กระทู้เป็นกระทู้ความเห็นของผมเองนะครับ ใครมีอะไรเพิ่มเติมสามารถแลกเปลี่ยนกันได้ครับ
ปัญหาหมอกควันในเขตภาคเหนือตอนบนเป็นปัญหาที่มีมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยหมอกควันภาคเหนือนั้นจะเข้ามาในช่วงฤดูร้อนของทุกปี หมอกควันในภาคเหนือนั้นจริงๆแล้วไม่ใช่หมอกควันจากการเผาในประเทศไทย แต่เป็นการเผาในประเทศเมียนม่าเพื่อนบ้านของเรานี่เอง และแน่นอนปริมาณควันที่มากขนาดนี้เกิดจากการเผาป่าจำนวนมากๆ แบบมหาศาล เพื่อปลูกพืชสำคัญทางเศรษฐกิจหลายๆชนิด
การเผาป่าจำนวนมากๆในทุกๆปีนี่เองที่บ่งบอกถึงการขยายตัวของการเพาะปลูกที่ไม่ใช่สำหรับภาคครัวเรือนอีกต่อไป แต่เป็นการผลิตเพื่อป้อนให้แก่อุตสหกรรมขนาดใหญ่ๆ มากๆๆ อันดับต้นๆของโลก ไม่ต้องบอกก็พอจะรู้ว่าเป็นอุตสหกรรมในประเทศจีน ซึ่งการเพาะปลูกในประเทศพม่าตอนนี้ ส่วนใหญ่เป็นการปลูกพืชที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ทั้งยางพารา กล้วย ข้าวโพด และอีกหลายๆชนิด แต่ส่วนใหญ่เป็นปลูกยางพารา โดยกลุ่มนายทุนชาวจีนที่เข้ามาลงทุน จะนำเมล็ดพันธุ์ที่ตัวเองต้องการ มาให้คนในพื้นที่ปลูก สนับสนุนต้นทุนหลายๆส่วน พร้อมทั้งเข้ามาให้ความรู้ต่างๆในการดูแล ตั้งแต่การเพาะปลุกจนไปจนถึงการกรีดยาง และทำยางแผ่น โดนนายทุนเหล่านี้ก็จะเข้ามาซื้อยางเหล่านี้ไปเอง เหมือนการยืมพื้นที่ในต่างประเทศในการผลิตวัตถุดิบที่ตนเองต้องการ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในประเทศตนเอง เป็นรูปแบบเดียวกับเกษตรพันธะสัญญาที่เจ้าของธุรกิจใหญ่ในไทยทำอยู่
สำหรับปริมาณการปลูกยางในตอนนี้นั้น เติบโตและขยายวงกว้างแบบก้าวกระโดดมากๆ เนื่องจากรัฐบาลเองไม่สามารถควบคุมได้ เพราะพื้นหลายส่วนดูแลโดยชนกลุ่มน้อย ปริมาณยางในพม่าตอนนี้อาจเกือบเท่ากับประเทศไทยหรืออาจมากกว่าก็เป็นได้ ที่สำคัญเป็นผลผลิตที่มีผู้ซื้อแน่นอน และมีแนวโน้มที่จะเติบโตแบบก้าวกระโดดแบบนี้ในทุกๆปี ไม่เพียงแค่ยางพาราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลผลิตชนิดอื่นๆอีกหลายชนิดด้วย
ถามว่าแล้วเรื่องเหล่านี้ส่งผลกระทบอะไรต่อประเทศไทย??? ปัญหาแรกที่ส่งผลกระทบแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ปัญหาหมอกควันที่เข้ามา ทำเอาคนเหนือ หายใจติดขัด แสบตา เครื่องบินมีปัญหากันทุกๆปี และมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้นในทุกๆปี ปัญหานี้ยังเป็นปัญหาที่ไม่หนักมาก หากเทียบปัญหาที่คนไทยเราจะเจอในอนาคต เพราะในอนาคตยางพาราราคาตกไม่ต้องบ่นทำใจรอได้เลย ผลผลิตทางการเกษตรอื่นก็คงตามๆกันไป เพราะต่างประเทศทีตลาดใหม่ที่น่าสนใจกว่า พม่าคงจะขยับมาไล่บี้พี่ไทยแน่นอน อาจถึงขั้นเขี่ยพี่ไทยตกเลยด้วยถ้าการบริหารประเทศไทยยังเป็นแบบนี้ ประเทศพม่าเริ่มเปิดประเทศ และยังเพรียบพร้อมด้วยทรัพยากรที่มากมาย ที่ประเทศไหนก็อยากเข้าไป แถมยังติดทั้งจีน อินเดีย ถ้าจัดการเรื่องชนกลุ่มน้อยลงตัว พม่าหรือเมียนม่าผงาดในอาเซียนแน่นอน อนาคตพี่ไทยเราคงหนาวๆร้อนๆแน่นอน เอาจริงๆเราควรรู้ตัวได้แล้ว ตอนนี้ไทยดูเงียบๆไม่เคยรู้เลยว่าข้างๆบ้านเค้าซุ่มทำไรอยู่ แต่ตอนนี้ก็สูดดมหมอกควันจากเพื่อนบ้านไปก่อนนะจ๊ะ (ความเห็นส่วนตัวนะครับ มีอะไรแลกเปลี่ยนได้เลยครับผม)
