นานๆจะได้ดูหนังที่เข้าโรงทันกับเขาสักที ที่ได้ดูนี่ก็เพราะรุ่นพี่ท่านหนึ่งเลี้ยงหรอกถึงได้ดู เมื่อได้ดูแล้วก็อยากจะลองรีวิวอย่างชาวบ้านเขาดูบ้าง
หะแรกที่จะเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ได้ลองตามอ่านคอมเมนต์ในเวบพันทิพนี่แหละ อ่านแล้วก็รู้สึกตุ๋มต่อมๆ เพราะหลายคนเอาไปเปรียบกับ Man of Steel ซึ่งโดยส่วนตัวรู้สึกว่าน่าเบื่อมากกกก เลยทำใจไว้เยอะก่อนไปดู แต่พอไปดูจริงแล้วกลับไม่แย่อย่างที่คิด ช่วงแรกที่หลายคนบอกว่าน่าเบื่อ ส่วนตัวกลับดูได้เรื่อยๆ เข้าใจว่าเป็นช่วงปูเนื้อเรื่อง ก็พยายามประติดประต่อเรื่องที่หนังเล่า แม้หลายซีนจะคิดว่าตัดออกบ้างก็ได้ อย่างตอนที่ดำไปหาคริปโตไนท์
ช่วงแรกๆนี่ก็มีแอ็คชั่นเข้ามาประกอบประปรายในการสืบเรื่องราวต่างๆของแบทแมน หลายฉากที่แบทแมนปรากฏตัวถ่ายทำออกมาแล้วดูหลอนๆเหมือนหนังสยองขวัญ ยิ่งตอนรู้ว่าวันเดอร์วูแมนอยู่มานานมากอารมณ์เหมือนบรู๊ซ เวย์นเจอผี ถ้าเปลี่ยนไปกำกับหนังสยองขวัญอาจจะรุ่งกว่านี้
สรุปอารมณ์โดยรวมของหนังไม่ได้ถือว่าเลวร้ายอย่างที่หลายคนว่า สำหรับผมให้ 7/10 รู้สึกดีกว่า Avenger the age of Ultron
ทีนี้มาดูจุดอ่อนสำคัญๆกันบ้าง อย่างบทที่หลายๆคนพูดถึง ส่วนสำคัญเลยคือหลายฉากในหนังไม่ค่อยมีเหตุผลน่าเชื่อถือเท่าไหร่ โดยเฉพาะบทของเล็กซ์ ลูเธอร์ มีความรู้สึกว่าตัวละครตัวนี้แบนเอามากๆ ไม่มีเสน่ห์น่าสนใจเอาเลย ทั้งเรื่องเอาแต่แสดงความเกลียดเกลี๊ยดเกลียดซูเปอร์แมนแบบไม่ลืมหูลืมตา ถึงจะใส่เรื่องเอามนุษย์ไปเปรียบเทียบกับเทพเจ้า แต่ไม่รู้สึกว่ามันเป็นแรงขับมากพอให้เล็กซ์ยอมเอาธุรกิจของตัวเอง เอาทุกอย่างไปเสี่ยงเพื่อจะฆ่าซูเปอร์แมน ยอมกระทั่งจะทำลายโลกทั้งใบ มันจะอะไรขนาดนั้น! ผมให้ตัวเล็กซ์เป็นตัวร้ายระดับเดียวกับนางอิจฉาในละครไทยเลย อาจจะแย่กว่าด้วยซ้ำตรงที่ไม่มีการปูที่มาของความเกลียดแบบสุดขั้วนี้ว่ามาจากไหน เล็กซ์พยายามเอาคำพูดจากเทพปกรณัมมาใช้บ่อยๆ จนชักรู้สึกว่าถ้ามันฝังใจเรื่องนี้มาก ทำไมมันไม่โตมาเป็นศาสตราจารย์ด้านเทววิทยา ทำไมมาทำด้านเทคโนโลยี ฉากที่ชุบชีวิตนายพลซ๊อดแล้วเอาคำพูดเรื่องอิคารัสบินเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากเกินไป ฟังแล้วขัดพิลึก ไม่รู้สึกว่าเสริมฉากนี้เลย เล็กซ์ร้องไห้เหมือนเกิดความขัดแย้งในใจบางอย่าง แต่ก็ไม่มีส่วนขยาย จนรู้สึกว่ามันก็แค่น้ำตาจระเข้ ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ
