกิดอะไรขึ้น"น้าสายถามด้วยความสงสัยและสงสารลูกเมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้น
"ใช่แล้ว มันเกิดอะไรขึ้นในร้านฉันกันแน่" พี่แก้มก็ถามด้วยอีกคน
"ครับ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผมเป็นนักสืบเอกชน นอกเหนือจากอาชีพทนายความ แต่คดีที่ผมสืบทั้งหมดก้เป็นคดีประมาณนี้ ซึ่งเหตุผลนี้ที่ทำให้ผมได้รู้จักกับครอบครัวพี่ต้อม และผมเป็นนักสืบ ไม่ใช่หมอผี ดังนั้นทุกสิ่งที่ผมพูดมันเป็นเหตุเป็นผล"ภูตอบด้วยสีหน้าที่จริงจัง จนดาวรู้สึกได้ถึงพลังที่แผ่ออกมาจากคนๆนี้
"เท่าที่ดูจากหลักฐาน ผมไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้ผู้ตายไปทำอะไร แต่ลักษณะนี้น่าจะเหมือนกรณีผีบังหรือผีลักซ้อน แต่ถึงแบบนั้นมันก็น่าแปลกที่จะเกิดขึ้นในบ้านคน"
แล้วมันแปลกยังไงเหรอคะ" ดาวถาม
"ปกติเทวดาพวกเจ้าบ้านเจ้าเรือนจะคุ้มครองผู้คน เว้นเสียแต่ว่าในอาณาเขตนั้นจะไม่มีเทวดา" ภูบอก ซึ่งดูเหมือนพี่แก้มจะตั้งใจฟังเป็นพิเศษ
"จากคำบอกเล่าของพี่ต้อม บ้านที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ ไม่มีศาลพระภูมิ จึงมีความเป็นไปได้ว่า มีอมนุษย์ภายนอกเข้ามาทำร้ายผู้ตายได้"
"แล้วจากนี้ต้องทำยังไงเหรอคะ" พี่แก้มถาม
"จากนี้ต้องตั้งศาลพระภูมิในบ้าน ไม่แน่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะมีสาเหตุมาจากสิ่งนี้ก็ได้" เมื่อพี่แก้มได้ฟัง เธอก็รับปากว่าจะทำตาม
"เออ....คือไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวรึเปล่าคือ" ดาวซึ่งจู่ๆก็ถามขึ้นมา
"คือฉันฝันค่ะ ฝันเกี่ยวกับโหน่ง" ดาวเล่าความฝันให้ทุกฟัง จนทำให้พ่อแม่โหน่งร้องไห้ขึ้นมาอีกเพราะสงสารลูก
"บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องติดค้างอย่างสุดท้ายของผู้ตาย ยังไง อยากให้พ่อแม่ ช่วยตามที่เขาขอด้วยนะครับ" ภูพูดแนะนำให้พ่อแม่ของโหน่ง จุดธูปบอกกล่าวโหน่งว่ายกโทษให้ที่กลับบ้านสายและบอกว่าจะไปบอกเจ้าที่เจ้าทางว่าจะอนุญาตให้โหน่งกลับบ้านได้
...........................................
ประมาณ1เดือนหลังจากงานศพของโหน่ง น้าสายกับพี่แก้ม ดูเหมือนจะเข้าใจกันมากขึ้น หลังจากเผาศพ น้าสายบอกว่าฝันเห็นโหน่งด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม โหน่งบอกว่าต้องไปแล้ว ให้พ่อแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนพี่แก้มหลังจากนั้นก็ได้ทำพิธีตั้งศาลพระภูมิ และที่สำคัญ เธอได้สอดส่องเด็กในร้านมากขึ้น
ในขณะที่ดาวกำลังนั่งพิมพ์งานอยู่ที่ร้านพี่แก้ม พี่แก้มเดินมาหาดาวด้วยท่าทางร้อนรน
"ดาวๆ ทำไงดี เด็กในร้านหายไปอีกแล้ว!"
