ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายคนคงจะอึดอัด เพราะตลาดเงียบมาก นอกจากการประกาศคงดอกเบี้ยของ Fed ซึ่งอันที่จริงแล้วก็ไม่ได้มีอะไรเร้าใจ นอกจากเรื่องนี้แล้วไม่มีข่าวอะไรน่าสนใจอีกเลย ขออนุญาตไม่นับผู้นำบางเทศที่ว๊ากเป็นระยะๆ และบางประเทศที่เอาจรวดมายิงลงน้ำเล่น - -“ พอปลายเดือนมีระเบิดพลีชีพที่สนามบินในยุโรป แต่ดูเหมือนตลาดทุนจะชินกับเรื่องพวกนี้แล้ว

เงียบๆอย่างนี้ ผมอยากจะนำเสนอกฎธรรมชาติของตลาดที่ผมบัญญัติขึ้นเอง ^ ^ มี 5 ข้อ

1.    หุ้นขึ้น … จะขึ้นจนกว่าจะลง - -“
2.    หุ้นลง … จะลงจนกว่าจะขึ้น - -“
3.    หุ้นนิ่ง … จะนิ่งจนกว่าจะเคลื่อนไหว - -“
4.    หุ้นเคลื่อนไหว … จะเคลื่อนไหวจะกว่าจะนิ่ง - -“

อย่างเพิ่งเกาหัวเกาคางครับ มันดูเลอะเทอะแต่สำคัญ สองข้อแรกบอกว่าให้สังเกต trend reversal จะใช้แท่งเทียน  จะใช้ MACD ตัดขึ้นตัดลง จะใช้ chart pattern เช่น round shape , island หรือจะใช้ VIX ก็แล้วแต่ความถนัดของแต่ละท่าน …. สองข้อหลังบอกว่า ถ้าเงียบอย่าประมาท หรือผันผวนมากก็อย่าแตกตื่นเดี๋ยวก็หยุด มันเป็นธรรมชาติของความผันผวน (volatility) ที่มักจะมาเป็นก้อนๆ (cluster) ใครเรียน finance คงจำ ARCH type model ได้นะครับ

5.    ตลาดม้วย … คนม้วย

ในภาวะวิกฤต เช่น ต้มยำกุ้ง หรือ subprime หุ้นที่ไม่เกี่ยว ไม่ได้เป็นอะไร ก็ลงกะเขาด้วยครับ หุ้นที่ปกติมี low- correlation กับตลาด กลับกลายเป็น high-correlation ได้ แต่ถ้าหุ้นคุณดี และคุณอึด เมื่อเวลาผ่านไปมันก็จะกลับเป็นปกติเอง (หุ้นไม่ดี แต่คุณอึด > ก็หมดตัว แฮ่ - -“)

แต่กฎทุกอย่างย่อมจะต้องสอดคล้องกับกฎข้อที่สองของ Thermodynamics … สรรพสิ่งหรือจักรวาล นับวันมีแต่จะยุ่งเหยิงมากขึ้นครับ  

ขออนุญาตเปลี่ยนชื่อบทความ เพราะผมจดเรื่องที่ผมสนใจเท่านั้น บางทีก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรครับ แต่เดี๋ยวก็อาจจะเปลี่ยนอีก - -“
พบกันใหม่ช่วงก่อนสงกรานต์ครับ

ขอบคุณ : ภาพประกอบจาก Bloomberg และอื่นๆ