[SR] ไก่เขี่ยรีวิว ตอน .... Galaxy S7 EDGE จัดเต็ม จัดหนัก ในร่าง(เกือบ)ใหม่ ...

           ลับมาพบกันอีกครั้งตามคำเรียกร้อง (ใครเรียกแก ??)

                     คราวนี้รีวิวไก่เขี่ยจะแตกต่างไปนิดหน่อยตรงที่ ไม่ต้องซื้อเครื่องเองแล้ววุ๊ยยย ......  ไม่ต้องควักตังค์เอง ขาดทุนเอง ก็ต้องขอขอบพระคุณทางซัมซุงไทยแลนด์ที่ช่วยส่งเครื่องมาให้ผมเขี่ยเล่นนะครับ

                     แต่สำหรับท่านผู้อ่านอย่าได้กังวลไป ผมก็ยังคงรีวิว ”ไก่เขี่ย” ตามสไตล์ของผมอยู่ดี อย่าคิดว่าผมจะอวยล้ำเหลือ หรือด่าเละเทะ นั่นไม่ใช่สไตล์ผมครับ ว่ากันไปตามความรู้สึกผมครับ

                     เช่นเคยกับทุกรีวิวไก่เขี่ย ท่านจะได้พบกับการรีวิวแบบชุ่ยๆ (เอ๊ย ไม่ใช่สิ -_-“  !!!)  ต้องรีวิวแบบง่ายๆสบายๆ เน้นรูปภาพ เหมือนตัวท่านได้มาจับถือเอง (เหรอออออ ??)  รีวิวไก่เขี่ยไม่เน้นข้อมูลเบื้องลึก ไม่มีข้อมูลเป็นทางการ แต่เน้นใช้งานสไตล์ผู้ใช้บ้านๆที่ไม่ค่อยรู้อะไรมากทั่วๆไป อะไรว่าดีก็ชม อะไรว่าแย่ก็บ่น เพราะผมถือคติว่า “โลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ” ..นะแจ๊ะ ...


เข้าเรื่องดีกว่า โม้มานานละ ...



                    ในที่สุดก็ได้เวลาแล้ววว ของการกลับมาของทายาทสืบทอดในตระกูล “S” ซึ่งคราวนี้มาถึงกันในเจเนอเรชั่นที่ 7 แล้วเชียว (ว่าไปแล้วผมทันทุกตัวแลยแฮะ แก่ลงๆทุกที เอิ๊กๆๆ)

                    ปีที่แล้ว เราได้พบกับเจเนอเรชั่นที่ 6 ไปแล้ว ซึ่งได้แก่ Galaxy S6 / S6 edge / S6 edge Plus  ....เอิบบ ทำไมมันเยอะจัง (แถมท้ายปียังมี S6 edge Plus Toyota มาทำให้ตลาดป่วนอีก 555+)

                     มาในปีนี้เราก็จะได้พบกับทายาทรุ่น “7” ซึ่งมาในนามเดิมแต่เปลี่ยนเลขเท่านั้น วันนี้ผมก็ได้เอา 1 ในตระกูลนี้ มาไก่เขี่ยให้ชมกันครับ นั่นก็คือ

.... แต่น แตน แต๊นนนนนนนน ....




Galaxy s7 edge (SM-G935FD)

                   หลายๆคนงง เอ๊ะ นายนัทหยิบมาผิดรุ่นหรือเปล่า นี่มัน S6 edge ไม่ใช่รึ ??? ( เออ..ว่าไป ผมก็แอบบงง 55+ ) แต่ไม่ผิดหรอกครับ แม้หน้าตาจะไม่กระโดดไปไกล แต่ไส้ในรับรองจัดมาเต็มกว่าเดิม แบบคุณๆต้องอึ้ง ทึ่ง เฉียวว (หรือเปล่า ??) ….






