เรื่องนี้ถ้าใครไม่เจอกับตัว ก็ยากที่จะเชื่อ มือใหม่ อาจจะเรียบเรียงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ
เมื่อคืนใครมาส่งผม??..................
คืนหลังงานเลี้ยงปีใหม่ ผมกับเพื่อนแยกย้ายกันกลับ โดยที่ผมนั่งรถไปกะเพื่อนอีกคน ซึ่งอยู่ระแวกบ้านเดียวกัน
เสียงสนทนาระหว่างทางกลับบ้าน
เพื่อน: ทางเปลี่ยวจริงๆ บ้านเมิง
ผม: นี้ยังไม่ถึงแถวบ้านกูเลย ศาลาทางเลี้ยวบ้านกูก็ยังไม่เห็น บ้านเมิงหรือป่าว เปลี่ยวโคตร
เพื่อน: หรือมาอีกทางนึงวะ กูไม่น่ามาทางลัดเลย
แมร่งเดี๋ยวโดนผีหลอก
ผม: ห่า พูดเชี้ยๆ ดึกป่านนี้ เขาไม่ให้พูดเรื่องพันนั้น
เพื่อน: โอ๊ยเมิง ผีกูไม่กลัวหรอก กูกลัวโดนปล้นมากกว่า เมิงช่วยกูดูทางไปเหอะ
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่มันจะพูดพล่อยๆออกมา เพราะโดยปกติ มันจะพูดตรงๆ พูดไม่คิดอยู่แล้ว
เฮ้ย ระวัง !
โคร้มมม เสียงรถกระแทกเข้ากับอะไรสักอย่าง อย่างจัง
เมื่อกี้กูเห็นอะไรวิ่งตัดหน้าไปแวบๆ ผมหันไปพูดกับมัน เพื่อนผมมองหน้า และเปิดประตูออกไป
ออกมาดูนี้เร็ว..
เสียงเพื่อนเรียกผมด้วยความตกใจ หน้ามันเว่อเหมือนตอนที่มันเคยโดนเพื่อนแกล้งอยู่เป็นประจำ
นกตัวใหญ่ ขนสีน้ำตาล ตากลม มันเพ่งออกมาที่หน้าของพวกผม เพราะมันคอหัก หัวมันจึงหันไปคนละทิศทางกับตัว เป็นภาพที่หน้ากลัวและยังติดตาผมมาจนถึงทุกวัน
ผม: ทำไงละทีนี้ หน้ารถยุบไปเลยเมิง แล้วจะไปต่อได้ไหมเนี้ย
เพื่อน: กูว่าคงต้องนอนแถวนี้แล้วแหละ
ผม: เมิงพูดบ้าๆ แค่นี้มันถึงจะไปต่อไม่ได้เลยหรอวะ แล้วแถวนี้ก็เปลี่ยวสุดๆ
เพื่อน: ถ้านกตัวนี้ไม่ออกไป กูก็คงไม่กล้าขับไปโดยมีมันติดหน้ารถไปด้วยหรอกนะ 55
มันพูดแล้วขำออกมา ทั้งๆที่สถานการตอนนี้ไม่ใช่เรื่องตลกเลย
เออ เดี๋ยวกูไปเอาอะไรมางัด
ผมบอกมันแล้วเดินไปเอาอุปกรณ์ในรถที่เบาะด้านหลัง
ใช้เวลาสักพัก ผมควานหาจนเจอ แล้วจึงหยิบออกมา พร้อมกับสายตาที่มองออกไปยังท้องถนนด้านหลัง ของรถ
ใครนะ !
ผมกำลังจ้องมองกับอะไรสักอย่างที่กำลังเคลื่อนเข้ามา ถึงจะมองไม่ชัด แต่ผมก็รู้สึกได้ว่ามีใครสักคนที่กำลังก้าวเข้ามาใกล้ผม แต่ผมก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันคืออะไร ความคิดแรกเข้ามาในหัว ต้องเป็นโจรแน่ๆ ผมรีบเดินไปหาเพื่อนที่ด้านหน้าของรถ
เห้ยเมิง ข้างหลัง .. ..
ผมหยุดนิ่ง เสียงทิ้งช่วงและตัดหายไป มันพูดไม่ออก เมื่อผมเดินออกมาหาเพื่อน แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น.....
