อาชีพครู เราเข้าใจนะว่ามันเป็นอาชีพที่ต้องเสียสละเอามากๆ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ทุกๆอย่างจะลงที่ครูหมด โทษครูอย่างเดียว นี่แอบมาระบายนิดนึงก็แล้วกัน วันนี้ก็แอบนอยด์นิดหน่อย ได้ยินคำพูดนี้ว่า จ้างครูมาเพื่อสอนอังกฤษ แต่ทำไมนักเรียนถึงพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ถ้าคำถามนี้ มาถามต่อหน้าเรา เราจะตอบกลับให้หงายเลย เอาง่ายๆจะอธิบายให้ฟัง ทางโรงเรียนให้เวลาเราสอนนักเรียนเท่าไหร่ 1 คาบต่อสัปดาห์ ภาษาอังกฤษ 1 คาบต่อสัปดาห์ มันน้อยมาก ไม่มีผลต่อนักเรียนเลย และทางโรงเรียนต้องการให้เด็กสามารถพูดคุยสื่อสารภาษาอังกฤษให้ได้ 100% ถามว่าก่อนจะหวังผลขนาดนั้น คุณให้เวลาเราสอนเด็กแค่ 1% แล้วคนที่สอนก็ได้ใช้เวลาอันน้อยนิดแค่ 1% ใช้อย่างคุ้มค่า จากเด็กที่ไม่มีอะไรเลย เริ่มจาก 0 จนมาได้ 20% อันนี้ผมว่าครูที่สอนเค้าทำได้ดีมากๆแล้วด้วย แต่คุณมาทำร้ายจิตใจคนเป็นครูด้วยคำพูดที่ว่า จ้างมาสอนแต่ทำไมเด็กถึงพูดคุยสื่อสารไม่ได้ อันนี้มันเจ็บเข้าไปข้างใน ท่านไม่เคยลงมาดูการเรียนการสอน ท่านไม่เคยมานั่งดูครูว่าเค้าทำอะไรบ้างในห้องพักครู เด็กนักเรียนทุกคนที่มาหาแองเจลโล่ ไม่ว่าจะมาเรื่องรายงาน การบ้าน ฯลฯ ทุกคนจะพยายามพูดกับแองเจลโล่ด้วยภาษาอังกฤษเสมอ ถึงแม้ว่าจะไม่ถูกหลักไวยากรณ์ แต่เด็กเค้าก็พยายามจะพูดคำศัพท์ที่ต้องการจะสื่อให้แองเจลโล่เข้าใจ ผมนี่อยากกราบท่านให้มานั่งในห้องพักครูสักสองสามเดือน แล้วท่านจะได้รับรู้ว่าอะไรมันคืออะไร ไม่ใช่นั่งกระดิกตีนอยู่ในห้องแอร์ ใช้คำพูด-ดันลูกจ้าง สมัยปีแรกที่แองเจลโล่มาสอนที่โรงเรียนนี้ เด็กเห็นแองเจลโล่ วิ่งหนีได้คือวิ่ง หลบได้เป็นหลบ สามปีผ่านไป แค่เห็นแองเจลโลขับมอเตอร์ไซค์ผ่าน เด็กแหกปากเรียก บางคนกล่าวคำทักทาย บางคนถามว่าจะไปไหน ไปเดินตลาดเจอเด็ก เด็กวิ่งเข้ามาหาและพร้อมที่จะคุยกับแองเจลโล่ พูดผิดๆถูกๆบ้าง เราก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร เรื่องพูดผิดเราค่อยๆสอนได้ แต่เรื่องที่วิ่งเข้าหาคนต่างชาติ มันสอนกันไม่ได้ถ้าเด็กไม่มีความกล้า เท่านี้คุณยังไม่พอใจอีกเหรอ ว่าเด็กนักเรียนโรงเรียนคุณมาได้ไกลถึงขนาดนี้ นั่งคุยกับแองเจลโล่ เห็นว่าท่านอยากคุยด้วยอาทิตย์หน้า ก็เลยถามแองเจลโล่ว่า ทางนั้นต้องการให้เด็กพูดคุยสื่อสารได้ แองเจลโล่จะไหวไหมถ้าทางเราจะเอยปากขอคาบเรียน 5 คาบต่อสัปดาห์ หรือ 3 คาบต่อสัปดาห์ จิตวิญญาณความเป็นครู แองเจลโล่ตอบว่า เค้าสอนได้ เค้าต้องการแบบนี้มากๆ ก็เลยบอกไปว่าอาทิตย์หน้าผู้อำนวยการเรียกไปคุย ให้เอ่ยปากขอคาบเรียนเป็น 5 หรือ 3 คาบต่อสัปดาห์ ดูดิอยากเห็นเด็กพูดภาษาได้ ท่านก็ต้องให้ความร่วมมือกับครูด้วย ไม่ใช้เอาเวลาเรียนของเด็กไปนั่งปลูกข้าวโพด หรือเอาเวลาเรียนเด็กให้ไปนั่งติวข้อสอบโอเน็ต แค่สองอย่างนี้ก็รับประทานเวลาเรียนเด็กไป 30%แล้ว ไหนจะกิจกรรมสาระพัด ร่วมแล้วเกือบ 50%ของเวลาเรียนไม่ได้มีประโยชน์อะไร เด็กได้เรียนกับครูจริงๆแค่ 50%  ถ้าครูติดธุระ ป่วย ติดงานประชุม ติดนู้นี้นั้น ลบไปดิอีกประมาณ 10% เด็กนีกเรียนจะเหลือเวลาเรียนแค่ 40% เอง ตัวคุณเองเป็นผู้บริหารโรงเรียน แต่คุณยังบริหารจัดการไม่เป็นเลย คุณทำได้ไหมให้นักเรียนได้เรียนจริงๆ 100% และให้เวลาครูสอน 100% ถ้าคุณทำได้ ถึงตอนนั้นค่อยมาด่ามาว่า หรือจะไล่ออกจะไม่โกรธไม่โทษเลย แต่ทุกวันนี้ 1คาบต่อสัปดาห์ แล้วสอนเด็กได้ขนาดนี้ ผมว่าแองเจลโล่เค้าเก่งสุดๆแล้วน่ะ
ปล. ตอนเทอม 2 บางห้องจะไม่ได้เจอกันเลยน่ะ เพราะจะติดกิจกรรมตลอด พูดง่ายๆ เทอม 2 แบ่งเป็น กลางภาค กับปลายภาค อย่างล่ะ 2เดือนครึ่ง  เด็กติดกิจกรรมของทางโรงเรียนทุกอย่างนะ หายไปแล้วเวลาที่จะได้เรียน กลางภาคจะต้องได้เรียนอยู่ 10 คาบ หายไป 5 ปลายภาคจะต้องได้เรียน 10 คาบ เด็กติดสอบโอเน็ตต้องส่งเด็กไปติวโอเน็ต เวลาเรียนหายไปอีก 5 คาบ คิดดูเองแล้วกันว่าที่เป็นอยู่มันดีหรือเปล่า