เกริ่นนำ
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่า ตามจุดมุ่งหมายของนายกลุงตู่ที่ชักชวนคนไทยให้ได้ดูซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้ อันมีสาเหตุสืบเนื่องมาจากประเด็นทางการเมืองแน่นอน คือ เรื่องของการรักชาติ ความสามัคคี ไม่แตกแยกกัน
ดังนั้นการตั้งกระทู้นี้ หรือกระทู้ก่อนหน้านั้นที่มีเพื่อนสมาชิกเคยตั้งกัน จึงสามรถ tag ห้องการเมืองผสมห้องบางขุนพรหมได้อย่างไม่เขอะเขิน และคงไม่มีการไล่ส่งใครกลับห้องราชดำเนิน (คอหนังซีรีส์เกาหลี จีน ญี่ปุ่น เป็นคนใจกว้าง)
เข้าเรื่อง
ก่อนหน้านั้นนายกลุงตู่เคยกล่าวถึงติ่งเกาหลีเอาไว้ว่า "ผมก็ไม่เข้าใจดู(งานที่เกาหลี)กันยังไง ดูเสร็จกลับมา บางส่วนกลับเอาศิลปินเขากลับมา วันนี้คนในประเทศคลั่งเกาหลีมากว่าคลั่งไทยอีก ผมก็ไม่เข้าใจ ใครไม่รู้บอกว่าไม่ได้ต้องไปเกาหลีตลอด ไปฟังเพลง ไปกินอาหารเกาหลี อาหารไทยยังไม่กินเลย เป็นคนไทยหรือเปล่า"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.thaigov.go.th/index.php/th/speech-th-01/item/84029-id84029 พอมาวันนี้นายกลุงตู่เปลี่ยนไป นายกลุงตู่ออกทีวีชวนคนไทยดูซรีส์เกาหลี (ที่เป็นเรื่องราวระหว่างความรักของทหารหนุ่มหน่วยรบพิเศษกับหมอสาวที่บังเอิญมาเจอกันในโรงพยาบาลที่เกาหลี ซึ่งเป็นสถานที่ที่คู่พระนางมาเจอกัน เข้าใจผิดกัน แล้วก็เริ่มปิ๊งกันทันที หลังจากเริ่มเข้าใจถูกกัน) เพื่อให้คนไทยได้รู้สึกรักชาติ รู้รักสามัคคี
ในฐานะที่ผมเป็นคอการเมืองและติดตามซีรีส์เกาหลี ซีรีส์ญี่ปุ่น และซีรีส์จีน บ้างนิดหน่อย มีหรือจะพลาด นายกลุงตู่ออกทีวีชวนทั้งที ทั้งที่ตอนแรกผมออกจะมองข้ามซีรีส์เรื่อง Descendants of the sun นี้ ถึงแม้ว่ากระแสที่พันทิปจะมาแรงก็ตาม บอกตามตรงผมกำลังติดตามซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่อง Dame na Watashi ni Koishite Kudasai (ดูสาวเจ้าชิบาตะกับชูนินหนุ่มแว่นอดีตแยงกี้) และเรื่อง Please come back mister
หลังจากที่ผมได้ตามอ่านกระทู้ที่กับซีรีส์เรื่องนี้ที่เกี่ยวข้องกับนายกลุงตู่เพื่อที่จะพยายามสืบเสาะหาดูข้อมูลเบื้องต้นก่อนว่า นายกลุงตู่ติดตามดูถึงตอนที่เท่าใด ถึงได้สรุปและออกมาชวนคนไทยดู ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้นนายกลุงตู่ออกมาพูดในวันที่ 17 และ 18 ในรายการคืนความสุข โดยประมาณ ซึ่งมีเพื่อนสมาชิกพันทิปได้ให้ข้อมูลพอที่จะทราบเบื้องต้นว่า อย่างมากลุงตู่น่าจะดูถึงแค่ตอนที่ 6
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