***
หลังจากควานหาของแล้วเดินอ้อมมาข้างหน้า
เพื่อนที่คิดว่าอยู่ตรงนั้น กลับหายไป
เหลืออยู่แต่ความว่างเปล่า แม้นกที่ติดอยู่ตรงหน้ารถก็หายไปด้วย กลายเป็นว่าเหลือเราตัวคนเดียวบนถนนที่ไม่รู้จักสายนี้
ผมมองไปรอบๆ พร้อมกับเรียกตะโกนชื่อเพื่อนเบาๆ สายตายังคงกวาดมองไปที่หลังรถ วาดระแวงว่าจะมีผู้ใดเข้ามาที่ผม
พรึบ ความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้น รับรู้ได้ด้วยปลายสายตา จนต้องหันควับไปต้นทางของความรู้สึกนั้น
นั้นอะไร! ผมเดินตรงไปในพุ่มไม้ที่มีโพรงอยู่ประมาณระดับอก ร่องรอยบางอย่างบ่งบอกว่ามีอะไรเพิ่งเข้าไปในนี้ ผมจึงเปิดไฟฉายในมือถือ แล้วส่องรอดโพรงเข้าไป ตุ๊กตาหุ่นตัวเล็กๆ ลักษณะเหมือนนางรำ ถูกวางอยู่รวมกันประมานนึง บางตัวก็ล้ม บางตัวไม่สมบูรณ์ ผมนั่งยองๆ โดยอัตโนมัติ และเตรียมที่จะยื่นมือเข้าไป
เงาจากแสงไฟฉายในมือถือทำให้เกิดเงาของมือผม ใช่! อันนี้ผมเข้าใจได้ แต่เงาที่ค่อยๆเกิดขึ้นอยู่ข้างๆเงาของผม ผมไม่สามารถอธิบายได้
เงานั้นค่อยๆเคลื่อนเข้ามาจากด้านหลัง
.....
ผมไม่กล้าที่จะหันไปมอง ความรู้สึกไม่คิดว่าเป็นสิ่งมีชีวิตเริ่มโลดแล่นเข้ามา ผมพยายามมองโดยเอียงคอนิดๆ ใช้หางตามองออกไป
เฮ้ย ผมร้องออกมา
ตัวผมถูกกระชากจากด้านหลัง จนตูดจ้ำเบ้านั่งลง ผมถึงกับด่าออกมาด้วยความตกใจ เมื่อหันไปมอง ก็ไม่มีใครสักคนที่จะมาดึงผม ผมรีบลุกขึ้นแล้วหยิบท่อนไม้หนึ่งท่อนไว้ในกำมือเดินไปที่รถ
มันไปใหนวะ ผมอุทานออกมาด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
ผมหยุดอยู่ตรงหน้ารถ ส่องไฟฉายรอดเข้าไปในรถ
เฮ้ยยยยยย ผมลากยาวด้วยความตกใจ
เพื่อนผมนั่งอยู่ตรงเบาะคนขับ ผมดีใจที่เห็นเพื่อนกลับมา จึงรีบเปิดประตูเข้าไปชักถามด้วยความเป็นห่วง
"เมิงไปใหนมาวะ ให้กูหาอยู่ตั้งนาน"
แววตามันนิ่ง มองตรงไปข้างหน้า แล้วไม่สบตาผม คำตอบที่ได้มา ......
***
คำตอบที่ได้มา..
มันส่ายหัว 2 ที คล้ายจะบอกว่าไม่ได้ไปใหน
"สาส ก็ถ้าไม่ไปใหนแล้วกูจะหาไม่เจอได้ไง"
ทีนี้เพื่อนผมก้มหน้าลงมองที่พวงมาลัย แล้วเอ่ยกลับมาว่า"ไปกันเถอะ"
"เมิงไหวนะ จะจอดพักก่อนก็ได้ กูไม่ว่า"
"กูไหว". ผมสะดุ้งเฮือก
มันหันมาด้วยความรวดเร็ว สีหน้าและแววตาดูกำลังหงุดหงิดกับบางสิ่ง นั้นคงเป็นผมแน่ๆ ตาจ้องมาที่ผม เป็นสายตาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จนผมเริ่มรู้สึกบางอย่างกับเพื่อนผมขึ้นมา
"อ่าๆ โอเค แต่ถ้าเมิงไม่ไหวบอกกูนะ" ผมเป็นคนขับรถไม่แข็ง ใบขับขี่ที่ได้มาก็ได้มาอย่างทุลักทุเล เรียกได้ว่าขับเป็นเฉพาะตอนสอบเท่านั้น
ระหว่างทางที่มันขับไป สายตามันมุ่งมั่นในการขับมาก คล้ายกับคนชินเส้นทางสายนี้มานานนม
กึก รถหยุดลง ผมตั้งหลักได้ จึงถามมันออกไป
"จะจอดทำไมวะ หรือเมิงจะพักก่อน" ผมถามด้วยความเป็นห่วง
"ป่าว" .. ทิ้งช่วงไประยะนึง.. "จอดส่งคน" ...
