สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
จากรูปที่เห็นเลย เกี่ยวกับแมลง คือ เพลี้ยไฟ กับ ไรแดง พวกนี้เป็นตัวที่เจอเสมอเมื่อปลูกหุหลาบ
ปกติพวกนี้ต้องใช้ยาสำหรับฆ่าพวกนี้โดยตรงเลย การตัดทิ้งอย่างเดียวไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูก
ส่วนโรคยังไม่เห็น
แต่ถ้าไม่ใช้แล้วจะเอาวิธีปลอดภัย
ที่เค้าใช้กันก็น้ำส้มควันไม้หรือไวท์ออยส์ที่เป็นน้ำมันปิโตรเลียมจับผิวใบ
ผสมให้จางระดับฉีดใส่แมลงแต่ต้องพ่นบ่อยๆ แต่ไม่ถึงกับทุกวันนะ พวกนี้จะร้อนต่อต้นไม้เหมือนยาฆ่าแมลงด้วย พ่นบ่อยเกินไปใบไหม้
แต่ถ้าไม่ใช้ยา วิธีไล่แบบพื้นฐานแต่ไม่ได้ผล100%นะ ให้เอาน้ำพ่นหรือรดใส่ให้กุหลาบเปียกทั้งพุ่มเลยโดยเฉพาะใต้ไบ
แมลงพวกนี้ไม่ชอบน้ำ ถึงจะฆ่าไม่ได้แต่ก็พอไล่ไปได้แปบนึง ตอนที่ต้นเปียก อย่างน้อยก็จะไม่มาสุมหัวกินกุหลาบตลอดเวลา
สำหรับไรแดงถ้าใต้ใบเปียกน้ำทุกวันมันจะย้ายหนีเอง เพลี้ยไฟยังอยู่แต่น่าจะลดความเสียหายลงได้บ้าง
ส่วนยาฆ่าแมลงทั่วไปที่ควรใส่ทุกเดือนคือสตาเกิ้ลจี แบบโรยลงดิน
ถึงจะใช้จัดการพวกนี้ไม่ได้แต่ก็พอกันแมลงอย่างมดไม่ให้ไปทำรังในกระถางได้
และไล่แมลงบางอย่างไม่ให้มากินกุหลาบได้
ส่วนที่กุหลาบไม่เคยเห็นดอกและต้นอ่อนแอลงเรื่อยๆจนตาย
เราว่าสาเหตุน่าจะมาจากเครื่องปลูกที่ใช้ ถ่ายเทน้ำและอากาศไม่ดี เป็นแบบที่ดินมากแฉะและแน่น นอกจากเรื่องตัดกิ่งมากไป
จากที่เห็นเดาว่าคุณ ตอนแกะกระถางออก เครื่องปลูกเป็นดินเหนียวกับแกลบก็ไม่ได้เอาทิ้งออกไปเลยใช่ไหม แล้วก็ยังใส่ดินเพิ่มอีก
แกลบดิบกับดินเหนียวนานๆเข้าพอแกลบผุรวมกับดินเหนียวจะจับกันแน่นจะน้ำและอากาศผ่านไม่ได้
นี่เป็นจุดสำคัญอย่างแรกที่ทำให้กุหลาบอ่อนแอ ถ้าต้นไม้รากไม่แข็งแรงก็ยากต้นจะสมบูรณ์ได้
รากกุหลาบจะไม่ทนต่อเครื่องปลูกที่แน่น น้ำและอากาศถ่ายเทไม่ดี ***นี่เป็นจุดที่ต่างกับต้นไม้ทั่วไป***
พวกที่ปลูกกุหลาบมือใหม่ ส่วนใหญ่นี่เป็นจุดแรกที่จะพลาดกันและเป็นจุดสำคัญจุดนึงที่ถ้าทำไม่ถูกยังไงก็ไม่ขึ้น
เครื่องปลุกกุหลาบต้องมีคุณสมบัติน้ำและอากาศถ่ายเทได้ดี ในขณะเดียวกันต้องเก็บน้ำและความชื้นไว้ส่วนนึงได้ด้วย
คือหมาดๆชื้นๆ แต่ไม่ถึงกับแฉะมาก
คุณว่ามีอีฟลีนกับคริสโตเฟอร์ มาโลว์ใช่ไหม