มาว่ากันในเรื่องของบอดี้ภายนอกกันก่อน

โดยเริ่มจาก “ด้านหน้า” เลยครับ  

เอิ่มม...จะบอกไงดี อะไรๆมันก็เหมือนเดิมนั่นล่ะ 555+

แต่ ........... !!! อย่าเพิ่งครับ ๆ ใจเย็นๆ กันก่อนนน  ... มันมีอะไรมากกว่าน้านนนครับ


หลักๆเลยในส่วนด้านหน้า

                    ด้านหน้าขอบบนและล่างจะโค้งมนขึ้น และที่สำคัญที่สุด จากทดสอบมา 1 อาทิตย์เต็มๆ ผมมั่นใจว่ากระจกหน้าจอมันทนทานรอยขนแมวได้ดีขึ้นมากกกกว่าเดิม(ก.ไก่ล้านกว่าตัว)

                    ซึ่งถ้าจำกันได้ตอน S6 edge วางขาย คนบ่นกันตรึมเลยล่ะครับ เรื่องขนแมวที่หน้าจอ แม้กระทั่งเพิ่งแกะกล่องก็พบรอยขนแมวกันแล้วก็มี แต่เหมือน S7 edge จะได้ทำการอุดช่องโหว่ตรงนี้มาแล้ว(ขอปรบมือให้ครับ)

                    แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียไปพร้อมๆกันก็คือ edge Screen ข้างๆนี่ล่ะครับ ยอมรับว่า มันสวย มันล้ำ แต่เราชอบเผลอไปโดนมันเสมอๆเวลาใช้งาน เช่นนอนหงายเล่นนี่เข้าขั้นลำบากเลยครับ และตอนถ่ายรูปก็มักจะเผลอไปโดน ไม่ขอบใดก็ขอบหนึ่ง ทำให้กดถ่ายรูปไม่ติดก็มี (ปัญหานี้คิดว่าการใส่เคสน่าจะช่วยได้ระดับนึงครับ)








ในส่วนของ “ด้านหลัง”

                    ด้านหลังในส่วนที่เปลี่ยนไปแน่นอนคือขอบสองข้างโค้ง (จะโค้งเหมือนNote5) และขอบกล้องที่นูน(น้อยลง)เยอะครับ ซึ่งเช่นกัน กระจกด้านหลังค่อนข้างทนทายาทเอาการ (ต่อขนแมวและรอยขีดข่วนต่างๆ)

                    แต่เรื่องการตกแล้วแตกอะไรนี่ มันพูดยากครับ มันแล้วแต่มุมแล้วแต่องศาที่เครื่องลงด้วย โดยธรรมชาติของกระจกนิรภัย มันก็มีจุดเปราะบางของมันอยู่ครับ ลงโดนจังหวะจะโคนมันก็ละเอียดได้ครับ (ซึ่งนั่นคือความซวยของท่านเองครับ เอิ๊กๆๆ)








ทีนี้มาดูโดยรอบกันหน่อย

                    ก็อย่างที่เห็นกันครับ คือไม่รู้จะบรรยายไปทำไม มันก็เหมือนๆกัน บรรยายไปเปลืองหน้ากระดาษเปล่าๆ ดูรูปกันเอาครับ (สรุป ผมขี้เกียจนั่นเอง 55+)
                    อ้อ..เพิ่มเติมนิดนึง ลักษณะทางกายภาพของบอดี้รวมถึงน้ำหนัก ผมว่าจุดนี้คือจุดที่พัฒนาขี้นมานะ

                    ไม่ว่าจะบอดี้หน้าจอหรือด้านหลังที่ดูแข็งขึ้น อีกทั้งยังสามารถจับได้ถนัดมือขึ้นกว่า S6 edge เดิมๆ (อันนี้ไม่ได้มโนเองนะ ผมเอาให้หลายๆคนทึ่เคยใช้ S6 edge มา ทดลองจับถือ เขาก็พูดเป็นเสียงเดียวกันหมดครับ) รวมถึงน้ำหนักของเครื่องที่มันค่อนข้างดูมีระดับดี คือ .... ผมจะพูดยังไงดีหว่า เอาเป็นว่ามันจับแล้วรู้สึก “แพง” ขึ้นกว่าเดิมละกัน 555+