..................................................
คำผิดทักมาได้ครับจะแก้เรื่อยๆตอน2ถ้ามีคนอ่านจะมาต่อให้
ตอน1-1
http://ppantip.com/topic/34830541
ตอน1-2
http://ppantip.com/topic/34839276
ตอนต่อไป
http://ppantip.com/topic/34854680
GHost Detective File 1-3 (ลองแต่งครั้งแรกครับ ติชมได้นะครับ)
ช่วงหลังเพล คนที่มาช่วยงานทยอยกลับบ้านไปก่อน เพื่อเตรียมตัวมาฟังสวดในตอนเย็น มีเพียงพี่แก้มและดาวที่อยู่เป็นเพื่อพ่อแม่ของโหน่ง น้าสายเริ่มเข้าใจพี่แก้มมากขึ้นหลังจากเมื่อวานที่เธอเสียใจจนขาดสติจนโผเข้าทำร้ายพี่แก้ม ส่วนพ่อของโหน่งที่ท่าทางดุ หน้าเข้มเหมือนนักเลง ดาวก็สังเกตเห็นว่าพี่ของโหน่งมีอาการบวมใต้ตา คงเพราะเขาคงร้องไห้เหมือนกัน
ซักพัก รถหรูสีดำก็ขับเข้ามาจอดที่ข้างๆศาลา ผู้กองต้อม ที่วันนี้ใส่สูทสีดำเรียบแต่ดูหราหรา ลงมาพร้อมกับผู้ชายอีกคนหนึ่งที่หล่อเหลาเหมือนดารา ในมือถือพวงหรีดที่มีป้ายเขียนว่า "สำนักงานกฏหมายและนักสืบเอกชนภูเตศวร"
พ่อแม่ของโหน่งรีบออกไปต้อนรับผู้กองต้อมเนื่องจากเป็นผู้ดูแลคดีของลูกชาย ส่วนพี่แก้มก็ไปเตรียมน้ำมาตอนรับแขกทั้งสองคน ส่วนดาวก็ไปช่วยผู้ชายคนนั้นติดพวกหรีดที่เสา
(หล่อจัง) ดาวมองชายหนุ่มอย่างไม่ละสายตา แต่ก็ไม่แปลกเพราะรูปร่างหน้าตาของผู้ชายคนนี้ดูดีขนาดเข้าวงการบันเทิงได้อย่างสบายๆ
"มีอะไรเหรอ" เขาหันมามองดาว หลังจากที่ติดพวงหรีดเสร็จ จนดาวที่เริ่มรู้สึก จนออกอาการเขินไปตามระเบียบ
"มะ...ไม่มีอะไรค่ะ" ดาวตอบด้วยเสียงอันแผ่วเบาด้วยความอาย
"เธอคงชื่ออิงดาวใช่มั้ย" เขาถาม โดยดาวพยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไร
"ฟังจากพี่ต้อมคำให้การของเธอน่าสนใจดี เรื่องที่ฉันมาก็เกี่ยวกับคดีนี่แหละ อยากให้เธอมาฟังด้วยกัน" ดาวทำหน้าสงสัยในคำพูดของชายหนุ่ม ใบหน้าของเขาแฝงไปด้วยความลึกลับที่ซ่อนอยู่ข้างใน
...................................................