จำได้ว่าพวกนั้นอยู่กลุ่มกุหลาบอังกฤษ ตามหลักพวกนี้น่าจะทนมากและออกดอกเก่ง ถ้ามันไม่งามน่าจะมาจากรากมีปัญหา
ถ้าจะแก้ เท่าที่เราคิดนะ แต่คุณจะทำได้หรือเปล่า
เราขอเสนอให้เปลี่ยนเครื่องปลูกใหม่ให้ถูกต้องก่อน โดยทำให้เหมือนกับปลูกกุหลาบใหม่เลย
หลังเปลี่ยนแล้วเอา แอบแดด แอบลม ให้ต้นมันปรับสภาพ7วันก่อน ถึงเอาออกมากลางแจ้งอย่างเก่า
โดยหลังเอาออกจากกระถางแล้วให้พยายามแกะเอาดินรอบๆโคนต้นไล่จากขอบกระถางเข้ามาโดยเอาดินออกไปสักครึ่งนึง
โดยพยายามแกะแล้วให้รากขาดน้อยที่สุด ถ้าดินจับกันแน่นเอามือแกะให้ล่อนออกไม่ได้ก็ลองเอาน้ำราดให้ดินละลายออกมา
สำคัญมากแกะยังไงก็ได้โดยระวังรากอย่าให้ขาดเยอะ ยิ่งขาดมากรากยิ่งเสียหายมาก
หลังจากนั้นในกระถางชั้นล่างสุดเอากาบมะพร้าวสับหยาบรองก้นกระถางให้หนาระดับนึงก่อนเพื่อกับดินไปอุดช่องระบายน้ำ
จากนั้นเอาอินทรีย์วัตถุหยาบๆ อย่างเปลือกถั่วลิสงหรือใบก้ามปู พร้อมกับผงแร่ เพอร์ไลท์กับเวอร์มิคูไลท์ รองบนกาบมะพร้าวนั้น
ต่อมาเอากุหลาบที่เอาดินออกครึ่งนึงวางตรงกลาง
ในจังหวะนี้ให้เอาปุ๋ยกระดูกสัตว์ มาโรยใส่ไว้ตรงรากด้วย โรยตามโคนต้นและรากเลย ให้รากสัมผัสกับปุ๋ยนี้โดยตรงเลย
ปุ๋ยนี้จะกระตุ้นรากกุหลาบให้เดินเร็วขึ้น และปุ๋ยนี้จะค่อยๆปลดปล่อยออกมาทีละนิดโดยไม่ทำให้รากกุหลาบไหม้
จากนั้นเอาเปลือกถั่วหรือใบก้ามปูผสมกับผงแร่ะเพอร์ไล์กับเวอร์มิคูไลท์
ใส่รอบก้อนรากกุหลาบให้เต็ม ไม่ต้องเพิ่มดินแล้วนะ เพราะ ปัญหานี้มาจากการที่ดินมากเกินไปแล้วน้ำ กับอากาศถ่ายเทได้ไม่ดี
ใส่เปลือกถั่วหรือใบก้ามปูให้หนาจนปิดโคนต้นไว้หน่อย เพื่อเป็นตัวคลุมดิน รักษาความชื้นในดิน
(การคลุมดินนี้ บางคนเอาฟางข้าวมาคลุมไว้)
เครื่องปลูกกุหลาบในกระถาง ควรมีอัตราส่วนเนื้อดินอยู่ที่25%-50%
ปกติเวลาผสมมักจะให้มีอินทรีย์วัตถุหยาบๆอย่างเช่น เปลือกถั่วหรือใบก้ามปูให้มากกว่าเนื้อดินหน่อย
ส่วนเนื้อดินทั่วไปที่เอามาผสมคนปลุกกุหลาบจะชอบใช้ขุยมะพร้าวที่หมักจนเย็นแล้วและล้างยางแดงออกหมดแล้วมาใช้
ไม่งั้นก็เอาพีทมอสมาผสม (บอกให้ฟังน่ะ แต่ทางคุณคงไม่ต้องเพิ่มดินแล้วเพราะที่มีอยู่ตอนนี้ก็มากเกินไปอยู่แล้ว)
หลังจากเปลี่ยนเสร็จรดน้ำให้ชุ่มๆเลย ทำเหมือนกุหลาบปลูกใหม่ พอเครื่องปลูกใหม่เริ่มอิ่มน้ำนถึงค่อยลดปริมาณลง
