ทำไมทหารโรมันถึงได้กลัวพระเยซู ?
ทั้งๆที่เป็นยุคที่จักรวรรดิโรมันนั้นเจริญรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ที่สุด ปกครองทุกประเทศรอบๆทะเลเมดิเตอเรเนียนและขยายอาณาบริเวณกว้างไปถึงทวีปแอฟริกาและทวีปเอเซีย แล้วทำไมถึงต้องจริงจังและหวั่นเกรงกับบุคคลตัวเล็กๆเพียงแค่คนเดียว ?
จริงอยู่ว่าการปกครองของจักรวรรดิโรมันในสมัยนั้นเหี้ยมโหดมาก และไม่ใช่เพียงแค่พระเยซูคนเดียวเท่านั้นที่ถูกฆ่าด้วยวิธีตรึงประจานบนไม้กางเขน แต่ทว่าคนทุกคนที่ปลุกระดมคนให้เป็นปริปักษ์ต่อจักรวรรดิโรมันหรือปลุกระดมคนให้ลุกฮือต่อต้านจักรวรรดิโรมันนั้นล้วนถูกตรึงประจานบนไม้กางเขนทั้งสิ้น ว่ากันว่ามีคนถูกทหารโรมันจับขึ้นตรึงบนไม้กางเขนตกวันละ 500 คนเลยทีเดียว ซึ่งก็พอที่จะเดาได้ว่าอาณาจักรโรมันนั้นไม่ได้คาดหวังที่จะปกครองคนเหล่านั้นด้วยความเข้าใจ แต่ปกครองคนเหล่านั้นให้ก้มหน้าก้มตาอยู่ใต้อำนาจได้ด้วยความกลัว เสมือนกับการเชือดไก่ให้ลิงดู การตรึงคนบนไม้กางเขนนั้นเป็นการทรมาณที่เจ็บปวดและยาวนาน การที่ตะปูเหล็กถูกตอกทะลุกล้ามเนื้อและกระดูกข้อมือทั้ง 2 ข้าง และกลายเป็นจุดที่ต้องรับน้ำหนักทั้งหมดของร่างกาย คนที่ถูกตรึงจะต้องทนความเจ็บปวดและร้องโหยหวนอยู่บนนั้นเป็นเวลาหลายวันกว่าจะสิ้นใจตาย ถือว่าเป็นจุดจบที่ใครๆก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองเลย แต่ในทางกลับกันกลับมีคนจำนวนไม่น้อยที่ต่อต้านและถูกกำจัดทิ้งด้วยวิธีต่างๆนานาสารพัดไม่เว้นแต่ละวัน จึงมีความเป็นไปได้ว่าผู้คนส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถทนอยู่กับการปกครองภายใตจักรวรรดิ์โรมันมากกว่าที่จะเกรงกลัวต่อความตายอย่างทรมาณ และนั่นคือคำถามที่สงสัยในการตายของพระเยซู
จักรวรรดิโรมันไม่ได้กลัวการตายของพระเยซู แต่กลัวคำทำนายที่ว่า พระเยซูจะฟื้นกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งหลังจากวันที่ตายไปแล้ว 3 วัน นั่นคือสิ่งที่จักรวรรดิโรมันเป็นกังวล ความกลัวต่อสิ่งลึกลับที่จะกลายเป็นจริงและปลุกระดมคนให้เกิดพลังความศรัทธาทำให้จักรวรรดิโรมันพยายามทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น แต่ตามประวัติศาสตร์และพระคำภีร์ที่ตกทอดสืบกันมาแล้ว ก็เป็นสิ่งที่พอจะยืนยันได้ว่าจักรวรรดิโรมันไม่สามารถที่จะหยุดยั้งปรากฏการณ์มหศจรรย์นี้ได้ ทำให้เกิดการเข้าสู่ศรัทธาแห่งคริสต์จักรและเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิโรมันล่มสลายในเวลาต่อมา แม้ว่าความเชื่อในศาสนาจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้จักรวรรดิ์โรมันแตกแยก จากที่แต่ก่อนเดิมทีชาวโรมันนับถือเทพเจ้ากรีกแต่ล่ะองค์แตกต่างกันไป แต่ก็ยังมีสาเหตุอื่นๆที่เกิดจากความบกพร่องในการปกครอง ความไม่รู้จักพอในการเข้าครอบครองขยายอาณาเขต และอีกหลายอย่างที่ทำให้จักรวรรดิโรมันล่มสลายอีกเช่นกัน อย่างไรก็ดี สิ่งที่สอนให้เราได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดินั่นก็คือ “จิตใจ”
