สิ่งที่ผมจะกล่าวก่อน อย่างแรกคือ คนที่คิดจะใส่คอนแทคเลนส์ควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพตา ซึ่งมีข้อดีอย่างไร?
เพราะ จะได้วัดสายตาโดยละเอียด วัดความโค้งกระจกตา วัดความดันตา รวมถึงเช็คว่าเป็นคนตาแห้งหรือไม่เนื่องจากจะมีคอนแทคเลนส์ที่เหมาะสำหรับคนตาแห้ง และเป็นการตรวจสภาพตาด้วยว่าตัวเองเหมาะที่จะแก้ไขสายตาด้วยคอนแทคเลนส์หรือไม่
ผมใส่แว่นมาตั้งแต่ป.4 แต่วันดีคืนดีอยากจะใส่คอนแทคเลนส์ ซึ่งโชคดีที่มีพี่เป็นหมอ และพี่ผมแนะนำให้ไปตรวจตาก่อน เพราะพี่ผมก็ใส่คอนแทคเลนส์เหมือนกัน และเล่าว่าจักษุแพทย์ จะตรวจตาเราอย่างละเอียด รวมทั้งมีคอนแทคเลนส์ให้เลือก และลองใส่ในขณะนั้น พี่ผมเล่าให้ฟังแค่ว่าคอนแทคเลนส์จะมีแบบนิ่ม กับแบบ rgp lens ซึ่งเป็นชนิดแข็ง
ในที่สุดผมก็ไปตรวจตา หมอบอกว่าผมไม่ใช่คนตาแห้งใส่ได้ทั้งแบบแข็งและนิ่ม โดยที่ค่าสายตาของผม สั้น 400 และเอียงด้วย ข้างขวาเอียงถึง 300 โดยที่ข้างซ้ายเอียง 275 จักษุแพทย์ก็บอกกับผมว่าค่าสายตาเอียงข้างขวาผมเยอะเกินไป ถ้าเป็นคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มจะแก้ไขสายตาได้เฉพาะข้างซ้ายเท่านั้น ข้างขวายังไม่มีค่าสายตาเอียงรองรับ หมอเลยแนะนำคอนแทคเลนส์แบบ gp lens ให้ ซึ่งเป็นเลนส์ชนิดแข็ง
จากนั้นต้องตรวจความดันตา ตรวจความโค้งกระจกตา และถึงได้มาลองใส่คอนแทคเลนส์กัน ซึ่งเลนส์ rgp แข็งมาก เวลาใส่เหมือนมีอะไรอยู่ในตา เวลากระพริบตาจะรู้สึกเลนส์เลื่อนตลอดเวลา ซึ่งเป็นอาการปกติของผู้เริ่มใส่คอนแทคเลนส์ประเภทนี้ จากนั้นหมอจะ fitting คอนแทคเลนส์ โดยการทาแสง fluorescent เพื่อดูการเคลื่อนที่ของคอนแทคเลนส์ว่าพอดีกับดวงตาเราหรือไม่ โดยเราต้องกระพริบตาตามที่หมอสั่ง
เมื่อทดลองเสร็จแล้ว ข้างขวาผมมีสายตาที่สามารถซื้อได้ทันที แต่ข้างซ้ายซึ่งเอียงน้อยกว่ากลับไม่มีค่าสายตา ต้องสั่งตัด เพราะอะไรทั้งๆที่สายตาเอียงน้อยกว่าข้างขวา?