ในส่วนของกล้องหลัง

กล้องหลังมันนูน “น้อยลง” กว่าเดิมเยอะ หากเทียบกับรุ่นพี่ S6 edge และ s6 edge plus








คุณสมบัติที่น่ายินดีอีกอย่างที่กลับเข้ามาในสมาร์ทโฟนตระกูล S อีกครั้งนั้นก็คือ เพิ่มเมมได้(อีก)แล้วว (เจนที่แล้วตัดทิ้งไป คนบ่นกันทั้งเมือง)

                    โดยครั้งนี้ Galaxy S7 edge รองรับสองซิมและยังเพิ่มเมม  ได้อีกด้วย ในถาดเดียวกัน โดยจะสามารถเลือกได้ว่าจะใส่นาโนซิมหรือไมโครเอสดีการ์ด หรือที่เรียกกันให้หรูๆว่า “ไฮบริดจ์ สล็อต” นั่นเอง








ย้อนมาเรื่องบอดี้อีกสักนิด ในเรื่องของการจับถือ

                    ขนาดของเครื่องเวลาอยู่ในมือ ผมว่ามันกำลัง “พอดี” ครับ ใหญ่ขึ้นกว่า S6 edge หน่อยนึง ซึ่งผลมาจากการขยายหน้าจอขึ้น จาก 5.1” กลายเป็น 5.5”

                    ในความรู้สึกของผม มันพอดีมือมากๆครับ บอดี้ถึงจะเงาๆแต่เวลาอยู่ในมือเปลือยๆ มันก็แน่นกระชับมือดี (แต่ระวังตอนมือแห้งๆครับอาจจะลื่นหลุดได้)








ทีนี้ เรามาดูภายในกันบ้างดีกว่า มาเปิดหน้าจอไปพร้อมๆกันครับผม

ระหว่างรอเครื่องเปิด มาดูสเป็คแบบคร่าวๆของ Samsung Galaxy S7 edge กันเบาๆ

- ตัวเครื่องมีขนาด 150.9x72.6x7.7 มิลลิเมตร น้ำหนัก 157 กรัม เป็นกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

- รองรับ 2 ซิมการ์ด โดยช่องซิมที่ 2 จะเป็นแบบ  “ไฮบริดจ์ สล็อต” เลือกใส่ระหว่าง นาโนซิม หรือ ไมโครเอสดี

- จอ 2K QHD SAMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ขอบจอโค้งทั้งสองด้าน

- มีปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home

- CPU : Octa-Core Samsung Exynos 8890

- GPU : Mali-T880

- RAM : LPDDR4 ขนาด 4GB

- หน่วยความจำภายในขนาด 32GB พร้อมรองรับ microSD สูงสุด 200GB

- กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้าง f/1.7 พร้อม OIS

- กล้องด้านหน้า 5 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/1.7

- ตัวเครื่องกันน้ำ-กันฝุ่นมาตรฐาน IP68

- แบตเตอรี่ 3600 mAh พร้อม Fast Charging และรองรับการชาร์จแบบไร้สาย

- มาพร้อม Android 6.0 Marshmallow








มาแว้วววว UI และ หน้าจอต่างๆ ...

                    Galaxy S7 edge มาพร้อม Android 6.0 ซึ่งแน่นอนใหม่ฝุดๆ ลื่นไหลได้ใจ ครอบทับไว้ด้วย TouchWiz UX ซึ่งก็เซมๆมีเปลี่ยนแปลงในส่วนของไอคอนสีสันเล็กๆน้อยๆ สามารถเปลี่ยนธีมได้เช่นเคย และมีให้โหลดอีกมากมายครับ

                     หน้าจอขนาด 5.5” เต็มตาขึ้น แต่ไม่ใหญ่เกินไป ใช้งานมือเดียวยังสบายๆ (แต่สำหรับสาวๆมือเล็ก ก็ระวังๆหน่อยนะครับ) และก็การใช้งานแรกๆอาจจะประสบปัญหาอุ้งมือไปโดนขอบข้างบ้าง ใช้ไปซักพักก็จะเริ่มปรับตัวได้คัรบ (ใส่เคสน่าจะช่วยได้ระดับนึงครับ)








