คือมีเรื่องมาเล่าและสอบถามค่ะ
ว่าทำไมหมอต้องไม่พอใจเรา เมื่อเราไปตรวจที่อื่นมาก่อน และอยากจะกลับมาใช้สิทธิ์ประกันสังคม??


ขอเล่าก่อนนะคะ คือยาวหน่อย แต่อยากรู้ว่ากรณีนี้ สรุปมันไปผิดขั้นตอนหรืออะไรกันตรงไหน หมอ รพ. ประกันสังคมถึงมาพูดกับเราแบบนี้
คนไข้ผิดที่ไปหาหมอที่อื่นมาก่อน หรือหมอ รพ. แรกผิดที่แนะนำให้ลองมาติดต่อประกันสัง หรือหมอประกันสังคมผิดคะ สงสัยจริงๆ ค่ะ

หรือจริงๆ แล้วมันผิดที่ระบบประกันสังคมคะ ???


เรื่องคือแฟนมีประกันสังคมและเลือกโรงพยาบาลใกล้บ้านระบุไว้ในบัตรประกันสังคมค่ะ
แต่ด้วยรายได้ที่พอจ่ายค่ายาทั่วไปไหวและชอบบริการที่ดีๆ ไม่ต้องเสียเวลารอนาน
เวลาเจ็บป่วยเล็กน้อย เราก็เลือกจะไปใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนแทน ไม่ค่อยได้ใช้บริการประกันสังคมเท่าไรนัก

จริงๆ โรงพยาบาลที่เลือกไว้ในบัตรประกันสังคม ก็เป็นเอกชนนะคะ แต่เป็นเอกชนเล็กๆ แถบปริมณฑล
ซึ่งคนเยอะมากกกก เพราะเหมือนรับแต่ประกันสังคม ไปทีรอนานหลักชั่วโมงเหมือนกันค่ะ อารมณ์เกือบคล้ายๆ รัฐบาลเลย

ทีนี้เรื่องมันเกิดตรงที่ว่า พักหลังๆ แฟนเรารู้สึกล้าๆ และเมื่อยมือง่าย ไม่ค่อยมีแรงเมื่อใช้งานไปซักพัก ชาปลายมือและปวดจี๊ดๆ ที่หลัง
และไหล่เมื่อขับรถนานๆ ค่ะ ก็เลยลองไปปรึกษาหมอที่ราชการุณย์เพราะส่วนตัวที่ใช้บริการมาก็ค่อนข้างชอบบริการของที่นี่
แต่แฟนเราเคยตรวจเมื่อนานมาแล้วว่ากล้ามเนื้อที่ไหล่ลีบ ทำให้ยกมือขึ้นสูงๆ ไม่ได้ เป็นมาจะสิบปีตั้งแต่สมัยเรียนค่ะ
และได้เคยไปตรวจที่ต่างจังหวัดเมื่อนานมาแล้ว ซึ่งตอนนั้นหมอให้ทำกายภาพทั่วไป ก็ทำมาได้ปีสองปี หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำต่อ
หมอที่ราชการุณย์เลยสั่งตรวจ EMG (คลื่นไฟฟ้า) กับ MRI ค่าใช้จ่ายรายการละ 10,000-15,000 ซึ่งเราก็ตัดสินใจทำไป เพราะพอจ่ายไหว

แต่เมื่อผลออกมาแล้ว หมอเห็นว่ายังไม่เพียงพอ และอยากให้มีการฉีดสีเพิ่ม เผื่อดูการกดทับของเส้นประสาท
เพราะจากการตรวจพบว่ามีอาการชาปลายนิ้ว เมื่อกดตรงส่วนสะบักหรือไหล่ (ไม่แน่ใจจุดนะคะ)
ปัญหามาเกิดตรงฉีดสีค่ะ เพราะประเมินค่าใช้จ่ายมา 35,000-38,000 ซึ่งชักจะไม่ไหวล่ะค่ะ
สวัสดิการที่มีคือต้องแอดมิท ถึงจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ค่ะ แต่เคสนี้ไม่มีความจำเป็นต้องแอดมิท ก็ต้องจ่ายเอง -_-'

คุณหมอก็แนะนำนัดคิวที่ฝั่งศิริราชให้ แต่ค่าใช้จ่ายที่เช็คมาให้อยู่ที่ 29,000 ซึ่งก็ยังเยอะมากอยู่ดี
เค้าก็เลยแนะนำมาว่า ลองไปเช็คกับ รพ. ประกันสังคมดูก็ได้ ว่าเค้าจะทำให้ได้มั๊ย ถ้าที่ รพ. ที่ระบุตามบัตรของเราไม่มีเครื่องฉีดสี
เค้าอาจจะส่งตัวกลับมาทำที่นี่ก็ได้ เอารายละเอียดไปลองเช็คกับหมอที่นั่นดู หรือถ้าเช็คราคาที่อื่นแล้วถูกกว่า
ก็เอาผลที่อื่นมาให้หมออ่านให้ได้