หมอบอกว่ามันมีด้วยหลายสาเหตุ เช่นการเป็นคนถนัดขวา เวลามองอะไรก็ใช้ตาขวาเป็นหลัก เลยทำให้สายตาข้างซ้ายมองไม่ชัด และต้องสั่งตัดเลนส์มาจากญี่ปุ่น ก็แปลกดีเหมือนกัน เพราะเวลาใส่แว่นพอปิดตาข้างขวา ตาซ้ายผมก็มองชัดนะ แสดงว่าค่าแว่นตากับค่าคอนแทคต้องเป็นคนละค่ากันแน่นอน
จะบอกว่าตอนใส่ rgp แล้วมอง ภาพชัดมาก แบบเห้ย ชัดมาก จริงๆ
หลายคนสงสัยว่าคอนแทคเลนส์แบบ rgp ดีกว่าแบบนิ่มยังไง เท่าที่ผมศึกษาข้อมูลจากเว็บต่างประเทศ กับที่หมอบอกผม สรุปได้คือ
1.เหมาะสำหรับคนสายตาเอียง เพราะลักษณะเลนส์เป็นทรงกลม ไม่บิดรูปไปตามกระจกตาแบบคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม ทำให้แก้ไขสายตาเอียงได้ดีกว่า เพราะคนสายตาเอียงส่วนใหญ่ มักมีกระจกตาเป็นรูปวงรี เลนส์ทรงกลมเปรียบเสมือนเป็นกระจกตาเรา ประมาณนั้น ถ้าผิดก็ช่วยมาแก้ด้วยนะครับ และสายตาเอียงมากกว่า 275 จะหาคอนแทคเลนส์แบบนิ่มใส่ไม่ได้ ปัจจุบันเห็นแค่ Acuvue Oasys ที่มีค่าสายตาเอียงสูงสุดแค่ 275 ใครมากกว่านี้ก็ต้องใส่ rgp
2.เหมาะกับคนตาแห้ง เพราะใช้วัสดุที่ไม่อมน้ำ และให้ oxygen ผ่านเข้าตาได้สูงมาก (RGP = Rigid Gas Permeable) โดยทฤษฎีสามารถใส่นอนได้ หรือใส่แบบ extended wear และใส่ได้ดีในระยะยาว
3.คราบสกปรกจะเกาะเลนส์ rgp ได้น้อยกว่าชนิดนิ่ม เพราะมันไม่อมน้ำ
4.ราคาถูกกว่าชนิดนิ่มเพราะใช้ได้นานกว่า ที่ผมไปตัด ค่าเลนส์ 8,000 บาท 1 คู่ แต่เลนส์ใช้ได้ประมาณ 2-5 ปี ถ้าเป็นคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มแบบแก้ไขสายตาเอียงด้วย และเป็นแบบ Silicone Hydrogel ที่เหมาะกับคนตาแห้ง ราคาเฉลี่ยประมาณเดือนละ 800 กว่าบาท
นี่ก็คือข้อมูลคร่าวๆนะครับ ดวงตาเรามีแค่คู่เดียว ฉะนั้นถ้าจะใส่คอนแทคเลนส์ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนะครับ เพราะไม่งั้นอาจเกิดอาการติดเชื้อจนถึงขั้นตาบอดเลยก็ได้ อีกทั้งต่างประเทศ การจะใส่คอนแทคเลนส์ต้องใช้ใบรับรองหรือ prescription ด้วย ข้อดีอีกอย่างคือ หมอจะสอนหมดทั้งการดูแลทำความสะอาดเลนส์ การใส่และการถอดเลนส์ออกจากตา เป็นต้น
คนที่จะใส่คอนแทคเลนส์สายตาทั้งแบบนิ่มและแบบ rgp ควรหาผู้เชียวชาญหรือจักษุแพทย์ สายตาเอียงก็มีเลนส์ที่สามารถแก้ไขได้!!
เพราะ จะได้วัดสายตาโดยละเอียด วัดความโค้งกระจกตา วัดความดันตา รวมถึงเช็คว่าเป็นคนตาแห้งหรือไม่เนื่องจากจะมีคอนแทคเลนส์ที่เหมาะสำหรับคนตาแห้ง และเป็นการตรวจสภาพตาด้วยว่าตัวเองเหมาะที่จะแก้ไขสายตาด้วยคอนแทคเลนส์หรือไม่
ผมใส่แว่นมาตั้งแต่ป.4 แต่วันดีคืนดีอยากจะใส่คอนแทคเลนส์ ซึ่งโชคดีที่มีพี่เป็นหมอ และพี่ผมแนะนำให้ไปตรวจตาก่อน เพราะพี่ผมก็ใส่คอนแทคเลนส์เหมือนกัน และเล่าว่าจักษุแพทย์ จะตรวจตาเราอย่างละเอียด รวมทั้งมีคอนแทคเลนส์ให้เลือก และลองใส่ในขณะนั้น พี่ผมเล่าให้ฟังแค่ว่าคอนแทคเลนส์จะมีแบบนิ่ม กับแบบ rgp lens ซึ่งเป็นชนิดแข็ง
ในที่สุดผมก็ไปตรวจตา หมอบอกว่าผมไม่ใช่คนตาแห้งใส่ได้ทั้งแบบแข็งและนิ่ม โดยที่ค่าสายตาของผม สั้น 400 และเอียงด้วย ข้างขวาเอียงถึง 300 โดยที่ข้างซ้ายเอียง 275 จักษุแพทย์ก็บอกกับผมว่าค่าสายตาเอียงข้างขวาผมเยอะเกินไป ถ้าเป็นคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มจะแก้ไขสายตาได้เฉพาะข้างซ้ายเท่านั้น ข้างขวายังไม่มีค่าสายตาเอียงรองรับ หมอเลยแนะนำคอนแทคเลนส์แบบ gp lens ให้ ซึ่งเป็นเลนส์ชนิดแข็ง
จากนั้นต้องตรวจความดันตา ตรวจความโค้งกระจกตา และถึงได้มาลองใส่คอนแทคเลนส์กัน ซึ่งเลนส์ rgp แข็งมาก เวลาใส่เหมือนมีอะไรอยู่ในตา เวลากระพริบตาจะรู้สึกเลนส์เลื่อนตลอดเวลา ซึ่งเป็นอาการปกติของผู้เริ่มใส่คอนแทคเลนส์ประเภทนี้ จากนั้นหมอจะ fitting คอนแทคเลนส์ โดยการทาแสง fluorescent เพื่อดูการเคลื่อนที่ของคอนแทคเลนส์ว่าพอดีกับดวงตาเราหรือไม่ โดยเราต้องกระพริบตาตามที่หมอสั่ง
เมื่อทดลองเสร็จแล้ว ข้างขวาผมมีสายตาที่สามารถซื้อได้ทันที แต่ข้างซ้ายซึ่งเอียงน้อยกว่ากลับไม่มีค่าสายตา ต้องสั่งตัด เพราะอะไรทั้งๆที่สายตาเอียงน้อยกว่าข้างขวา?