คำตอบธรรมดาที่มันทำให้ผมเย็นยะเยือกและขนลุกไปทั่วทั้งตัว
ผมเริ่มกลัว และไม่แน่ใจแล้วว่า ตรงหน้าผม คือเพื่อนผมหรือไม่ แต่จะไม่ใช่ได้อย่างไร ก็ทุกอนู หน้าตา มันคือเพื่อนผมชัดๆ แต่ที่ต่างไปคือความรู้สึกและจิตวิญญานที่มันแสดงออกมา
"เมิงตลกหรอ เอาใครมาด้วยละ มีแค่กูกับเมิงแค่สองคน อย่าว่าแต่คนเลย รถสักคันกูยังไม่เห็น" ผมพูดออกไปเพื่อลดความกลัว เพราะผมคิดว่ามันอาจจะอำผมเล่นก็ได้
"ต่อไปก็บ้านเองแล้วสินะ" เพื่อนเอ่ยขึ้น
ผมจ้องมันตลอดทาง
"฿;/@ ฿@" เสียงมุบมิบเบาๆ เหมือนบ่นพึมพำอยู่ตลอดเวลา เพื่อนผมขับไปขยับปากไป
ผมอยากจะกระชากตัวเองออกไปจากตรงนี้เหลือเกิน แต่ขืนออกไป ผมคงต้องเดินไร้จุดหมายในเวลาตี1บนถนนเส้นนี้เพียงลำพัง
ผมนึกอะไรไม่รู้ จึงถามมันไปว่า
"เมื่อตอนรถจอดอยู่ กูเห็นเหมือนใครกำลังเดินเข้ามา...
เพื่อนผมส่ายหัว และขำออกมา จากนั้นค่อยๆ
เมื่อคืนใครมาส่งผม?
เมื่อคืนใครมาส่งผม??..................
คืนหลังงานเลี้ยงปีใหม่ ผมกับเพื่อนแยกย้ายกันกลับ โดยที่ผมนั่งรถไปกะเพื่อนอีกคน ซึ่งอยู่ระแวกบ้านเดียวกัน
เสียงสนทนาระหว่างทางกลับบ้าน
เพื่อน: ทางเปลี่ยวจริงๆ บ้านเมิง
ผม: นี้ยังไม่ถึงแถวบ้านกูเลย ศาลาทางเลี้ยวบ้านกูก็ยังไม่เห็น บ้านเมิงหรือป่าว เปลี่ยวโคตร
เพื่อน: หรือมาอีกทางนึงวะ กูไม่น่ามาทางลัดเลย
แมร่งเดี๋ยวโดนผีหลอก
ผม: ห่า พูดเชี้ยๆ ดึกป่านนี้ เขาไม่ให้พูดเรื่องพันนั้น
เพื่อน: โอ๊ยเมิง ผีกูไม่กลัวหรอก กูกลัวโดนปล้นมากกว่า เมิงช่วยกูดูทางไปเหอะ
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่มันจะพูดพล่อยๆออกมา เพราะโดยปกติ มันจะพูดตรงๆ พูดไม่คิดอยู่แล้ว
เฮ้ย ระวัง !
โคร้มมม เสียงรถกระแทกเข้ากับอะไรสักอย่าง อย่างจัง
เมื่อกี้กูเห็นอะไรวิ่งตัดหน้าไปแวบๆ ผมหันไปพูดกับมัน เพื่อนผมมองหน้า และเปิดประตูออกไป
ออกมาดูนี้เร็ว..