เอาแอบแดดแรงๆ(โดนได้แต่แดดอ่อนๆ) แอบลมแรงๆ ไว้ให้ได้7วัน ถึงเอาออกแดดจัดๆได้
เวลาวางอย่าวางแนบพื้นเลยเอากระถางดินเผาใบเล็ก ก้อนอิฐ เศษกระะางแตก
ยกหรือต่อขาก้อนกระถางจากพื้นหน่อย ให้มีช่องวางระหว่างก้นกระถางกับพื้นหน่อย
อย่าวางแนบพื้นเลย ใช้จานรองกระถางไม่ได้ด้วยนะสำหรับการกลูกกุหลาบ
ส่วนปุ๋ยที่ใช้แนะนำว่าให้ใช้ออสโมโค้ททั้งสองสูตรใส่ให้ทุกเดือนเลย เดือนละครั้ง ครั้งละ ครึ่งช้อน-1ช้อน(ช้อนพลาสติดที่ตักโยเกิร์ตนะ)
ถ้าจะมากกว่านั้น ไปหาแม่ปุ๋ยที่ใช้กับกุหลาบเลย อย่างเช่น 15-0-0 13-0-46 เกลือเอปซอม จุลธาตุหรือTrace Element
ลองไปถามตามไร่กุหลาบใหญ่ๆ ที่ขายพันธุ์กุหลาบเป็นต้นๆ (ปุ๋ยกระดูกสัตว์หรือโบนมีลก็ด้วย)
ปกติพวกนี้ต้องใช้ยาสำหรับฆ่าพวกนี้โดยตรงเลย การตัดทิ้งอย่างเดียวไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูก
ส่วนโรคยังไม่เห็น
แต่ถ้าไม่ใช้แล้วจะเอาวิธีปลอดภัย
ที่เค้าใช้กันก็น้ำส้มควันไม้หรือไวท์ออยส์ที่เป็นน้ำมันปิโตรเลียมจับผิวใบ
ผสมให้จางระดับฉีดใส่แมลงแต่ต้องพ่นบ่อยๆ แต่ไม่ถึงกับทุกวันนะ พวกนี้จะร้อนต่อต้นไม้เหมือนยาฆ่าแมลงด้วย พ่นบ่อยเกินไปใบไหม้
แต่ถ้าไม่ใช้ยา วิธีไล่แบบพื้นฐานแต่ไม่ได้ผล100%นะ ให้เอาน้ำพ่นหรือรดใส่ให้กุหลาบเปียกทั้งพุ่มเลยโดยเฉพาะใต้ไบ
แมลงพวกนี้ไม่ชอบน้ำ ถึงจะฆ่าไม่ได้แต่ก็พอไล่ไปได้แปบนึง ตอนที่ต้นเปียก อย่างน้อยก็จะไม่มาสุมหัวกินกุหลาบตลอดเวลา
สำหรับไรแดงถ้าใต้ใบเปียกน้ำทุกวันมันจะย้ายหนีเอง เพลี้ยไฟยังอยู่แต่น่าจะลดความเสียหายลงได้บ้าง
ส่วนยาฆ่าแมลงทั่วไปที่ควรใส่ทุกเดือนคือสตาเกิ้ลจี แบบโรยลงดิน
ถึงจะใช้จัดการพวกนี้ไม่ได้แต่ก็พอกันแมลงอย่างมดไม่ให้ไปทำรังในกระถางได้
และไล่แมลงบางอย่างไม่ให้มากินกุหลาบได้
ส่วนที่กุหลาบไม่เคยเห็นดอกและต้นอ่อนแอลงเรื่อยๆจนตาย
เราว่าสาเหตุน่าจะมาจากเครื่องปลูกที่ใช้ ถ่ายเทน้ำและอากาศไม่ดี เป็นแบบที่ดินมากแฉะและแน่น นอกจากเรื่องตัดกิ่งมากไป
จากที่เห็นเดาว่าคุณ ตอนแกะกระถางออก เครื่องปลูกเป็นดินเหนียวกับแกลบก็ไม่ได้เอาทิ้งออกไปเลยใช่ไหม แล้วก็ยังใส่ดินเพิ่มอีก
แกลบดิบกับดินเหนียวนานๆเข้าพอแกลบผุรวมกับดินเหนียวจะจับกันแน่นจะน้ำและอากาศผ่านไม่ได้