ด้านหลังของศาลา คอมพิวเตอร์โน๊ตบ็คถูกตั้งไว้บนโต๊ะ เบื้องหน้ามีพ่อแม่ของโหน่ง พี่แก้มและดาว โดยมีผู้กองต้อม และชายหนุ่มคนนั้นนักอยู่ข้างๆ
"ลืมแนะนำไป นี่รุ่นน้องผมชื่อว่าภูเตศวร เป็นทนายความและนักสืบ วันนี้เขาจะมาช่วยผมอธิบายเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นครับ"
"ผมชื่อภูเตศวร หรือจะเรียกว่าภูก็ได้ ผมอยากบอกไว้ก่อนว่า หลังจากที่ผมอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น การดำเนินการตามกฏหมาย อยากให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจให้ดีว่าจะทำยังไงต่อ เพราะ ถ้าเลือกที่จะสู้คดี มันจะไม่มีประโยชน์ต่อใครทั้งสิ้น" หลังจากที่ภูพูดจบ ทุกคนเริ่มหน้าเสีย โดยเฉพาะพ่อแม่ของโหน่ง เพราะคำพูดของภู ทำให้พวกเขาเดาไม่ถูกว่ามีอะไรเกิดขึ้น
"ก่อนอื่น วีดีโอที่จะให้ดูเป็นภาพที่ถูกถ่ายย้อนไปจากวันที่พบศพสามวัน ก่อนอื่นผมขอฟังการยืนยันจากคุณแก้มอีกครั้งว่าคุณไม่เคยดูวีดีโอนี้มาก่อน" ผู้กองต้อมพูด
"ค่ะ ตอนที่เอาให้สามีเพื่อเอามาให้ผู้กอง ดิฉันก็ไม่ได้ดูมาก่อนค่ะ" พี่แก้มยืนยัน
"ส่วนหลักฐานการชันสูตร โหน่งเสียชีวิตจากการขาดน้ำอย่างรุนแรงและหัวใจวาย เวลาการเสียชีวิตประมาณ7-8ชั่วโมงก่อนที่จะพบศพครับ"ผู้กองต้อมพูดถึงผลชันสูตร จากนั้นภูจึงเปิดวีดีโอ
วีดีโอเริ่มต้นที่เย็นวันพุธ เวลาประมาณ5โมงเย็น โหน่งเข้ามาในร้าน เพื่อจ่ายเงินกับพี่แก้มที่อยู่ที่โต๊ะเก็บเงิน ตรงจุดนี้ พี่แก้มยืนยันว่าโหน่งได้จ่ายเงินเพื่อเล่นเกมส์เป็นเวลาสองชั่วโมงเหมือนปกติ จากนั้นภูก็เร่งวีดีโอให้เร็วขึ้น จนถึงเวลาประมาณสามทุ่มครึ่ง น้าสายก็เข้ามาในร้านแล้วมาหาพี่แก้ม จากนั้นพี่แก้มก็เดินดูภายในร้านแล้วกลับมาคุยกับน้าสายอีกครั้งจากนั้น น้าสายก็เดินออกจากไป ตรงจุดนี้ น้าสายบอกว่าเธอเข้ามาตามหาโหน่งที่ร้านเพราะยังไม่กลับบ้าน ซึ่งพี่แก้มก็ยืนยันเรื่องนี้ เธอยังบอกอีกว่า ได้เดินดูในร้านเพื่อหาโหน่ง แต่ก็ไม่เจอ เธอจึงกลับมาบอกน้าสายว่าโหน่งคงกลับบ้านไปแล้ว เพราะโหน่ง เล่นแค่สองชั่วโมงเหมือนทุกวัน
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจก็คือในภาพวีดีโอ โหน่งยังคงเล่นเกมส์อยู่ที่เครื่องเดิม แม้ว่าพี่แก้มจะปิดร้าน วึ่งก่อนที่เธอจะปิด มีการเช็ดทำความสะอาดทุกเครื่องแต่ก็เว้นเครื่องที่โหน่งเล่นอยู่ ราวกับว่าไม่มีใครอยู่ตรงนั้น