http://ppantip.com/topic/34928276/comment22-1 และเพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการประกอบวิเคราะห์ซีรีส์ว่า เป็นเพราะเหตุอันใด ซีรีส์ตอนที่ 1-6 จึงสามารถทำให้นายกลุงตู่คิดว่าเมื่อคนไทยได้ดูแล้ว คนไทยจะรักชาติ และรู้รักสามัคคี เป็นตามจุดมุ่งหมายของนายกลุงตู่ ผมจึงได้ติดตามดูซีรีส์เรื่องนี้ตั้งแต่ตอนที่ 1-6 มาทำการเทียบเคียงว่า สิ่งที่ผมได้จากการดูซีรีส์เรื่องนี้เป็นอย่างไร
ตอนที่ 1-2
เปิดตัวมาด้วยทหารเกาหลีเหนือบุกมาจับทหารเกาหลีใต้ แต่ "ยูชีจีน" พระเอกหน่วยรบพิเศษสามารถเข้าคลี่คลายปัญหาได้โดยไม่มีเสียงปืนแตก (เสียงปืนที่จะก่อให้เกิดสงครามระหว่างสองเกาหลี) หลังจากนั้นพระเอกและพระรอง "ซอแดยอง" ก็ได้ช่วยกันจับพ่อหนุ่มหัวขโมย ที่ก่อเรื่องป่วนจนเป็นเหตุให้ "คังโยมอน" หมอสาวสวยเข้าใจผิดคิดว่าพระเอกและพระรองเป็นอันธพาลไล่อัดพ่อหนุ่มหัวขโมย (ที่ต่อมาภายหลังแก้ปัญหาไม่ให้พวกแก๊งมาราวีอีกด้วยการสมัครเป็นทหารเดินตามเส้นทางพระรอง) และก็เป็นจุดเริ่มต้นให้พระเอกและนางเอกได้รู้จักกันและปิ๊งกันแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย (น่าจะเป็นความหล่อและสวย) แต่พอพระเอกนางเอกพูดเรื่องแนวความคิดของการมาเป็นหมอและทหาร จากหน้าที่ที่แตกต่างกันในวิชาชีพ ทั้งสองคิดเองว่าคงเป็นแฟนกันไม่ได้ ทั้งสองจึงต้องแยกจากกันแบบง่ายๆ
แต่เนื้อหาหลักนอกเหนือจากเรื่องราวความรักของพระเอกนางเอกก็คือ การเมืองในโรงพยาบาลที่เน่าเฟะ มีการเล่นเส้นเล่นสายในการเลื่อนหรือดำรงตำแหน่ง ประธานโรงพยาบาลมีการให้นางเอกเสนอตัวเข้าแลกเพื่อความก้าวหน้าในวิชาชีพ เมื่อนางเอกปฏิเสธ นางเอกจึงถูกส่งตัวไปเป็นแพทย์อาสาที่ประเทศอุรุก ไม่ใช่การเสนอตัวเองเพราะมีอุดมการณ์ (นางเอกไม่รู้ว่าพระเอกถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศอุรุก) นางเอกยังตั้งเป้าว่าจะออกมาเปิดคลินิกเองหลังจากหมดภารกิจแพทย์อาสา
ตอนที่ 3
ในซีรีส์ประเทศอุรุกเป็นประเทศที่แปลกในสายตาผม ตอนแรกคิดว่าเป็นประเทศที่แห้งแล้ง แต่พอเอาเข้าจริงในซีรีส์กลับเป็นประเทศที่มีภูมิทัศน์สวยงาม ไม่แห้งแล้ง ไม่กันดาร (มีผับ มีบาร์ มีต้นไม้ มีทะล) แล้วไฉนจึงมีเด็กอดอยาก บ้านเด็กอดอยากมีฝูงแกะอยู่แถวบ้านด้วย (เด็กอดอยากในซีรีส์ ทีมงานประหยัดชุมคอสตูมมาก ใส่เวียนเทียนซ้ำไปซ้ำมาตอนที่ 3 - 5 - 6 จนสังเกตได้)
ไคลแมกซ์ของเรื่องในตอนที่ 3 น่าจะอยู่ที่ตอนท้ายเรื่อง คือ การรักษาประธานาธิบดีของประเทศหนึ่งในเมดิแคมป์ ซึ่งทางฝ่ายการเมืองและฝ่ายทหารต้องการให้ทำตามความต้องการของการ์ดประธานาธิบดีที่ต้องการให้รอหมอของตนเองเป็นฝ่ายผ่าตัด แต่นางเอกไม่ยอมเพราะรอไม่ได้ ถ้าขืนรอประธานาธิบดีคงได้ตายก่อน พระเอกจึงขัดคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่มีการสั่งการลงมาว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น (ประธานาธิบดีตายให้โทษเป็นความรับผิดชอบของหมอ)