นี่เป็นจุดสำคัญอย่างแรกที่ทำให้กุหลาบอ่อนแอ ถ้าต้นไม้รากไม่แข็งแรงก็ยากต้นจะสมบูรณ์ได้
รากกุหลาบจะไม่ทนต่อเครื่องปลูกที่แน่น น้ำและอากาศถ่ายเทไม่ดี ***นี่เป็นจุดที่ต่างกับต้นไม้ทั่วไป***
พวกที่ปลูกกุหลาบมือใหม่ ส่วนใหญ่นี่เป็นจุดแรกที่จะพลาดกันและเป็นจุดสำคัญจุดนึงที่ถ้าทำไม่ถูกยังไงก็ไม่ขึ้น
เครื่องปลุกกุหลาบต้องมีคุณสมบัติน้ำและอากาศถ่ายเทได้ดี ในขณะเดียวกันต้องเก็บน้ำและความชื้นไว้ส่วนนึงได้ด้วย
คือหมาดๆชื้นๆ แต่ไม่ถึงกับแฉะมาก
คุณว่ามีอีฟลีนกับคริสโตเฟอร์ มาโลว์ใช่ไหม
จำได้ว่าพวกนั้นอยู่กลุ่มกุหลาบอังกฤษ ตามหลักพวกนี้น่าจะทนมากและออกดอกเก่ง ถ้ามันไม่งามน่าจะมาจากรากมีปัญหา
ถ้าจะแก้ เท่าที่เราคิดนะ แต่คุณจะทำได้หรือเปล่า
เราขอเสนอให้เปลี่ยนเครื่องปลูกใหม่ให้ถูกต้องก่อน โดยทำให้เหมือนกับปลูกกุหลาบใหม่เลย
หลังเปลี่ยนแล้วเอา แอบแดด แอบลม ให้ต้นมันปรับสภาพ7วันก่อน ถึงเอาออกมากลางแจ้งอย่างเก่า
โดยหลังเอาออกจากกระถางแล้วให้พยายามแกะเอาดินรอบๆโคนต้นไล่จากขอบกระถางเข้ามาโดยเอาดินออกไปสักครึ่งนึง
โดยพยายามแกะแล้วให้รากขาดน้อยที่สุด ถ้าดินจับกันแน่นเอามือแกะให้ล่อนออกไม่ได้ก็ลองเอาน้ำราดให้ดินละลายออกมา
สำคัญมากแกะยังไงก็ได้โดยระวังรากอย่าให้ขาดเยอะ ยิ่งขาดมากรากยิ่งเสียหายมาก
หลังจากนั้นในกระถางชั้นล่างสุดเอากาบมะพร้าวสับหยาบรองก้นกระถางให้หนาระดับนึงก่อนเพื่อกับดินไปอุดช่องระบายน้ำ
จากนั้นเอาอินทรีย์วัตถุหยาบๆ อย่างเปลือกถั่วลิสงหรือใบก้ามปู พร้อมกับผงแร่ เพอร์ไลท์กับเวอร์มิคูไลท์ รองบนกาบมะพร้าวนั้น
ต่อมาเอากุหลาบที่เอาดินออกครึ่งนึงวางตรงกลาง
ในจังหวะนี้ให้เอาปุ๋ยกระดูกสัตว์ มาโรยใส่ไว้ตรงรากด้วย โรยตามโคนต้นและรากเลย ให้รากสัมผัสกับปุ๋ยนี้โดยตรงเลย
ปุ๋ยนี้จะกระตุ้นรากกุหลาบให้เดินเร็วขึ้น และปุ๋ยนี้จะค่อยๆปลดปล่อยออกมาทีละนิดโดยไม่ทำให้รากกุหลาบไหม้
จากนั้นเอาเปลือกถั่วหรือใบก้ามปูผสมกับผงแร่ะเพอร์ไล์กับเวอร์มิคูไลท์
ใส่รอบก้อนรากกุหลาบให้เต็ม ไม่ต้องเพิ่มดินแล้วนะ เพราะ ปัญหานี้มาจากการที่ดินมากเกินไปแล้วน้ำ กับอากาศถ่ายเทได้ไม่ดี
ใส่เปลือกถั่วหรือใบก้ามปูให้หนาจนปิดโคนต้นไว้หน่อย เพื่อเป็นตัวคลุมดิน รักษาความชื้นในดิน