เสียงเพื่อนเรียกผมด้วยความตกใจ หน้ามันเว่อเหมือนตอนที่มันเคยโดนเพื่อนแกล้งอยู่เป็นประจำ
นกตัวใหญ่ ขนสีน้ำตาล ตากลม มันเพ่งออกมาที่หน้าของพวกผม เพราะมันคอหัก หัวมันจึงหันไปคนละทิศทางกับตัว เป็นภาพที่หน้ากลัวและยังติดตาผมมาจนถึงทุกวัน
ผม: ทำไงละทีนี้ หน้ารถยุบไปเลยเมิง แล้วจะไปต่อได้ไหมเนี้ย
เพื่อน: กูว่าคงต้องนอนแถวนี้แล้วแหละ
ผม: เมิงพูดบ้าๆ แค่นี้มันถึงจะไปต่อไม่ได้เลยหรอวะ แล้วแถวนี้ก็เปลี่ยวสุดๆ
เพื่อน: ถ้านกตัวนี้ไม่ออกไป กูก็คงไม่กล้าขับไปโดยมีมันติดหน้ารถไปด้วยหรอกนะ 55
มันพูดแล้วขำออกมา ทั้งๆที่สถานการตอนนี้ไม่ใช่เรื่องตลกเลย
เออ เดี๋ยวกูไปเอาอะไรมางัด
ผมบอกมันแล้วเดินไปเอาอุปกรณ์ในรถที่เบาะด้านหลัง
ใช้เวลาสักพัก ผมควานหาจนเจอ แล้วจึงหยิบออกมา พร้อมกับสายตาที่มองออกไปยังท้องถนนด้านหลัง ของรถ
ใครนะ !
ผมกำลังจ้องมองกับอะไรสักอย่างที่กำลังเคลื่อนเข้ามา ถึงจะมองไม่ชัด แต่ผมก็รู้สึกได้ว่ามีใครสักคนที่กำลังก้าวเข้ามาใกล้ผม แต่ผมก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันคืออะไร ความคิดแรกเข้ามาในหัว ต้องเป็นโจรแน่ๆ ผมรีบเดินไปหาเพื่อนที่ด้านหน้าของรถ
เห้ยเมิง ข้างหลัง .. ..
ผมหยุดนิ่ง เสียงทิ้งช่วงและตัดหายไป มันพูดไม่ออก เมื่อผมเดินออกมาหาเพื่อน แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น.....
***
หลังจากควานหาของแล้วเดินอ้อมมาข้างหน้า
เพื่อนที่คิดว่าอยู่ตรงนั้น กลับหายไป
เหลืออยู่แต่ความว่างเปล่า แม้นกที่ติดอยู่ตรงหน้ารถก็หายไปด้วย กลายเป็นว่าเหลือเราตัวคนเดียวบนถนนที่ไม่รู้จักสายนี้
ผมมองไปรอบๆ พร้อมกับเรียกตะโกนชื่อเพื่อนเบาๆ สายตายังคงกวาดมองไปที่หลังรถ วาดระแวงว่าจะมีผู้ใดเข้ามาที่ผม
พรึบ ความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้น รับรู้ได้ด้วยปลายสายตา จนต้องหันควับไปต้นทางของความรู้สึกนั้น
นั้นอะไร! ผมเดินตรงไปในพุ่มไม้ที่มีโพรงอยู่ประมาณระดับอก ร่องรอยบางอย่างบ่งบอกว่ามีอะไรเพิ่งเข้าไปในนี้ ผมจึงเปิดไฟฉายในมือถือ แล้วส่องรอดโพรงเข้าไป ตุ๊กตาหุ่นตัวเล็กๆ ลักษณะเหมือนนางรำ ถูกวางอยู่รวมกันประมานนึง บางตัวก็ล้ม บางตัวไม่สมบูรณ์ ผมนั่งยองๆ โดยอัตโนมัติ และเตรียมที่จะยื่นมือเข้าไป
เงาจากแสงไฟฉายในมือถือทำให้เกิดเงาของมือผม ใช่! อันนี้ผมเข้าใจได้ แต่เงาที่ค่อยๆเกิดขึ้นอยู่ข้างๆเงาของผม ผมไม่สามารถอธิบายได้
เงานั้นค่อยๆเคลื่อนเข้ามาจากด้านหลัง
.....