หัวใจสำคัญที่แสดงความเป็นตัวตนของพระเอกทำให้พระเอกเป็นพระเอก เป็นทหารที่มีเกียรติ คือ ความอินดี้ที่ตนเอง
กล้าขัดคำสั่งของผู้บังคับบัญชาถ้าเห็นว่าคำสั่งนั้นไม่ชอบธรรม แต่ตนเองพร้อมที่จะยอมรับบทการลงโทษถ้าตนเองขัดคำสั่งนั้น
ตอนที่ 4
พระเอกถูกลงโทษ สั่งปลดและสั่งขังชั่วคราว สถานการณ์ดีขึ้นหลังประธานาธิบดีอาการดี มีการปูพรมเล่าเรื่องความรักของพระรองกับนางรอง นางเอกไปก้าวก่ายเรื่องลงโทษของพระเอกกับผู้บังคับบัญชา เปิดตัวกลุ่มค้าอาวุธเป็นอดีตทหารที่มาของคำพูดเท่ห์ของพระเอก
ตอนถูกขัง
พระเอก : "ผม(ทหาร)ต้องปกป้องผู้หญิงสวย เด็ก และคนชรา โดยเฉพาะคนชราที่ยังสวย (แซวนางเอก)"
ตอนพระเอกปรี๊ดแตกที่นางเอกไปก้าวก่ายกับผู้บังคับบัญชา
พระเอก :"ทหารมีผ้าห่อศพติดตัวอยู่ตลอดเวลา
ตายที่สนามรบเพื่อประเทศ ที่ตายก็คือหลุมศพ ชุดฟอร์มคือผ้าห่อศพ นี่คือความมุ่งมั่นขณะสวมชุด ต้องสวมชุดด้วยใจ ต้องรู้สึกเป็นเกียรติทุกวินาที ไม่มีเหตุผลไหนที่จะค้านได้...การตัดสินใจของผมไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ มันหมายถึงเกียรติยศ ศักดิ์ศรีและหน้าที่ มันอยู่ในทุกสถานการณ์ ผมตัดสินใจหลังพิจารณาดีแล้ว ผมไม่เคยเสียใจกับการตัดสินใจ แต่ไม่ได้หมายความว่า การที่ผมทำผิดกฎทหารจะเป็นข้อยกเว้นไปได้"
จบตอนที่สี่ด้วยการที่พระเอกจูบนางเอก
ตอนที่ 5
เปิดตัวโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โดยกลุ่มแฮซอง (โรงพยาบาลของนางเอกก็เป็นของแฮซองกรุ๊ป) ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับกลุ่มค้าอาวุธของอดีตทหารรุ่นพี่พระเอก ภาพขัดแย้ง
บทสนทนาที่น่าสนใจ
พระเอก : มาเป็นทหารเพราะทหารต้องการคน
นางเอก : ต้องชาตินิยมแค่ไหนถึงยอมสละชีวิตได้ รักประเทศ จงรักภักดีต่อประเทศและประชาชน
พระเอก : แล้วทหารทำไมต้องทำอย่างนั้น ทหารมีหน้าที่ปกป้องเด็ก สตรี และคนชรา
พระเอก : ต่อให้มีปืนมาจ่อ แต่สิ่งที่ผิดก็คือผิด นั่นคือเกียรติของทหาร
อดีตทหารค้าอาวุธ : change job ยิงปืนรับเงิน ตำนานกินไม่ได้ //ไม่รู้จักกลัว ไม่มีสัจจะ ไร้เกียรติ
นางเอกขับประมาทเกิดอุบัติเหตุค้างบนหน้าผา พระเอกตามมาช่วย
คำสั่งนายพล จับลูกเป็นตัวประกัน ใช้เส้นสั่งยูชีจินกลับ (ก่อนหน้านั้นใช้เส้นสั่งซอแดยองกลับเพื่อหนีลูกสาวตนเอง)
ตอนที่ 6
พระเอกสารภาพรัก นางเอก(ค้นใจ) แล้วก็จากกันอีกแล้ว