“จิตใจ” คือศูนย์รวมของทุกสิ่ง และเป็นสิ่งที่ทางจักรวรรดิโรมันไม่ถนัดในการดูแลเอาใจใส่ได้ดีสักเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำของชีวิตความเป็นอยู่ ความโหดเหี้ยมของการปกครอง การเก็บภาษีจนมากเกินไป ซึ่งก็ก่อให้เกิดความลุกลามไปถึงการลอบสังหารตัวจักรพรรดิกันเลยทีเดียว "จิตใจ" จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถบ่งชี้ถึงความสำเร็จในการปกครองผู้คน นานหลายศตวรรษที่คนเราใช้ความ “ศรัทธา” หาผลประโยชน์จาก “จิตใจ” และก็ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่อะไรที่ความศรัทธาหรือศาสนาก่อให้เกิดปัญหามากมายจากอดีตจนถึงปัจจุบัน เราถูกศาสนาทำให้เราเกิดความกลัวอีกครั้งหนึ่ง ไม่ต่างอะไรจากยุคสมัยของจักรวรรดิโรมันที่เคยใช้กำลังปกครองเราด้วยความกลัว เรากลัวความยากจน กลัวอำนาจเหนือธรรมชาติ กลัวความแตกต่าง กลัวในความศักดิ์สิตย์ เราต่างกลายเป็นเครื่องมือทางศาสนาและยังไม่มีวี่แววว่าอาณาจักรนี้จะล่มสลายลงเมื่อไหร่ จากศรัทธาที่บริสุทธิ์ กลายเป็นความเชื่อที่งมงาย จากสิ่งที่มีไว้ชี้นำกลับกลายเป็นสิ่งที่ใช้แบ่งแยกทำให้เกิดความแตกต่าง บางครั้งเราคงลืมไปแล้วว่าแรกเริ่มเดิมทีนั้นศาสนาได้เกิดขึ้นมาเพราะอะไร และอะไรคือสิ่งที่ทำให้เราอยู่ร่วมกันได้อย่างร่มเย็นเป็นสุข และทำให้เราใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยความพอดี
Risen เป็นหนังที่ว่าด้วยเรื่องของการกำเนิดพลังความศรัทธาล้วนเลยๆ แม้ในตอนแรกอาจมีการเล่าเรื่องที่ดูแตกต่างออกไปและน่าสนใจอยู่บ้าง แต่รวมๆแล้ว Risen ทำออกมาเหมือนหนังที่ใช้เผยแพร่ศาสนา มีหลายอย่างที่เรารู้อยู่แล้ว และตัวหนังก็พยายามจะยัดเยียดให้เราด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่เชยๆจนทำให้รู้สึกว่า นี่เรากำลังดูหนังสารคดีเผยแพร่ศาสนาช่วงวันขอบคุณพระเจ้าหรืออย่างไร ? ทำให้ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้แทบจะไม่มีเลย มีเพียงแค่การถ่ายทอดสิ่งต่างๆเหล่านี้ออกมาเป็นภาพที่ดูได้เรื่อยๆเท่านั้น
แต่สำหรับใครที่มีศรัทธาในศาสนาแรงกล้าอยู่แล้วและอยากพาลูกหลานมาดูหนังเรื่องนี้เหมือนสื่อการเรียนการสอนอย่างหนึ่ง ก็ขอเชิญครับ อาจมีภาพความรุณแรงอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นหนังที่เชื่อมโยงกับความเชื่อทางศาสนา (และประวัติศาสตร์) ได้ดี
กดเข้าไปอ่านรีวิวเรื่องอื่นๆได้นะครับ
https://nospoil.wordpress.com/2016/03/21/risen/
ทำไมทหารโรมันถึงได้กลัวพระเยซู ? [มุมมองจากภาพยนตร์เรื่อง Risen]
ทำไมทหารโรมันถึงได้กลัวพระเยซู ?
