สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ
เราขออนุญาตตั้งกระทู้สนทนากับเพื่อน ๆ ว่ารู้สึกเหมือนเราไหมเกี่ยวกับระบบประกันสังคมของไทย (กรณีเคสของคุณผู้ชาย)
คุณผู้ชายอยู่ในระบบประกันสังคมมาร่วมกว่า 20 ปี ค่าใช้จ่ายในการส่งประกันสังคมก็ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรายได้ในแต่ละเดือน
ด้วยความที่บ้านอยู่ประชาชื่น และมั่นใจว่าสถานพยาบาลเอกชนริมถนนประชาชื่น จะให้เข้าถึงการบริการตามเจตนารมณ์ของระบบประกันสังคม
คุณผู้ชายเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เคยดื่มเหล้า ไม่เคยสูบบุหรี่ อาจจะมีไขมันบ้างแต่ไม่มากเกินเกณฑ์
และเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เข้าตรวจรักษาด้วยการใช้สิทธิ์ประกันสังคมที่โรงพยาบาลเกษ...
ด้วยอาการตาเหลืองตัวเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม และมีอาการคัน เข้าแอดมิดทั้งหมดรวม 3 ครั้ง (มีการรีเฟอร์ไปโรงพยาบาลเกษ...บางใหญ่ 1 ครั้ง)
ผลการตรวจไม่พบเชื้อมะเร็ง ไม่พบเชื้อไวรัสเอบีซี สอดกล้องไปยังท่อน้ำดีพบว่าไม่มีสิ่งอุดตันและการไหลของน้ำดีปกติ
และสุดท้ายเมื่อทุกอย่างปกติ เลยขอเจาะชิ้นเนื้อตับ ผลสรุปมาว่าปกติ
หลังจากนั้น ผู้ป่วยมีอาการหนักกว่าเดิม ตัวเหลือง/ตาเหลืองมากขึ้น และน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วภายในเดือนครึ่งถึงสิบกว่ากิโล
ทั้งนี้ ผู้ป่วยแจ้งว่าขอตรวจด้วยวิธีอื่นได้ไหม แต่แพทย์ผู้รักษาอาการแจ้งว่ายื่นเรื่องขอตรวจไปก็ไม่อนุญาต
และให้ยามาทาน จนผุ้ป่วยมีอาการทรุดลงในที่สุด
ทางครอบครัวเลยเข้าไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลรามาธิบดี คุณหมอแผนกอายุรกรรม และคุณหมอเฉพาะทางด้านตับค่อนข้างกังวล
เมื่ออ่านใบรับรองแพทย์ก็ไม่ระบุสาเหตุและไม่มีข้อสรุป บอกเพียงว่าตาเหลืองตัวเหลือง คุณหมอเลยขอให้ตรวจที่ลึกขึ้นด้วย CT scan
และตรวจเลือด โดยญาติได้จ่ายเงินสดไป และทางแพทย์ได้กรุณาเขียนใบส่งตัวผู้ป่วยมารักษาต่อเนื่องที่โรงพยาบาลรามาธิบดีเพื่อใช้สิทธิ์ในการรักษา
เมื่อเรามองดูในการตรวจของโรงพยาบาลริมถนนประชาชื่นก็ตรวจตามลำดับวิธี แต่พอไม่พบสาเหตุก็ไม่ส่งต่อโรงพยาบาลที่มีศักยภาพมากกว่า
เพื่อการตรวจที่ลึกยิ่งขึ้นเพียงให้ยามาทานที่บ้านจนมีอาการทรุดหนัก
เราก็ยังกังวลว่าเงินสดที่เราจ่ายไปสามารถนำไปเบิกย้อนหลังกับประกันสังคมได้ไหม รู้สึกท้อใจจังว่าทำไมโรงพยาบาลในระบบประกันสังคม
อาจจะคำนึงถึงเรื่องอื่นมากกว่าการรักษาพยาบาลจนถึงที่สุด
+ + + รู้สึกไม่มั่นใจในระบบประกันสังคมของไทย ที่ไม่คำนึงถึงการรักษาให้อย่างถึงที่สุด + + +
เราขออนุญาตตั้งกระทู้สนทนากับเพื่อน ๆ ว่ารู้สึกเหมือนเราไหมเกี่ยวกับระบบประกันสังคมของไทย (กรณีเคสของคุณผู้ชาย)
คุณผู้ชายอยู่ในระบบประกันสังคมมาร่วมกว่า 20 ปี ค่าใช้จ่ายในการส่งประกันสังคมก็ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรายได้ในแต่ละเดือน
ด้วยความที่บ้านอยู่ประชาชื่น และมั่นใจว่าสถานพยาบาลเอกชนริมถนนประชาชื่น จะให้เข้าถึงการบริการตามเจตนารมณ์ของระบบประกันสังคม
คุณผู้ชายเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เคยดื่มเหล้า ไม่เคยสูบบุหรี่ อาจจะมีไขมันบ้างแต่ไม่มากเกินเกณฑ์
และเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เข้าตรวจรักษาด้วยการใช้สิทธิ์ประกันสังคมที่โรงพยาบาลเกษ...
ด้วยอาการตาเหลืองตัวเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม และมีอาการคัน เข้าแอดมิดทั้งหมดรวม 3 ครั้ง (มีการรีเฟอร์ไปโรงพยาบาลเกษ...บางใหญ่ 1 ครั้ง)
ผลการตรวจไม่พบเชื้อมะเร็ง ไม่พบเชื้อไวรัสเอบีซี สอดกล้องไปยังท่อน้ำดีพบว่าไม่มีสิ่งอุดตันและการไหลของน้ำดีปกติ
และสุดท้ายเมื่อทุกอย่างปกติ เลยขอเจาะชิ้นเนื้อตับ ผลสรุปมาว่าปกติ
หลังจากนั้น ผู้ป่วยมีอาการหนักกว่าเดิม ตัวเหลือง/ตาเหลืองมากขึ้น และน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วภายในเดือนครึ่งถึงสิบกว่ากิโล
ทั้งนี้ ผู้ป่วยแจ้งว่าขอตรวจด้วยวิธีอื่นได้ไหม แต่แพทย์ผู้รักษาอาการแจ้งว่ายื่นเรื่องขอตรวจไปก็ไม่อนุญาต
และให้ยามาทาน จนผุ้ป่วยมีอาการทรุดลงในที่สุด
ทางครอบครัวเลยเข้าไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลรามาธิบดี คุณหมอแผนกอายุรกรรม และคุณหมอเฉพาะทางด้านตับค่อนข้างกังวล
เมื่ออ่านใบรับรองแพทย์ก็ไม่ระบุสาเหตุและไม่มีข้อสรุป บอกเพียงว่าตาเหลืองตัวเหลือง คุณหมอเลยขอให้ตรวจที่ลึกขึ้นด้วย CT scan
และตรวจเลือด โดยญาติได้จ่ายเงินสดไป และทางแพทย์ได้กรุณาเขียนใบส่งตัวผู้ป่วยมารักษาต่อเนื่องที่โรงพยาบาลรามาธิบดีเพื่อใช้สิทธิ์ในการรักษา
เมื่อเรามองดูในการตรวจของโรงพยาบาลริมถนนประชาชื่นก็ตรวจตามลำดับวิธี แต่พอไม่พบสาเหตุก็ไม่ส่งต่อโรงพยาบาลที่มีศักยภาพมากกว่า
เพื่อการตรวจที่ลึกยิ่งขึ้นเพียงให้ยามาทานที่บ้านจนมีอาการทรุดหนัก
เราก็ยังกังวลว่าเงินสดที่เราจ่ายไปสามารถนำไปเบิกย้อนหลังกับประกันสังคมได้ไหม รู้สึกท้อใจจังว่าทำไมโรงพยาบาลในระบบประกันสังคม
อาจจะคำนึงถึงเรื่องอื่นมากกว่าการรักษาพยาบาลจนถึงที่สุด