แพทย์อาสาดีใจได้กลับบ้าน (ตอนมาความรู้สึกเหมือนติดร่างแหมากับนางเอก)
หมอหนุ่มดราม่า (สติแตก) เหมือนเพิ่งเคยเจอคนไข้เสียชีวิตเป็นครั้งแรก เสียใจหนักมาก
ฟีนท้ายเรื่องสองคู่รักได้กลับมาเจอกัน ยามอุรุกเกิดภัยพิบัติ
คำคม เส้นทางของทหาร บางครั้งการต้องติดคุก ยังมีเกียรติมากกว่าการได้เลื่อนขั้น
ขอนำความคิดเห็นของเพื่อนสมาชิกพันทิปท่านหนึ่งมาตบสรุปดังนี้
http://ppantip.com/topic/34937455/comment10
เรื่องนี้ผมไม่ขอวิจารณ์หรือแตะโยงเข้าการเมืองไทยมากนัก เพราะเข้าขั้นสุ่มเสี่ยงต่อการถูก wm พิจารณาว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ถ้าดูเพียงแค่ตอนที่ 1-6 ผมว่า ตามบทบาทหน้าที่ของหมอและทหารที่เกี่ยวกับประเทศชาติและประชาชนมีน้อยกว่าบทเรื่องราวความรักของคู่พระคู่นางทั้งตัวหลักและตัวรอง และคงไม่ถึงขั้นจะไปรักชาติสักเท่าไหร่นักถ้าว่ากันตามท้องเรื่อง แต่จะไปฟินกับหกห่อและหน้าตาหล่อแบบเด็กๆของพระเอกและความสวยหวานแบบนางเอกซะมากกว่า รวมไปถึงการสั่งการที่มิชอบของนายพลพ่อนางรองและด้านดาร์กของท่านประธานกลุ่มแฮซองกรุ๊ปที่ทำให้เห็นว่าบุคลากรทางการแพทย์และนายพลในกองทัพแม้บทบาทจะไม่มาก แต่ก็ส่อให้เห็นการกระทำที่มิชอบ ซึ่งเรื่องอย่างนี้คงมีอยู่ทุกประเทศ แต่อยู่ที่แต่ละประเทศจะจัดการปัญหากันอย่างไร
[Review-ฉบับห้องราช] ตามที่นายกลุงตู่แนะนำให้ดู Descendants of the sun ep1-6 [เนื้อหาค่อนข้าง spoil ไม่เซ็นเซอร์]
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่า ตามจุดมุ่งหมายของนายกลุงตู่ที่ชักชวนคนไทยให้ได้ดูซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้ อันมีสาเหตุสืบเนื่องมาจากประเด็นทางการเมืองแน่นอน คือ เรื่องของการรักชาติ ความสามัคคี ไม่แตกแยกกัน
ดังนั้นการตั้งกระทู้นี้ หรือกระทู้ก่อนหน้านั้นที่มีเพื่อนสมาชิกเคยตั้งกัน จึงสามรถ tag ห้องการเมืองผสมห้องบางขุนพรหมได้อย่างไม่เขอะเขิน และคงไม่มีการไล่ส่งใครกลับห้องราชดำเนิน (คอหนังซีรีส์เกาหลี จีน ญี่ปุ่น เป็นคนใจกว้าง)
เข้าเรื่อง
ก่อนหน้านั้นนายกลุงตู่เคยกล่าวถึงติ่งเกาหลีเอาไว้ว่า "ผมก็ไม่เข้าใจดู(งานที่เกาหลี)กันยังไง ดูเสร็จกลับมา บางส่วนกลับเอาศิลปินเขากลับมา วันนี้คนในประเทศคลั่งเกาหลีมากว่าคลั่งไทยอีก ผมก็ไม่เข้าใจ ใครไม่รู้บอกว่าไม่ได้ต้องไปเกาหลีตลอด ไปฟังเพลง ไปกินอาหารเกาหลี อาหารไทยยังไม่กินเลย เป็นคนไทยหรือเปล่า" [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ พอมาวันนี้นายกลุงตู่เปลี่ยนไป นายกลุงตู่ออกทีวีชวนคนไทยดูซรีส์เกาหลี (ที่เป็นเรื่องราวระหว่างความรักของทหารหนุ่มหน่วยรบพิเศษกับหมอสาวที่บังเอิญมาเจอกันในโรงพยาบาลที่เกาหลี ซึ่งเป็นสถานที่ที่คู่พระนางมาเจอกัน เข้าใจผิดกัน แล้วก็เริ่มปิ๊งกันทันที หลังจากเริ่มเข้าใจถูกกัน) เพื่อให้คนไทยได้รู้สึกรักชาติ รู้รักสามัคคี