เราก็เลยกลับมาที่โรงพยาบาลประกันสังคมของเรา ก็แจ้งเจ้าหน้าที่ไปตามที่หมอที่ราชการุณย์แนะนำมา
แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า โรงพยาบาลเราไม่มีเครื่อง MRI และฉีดสี อาจจะต้องส่งไปโรงพยาบาลอื่น คือ รพ. ธรรมศาสตร์
หรือที่ศูนย์แพทย์ มศว. (คลอง 16) ค่ะ ส่วนศิริราชไม่ได้อยู่ในลิสต์ของเค้า และไม่สามารถส่งตรวจได้ อันนี้เราก็ไม่ว่าอะไร
ถ้าต้องฉีดสีหรือตรวจอะไรเพิ่มแล้วประกันสังคมจ่าย เราก็จะเช็คคิวอีกทีว่ารอนานมั๊ย แล้วค่อยตัดสินใจกันต่อไป

ปัญหามาเกิดตรงที่พอหมอมาตรวจ หมอก็ถามเป็นอะไรมา ก็เล่าให้หมอฟังว่าไปตรวจที่ราชการุณย์มา และต้องฉีดสี
แต่ค่าใช้จ่ายมันแพง หมอที่ราชการุณย์เลยแนะนำให้มาปรึกษาหมอที่ รพ. ประกันสังคม เพื่อจะได้ใช้สิทธิ์ประกันสังคม
หมอบอกหมอไม่รู้เรื่องด้วยหรอก ก็ไม่ได้มาตรวจกับหมอตั้งแต่แรกนี่ หมอก็บอกว่าทำไมไม่เอาผลมาให้ ต้องมีผลมาให้หมอดู
หมอจะรู้ว่าเป็นอะไร ก็ถามเราจะเอาผลมาให้ดูเมื่อไร เค้าก็จะนัดวันให้ อันนี้ก็ปกติดี แต่พูดแบบสะบัดๆ เหมือนไม่ค่อยพอใจค่ะ

เราก็เลยถามหมอว่าแล้วที่นี่มีเครื่อง MRI มั๊ยคะ เพราะพยาบาลบอกไม่มี คือที่ถามเพราะถ้าไม่มีแล้วต้องส่งไป รพ. ธรรมศาสตร์เนี่ย
คิวมันยาวเหยียดมาก แล้วเรายังต้องกลับไปติดต่อขอผลที่ราชการุณย์ แล้วค่อยกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็เลยเช็คไว้ก่อนเพื่อความชัวร์
ว่าจะเอายังไงต่อไป หมอก็ปัดอย่างเดียว ว่าไม่รู้ๆๆๆ หมอไม่รู้ข้อมูล ต้องเอาผลมาก่อน (คือท่าทางแกไม่พอใจ ที่เราไปตรวจที่อื่นมาก่อน)
คือ..แค่ถามว่ามีเครื่องมือมั๊ยเนี่ยนะคะ ทำไมตอบเราไม่ได้ ที่ถามเพราะพยาบาลข้างหน้าบอกไม่มี ก็เลยมาถามหมอให้ชัวร์แค่นั้นเอง
ถามอะไรไปหมอตอบไม่รู้ๆๆๆๆ หมดเลยค่ะ

แล้วหมอก็ไหนมาดูสิ เป็นอะไรมากมั๊ย ก็ลองให้กำมือหมอ ให้ดัน ให้สู้มือหมอ แล้วก็บอกว่า ก็แรงดีนี่ น่าจะหักนิ้วหมอได้ด้วยซ้ำ
ไม่เห็นจะต้องเช็คอะไรเลย ตรวจไปก็ไม่เจอหรอกแค่นี้ มันต้องเป็นเยอะๆ ก่อน แล้วค่อยมาตรวจ เราก็เลยถามว่า จะต้องให้เป็นหนักๆ
ก่อนเหรอคะ ถึงค่อยมาโรงพยาบาล??? หมอก็บอกใช่สิ เล็กน้อยแค่นี้ไม่เจออะไรหรอก ตรวจไปก็ไม่เห็น จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องไปทำอะไร
เยอะแยะขนาดนั้นด้วยซ้ำ (ประมาณว่าวิจารณ์หมอที่ราชการุณย์ที่สั่งตรวจ EMG และ MRI ไปแล้ว)