วีดีโอถูกเร่งไปจนถึงช่วงของอีกวัน พี่แก้มยังคงเปิดร้านตามปกติ โดยมีโหน่งที่ยังคงเล่นเกมส์ ไม่ได้ลุกไปไหน ช่วงสายของวันนั้น น้าสายกับพ่อของโหน่งเข้ามาหาพี่แก้มอีกครั้ง จากนั้นน้าสายและพ่อของโหน่งก็เดิม หาโหน่งทั้งร้าน ไปจนถึงส่วนต่างๆของบ้าน แต่ก็เช่นเดียวกัน แม้จะหาอย่างละเอียดแค่ไหน แต่ทุกคนก็เว้นเครื่องที่โหน่งเล่น โดยเหมือนกับว่าไม่มีใครอยู่ตรงนั้น ซึ่งเมื่อเห็นภาพวีดีโอ ทุกคนก็น้ำตาไหล โดยเฉพาะแม่ของโหน่ง ที่ถึงกับเรียกชื่อโหน่งออกมาโดยไม่รู้ตัว
จนมาถึงเวลาห้าทุ่มกว่าในคืนวันศุกร์ หลังจากพี่แก้มปิดร้าน จู่ๆร่างของโหน่งก็ล้มฟุบลงไปกับโต๊ะ จนถึงเวลาเช้าที่พี่แก้มเดินลงมาจากชั้นสอง ความนี้เธอมองเห็นโหน่งซึ่งตอนนี้เหลือแต่ร่างไร้วิญญาณ พี่แก้มเดิมเข้าไปพยายามปลุก แต่หลังจากนั้นพี่แก้มกรีดร้องและรีบวิ่งขึ้นไปเอาโทรศัพท์ เพื่อโทรหาใครบอกคน พี่แก้มบอกว่าเหตุการณ์นี้ เธอเห็นโหน่งฟุบอยู่บนโต๊ะ ตอนนั้นเธอคิดว่าโหน่งคงแอบเข้ามาเล่นเกมส์ เธอจึงเข้าไปปลุก แต่พอรู้ว่าโหน่งตายแล้วเธอจึงกรีดร้อง และไปโทรศัพท์เพื่อบอกกับลุงดาบสามีของเธอ
หลังจากวีดีโอภาพเหตุการณ์จบลงทุกคนดูอึ้ง พ่อแม่ของโหน่งร้องไห้ ในขณะที่พี่แก้มและดาวไม่เชื่อสายตาตัวเองที่เห็นอะไรแบบนี้ โดยเฉพาะดาว
"ถ้างั้นที่ฉันเจอโหน่งเมื่อคือนั้นก็...."
"ใช่แล้ว ตอนนั้นโหน่งตายแล้ว แต่ที่เธอเจอชั้นคิดว่า โหน่งคงยังไม่รู้ว่าตัวเองตาย ช่วงนี้วิญญาณยังมีความเป็นมนุษย์สูง ทำให้บางที เราก็ไม่รู้คิดว่าเขายังไม่ตาย" ภูตอบ ขณะที่ดาวยังคงไม่เชื่อว่าเธอจะเจอผีจริงๆ
"ทีนี้คงเข้าใจเหตุผลแล้วใช่มั้ยครับว่า ทำให้เรื่องคดี ผมถึงให้คุณพ่อคุณแม่ไปคิดดูอีกที" ภูพูดกับพ่อกับแม่ของโหน่ง เพราะเขารู้ดีภาพในกล่องวงจรปิดจะเป็นข้ออ้างให้กับทั้งสองฝ่ายว่าประมาทเลินเล่อได้
"ตะ..แต่ว่า....ช่วยบอกฉันทีได้มั้ยว่ามันเกิดอะไรขึ้น"น้าสายถามด้วยความสงสัยและสงสารลูกเมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้น
"ใช่แล้ว มันเกิดอะไรขึ้นในร้านฉันกันแน่" พี่แก้มก็ถามด้วยอีกคน
"ครับ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผมเป็นนักสืบเอกชน นอกเหนือจากอาชีพทนายความ แต่คดีที่ผมสืบทั้งหมดก้เป็นคดีประมาณนี้ ซึ่งเหตุผลนี้ที่ทำให้ผมได้รู้จักกับครอบครัวพี่ต้อม และผมเป็นนักสืบ ไม่ใช่หมอผี ดังนั้นทุกสิ่งที่ผมพูดมันเป็นเหตุเป็นผล"ภูตอบด้วยสีหน้าที่จริงจัง จนดาวรู้สึกได้ถึงพลังที่แผ่ออกมาจากคนๆนี้