ในฐานะที่ผมเป็นคอการเมืองและติดตามซีรีส์เกาหลี ซีรีส์ญี่ปุ่น และซีรีส์จีน บ้างนิดหน่อย มีหรือจะพลาด นายกลุงตู่ออกทีวีชวนทั้งที ทั้งที่ตอนแรกผมออกจะมองข้ามซีรีส์เรื่อง Descendants of the sun นี้ ถึงแม้ว่ากระแสที่พันทิปจะมาแรงก็ตาม บอกตามตรงผมกำลังติดตามซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่อง Dame na Watashi ni Koishite Kudasai (ดูสาวเจ้าชิบาตะกับชูนินหนุ่มแว่นอดีตแยงกี้) และเรื่อง Please come back mister
หลังจากที่ผมได้ตามอ่านกระทู้ที่กับซีรีส์เรื่องนี้ที่เกี่ยวข้องกับนายกลุงตู่เพื่อที่จะพยายามสืบเสาะหาดูข้อมูลเบื้องต้นก่อนว่า นายกลุงตู่ติดตามดูถึงตอนที่เท่าใด ถึงได้สรุปและออกมาชวนคนไทยดู ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้นนายกลุงตู่ออกมาพูดในวันที่ 17 และ 18 ในรายการคืนความสุข โดยประมาณ ซึ่งมีเพื่อนสมาชิกพันทิปได้ให้ข้อมูลพอที่จะทราบเบื้องต้นว่า อย่างมากลุงตู่น่าจะดูถึงแค่ตอนที่ 6 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ และเพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการประกอบวิเคราะห์ซีรีส์ว่า เป็นเพราะเหตุอันใด ซีรีส์ตอนที่ 1-6 จึงสามารถทำให้นายกลุงตู่คิดว่าเมื่อคนไทยได้ดูแล้ว คนไทยจะรักชาติ และรู้รักสามัคคี เป็นตามจุดมุ่งหมายของนายกลุงตู่ ผมจึงได้ติดตามดูซีรีส์เรื่องนี้ตั้งแต่ตอนที่ 1-6 มาทำการเทียบเคียงว่า สิ่งที่ผมได้จากการดูซีรีส์เรื่องนี้เป็นอย่างไร
ตอนที่ 1-2
เปิดตัวมาด้วยทหารเกาหลีเหนือบุกมาจับทหารเกาหลีใต้ แต่ "ยูชีจีน" พระเอกหน่วยรบพิเศษสามารถเข้าคลี่คลายปัญหาได้โดยไม่มีเสียงปืนแตก (เสียงปืนที่จะก่อให้เกิดสงครามระหว่างสองเกาหลี) หลังจากนั้นพระเอกและพระรอง "ซอแดยอง" ก็ได้ช่วยกันจับพ่อหนุ่มหัวขโมย ที่ก่อเรื่องป่วนจนเป็นเหตุให้ "คังโยมอน" หมอสาวสวยเข้าใจผิดคิดว่าพระเอกและพระรองเป็นอันธพาลไล่อัดพ่อหนุ่มหัวขโมย (ที่ต่อมาภายหลังแก้ปัญหาไม่ให้พวกแก๊งมาราวีอีกด้วยการสมัครเป็นทหารเดินตามเส้นทางพระรอง) และก็เป็นจุดเริ่มต้นให้พระเอกและนางเอกได้รู้จักกันและปิ๊งกันแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย (น่าจะเป็นความหล่อและสวย) แต่พอพระเอกนางเอกพูดเรื่องแนวความคิดของการมาเป็นหมอและทหาร จากหน้าที่ที่แตกต่างกันในวิชาชีพ ทั้งสองคิดเองว่าคงเป็นแฟนกันไม่ได้ ทั้งสองจึงต้องแยกจากกันแบบง่ายๆ
