ทริปลมพัด 5วัน 4คืน ตอนรับปีใหม่
ทริปแบ็คแพ็ค ลมพัด 5วัน 4 คืน บอกก่อนเลยว่าเป็นการแบ็คแพ็คครั้งแรกจริงๆ มีเวลาเตรียมตัวแค่ 2 วันก่อนไป คิดดูเอาแล้วกันว่าจะวุ่นวายแล้วปวดตูดขนาดไหน เริ่มจากอย่างแรกหาข้อมูลการเตรียมตัวคร่าวๆว่าจะต้องจัดกระเป๋าอย่างไร เตรียมอะไรไปบ้าง เสื้อผ้าที่จำเป็น ยาสามัญ พารา แก้แพ้ แก้หวัด ยาแก้ท้องเสีย ยาทาบวดปวม พลาสเตอร์ยา ต่างๆ จากนั้นเรามาศึกษาวิธีการเดินทางไปให้ถึงเป้าหมายของเรากันดีกว่า เป้าหมายแรกของเราคือด่านปอยเปตที่โรงเกลือ การเดินทางไปที่ด่านปอยเปต มีหลชายทางให้เลือกนะ มีรถตู้จากแถวๆประตูน้ำ รถบ่อนหรือรถทัวร์ก็มีนะ แต่ว่าอันนี้เราเลือกขับรถไปจอดเอง(เสียค่าที่จอดรถวันละ 100บาทนะคะ) เราเริ่มเดินทางวันที่ 31ธันวา ออกจากกรุงเทพ ประมาณ 9.00น. ถึงโรงเกลือ 13.30น.ใช้เวลาเดินทาง 4ชั่วโมง จากนั้นก็ข้ามด่านตรวจคนเข้าเมืองของไทย พอเดินผ่านด่านมาก็จะเจอคาซิโนตั้งกันเรียงกันเต็มไปหมดคะ เราจะต้องเดินผ่านสุดเขตบ่อนสากลไปถึงจะเจอกับด่านตรวจคนเข้าเมืองของกัมพูชา เราจะต้องปั๊มตราประทับที่ด่านนี้คะ เพื่อเข้าประเทศกัมพูชา แต่เราเลือกปั๊มแบบ VIPคะ คือให้คนกัมพูชาที่ค่อยบริการหารถแท็กซี่รับนักท่องเที่ยวไปปั๊มให้ รอประมาณ 5นาทีก็ได้แล้ว แต่ปั๊มเองก็ได้คะ ช้าเร็วก็อยู่ที่จำนวนคนว่ามากน้อยขนาดไหน แล้วก็ให้เค้าหารถแท็กซี่ให้ในเช้าวันที่ 1 ค่าปั๊มพลาสปอร์ตก็ 250บาทต่อคน แล้วก็ค่าแท็กซี่ 1400บาท พอตกลงราคาเสร็จ คืนวันที่ 31เราเลือกที่จะพักที่คาซิโน ที่โรงแรมสตาร์พาราไดส์ ก็โชคมันเข้าข้างเลยได้ที่พักฟรีพร้อมอาหารเช้า มาหนึ่งคืนในราคา 1650บาท ห้องก็ถือว่าโอเคเลยหละ คืนนั้นเลยเค้าดาวน์กันที่ปอยเปต
เช้าวันที่ 1 เราออกเดินทางกัน 11โมงเช้า รถแท็กซี่ที่ตกลงไว้ก็มารับที่หน้าโรงแรมรถแท็กซี่ที่กัมพูชาเป็น Camry ทั้งหมดนะคะ เราใช้เวลาเดินทางจากปอยเปตมาถึงเสียมเรียบ 2ชั่วโมง มาถึงก็บ่ายสองพอดี เราใช้เวลาเดินหาโรงแรมสักพักก็ได้ห้องพักให้ราคา 30$ ซึ่งก็ถือว่าแพงอยู่นะ โรงแรมชื่อบรรทมบุรี อยู่ในย่าน nigth market / Pup street เช็คอินเรียบร้อย ดราก็ไปคุยกับพนักงานหน้าฟ้อนที่โรงแรม เรื่องกานเที่ยวนครวัด สอบถามการเดินทาง ว่าไปยังไง ไกลมั้ย เค้าให้ความช่วยเหลือเราเต็มที่ โชคดีที่พนักงานเค้าสามารถพูดภาษาไทยได้ เราเลยถามเรื่องการเดินทางไปโฮจิมินห์ต่อให้ตอนเช้า เค้าก็แนะนำให้ไปขึ้นรถทัวร์ของบริษัท VET ซึ่งเป็นเป็รบริษัททัวร์ที่ใกล้กับที่พักของเราพอดี