อย่างฉากแรกๆที ลูอิสเข้าไปขอสัมภาษณ์ผู้นำกลุ่มกองโจรในแอฟริกา แล้วถูกซ้อนแผนให้เป็นการจัดฉากว่าซูเปอร์แมนลงมาฆ่าล้างคนในหมู่บ้าน โดยมีหญิงชาวบ้านคนหนึ่งเป็นพยาน แต่แปลกที่ไม่มีคณะกรรมการสงสัยเลยว่าซูเปอร์แมนเคยยิงปืนกับเขาด้วยเหรอ ซึ่งถ้าส่งทีมชันสูตรลงไปเก็บหลักฐานมันก็รู้ความจริงได้ไม่ยาก
อีกฉากที่รู้สึกขัดๆ ก็ตอนที่ลูอิสเอาหลักฐานหัวกระสุนไปให้รัฐมนยุติธรรม รัฐมนตรีก็รู้ แต่บอกว่าผมยังอยากมีงานทำ อะไรเล็กซ์มันจะน่ากลัวขนาดนั้น นี่มันมีอิทธิพลยิ่งกว่าประธานาธิบดีแล้ว
อีกตัวละครที่หลายคนชม แต่ส่วนตัวกลับรู้สึกว่าค่อนข้างไร้เหตุผลก็คือแบทแมน ที่ดูมีอคติกับซูเปอร์แมนแบบไม่ฟังอิร้าค่าอิรมณ์เอาเลย ถึงจะมีฉากแรกๆที่บรู๊ซลงไปช่วยคนในบริษัทที่เป็นผลจากความวินาศสันตะโรที่ซูเปอร์แมนสู้กับนายผลซ๊อด ซึ่งตรงนี้ผมว่าน่าสนใจที่ปรับมาเป็นมุมมองของแบทแมนบ้างจากเหตุการณ์เดียวกัน แต่รวมๆเหตุผลมันยังไม่น่าถึงกับอยากฆ่าซูเปอร์แมน ยิ่งเห็นว่าซูเปอร์แมนไม่อยากสู้ด้วย แต่แบทแมนนี่เหมือนไอ้คลั่งโรคจิตที่จะเอาตายให้ได้ ขนาดอัลเฟรดก็เคยบอกแล้วว่าซูเปอร์แมนไม่ใช่ศัตรูก็ไม่ฟัง ดูข่าวเห็นซูเปอร์แมนไปช่วยคนตามที่ต่างๆก็ไม่ทำให้แบทแมนเปลี่ยนความคิด ยังไงๆก็จะฆ่าซูเปอร์แมนให้ได้ ตอนแรกที่จะขโมยคริปโตไนท์พูดเหมือนว่าแค่เตรียมไว้เผื่อซูเปอร์แมนเป็นภัยต่อโลก แต่ไอ้ตอนที่สู้กันนี่ซูเปอร์แมนไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นภัยคุกคามอะไร แบทแมนก็ซัดเอาๆ พอบทจะเปลี่ยนใจก็เปลี่ยนดื้อๆ เพราะว่ามีแม่ชื่อเหมือนกัน ตอนไปช่วยแม่คล๊ากยังมีหน้าแนะนำตัวว่าเป็นเพื่อนลูกชายอีกแน่ะ เพิ่งอยากจะฆ่าเขาหยกๆ ตอนบทจะสู้กับดูมส์เดย์ก็โคตรจะไม่มีประโยชน์ ได้แต่โดดหนีไปมา ไอ้ตอนเขาให้ไปหยิบหอกดันบอกว่ายุ่งอยู่(ประมาณต้องสู้กับดูมส์เดย์ แต่แทบไม่ได้สู้) เลยกลายเป็นลูอิสต้องวิ่งไปเอา ดำน้ำลงไปเกือบไม่รอด ทั้งที่ถ้าแบทแมนไปเองไม่กี่นาทีก็เสร็จ แล้วซูเปอร์แมนก็ไม่ต้องมาสละชีพ คือนึกว่าแบทแมนจะทำตัวมีประโยชน์มากกว่านี้หลังจากที่ทำตัวเกรียนมานาน