แต่เนื้อหาหลักนอกเหนือจากเรื่องราวความรักของพระเอกนางเอกก็คือ การเมืองในโรงพยาบาลที่เน่าเฟะ มีการเล่นเส้นเล่นสายในการเลื่อนหรือดำรงตำแหน่ง ประธานโรงพยาบาลมีการให้นางเอกเสนอตัวเข้าแลกเพื่อความก้าวหน้าในวิชาชีพ เมื่อนางเอกปฏิเสธ นางเอกจึงถูกส่งตัวไปเป็นแพทย์อาสาที่ประเทศอุรุก ไม่ใช่การเสนอตัวเองเพราะมีอุดมการณ์ (นางเอกไม่รู้ว่าพระเอกถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศอุรุก) นางเอกยังตั้งเป้าว่าจะออกมาเปิดคลินิกเองหลังจากหมดภารกิจแพทย์อาสา
ตอนที่ 3
ในซีรีส์ประเทศอุรุกเป็นประเทศที่แปลกในสายตาผม ตอนแรกคิดว่าเป็นประเทศที่แห้งแล้ง แต่พอเอาเข้าจริงในซีรีส์กลับเป็นประเทศที่มีภูมิทัศน์สวยงาม ไม่แห้งแล้ง ไม่กันดาร (มีผับ มีบาร์ มีต้นไม้ มีทะล) แล้วไฉนจึงมีเด็กอดอยาก บ้านเด็กอดอยากมีฝูงแกะอยู่แถวบ้านด้วย (เด็กอดอยากในซีรีส์ ทีมงานประหยัดชุมคอสตูมมาก ใส่เวียนเทียนซ้ำไปซ้ำมาตอนที่ 3 - 5 - 6 จนสังเกตได้)
ไคลแมกซ์ของเรื่องในตอนที่ 3 น่าจะอยู่ที่ตอนท้ายเรื่อง คือ การรักษาประธานาธิบดีของประเทศหนึ่งในเมดิแคมป์ ซึ่งทางฝ่ายการเมืองและฝ่ายทหารต้องการให้ทำตามความต้องการของการ์ดประธานาธิบดีที่ต้องการให้รอหมอของตนเองเป็นฝ่ายผ่าตัด แต่นางเอกไม่ยอมเพราะรอไม่ได้ ถ้าขืนรอประธานาธิบดีคงได้ตายก่อน พระเอกจึงขัดคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่มีการสั่งการลงมาว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น (ประธานาธิบดีตายให้โทษเป็นความรับผิดชอบของหมอ)
หัวใจสำคัญที่แสดงความเป็นตัวตนของพระเอกทำให้พระเอกเป็นพระเอก เป็นทหารที่มีเกียรติ คือ ความอินดี้ที่ตนเองกล้าขัดคำสั่งของผู้บังคับบัญชาถ้าเห็นว่าคำสั่งนั้นไม่ชอบธรรม แต่ตนเองพร้อมที่จะยอมรับบทการลงโทษถ้าตนเองขัดคำสั่งนั้น
ตอนที่ 4
พระเอกถูกลงโทษ สั่งปลดและสั่งขังชั่วคราว สถานการณ์ดีขึ้นหลังประธานาธิบดีอาการดี มีการปูพรมเล่าเรื่องความรักของพระรองกับนางรอง นางเอกไปก้าวก่ายเรื่องลงโทษของพระเอกกับผู้บังคับบัญชา เปิดตัวกลุ่มค้าอาวุธเป็นอดีตทหารที่มาของคำพูดเท่ห์ของพระเอก
ตอนถูกขัง
พระเอก : "ผม(ทหาร)ต้องปกป้องผู้หญิงสวย เด็ก และคนชรา โดยเฉพาะคนชราที่ยังสวย (แซวนางเอก)"
ตอนพระเอกปรี๊ดแตกที่นางเอกไปก้าวก่ายกับผู้บังคับบัญชา
พระเอก :"ทหารมีผ้าห่อศพติดตัวอยู่ตลอดเวลา ตายที่สนามรบเพื่อประเทศ ที่ตายก็คือหลุมศพ ชุดฟอร์มคือผ้าห่อศพ นี่คือความมุ่งมั่นขณะสวมชุด ต้องสวมชุดด้วยใจ ต้องรู้สึกเป็นเกียรติทุกวินาที ไม่มีเหตุผลไหนที่จะค้านได้...การตัดสินใจของผมไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ มันหมายถึงเกียรติยศ ศักดิ์ศรีและหน้าที่ มันอยู่ในทุกสถานการณ์ ผมตัดสินใจหลังพิจารณาดีแล้ว ผมไม่เคยเสียใจกับการตัดสินใจ แต่ไม่ได้หมายความว่า การที่ผมทำผิดกฎทหารจะเป็นข้อยกเว้นไปได้"