ธีมและวอลเปเปอร์

ธีมและวอลเปเปอร์ต่างๆในเครื่องมีมาให้นิดหน่อยครับ ซึ่งก็มาในแนวสวยหรู สมกับหน้าตาเครื่องนั่นแล ซึ่งสามารถโหลดเพิ่มเติมได้ครับ








ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามานั่นก็คือ หน้าจอ Always On ความหมายตามชื่อเลยครับ...เปิดตลอด

                  “Always On” สามารถตั้งให้แสดงเป็นเวลา ปฎิทินหรือรูปต่างๆได้ ในส่วนนี้ทางซัมซุงเคลมไว้ว่ากินไฟน้อยมากกกกก ซึ่งเอาจริงๆจากที่ผมใช้มา 3 วัน ผมก็ว่ามันก็กินไฟน้อยจริงๆนั่นล่ะ แถมสะดวกในการใช้งานดีด้วยครับ แต่หากไม่ชอบก็สามารถปิดการใช้งานในส่วนนี้ได้ครับ








อีกหนึ่งฟังก์ชั่น “edge screen” ที่หากไม่มี ก็คงไม่น่าใช้ชื่อว่า edge มั้ง

                “Edge Screen” มาในคราวนี้ปรับแต่งได้เยอะขึ้น โหลดเพิ่มเติมได้ เรียกได้ว่าดูดีมีประโยชน์ขึ้น (ในส่วนของการแสดงนาฬิการวมถึงวางคว่ำเครื่อง แล้วโชว์สายเข้าเป็นไฟวิ๊งๆ ก็ยังทำได้เหมือนเดิมครับผม)








ในส่วนของการตั้งค่าต่างๆ

ก็คงสไตล์เดิมๆครับ ไม่ได้แปลกใหม่อะไรครับผม ( ไม่ต้องบรรยายเนาะ ขี้เกียจ 555+)








ส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากรุ่นเดิมมีในส่วนของ “คุณสมบัติขั้นสูง”

                 “คุณสมบัติขั้นสูง” ประกอบด้วยฟังก์ชั่นของคอเกมส์ที่ชื่อ “Game Launcher” ที่เรียกได้ว่า เอาใจคอเกมส์เต็มๆครับ (ความสามารถของฟังก์ชั่นนี้ลองหารีวิวแบบละเอียดๆเป็นทางการอ่านดูนะครับ (ผมไม่ใช่คอเกมส์ ออกความเห็นไม่ค่อยจะถูกนักครับ)

                     อีกส่วนก็คือ การตั้งค่าในส่วนของเสียง สามารถปรับอีควอไลเซอร์ได้ละเอียดขึ้น มีลูกเล่นมากขึ้น รวมถึงสุ้มเสียงที่ได้ ผมว่าดีขึ้นอีก (จากหูถั่วๆของผมเองนะ 55+)

                    ซึ่งในส่วนภายในของ Galaxy S7 edge ได้มีการใส่ชิพประมวลผลด้านเสียงมาด้วย หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า DAC รองรับเสียง Hifi แจ่มแมวกันเลยทีเดียวครับ








                     อีกส่วนนึงที่ผมไม่เจอใน Galaxy S6 edge ตัวเก่า (ตอนที่ผมใช้ มันยังไม่ได้อัพ 6.0 นะครับ) ก็คือการจัดเรียง ย้ายไอค่อน สามารถทำการจิ้มค้างแล้วลากไปไว้ด้านบนได้ โดยในความหมาย คือ ลากไปรวมกันหลายๆไอค่อนแล้วสั่งย้ายทีเดียว (ไม่ต้องคอยจิ้มลากๆๆไปทีละไอค่อน) ก็สะดวกดีครับ

                     สำหรับ อากง อาม่า ตั่วแปะ ซาโกว ที่อายุมากหน่อยหรือสายตาไม่ค่อยดี ก็มี UI ในแบบ “Easy Mode” ให้มาใช้ด้วยครับ ไอค่อนใหญ่สะจายยยยย
ชื่อสินค้า:   Galaxy S7 EDGE (SM-G935FD)
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่