มาพูดถึงส่วนดีบ้าง ส่วนดีของเรื่องนี้คือบทของซูเปอร์แมนที่ออกมาหล่อแบบโคตรหล่อ เหมือนบทจะเขียนเพื่อสดุดีซูเปอร์แมนโดยเฉพาะ เข้าใจเลยว่าทำไมถึงเลือกเฮนรี่ คาร์วิลมารับบทนี้ คือหน้าเหมือนอมทุกข์ ต้องแบกโลกไว้บนบ่า อารมณ์เหมือนพระผู้ไถ่ที่ได้แต่ช่วยทุกคนไปสุดความสามารถทั้งที่หลายๆคนอาจจะเกลียด ลูอิสที่หลายคนรำคาญ แต่ผมว่าเป็นตัวละครที่ทำให้บทซูเปอร์แมนสมบูรณ์ขึ้น ให้เห็นว่าซูเปอร์แมนมีบางส่วนที่อ่อนแอ ที่ต้องการกำลังใจจากคนรอบข้าง บทเรื่องนี้ทำให้ผู้ชายแสนดีที่จืดจางคนนี้ดูเจิดจรัสขึ้นมาได้ เห้นชัดว่าบทซูเปอร์แมนมีความดราม่ามาก มีความรัก มีความทุกข์ มีความพยายามที่จะพิสูจน์ตัวเอง มีความท้อแท้ และมีความเสียสละ เรียกว่าบทซูเปอรืแมนนี่ครบรสมากเมื่อเทียบกับตัวอื่นๆ อย่างแบทแมนนี่มีอารมณ์ระแวง โกรธ สงสัย เป็นอารมณ์ด้านลบหมดเลย มีช่วงพักหน่อยก็คือกลับมาบ่นกับอัลเฟรด แล้วก็พยายามจีบวันเดอร์วูแมน(แต่ไม่ติด)
บทของซูเปอร์แมนในเรื่องนี้ทำให้ลบข้อสงสัยเดิมๆเกี่ยวกับซูเปอร์แมนไปได้ อย่างเรื่องที่ไม่มีคนสงสัยว่าคลาร์ก เคนท์ เป็นซูเปอร์แมน เพราะในเรื่องหลายครั้งที่ซูเปอร์แมนปรากฏตัวมักมาจากบนท้องฟ้าและดูสูงส่งมากจนเอาไปเทียบกับเทพเจ้า จนไม่มีใครคิดว่าที่จริงแล้วเขาเป็นแค่คนธรรมดาๆ เพราะทุกคนเอาแต่จ้องไปบนท้องฟ้า และคิดว่าซูเปอร์แมนคือผู้ชายที่มาจากบนท้องฟ้า ไม่ได้เดินดินเหมือนเราๆ
บทวันเดอร์วูเมน สวยขโมยซีน อารมณ์คล้ายๆแบล็ควิโดว์ของอีกค่าย คือปรากฏตัวมาเป็นแม่สาวปริศนา ก่อนจะเปิดเผยตัวตนและเชื่อมโยงเรื่องต่างๆ ตอนเปิดเผยว่าเธออยู่มานานมากนี่อารมณ์เหมือนหนังผีมาก ฉากที่เปิดเผยตัวละครอื่นในจัสติกลีกนี่ดูหลุดโทนหนังมาก จากที่พยายามคลุมโทนให้ดูหม่น ดูคลุมเครือน่าสงสัย บทจะเปิดเผยตัวละครก็ไล่เปิดไฟล์กันดื้อๆนี่แหละ(ขำกับอควอร์แมนที่ออกมาเล่นกล้องมาก) แถมเล็กซ์ยังออกแบบโลโก้ให้ทุกคนเสร็จสรรพ
แต่โดยรวมก็ถือว่าโอเค กับการปูบทไปสู่การรวมทีมในภาคหน้า แต่ภาคหน้าขอตัวร้ายที่ดูลึกมีมิติมากกว่านี้หน่อยนะ บทเล็กซ์ ลูเธอร์นี่แบนมากเมื่อเทียบกับการเป็นตัวคีย์สำคัญในเรื่อง นักแสดงแสดงดีแล้ว แต่บทมันไม่เสริมเลย