"เท่าที่ดูจากหลักฐาน ผมไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้ผู้ตายไปทำอะไร แต่ลักษณะนี้น่าจะเหมือนกรณีผีบังหรือผีลักซ้อน แต่ถึงแบบนั้นมันก็น่าแปลกที่จะเกิดขึ้นในบ้านคน"
แล้วมันแปลกยังไงเหรอคะ" ดาวถาม
"ปกติเทวดาพวกเจ้าบ้านเจ้าเรือนจะคุ้มครองผู้คน เว้นเสียแต่ว่าในอาณาเขตนั้นจะไม่มีเทวดา" ภูบอก ซึ่งดูเหมือนพี่แก้มจะตั้งใจฟังเป็นพิเศษ
"จากคำบอกเล่าของพี่ต้อม บ้านที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ ไม่มีศาลพระภูมิ จึงมีความเป็นไปได้ว่า มีอมนุษย์ภายนอกเข้ามาทำร้ายผู้ตายได้"
"แล้วจากนี้ต้องทำยังไงเหรอคะ" พี่แก้มถาม
"จากนี้ต้องตั้งศาลพระภูมิในบ้าน ไม่แน่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะมีสาเหตุมาจากสิ่งนี้ก็ได้" เมื่อพี่แก้มได้ฟัง เธอก็รับปากว่าจะทำตาม
"เออ....คือไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวรึเปล่าคือ" ดาวซึ่งจู่ๆก็ถามขึ้นมา
"คือฉันฝันค่ะ ฝันเกี่ยวกับโหน่ง" ดาวเล่าความฝันให้ทุกฟัง จนทำให้พ่อแม่โหน่งร้องไห้ขึ้นมาอีกเพราะสงสารลูก
"บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องติดค้างอย่างสุดท้ายของผู้ตาย ยังไง อยากให้พ่อแม่ ช่วยตามที่เขาขอด้วยนะครับ" ภูพูดแนะนำให้พ่อแม่ของโหน่ง จุดธูปบอกกล่าวโหน่งว่ายกโทษให้ที่กลับบ้านสายและบอกว่าจะไปบอกเจ้าที่เจ้าทางว่าจะอนุญาตให้โหน่งกลับบ้านได้
...........................................
ประมาณ1เดือนหลังจากงานศพของโหน่ง น้าสายกับพี่แก้ม ดูเหมือนจะเข้าใจกันมากขึ้น หลังจากเผาศพ น้าสายบอกว่าฝันเห็นโหน่งด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม โหน่งบอกว่าต้องไปแล้ว ให้พ่อแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนพี่แก้มหลังจากนั้นก็ได้ทำพิธีตั้งศาลพระภูมิ และที่สำคัญ เธอได้สอดส่องเด็กในร้านมากขึ้น
ในขณะที่ดาวกำลังนั่งพิมพ์งานอยู่ที่ร้านพี่แก้ม พี่แก้มเดินมาหาดาวด้วยท่าทางร้อนรน
"ดาวๆ ทำไงดี เด็กในร้านหายไปอีกแล้ว!"
..................................................
คำผิดทักมาได้ครับจะแก้เรื่อยๆตอน2ถ้ามีคนอ่านจะมาต่อให้
ตอน1-1 http://ppantip.com/topic/34830541
ตอน1-2 http://ppantip.com/topic/34839276
ตอนต่อไป http://ppantip.com/topic/34854680