ผมไม่กล้าที่จะหันไปมอง ความรู้สึกไม่คิดว่าเป็นสิ่งมีชีวิตเริ่มโลดแล่นเข้ามา ผมพยายามมองโดยเอียงคอนิดๆ ใช้หางตามองออกไป
เฮ้ย ผมร้องออกมา
ตัวผมถูกกระชากจากด้านหลัง จนตูดจ้ำเบ้านั่งลง ผมถึงกับด่าออกมาด้วยความตกใจ เมื่อหันไปมอง ก็ไม่มีใครสักคนที่จะมาดึงผม ผมรีบลุกขึ้นแล้วหยิบท่อนไม้หนึ่งท่อนไว้ในกำมือเดินไปที่รถ
มันไปใหนวะ ผมอุทานออกมาด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
ผมหยุดอยู่ตรงหน้ารถ ส่องไฟฉายรอดเข้าไปในรถ
เฮ้ยยยยยย ผมลากยาวด้วยความตกใจ
เพื่อนผมนั่งอยู่ตรงเบาะคนขับ ผมดีใจที่เห็นเพื่อนกลับมา จึงรีบเปิดประตูเข้าไปชักถามด้วยความเป็นห่วง
"เมิงไปใหนมาวะ ให้กูหาอยู่ตั้งนาน"
แววตามันนิ่ง มองตรงไปข้างหน้า แล้วไม่สบตาผม คำตอบที่ได้มา ......
***
คำตอบที่ได้มา..
มันส่ายหัว 2 ที คล้ายจะบอกว่าไม่ได้ไปใหน
"สาส ก็ถ้าไม่ไปใหนแล้วกูจะหาไม่เจอได้ไง"
ทีนี้เพื่อนผมก้มหน้าลงมองที่พวงมาลัย แล้วเอ่ยกลับมาว่า"ไปกันเถอะ"
"เมิงไหวนะ จะจอดพักก่อนก็ได้ กูไม่ว่า"
"กูไหว". ผมสะดุ้งเฮือก
มันหันมาด้วยความรวดเร็ว สีหน้าและแววตาดูกำลังหงุดหงิดกับบางสิ่ง นั้นคงเป็นผมแน่ๆ ตาจ้องมาที่ผม เป็นสายตาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จนผมเริ่มรู้สึกบางอย่างกับเพื่อนผมขึ้นมา
"อ่าๆ โอเค แต่ถ้าเมิงไม่ไหวบอกกูนะ" ผมเป็นคนขับรถไม่แข็ง ใบขับขี่ที่ได้มาก็ได้มาอย่างทุลักทุเล เรียกได้ว่าขับเป็นเฉพาะตอนสอบเท่านั้น
ระหว่างทางที่มันขับไป สายตามันมุ่งมั่นในการขับมาก คล้ายกับคนชินเส้นทางสายนี้มานานนม
กึก รถหยุดลง ผมตั้งหลักได้ จึงถามมันออกไป
"จะจอดทำไมวะ หรือเมิงจะพักก่อน" ผมถามด้วยความเป็นห่วง
"ป่าว" .. ทิ้งช่วงไประยะนึง.. "จอดส่งคน" ...
คำตอบธรรมดาที่มันทำให้ผมเย็นยะเยือกและขนลุกไปทั่วทั้งตัว
ผมเริ่มกลัว และไม่แน่ใจแล้วว่า ตรงหน้าผม คือเพื่อนผมหรือไม่ แต่จะไม่ใช่ได้อย่างไร ก็ทุกอนู หน้าตา มันคือเพื่อนผมชัดๆ แต่ที่ต่างไปคือความรู้สึกและจิตวิญญานที่มันแสดงออกมา
"เมิงตลกหรอ เอาใครมาด้วยละ มีแค่กูกับเมิงแค่สองคน อย่าว่าแต่คนเลย รถสักคันกูยังไม่เห็น" ผมพูดออกไปเพื่อลดความกลัว เพราะผมคิดว่ามันอาจจะอำผมเล่นก็ได้
"ต่อไปก็บ้านเองแล้วสินะ" เพื่อนเอ่ยขึ้น
ผมจ้องมันตลอดทาง
"฿;/@ ฿@" เสียงมุบมิบเบาๆ เหมือนบ่นพึมพำอยู่ตลอดเวลา เพื่อนผมขับไปขยับปากไป
ผมอยากจะกระชากตัวเองออกไปจากตรงนี้เหลือเกิน แต่ขืนออกไป ผมคงต้องเดินไร้จุดหมายในเวลาตี1บนถนนเส้นนี้เพียงลำพัง
ผมนึกอะไรไม่รู้ จึงถามมันไปว่า
"เมื่อตอนรถจอดอยู่ กูเห็นเหมือนใครกำลังเดินเข้ามา...
เพื่อนผมส่ายหัว และขำออกมา จากนั้นค่อยๆ