[CR] Batman vs Superman เล็กซ์ ลูเธอร์ คุณคือจุดอ่อน! (สปอยล์เป็นหย่อมๆ)
หะแรกที่จะเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ได้ลองตามอ่านคอมเมนต์ในเวบพันทิพนี่แหละ อ่านแล้วก็รู้สึกตุ๋มต่อมๆ เพราะหลายคนเอาไปเปรียบกับ Man of Steel ซึ่งโดยส่วนตัวรู้สึกว่าน่าเบื่อมากกกก เลยทำใจไว้เยอะก่อนไปดู แต่พอไปดูจริงแล้วกลับไม่แย่อย่างที่คิด ช่วงแรกที่หลายคนบอกว่าน่าเบื่อ ส่วนตัวกลับดูได้เรื่อยๆ เข้าใจว่าเป็นช่วงปูเนื้อเรื่อง ก็พยายามประติดประต่อเรื่องที่หนังเล่า แม้หลายซีนจะคิดว่าตัดออกบ้างก็ได้ อย่างตอนที่ดำไปหาคริปโตไนท์
ช่วงแรกๆนี่ก็มีแอ็คชั่นเข้ามาประกอบประปรายในการสืบเรื่องราวต่างๆของแบทแมน หลายฉากที่แบทแมนปรากฏตัวถ่ายทำออกมาแล้วดูหลอนๆเหมือนหนังสยองขวัญ ยิ่งตอนรู้ว่าวันเดอร์วูแมนอยู่มานานมากอารมณ์เหมือนบรู๊ซ เวย์นเจอผี ถ้าเปลี่ยนไปกำกับหนังสยองขวัญอาจจะรุ่งกว่านี้
สรุปอารมณ์โดยรวมของหนังไม่ได้ถือว่าเลวร้ายอย่างที่หลายคนว่า สำหรับผมให้ 7/10 รู้สึกดีกว่า Avenger the age of Ultron
ทีนี้มาดูจุดอ่อนสำคัญๆกันบ้าง อย่างบทที่หลายๆคนพูดถึง ส่วนสำคัญเลยคือหลายฉากในหนังไม่ค่อยมีเหตุผลน่าเชื่อถือเท่าไหร่ โดยเฉพาะบทของเล็กซ์ ลูเธอร์ มีความรู้สึกว่าตัวละครตัวนี้แบนเอามากๆ ไม่มีเสน่ห์น่าสนใจเอาเลย ทั้งเรื่องเอาแต่แสดงความเกลียดเกลี๊ยดเกลียดซูเปอร์แมนแบบไม่ลืมหูลืมตา ถึงจะใส่เรื่องเอามนุษย์ไปเปรียบเทียบกับเทพเจ้า แต่ไม่รู้สึกว่ามันเป็นแรงขับมากพอให้เล็กซ์ยอมเอาธุรกิจของตัวเอง เอาทุกอย่างไปเสี่ยงเพื่อจะฆ่าซูเปอร์แมน ยอมกระทั่งจะทำลายโลกทั้งใบ มันจะอะไรขนาดนั้น! ผมให้ตัวเล็กซ์เป็นตัวร้ายระดับเดียวกับนางอิจฉาในละครไทยเลย อาจจะแย่กว่าด้วยซ้ำตรงที่ไม่มีการปูที่มาของความเกลียดแบบสุดขั้วนี้ว่ามาจากไหน เล็กซ์พยายามเอาคำพูดจากเทพปกรณัมมาใช้บ่อยๆ จนชักรู้สึกว่าถ้ามันฝังใจเรื่องนี้มาก ทำไมมันไม่โตมาเป็นศาสตราจารย์ด้านเทววิทยา ทำไมมาทำด้านเทคโนโลยี ฉากที่ชุบชีวิตนายพลซ๊อดแล้วเอาคำพูดเรื่องอิคารัสบินเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากเกินไป ฟังแล้วขัดพิลึก ไม่รู้สึกว่าเสริมฉากนี้เลย เล็กซ์ร้องไห้เหมือนเกิดความขัดแย้งในใจบางอย่าง แต่ก็ไม่มีส่วนขยาย จนรู้สึกว่ามันก็แค่น้ำตาจระเข้ ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ
อย่างฉากแรกๆที ลูอิสเข้าไปขอสัมภาษณ์ผู้นำกลุ่มกองโจรในแอฟริกา แล้วถูกซ้อนแผนให้เป็นการจัดฉากว่าซูเปอร์แมนลงมาฆ่าล้างคนในหมู่บ้าน โดยมีหญิงชาวบ้านคนหนึ่งเป็นพยาน แต่แปลกที่ไม่มีคณะกรรมการสงสัยเลยว่าซูเปอร์แมนเคยยิงปืนกับเขาด้วยเหรอ ซึ่งถ้าส่งทีมชันสูตรลงไปเก็บหลักฐานมันก็รู้ความจริงได้ไม่ยาก
อีกฉากที่รู้สึกขัดๆ ก็ตอนที่ลูอิสเอาหลักฐานหัวกระสุนไปให้รัฐมนยุติธรรม รัฐมนตรีก็รู้ แต่บอกว่าผมยังอยากมีงานทำ อะไรเล็กซ์มันจะน่ากลัวขนาดนั้น นี่มันมีอิทธิพลยิ่งกว่าประธานาธิบดีแล้ว
อีกตัวละครที่หลายคนชม แต่ส่วนตัวกลับรู้สึกว่าค่อนข้างไร้เหตุผลก็คือแบทแมน ที่ดูมีอคติกับซูเปอร์แมนแบบไม่ฟังอิร้าค่าอิรมณ์เอาเลย ถึงจะมีฉากแรกๆที่บรู๊ซลงไปช่วยคนในบริษัทที่เป็นผลจากความวินาศสันตะโรที่ซูเปอร์แมนสู้กับนายผลซ๊อด ซึ่งตรงนี้ผมว่าน่าสนใจที่ปรับมาเป็นมุมมองของแบทแมนบ้างจากเหตุการณ์เดียวกัน แต่รวมๆเหตุผลมันยังไม่น่าถึงกับอยากฆ่าซูเปอร์แมน ยิ่งเห็นว่าซูเปอร์แมนไม่อยากสู้ด้วย แต่แบทแมนนี่เหมือนไอ้คลั่งโรคจิตที่จะเอาตายให้ได้ ขนาดอัลเฟรดก็เคยบอกแล้วว่าซูเปอร์แมนไม่ใช่ศัตรูก็ไม่ฟัง ดูข่าวเห็นซูเปอร์แมนไปช่วยคนตามที่ต่างๆก็ไม่ทำให้แบทแมนเปลี่ยนความคิด ยังไงๆก็จะฆ่าซูเปอร์แมนให้ได้ ตอนแรกที่จะขโมยคริปโตไนท์พูดเหมือนว่าแค่เตรียมไว้เผื่อซูเปอร์แมนเป็นภัยต่อโลก แต่ไอ้ตอนที่สู้กันนี่ซูเปอร์แมนไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นภัยคุกคามอะไร แบทแมนก็ซัดเอาๆ พอบทจะเปลี่ยนใจก็เปลี่ยนดื้อๆ เพราะว่ามีแม่ชื่อเหมือนกัน ตอนไปช่วยแม่คล๊ากยังมีหน้าแนะนำตัวว่าเป็นเพื่อนลูกชายอีกแน่ะ เพิ่งอยากจะฆ่าเขาหยกๆ ตอนบทจะสู้กับดูมส์เดย์ก็โคตรจะไม่มีประโยชน์ ได้แต่โดดหนีไปมา ไอ้ตอนเขาให้ไปหยิบหอกดันบอกว่ายุ่งอยู่(ประมาณต้องสู้กับดูมส์เดย์ แต่แทบไม่ได้สู้) เลยกลายเป็นลูอิสต้องวิ่งไปเอา ดำน้ำลงไปเกือบไม่รอด ทั้งที่ถ้าแบทแมนไปเองไม่กี่นาทีก็เสร็จ แล้วซูเปอร์แมนก็ไม่ต้องมาสละชีพ คือนึกว่าแบทแมนจะทำตัวมีประโยชน์มากกว่านี้หลังจากที่ทำตัวเกรียนมานาน