จบตอนที่สี่ด้วยการที่พระเอกจูบนางเอก
ตอนที่ 5
เปิดตัวโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โดยกลุ่มแฮซอง (โรงพยาบาลของนางเอกก็เป็นของแฮซองกรุ๊ป) ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับกลุ่มค้าอาวุธของอดีตทหารรุ่นพี่พระเอก ภาพขัดแย้ง
บทสนทนาที่น่าสนใจ
พระเอก : มาเป็นทหารเพราะทหารต้องการคน
นางเอก : ต้องชาตินิยมแค่ไหนถึงยอมสละชีวิตได้ รักประเทศ จงรักภักดีต่อประเทศและประชาชน
พระเอก : แล้วทหารทำไมต้องทำอย่างนั้น ทหารมีหน้าที่ปกป้องเด็ก สตรี และคนชรา
พระเอก : ต่อให้มีปืนมาจ่อ แต่สิ่งที่ผิดก็คือผิด นั่นคือเกียรติของทหาร
อดีตทหารค้าอาวุธ : change job ยิงปืนรับเงิน ตำนานกินไม่ได้ //ไม่รู้จักกลัว ไม่มีสัจจะ ไร้เกียรติ
นางเอกขับประมาทเกิดอุบัติเหตุค้างบนหน้าผา พระเอกตามมาช่วย
คำสั่งนายพล จับลูกเป็นตัวประกัน ใช้เส้นสั่งยูชีจินกลับ (ก่อนหน้านั้นใช้เส้นสั่งซอแดยองกลับเพื่อหนีลูกสาวตนเอง)
ตอนที่ 6
พระเอกสารภาพรัก นางเอก(ค้นใจ) แล้วก็จากกันอีกแล้ว
แพทย์อาสาดีใจได้กลับบ้าน (ตอนมาความรู้สึกเหมือนติดร่างแหมากับนางเอก)
หมอหนุ่มดราม่า (สติแตก) เหมือนเพิ่งเคยเจอคนไข้เสียชีวิตเป็นครั้งแรก เสียใจหนักมาก
ฟีนท้ายเรื่องสองคู่รักได้กลับมาเจอกัน ยามอุรุกเกิดภัยพิบัติ
คำคม เส้นทางของทหาร บางครั้งการต้องติดคุก ยังมีเกียรติมากกว่าการได้เลื่อนขั้น
ขอนำความคิดเห็นของเพื่อนสมาชิกพันทิปท่านหนึ่งมาตบสรุปดังนี้
http://ppantip.com/topic/34937455/comment10
เรื่องนี้ผมไม่ขอวิจารณ์หรือแตะโยงเข้าการเมืองไทยมากนัก เพราะเข้าขั้นสุ่มเสี่ยงต่อการถูก wm พิจารณาว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ถ้าดูเพียงแค่ตอนที่ 1-6 ผมว่า ตามบทบาทหน้าที่ของหมอและทหารที่เกี่ยวกับประเทศชาติและประชาชนมีน้อยกว่าบทเรื่องราวความรักของคู่พระคู่นางทั้งตัวหลักและตัวรอง และคงไม่ถึงขั้นจะไปรักชาติสักเท่าไหร่นักถ้าว่ากันตามท้องเรื่อง แต่จะไปฟินกับหกห่อและหน้าตาหล่อแบบเด็กๆของพระเอกและความสวยหวานแบบนางเอกซะมากกว่า รวมไปถึงการสั่งการที่มิชอบของนายพลพ่อนางรองและด้านดาร์กของท่านประธานกลุ่มแฮซองกรุ๊ปที่ทำให้เห็นว่าบุคลากรทางการแพทย์และนายพลในกองทัพแม้บทบาทจะไม่มาก แต่ก็ส่อให้เห็นการกระทำที่มิชอบ ซึ่งเรื่องอย่างนี้คงมีอยู่ทุกประเทศ แต่อยู่ที่แต่ละประเทศจะจัดการปัญหากันอย่างไร