ทั้งๆที่เป็นยุคที่จักรวรรดิโรมันนั้นเจริญรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ที่สุด ปกครองทุกประเทศรอบๆทะเลเมดิเตอเรเนียนและขยายอาณาบริเวณกว้างไปถึงทวีปแอฟริกาและทวีปเอเซีย แล้วทำไมถึงต้องจริงจังและหวั่นเกรงกับบุคคลตัวเล็กๆเพียงแค่คนเดียว ?
จริงอยู่ว่าการปกครองของจักรวรรดิโรมันในสมัยนั้นเหี้ยมโหดมาก และไม่ใช่เพียงแค่พระเยซูคนเดียวเท่านั้นที่ถูกฆ่าด้วยวิธีตรึงประจานบนไม้กางเขน แต่ทว่าคนทุกคนที่ปลุกระดมคนให้เป็นปริปักษ์ต่อจักรวรรดิโรมันหรือปลุกระดมคนให้ลุกฮือต่อต้านจักรวรรดิโรมันนั้นล้วนถูกตรึงประจานบนไม้กางเขนทั้งสิ้น ว่ากันว่ามีคนถูกทหารโรมันจับขึ้นตรึงบนไม้กางเขนตกวันละ 500 คนเลยทีเดียว ซึ่งก็พอที่จะเดาได้ว่าอาณาจักรโรมันนั้นไม่ได้คาดหวังที่จะปกครองคนเหล่านั้นด้วยความเข้าใจ แต่ปกครองคนเหล่านั้นให้ก้มหน้าก้มตาอยู่ใต้อำนาจได้ด้วยความกลัว เสมือนกับการเชือดไก่ให้ลิงดู การตรึงคนบนไม้กางเขนนั้นเป็นการทรมาณที่เจ็บปวดและยาวนาน การที่ตะปูเหล็กถูกตอกทะลุกล้ามเนื้อและกระดูกข้อมือทั้ง 2 ข้าง และกลายเป็นจุดที่ต้องรับน้ำหนักทั้งหมดของร่างกาย คนที่ถูกตรึงจะต้องทนความเจ็บปวดและร้องโหยหวนอยู่บนนั้นเป็นเวลาหลายวันกว่าจะสิ้นใจตาย ถือว่าเป็นจุดจบที่ใครๆก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองเลย แต่ในทางกลับกันกลับมีคนจำนวนไม่น้อยที่ต่อต้านและถูกกำจัดทิ้งด้วยวิธีต่างๆนานาสารพัดไม่เว้นแต่ละวัน จึงมีความเป็นไปได้ว่าผู้คนส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถทนอยู่กับการปกครองภายใตจักรวรรดิ์โรมันมากกว่าที่จะเกรงกลัวต่อความตายอย่างทรมาณ และนั่นคือคำถามที่สงสัยในการตายของพระเยซู
จักรวรรดิโรมันไม่ได้กลัวการตายของพระเยซู แต่กลัวคำทำนายที่ว่า พระเยซูจะฟื้นกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งหลังจากวันที่ตายไปแล้ว 3 วัน นั่นคือสิ่งที่จักรวรรดิโรมันเป็นกังวล ความกลัวต่อสิ่งลึกลับที่จะกลายเป็นจริงและปลุกระดมคนให้เกิดพลังความศรัทธาทำให้จักรวรรดิโรมันพยายามทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น แต่ตามประวัติศาสตร์และพระคำภีร์ที่ตกทอดสืบกันมาแล้ว ก็เป็นสิ่งที่พอจะยืนยันได้ว่าจักรวรรดิโรมันไม่สามารถที่จะหยุดยั้งปรากฏการณ์มหศจรรย์นี้ได้ ทำให้เกิดการเข้าสู่ศรัทธาแห่งคริสต์จักรและเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิโรมันล่มสลายในเวลาต่อมา แม้ว่าความเชื่อในศาสนาจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้จักรวรรดิ์โรมันแตกแยก จากที่แต่ก่อนเดิมทีชาวโรมันนับถือเทพเจ้ากรีกแต่ล่ะองค์แตกต่างกันไป แต่ก็ยังมีสาเหตุอื่นๆที่เกิดจากความบกพร่องในการปกครอง ความไม่รู้จักพอในการเข้าครอบครองขยายอาณาเขต และอีกหลายอย่างที่ทำให้จักรวรรดิโรมันล่มสลายอีกเช่นกัน อย่างไรก็ดี สิ่งที่สอนให้เราได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดินั่นก็คือ “จิตใจ”
