สังเกตกันหรือเปล่าวว่าในงาน Apple Event ว่า Apple ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใส่ซิมของ iPad Pro 9.7 ทำให้หลายคนสงสัยว่า Tablet รุ่นนี้จะใส่ซิมอย่างไร ล่าสุด Apple ได้เผยว่า iPad Pro 9.7 นิ้วใช้ซิมแบบ embedded SIM คือซิมการ์ดจะฝั่งมากับเครื่อง ถอดเปลี่ยนไม่ได้
โดยการซื้อใช้งานนั้นต้องติดต่อผู้ให้บริการ เบื้องตนเป็นสหรัฐอเมริกาก่อนเช่น AT&T, Sprint หรือ T-Mobile วิธีการง่าย ๆ คือ คุณเดินเข้าไปร้านผู้ให้บริการ เลือกโปรโมชั่น และให้ผู้บริการใส่ข้อมูลลง iPad และใช้งานแค่เลือกผู้ให้บริการผ่าน iPad ได้เลย โดยไม่ต้องเสียบซิมการ์ดไปมา ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนค่ายด้วยเช่นเดียวกัน
ข้อดีของเทคโนโลยีนี้คือ ซิมการ์ดในตัวเครื่อง iPad Pro สามารถใช้งานได้ 90 ประเทศ(รวมประเทศไทย) และทำ Roaming ได้อย่างง่ายกว่า
และคาดว่า เทคโนโลยี e-SIM นี้จะอยู่ใน iPhone 7 ที่จะเปิดตัวในปลายปีนี้อีกด้วย แต่เทคโนโลยีนี้เกิดขึ้นครั้งแรกกับ Samsung Gear S2 เนื่องจากต้องการทำให้เครื่องบางลงและไม่มีที่ใส่ซิมอีกต่อไปนั่นเอง
จึงไม่แปลกใจว่า Apple Online Store ของประเทศไทยไม่เห็นราคาของรุ่น 4G ในตอนนี้
ที่มา
http://hitech.sanook.com/1404791/
เล็กแต่แรง ยืนยัน iPhone SE มาพร้อม 2GB RAM เท่า iPad Pro รุ่นใหม่!
iPhone อัพเดทข่าวล่าสุดกับ ป๋าเอก TechXcite อีกหนึ่งข้อมูลที่อาจทำให้ใครหลายคนยิ่งสนใจ iPhone SE มือถือหน้าจอ 4 นิ้วรุ่นใหม่กันมากขึ้น เมื่อมีผลการทดสอบจากคุณ Matthew Panzarino ทีมงานเว็บไซต์ TechCrunch ออกมายืนยันแล้วว่า iPhone SE นั้นจะมาพร้อมกับชิปเซ็ต A9 และ “2GB RAM” เทียบเท่ากับ iPhone 6s (และ iPhone 6s Plus) ที่ถือได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นปัจจุบันเลยด้วยซ้ำ
ที่มา
https://twitter.com/iPhone_Droid/status/712485952879341568
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าเสียดายว่าในส่วนของ iPad Pro รุ่นใหม่ขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้วที่เพิ่งเปิดตัวคู่กันนั้นมาพร้อมกับ 2GB RAM ด้วยเหมือนกัน ซึ่งถือว่ายังน้อยกว่า iPad Pro ขนาดหน้าจอ 12.9 นิ้วรุ่นท็อปตัวก่อนหน้านี้ที่เลือกใช้งาน 4GB RAM อยู่พอสมควรทีเดียว นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่าชิปเซ็ต A9X ใน iPad Pro หน้าจอ 9.7 นิ้วจะถูกปรับลดความเร็วให้น้อยกว่าของ iPad Pro หน้าจอ 12.9 นิ้วอีกต่างหาก (ส่วนกรณีของ iPhone SE นั้นดูเหมือนว่าจะไม่ได้ปรับลดแต่อย่างใด)
อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วคงขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานทั่วไปแล้วละครับว่าความแตกต่างด้านฮาร์ดแวร์ใน iPhone SE และ iPad Pro หน้าจอ 9.7 นิ้วจะส่งผลกระทบกับการใช้งานจริงกันมากน้อยขนาดไหนครับ