(การคลุมดินนี้ บางคนเอาฟางข้าวมาคลุมไว้)
เครื่องปลูกกุหลาบในกระถาง ควรมีอัตราส่วนเนื้อดินอยู่ที่25%-50%
ปกติเวลาผสมมักจะให้มีอินทรีย์วัตถุหยาบๆอย่างเช่น เปลือกถั่วหรือใบก้ามปูให้มากกว่าเนื้อดินหน่อย
ส่วนเนื้อดินทั่วไปที่เอามาผสมคนปลุกกุหลาบจะชอบใช้ขุยมะพร้าวที่หมักจนเย็นแล้วและล้างยางแดงออกหมดแล้วมาใช้
ไม่งั้นก็เอาพีทมอสมาผสม (บอกให้ฟังน่ะ แต่ทางคุณคงไม่ต้องเพิ่มดินแล้วเพราะที่มีอยู่ตอนนี้ก็มากเกินไปอยู่แล้ว)
หลังจากเปลี่ยนเสร็จรดน้ำให้ชุ่มๆเลย ทำเหมือนกุหลาบปลูกใหม่ พอเครื่องปลูกใหม่เริ่มอิ่มน้ำนถึงค่อยลดปริมาณลง
เอาแอบแดดแรงๆ(โดนได้แต่แดดอ่อนๆ) แอบลมแรงๆ ไว้ให้ได้7วัน ถึงเอาออกแดดจัดๆได้
เวลาวางอย่าวางแนบพื้นเลยเอากระถางดินเผาใบเล็ก ก้อนอิฐ เศษกระะางแตก
ยกหรือต่อขาก้อนกระถางจากพื้นหน่อย ให้มีช่องวางระหว่างก้นกระถางกับพื้นหน่อย
อย่าวางแนบพื้นเลย ใช้จานรองกระถางไม่ได้ด้วยนะสำหรับการกลูกกุหลาบ
ส่วนปุ๋ยที่ใช้แนะนำว่าให้ใช้ออสโมโค้ททั้งสองสูตรใส่ให้ทุกเดือนเลย เดือนละครั้ง ครั้งละ ครึ่งช้อน-1ช้อน(ช้อนพลาสติดที่ตักโยเกิร์ตนะ)
ถ้าจะมากกว่านั้น ไปหาแม่ปุ๋ยที่ใช้กับกุหลาบเลย อย่างเช่น 15-0-0 13-0-46 เกลือเอปซอม จุลธาตุหรือTrace Element
ลองไปถามตามไร่กุหลาบใหญ่ๆ ที่ขายพันธุ์กุหลาบเป็นต้นๆ (ปุ๋ยกระดูกสัตว์หรือโบนมีลก็ด้วย)
แสดงความคิดเห็น
ต้นกุหลาบเป็นโรค ดูไม่แข็งแรง ให้ดอกเล็ก ทำไงดีคะ
ต้นกุหลาบปลูกในกระถางตรงระเบียง มีลมแรง มีแดดส่องทั้งวัน รดน้ำตอนเช้าอย่างเดียว ใส่ปุ๋ยนานๆที่ พยายามซื้อยาชีวะภาพมาฉีดไล่แมลงแต่ไม่ค่อยได้ผล ไม่กล้าใช้ยาเคมีค่ะ เพราะเวลาฉีดลมแรงพัดเข้าหน้าหมด และเลี้ยงกระต่ายใกล้ๆแถวนั้นด้วย กลัวเป็นอันตราย มียาที่ไม่อันตรายกะคนเเละสัตว์เลี้ยงมั้ยค่ะ จะซื้อยาพยายามหาข้อมูลดูแต่ไม่ค่อยเข้าใจ และไม่รู้ว่าต้นไม้เราเป็นโรคอะไรบ้าง แต่ที่เห็นๆ คือไรแดง ที่บ้านมีกุหลาบ 8 ต้น ค่ะ
ดอกเป็นรอยและไม่สมบูรณ์
เล็กนิดเดียวเอง
ตัวอย่างใบที่ไม่สวย
สถานที่ปลูกค่ะ
อีฟอีนกับคริสโตเฟอร์ (ซื้อมายังไม่เคยเห็นดอกเลย)
ยาและปุ๋ยที่มีค่ะ
รูปเมื่อก่อนที่เคยออกดอกค่ะ ไม่ได้เห็นตั่งนานแล้ว
ปล.นี่กระทู้แรกเลยค่ะ ยังปรับภาพไม่ค่อยเป็น ขอบคุณค่ะ