มาพูดถึงส่วนดีบ้าง ส่วนดีของเรื่องนี้คือบทของซูเปอร์แมนที่ออกมาหล่อแบบโคตรหล่อ เหมือนบทจะเขียนเพื่อสดุดีซูเปอร์แมนโดยเฉพาะ เข้าใจเลยว่าทำไมถึงเลือกเฮนรี่ คาร์วิลมารับบทนี้ คือหน้าเหมือนอมทุกข์ ต้องแบกโลกไว้บนบ่า อารมณ์เหมือนพระผู้ไถ่ที่ได้แต่ช่วยทุกคนไปสุดความสามารถทั้งที่หลายๆคนอาจจะเกลียด ลูอิสที่หลายคนรำคาญ แต่ผมว่าเป็นตัวละครที่ทำให้บทซูเปอร์แมนสมบูรณ์ขึ้น ให้เห็นว่าซูเปอร์แมนมีบางส่วนที่อ่อนแอ ที่ต้องการกำลังใจจากคนรอบข้าง บทเรื่องนี้ทำให้ผู้ชายแสนดีที่จืดจางคนนี้ดูเจิดจรัสขึ้นมาได้ เห้นชัดว่าบทซูเปอร์แมนมีความดราม่ามาก มีความรัก มีความทุกข์ มีความพยายามที่จะพิสูจน์ตัวเอง มีความท้อแท้ และมีความเสียสละ เรียกว่าบทซูเปอรืแมนนี่ครบรสมากเมื่อเทียบกับตัวอื่นๆ อย่างแบทแมนนี่มีอารมณ์ระแวง โกรธ สงสัย เป็นอารมณ์ด้านลบหมดเลย มีช่วงพักหน่อยก็คือกลับมาบ่นกับอัลเฟรด แล้วก็พยายามจีบวันเดอร์วูแมน(แต่ไม่ติด)
บทของซูเปอร์แมนในเรื่องนี้ทำให้ลบข้อสงสัยเดิมๆเกี่ยวกับซูเปอร์แมนไปได้ อย่างเรื่องที่ไม่มีคนสงสัยว่าคลาร์ก เคนท์ เป็นซูเปอร์แมน เพราะในเรื่องหลายครั้งที่ซูเปอร์แมนปรากฏตัวมักมาจากบนท้องฟ้าและดูสูงส่งมากจนเอาไปเทียบกับเทพเจ้า จนไม่มีใครคิดว่าที่จริงแล้วเขาเป็นแค่คนธรรมดาๆ เพราะทุกคนเอาแต่จ้องไปบนท้องฟ้า และคิดว่าซูเปอร์แมนคือผู้ชายที่มาจากบนท้องฟ้า ไม่ได้เดินดินเหมือนเราๆ
บทวันเดอร์วูเมน สวยขโมยซีน อารมณ์คล้ายๆแบล็ควิโดว์ของอีกค่าย คือปรากฏตัวมาเป็นแม่สาวปริศนา ก่อนจะเปิดเผยตัวตนและเชื่อมโยงเรื่องต่างๆ ตอนเปิดเผยว่าเธออยู่มานานมากนี่อารมณ์เหมือนหนังผีมาก ฉากที่เปิดเผยตัวละครอื่นในจัสติกลีกนี่ดูหลุดโทนหนังมาก จากที่พยายามคลุมโทนให้ดูหม่น ดูคลุมเครือน่าสงสัย บทจะเปิดเผยตัวละครก็ไล่เปิดไฟล์กันดื้อๆนี่แหละ(ขำกับอควอร์แมนที่ออกมาเล่นกล้องมาก) แถมเล็กซ์ยังออกแบบโลโก้ให้ทุกคนเสร็จสรรพ
แต่โดยรวมก็ถือว่าโอเค กับการปูบทไปสู่การรวมทีมในภาคหน้า แต่ภาคหน้าขอตัวร้ายที่ดูลึกมีมิติมากกว่านี้หน่อยนะ บทเล็กซ์ ลูเธอร์นี่แบนมากเมื่อเทียบกับการเป็นตัวคีย์สำคัญในเรื่อง นักแสดงแสดงดีแล้ว แต่บทมันไม่เสริมเลย