โชคดีตรงที่พนักงานขายตั๋วรถก็พูดภาษาไทยได้เหมือนกัน เราเลนขอให้เค้าแนะนำการเที่ยวในนครวีดแล้วก็หารถตุ๊กๆให้ เราได้รถตุ๊กๆในราคา12$ ในการเที่ยวนครวัด เค้าจะพาเราไปส่ง แล้วก็พาเราเที่ยวชมในแต่ละจุดของปนาสาทและรอรับกลับมาส่ง ในการเที่ยวนครวัดเราจะต้องซื้อบัตรคนละ 20$ ราคานี้สำหรับ 1วันนะ แต่ถ้าเรข้าชมหลัง 5โมงเย็น จะสามารถเข้าชมฟรีได้ แต่ต้องซื่อบัตรเพื่อจะเข้าชมในวันพรุงนี้ การเที่ยวนครวัดควรจะไปแต่เช้สตรู่หรือช่วงเย็นๆหน่อย เพราะพระอาทิตย์สวยมากจะได้รูปสวยๆมาเยอะเลยหละ หลังจากเดินเที่ยวชมปราสาทเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลากลับคะ รถตุ๊กๆก็กลับมาส่งที่เดิม ขากลับจากปราสาทรถติดนิดนึงนะคะ เพราะว่ารถนักท่องเที่ยวเยอะ แล้วอีกอย่างคือ แยกไฟแดงต่างๆ ไม่มีสัญญาณแล้วก็ตำตรวจค่อยดูนะคะ วัดใจกันไป ใครใจกว่าก็ได้ไปก่อน เราถึงที่พักตอน 19.00น.พอดีคะ ก็หิวกันแล้ว เลยหาอะไรกินกันหน่อย ก็เดินหาอะำรที่เราพอจะกินกันได้ ก็มาจบที่ร้านหนูกระทะ หน้าตาก็เหมือนหนูกระทะบ้านเรา ก็ถามๆเค้าดู ก็รู้ว่าเอามาจากบ้านเรานี้และ เราเลยลองเซ็ตบาบีคิวดู ในเซ็ตก็มีเนื้อตามที่เราเลือกเลย ไก่ เนื้อ ผักบุ้ง ผักกาด กวางตุ้ง แล้วก็เส้นหมี่ พริกหยวก (สามอย่างหลังเนี่ยบ้านเราไม่มี) รถชาดก็ได้อยู่ แต่ทีเด็ดนี้อยู่ที่น้ำจิ้มคะ อย่างแรกน้ำจิ้มซีฟู้ดเปรี้ยวโลกลืม โลกแตกไปเลยคร้า คือมันเปรี้ยวมากอะ คือแบบกลิ่นเปรี้ยวนี้โดดออกมาเลย น้ำจิ้มอย่างที่สองคือ เหมือนน้ำจิ้มสุกี้ที่บ้านเรานี้หละคะ แต่พอกินเข้าไปคำแรกเท่านั้นแหละไม่อยากกลืนเลยคร้า เพราะกลิ่นมันเหมือนเต้าหู้ยี้เน่าเลย สรุปแล้วก็ต้องขอ มะนาว พริก น้ำปลา เค้ามาทำพริกน้ำปลาจิ้มเอง สรุปมื้อเย็นวันนั้นก็ต้องกินเพราะเสียดายตังค์ เซ็ตบาบีคิวนี้ ราคา 8$ นะคะขอบอก
เช้าวันที่ 2 การเดินทางจากเสียมเรียบไปโฮจิมินห์ ความสนุกมันเริ่มตั้งแต่ยังไม่ได้เดินทางเลยคะ เราซื้อตั๋วรถทัวร์ในราคา 25$ แต่เราได้นั่งรถตู้ ในตั๋วเขียนว่าออกเดินทาง 8.30น. แต่เราได้เดินทางจริงๆตอน 10.00น. สายมาสองชั่วโมง การเดินทางจากเสียมเรียบไปโฮจิมินห์ เราใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมด 12ชั่วโมง และ 12 ชั่วโมงในการเดินทาง ทำให้เราได้สังเกตเห็นคนในรถว่า ไม่มีสัญชาติที่ซ้ำกันเลย มีทั้ง อเมริกัน อังกฤษ ไทย จีน ใต้หวัน ฝรั่งเศษ ทุกคนแบ็คแพ็คกันมาทั้งนั้น จุดประสงค์ มีทั่งไปเที่ยวบ้าง หาญาติบ้าง หรือนักลงทุนที่ต้องวางแผนในการลงทุนบ้างก็มี