ปัญหาหมอกควันภาคเหนือตอนบนไม่ใช่แค่มลภาวะ แต่เป็นปัญหาเศรษกิจระหว่างประเทศ
ปัญหาหมอกควันในเขตภาคเหนือตอนบนเป็นปัญหาที่มีมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยหมอกควันภาคเหนือนั้นจะเข้ามาในช่วงฤดูร้อนของทุกปี หมอกควันในภาคเหนือนั้นจริงๆแล้วไม่ใช่หมอกควันจากการเผาในประเทศไทย แต่เป็นการเผาในประเทศเมียนม่าเพื่อนบ้านของเรานี่เอง และแน่นอนปริมาณควันที่มากขนาดนี้เกิดจากการเผาป่าจำนวนมากๆ แบบมหาศาล เพื่อปลูกพืชสำคัญทางเศรษฐกิจหลายๆชนิด
การเผาป่าจำนวนมากๆในทุกๆปีนี่เองที่บ่งบอกถึงการขยายตัวของการเพาะปลูกที่ไม่ใช่สำหรับภาคครัวเรือนอีกต่อไป แต่เป็นการผลิตเพื่อป้อนให้แก่อุตสหกรรมขนาดใหญ่ๆ มากๆๆ อันดับต้นๆของโลก ไม่ต้องบอกก็พอจะรู้ว่าเป็นอุตสหกรรมในประเทศจีน ซึ่งการเพาะปลูกในประเทศพม่าตอนนี้ ส่วนใหญ่เป็นการปลูกพืชที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ทั้งยางพารา กล้วย ข้าวโพด และอีกหลายๆชนิด แต่ส่วนใหญ่เป็นปลูกยางพารา โดยกลุ่มนายทุนชาวจีนที่เข้ามาลงทุน จะนำเมล็ดพันธุ์ที่ตัวเองต้องการ มาให้คนในพื้นที่ปลูก สนับสนุนต้นทุนหลายๆส่วน พร้อมทั้งเข้ามาให้ความรู้ต่างๆในการดูแล ตั้งแต่การเพาะปลุกจนไปจนถึงการกรีดยาง และทำยางแผ่น โดนนายทุนเหล่านี้ก็จะเข้ามาซื้อยางเหล่านี้ไปเอง เหมือนการยืมพื้นที่ในต่างประเทศในการผลิตวัตถุดิบที่ตนเองต้องการ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในประเทศตนเอง เป็นรูปแบบเดียวกับเกษตรพันธะสัญญาที่เจ้าของธุรกิจใหญ่ในไทยทำอยู่
สำหรับปริมาณการปลูกยางในตอนนี้นั้น เติบโตและขยายวงกว้างแบบก้าวกระโดดมากๆ เนื่องจากรัฐบาลเองไม่สามารถควบคุมได้ เพราะพื้นหลายส่วนดูแลโดยชนกลุ่มน้อย ปริมาณยางในพม่าตอนนี้อาจเกือบเท่ากับประเทศไทยหรืออาจมากกว่าก็เป็นได้ ที่สำคัญเป็นผลผลิตที่มีผู้ซื้อแน่นอน และมีแนวโน้มที่จะเติบโตแบบก้าวกระโดดแบบนี้ในทุกๆปี ไม่เพียงแค่ยางพาราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลผลิตชนิดอื่นๆอีกหลายชนิดด้วย
ถามว่าแล้วเรื่องเหล่านี้ส่งผลกระทบอะไรต่อประเทศไทย??? ปัญหาแรกที่ส่งผลกระทบแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ปัญหาหมอกควันที่เข้ามา ทำเอาคนเหนือ หายใจติดขัด แสบตา เครื่องบินมีปัญหากันทุกๆปี และมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้นในทุกๆปี ปัญหานี้ยังเป็นปัญหาที่ไม่หนักมาก หากเทียบปัญหาที่คนไทยเราจะเจอในอนาคต เพราะในอนาคตยางพาราราคาตกไม่ต้องบ่นทำใจรอได้เลย ผลผลิตทางการเกษตรอื่นก็คงตามๆกันไป เพราะต่างประเทศทีตลาดใหม่ที่น่าสนใจกว่า พม่าคงจะขยับมาไล่บี้พี่ไทยแน่นอน อาจถึงขั้นเขี่ยพี่ไทยตกเลยด้วยถ้าการบริหารประเทศไทยยังเป็นแบบนี้ ประเทศพม่าเริ่มเปิดประเทศ และยังเพรียบพร้อมด้วยทรัพยากรที่มากมาย ที่ประเทศไหนก็อยากเข้าไป แถมยังติดทั้งจีน อินเดีย ถ้าจัดการเรื่องชนกลุ่มน้อยลงตัว พม่าหรือเมียนม่าผงาดในอาเซียนแน่นอน อนาคตพี่ไทยเราคงหนาวๆร้อนๆแน่นอน เอาจริงๆเราควรรู้ตัวได้แล้ว ตอนนี้ไทยดูเงียบๆไม่เคยรู้เลยว่าข้างๆบ้านเค้าซุ่มทำไรอยู่ แต่ตอนนี้ก็สูดดมหมอกควันจากเพื่อนบ้านไปก่อนนะจ๊ะ (ความเห็นส่วนตัวนะครับ มีอะไรแลกเปลี่ยนได้เลยครับผม)