ที่มา
http://www.techxcite.com/topic/24964.html
Apple เผย iPad Pro 9.7 นิ้ว เป็นรุ่นแรกที่ใช้ซิมการ์ดแบบฝั่งในเครื่อง // ยืนยัน Iphone SE มากับ RAM 2GB
โดยการซื้อใช้งานนั้นต้องติดต่อผู้ให้บริการ เบื้องตนเป็นสหรัฐอเมริกาก่อนเช่น AT&T, Sprint หรือ T-Mobile วิธีการง่าย ๆ คือ คุณเดินเข้าไปร้านผู้ให้บริการ เลือกโปรโมชั่น และให้ผู้บริการใส่ข้อมูลลง iPad และใช้งานแค่เลือกผู้ให้บริการผ่าน iPad ได้เลย โดยไม่ต้องเสียบซิมการ์ดไปมา ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนค่ายด้วยเช่นเดียวกัน
ข้อดีของเทคโนโลยีนี้คือ ซิมการ์ดในตัวเครื่อง iPad Pro สามารถใช้งานได้ 90 ประเทศ(รวมประเทศไทย) และทำ Roaming ได้อย่างง่ายกว่า
และคาดว่า เทคโนโลยี e-SIM นี้จะอยู่ใน iPhone 7 ที่จะเปิดตัวในปลายปีนี้อีกด้วย แต่เทคโนโลยีนี้เกิดขึ้นครั้งแรกกับ Samsung Gear S2 เนื่องจากต้องการทำให้เครื่องบางลงและไม่มีที่ใส่ซิมอีกต่อไปนั่นเอง
จึงไม่แปลกใจว่า Apple Online Store ของประเทศไทยไม่เห็นราคาของรุ่น 4G ในตอนนี้
ที่มา http://hitech.sanook.com/1404791/
iPhone อัพเดทข่าวล่าสุดกับ ป๋าเอก TechXcite อีกหนึ่งข้อมูลที่อาจทำให้ใครหลายคนยิ่งสนใจ iPhone SE มือถือหน้าจอ 4 นิ้วรุ่นใหม่กันมากขึ้น เมื่อมีผลการทดสอบจากคุณ Matthew Panzarino ทีมงานเว็บไซต์ TechCrunch ออกมายืนยันแล้วว่า iPhone SE นั้นจะมาพร้อมกับชิปเซ็ต A9 และ “2GB RAM” เทียบเท่ากับ iPhone 6s (และ iPhone 6s Plus) ที่ถือได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นปัจจุบันเลยด้วยซ้ำ
ที่มาhttps://twitter.com/iPhone_Droid/status/712485952879341568
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าเสียดายว่าในส่วนของ iPad Pro รุ่นใหม่ขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้วที่เพิ่งเปิดตัวคู่กันนั้นมาพร้อมกับ 2GB RAM ด้วยเหมือนกัน ซึ่งถือว่ายังน้อยกว่า iPad Pro ขนาดหน้าจอ 12.9 นิ้วรุ่นท็อปตัวก่อนหน้านี้ที่เลือกใช้งาน 4GB RAM อยู่พอสมควรทีเดียว นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่าชิปเซ็ต A9X ใน iPad Pro หน้าจอ 9.7 นิ้วจะถูกปรับลดความเร็วให้น้อยกว่าของ iPad Pro หน้าจอ 12.9 นิ้วอีกต่างหาก (ส่วนกรณีของ iPhone SE นั้นดูเหมือนว่าจะไม่ได้ปรับลดแต่อย่างใด)
อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วคงขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานทั่วไปแล้วละครับว่าความแตกต่างด้านฮาร์ดแวร์ใน iPhone SE และ iPad Pro หน้าจอ 9.7 นิ้วจะส่งผลกระทบกับการใช้งานจริงกันมากน้อยขนาดไหนครับ
ที่มา http://www.techxcite.com/topic/24964.html