สุดท้ายหมอคนนี้ก็บอกให้เอาผลมาก่อน เค้าถึงจะทำอะไรต่อให้ได้ ตรงนี้ก็เข้าใจนะ แต่หมอพูดไม่ดีเลย คือปัดอย่างเดียว ไม่รู้อย่างเดียว
แถมมาบอกว่าไม่เห็นเป็นอะไรมาก ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย มือก็ยังใช้งานได้อยู่ แม้แต่ยายังไม่จ่ายให้

แบบนี้คืออะไรเหรอคะ ต้องรอให้มือใช้การไม่ได้ก่อนถึงค่อยมาหาหมอหรือยังไงกันคะ อาการตอนนี้มันไม่ร้ายแรงก็จริง แต่ก็ไม่ปกตินี่คะ
กล้ามเนื้อลีบไปหลายมัด และชาแปล๊บๆที่ปลายมือ เมื่อใช้งานมือไปซักพัก จะล้าและไม่มีแรง รวมถึงปวดจี๊ดๆ ช่วงไหล่ด้วย
อันนี้คือปกติ ไม่มีสิทธิ์มาหาหมอ หรือใช้ประกันสังคมใช่มั๊ยคะ

ส่วนตัวผิดหวังกับคำพูดหมอมาก ฟังๆ ดูรู้สึกเค้าไม่พอใจที่เราไปตรวจที่อื่นมา เราไม่มีสิทธิ์เลือกเหรอคะ
ว่าจะใช้เงินซื้อความสะดวกสบายหรืออะไร แต่เมื่อไรที่เราอยากจะใช้สิทธิ์ของเรา เราจะมาใช้สิทธิ์ประกันสังคมไม่ได้เหรอคะ
หมอจะมาเหวี่ยงเราทำไมคะ คืออยากได้อะไรเพิ่มหรือต้องเริ่มตรวจใหม่หมด มันก็แล้วแต่หมอนะคะ พอเข้าใจ
แต่พูดจากันดีๆ ก็ได้นี่คะ ถามอะไรก็ไม่รู้ๆๆๆ บอกแค่ว่า หมอไม่รู้หรอก ไม่ได้มาตรวจกับหมอตั้งแต่แรก พูดอยู่ประโยคเดียว
มาตอบแบบนี้ทำไม บอกแค่ว่าหมอขอตรวจใหม่ตามขั้นตอนของที่นี่นะครับ หรืออะไรก็ว่าไปก็ได้นี่คะ

เราก็แค่เล่าให้ฟังว่าตรวจแบบนี้มาแล้ว เพราะคิดว่ามันอาจจะเป็นข้อมูลให้หมอแค่นั้นเองนี่คะ ไม่ได้มีเจตนาอะไรเลย
หรือเคสแบบนี้ไม่ควรเล่าให้ฟังเลย ว่าเคยตรวจที่ไหนมาบ้าง??

แล้วแถมยังมาบอกอีกว่าเป็นแค่นี้ไม่เห็นเป็นอะไรเลย มือก็มีแรงอยู่นี่ แฟนเราก็บอกมันแรงน้อยลงและน้อยกว่ามือซ้าย
(ซึ่งเค้าเป็นคนถนัดขวา) หมอก็ยืนยันว่าก็ปกติดีนี่ เพราะไม่มีใครเค้าแรงเท่ากันทั้งสองมือหรอก ปกติมันก็จะไม่เท่ากันอยู่แล้ว
เอ๊าาาา...หมอนี่ยังไงนะ คือไม่ได้บอกว่ามันจะต้องเท่ากัน และไม่ได้เปรียบเทียบกับมือใคร แต่มือตัวเองมันเคยมีแรง
อยู่ๆ มันไม่มีแรง และมันเคยมีแรงมากกว่ามือซ้าย อยู่ๆ มันก็แรงน้อยกว่ามือซ้าย นี่คือหมอจะให้ปกติให้ได้เหรอ??

ตกลงมันคือขั้นตอนประกันสังคม หรือกฎอะไรของแพทย์หรือเปล่าคะ ที่จะทำแบบนี้กับคนไข้ที่เคยไปตรวจที่อื่นมาก่อน
คนไข้ทำแบบนี้ผิดจรรยาบรรณคนไข้เหรอคะ ถ้าอย่างนั้นคนไข้ทำอะไรได้บ้าง ต้องมารอตรวจประกันสังคมอย่างเดียวหรืออย่างไร
เราทำผิดขั้นตอนตรงไหน หมอคนนี้ถึงได้ไม่พอใจเราแบบนี้ช่วยบอกทีค่ะ