“จิตใจ” คือศูนย์รวมของทุกสิ่ง และเป็นสิ่งที่ทางจักรวรรดิโรมันไม่ถนัดในการดูแลเอาใจใส่ได้ดีสักเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำของชีวิตความเป็นอยู่ ความโหดเหี้ยมของการปกครอง การเก็บภาษีจนมากเกินไป ซึ่งก็ก่อให้เกิดความลุกลามไปถึงการลอบสังหารตัวจักรพรรดิกันเลยทีเดียว "จิตใจ" จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถบ่งชี้ถึงความสำเร็จในการปกครองผู้คน นานหลายศตวรรษที่คนเราใช้ความ “ศรัทธา” หาผลประโยชน์จาก “จิตใจ” และก็ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่อะไรที่ความศรัทธาหรือศาสนาก่อให้เกิดปัญหามากมายจากอดีตจนถึงปัจจุบัน เราถูกศาสนาทำให้เราเกิดความกลัวอีกครั้งหนึ่ง ไม่ต่างอะไรจากยุคสมัยของจักรวรรดิโรมันที่เคยใช้กำลังปกครองเราด้วยความกลัว เรากลัวความยากจน กลัวอำนาจเหนือธรรมชาติ กลัวความแตกต่าง กลัวในความศักดิ์สิตย์ เราต่างกลายเป็นเครื่องมือทางศาสนาและยังไม่มีวี่แววว่าอาณาจักรนี้จะล่มสลายลงเมื่อไหร่ จากศรัทธาที่บริสุทธิ์ กลายเป็นความเชื่อที่งมงาย จากสิ่งที่มีไว้ชี้นำกลับกลายเป็นสิ่งที่ใช้แบ่งแยกทำให้เกิดความแตกต่าง บางครั้งเราคงลืมไปแล้วว่าแรกเริ่มเดิมทีนั้นศาสนาได้เกิดขึ้นมาเพราะอะไร และอะไรคือสิ่งที่ทำให้เราอยู่ร่วมกันได้อย่างร่มเย็นเป็นสุข และทำให้เราใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยความพอดี
Risen เป็นหนังที่ว่าด้วยเรื่องของการกำเนิดพลังความศรัทธาล้วนเลยๆ แม้ในตอนแรกอาจมีการเล่าเรื่องที่ดูแตกต่างออกไปและน่าสนใจอยู่บ้าง แต่รวมๆแล้ว Risen ทำออกมาเหมือนหนังที่ใช้เผยแพร่ศาสนา มีหลายอย่างที่เรารู้อยู่แล้ว และตัวหนังก็พยายามจะยัดเยียดให้เราด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่เชยๆจนทำให้รู้สึกว่า นี่เรากำลังดูหนังสารคดีเผยแพร่ศาสนาช่วงวันขอบคุณพระเจ้าหรืออย่างไร ? ทำให้ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้แทบจะไม่มีเลย มีเพียงแค่การถ่ายทอดสิ่งต่างๆเหล่านี้ออกมาเป็นภาพที่ดูได้เรื่อยๆเท่านั้น
แต่สำหรับใครที่มีศรัทธาในศาสนาแรงกล้าอยู่แล้วและอยากพาลูกหลานมาดูหนังเรื่องนี้เหมือนสื่อการเรียนการสอนอย่างหนึ่ง ก็ขอเชิญครับ อาจมีภาพความรุณแรงอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นหนังที่เชื่อมโยงกับความเชื่อทางศาสนา (และประวัติศาสตร์) ได้ดี
กดเข้าไปอ่านรีวิวเรื่องอื่นๆได้นะครับ
https://nospoil.wordpress.com/2016/03/21/risen/