หมอบอกว่ามันมีด้วยหลายสาเหตุ เช่นการเป็นคนถนัดขวา เวลามองอะไรก็ใช้ตาขวาเป็นหลัก เลยทำให้สายตาข้างซ้ายมองไม่ชัด และต้องสั่งตัดเลนส์มาจากญี่ปุ่น ก็แปลกดีเหมือนกัน เพราะเวลาใส่แว่นพอปิดตาข้างขวา ตาซ้ายผมก็มองชัดนะ แสดงว่าค่าแว่นตากับค่าคอนแทคต้องเป็นคนละค่ากันแน่นอน
จะบอกว่าตอนใส่ rgp แล้วมอง ภาพชัดมาก แบบเห้ย ชัดมาก จริงๆ
หลายคนสงสัยว่าคอนแทคเลนส์แบบ rgp ดีกว่าแบบนิ่มยังไง เท่าที่ผมศึกษาข้อมูลจากเว็บต่างประเทศ กับที่หมอบอกผม สรุปได้คือ
1.เหมาะสำหรับคนสายตาเอียง เพราะลักษณะเลนส์เป็นทรงกลม ไม่บิดรูปไปตามกระจกตาแบบคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม ทำให้แก้ไขสายตาเอียงได้ดีกว่า เพราะคนสายตาเอียงส่วนใหญ่ มักมีกระจกตาเป็นรูปวงรี เลนส์ทรงกลมเปรียบเสมือนเป็นกระจกตาเรา ประมาณนั้น ถ้าผิดก็ช่วยมาแก้ด้วยนะครับ และสายตาเอียงมากกว่า 275 จะหาคอนแทคเลนส์แบบนิ่มใส่ไม่ได้ ปัจจุบันเห็นแค่ Acuvue Oasys ที่มีค่าสายตาเอียงสูงสุดแค่ 275 ใครมากกว่านี้ก็ต้องใส่ rgp
2.เหมาะกับคนตาแห้ง เพราะใช้วัสดุที่ไม่อมน้ำ และให้ oxygen ผ่านเข้าตาได้สูงมาก (RGP = Rigid Gas Permeable) โดยทฤษฎีสามารถใส่นอนได้ หรือใส่แบบ extended wear และใส่ได้ดีในระยะยาว
3.คราบสกปรกจะเกาะเลนส์ rgp ได้น้อยกว่าชนิดนิ่ม เพราะมันไม่อมน้ำ
4.ราคาถูกกว่าชนิดนิ่มเพราะใช้ได้นานกว่า ที่ผมไปตัด ค่าเลนส์ 8,000 บาท 1 คู่ แต่เลนส์ใช้ได้ประมาณ 2-5 ปี ถ้าเป็นคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มแบบแก้ไขสายตาเอียงด้วย และเป็นแบบ Silicone Hydrogel ที่เหมาะกับคนตาแห้ง ราคาเฉลี่ยประมาณเดือนละ 800 กว่าบาท
นี่ก็คือข้อมูลคร่าวๆนะครับ ดวงตาเรามีแค่คู่เดียว ฉะนั้นถ้าจะใส่คอนแทคเลนส์ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนะครับ เพราะไม่งั้นอาจเกิดอาการติดเชื้อจนถึงขั้นตาบอดเลยก็ได้ อีกทั้งต่างประเทศ การจะใส่คอนแทคเลนส์ต้องใช้ใบรับรองหรือ prescription ด้วย ข้อดีอีกอย่างคือ หมอจะสอนหมดทั้งการดูแลทำความสะอาดเลนส์ การใส่และการถอดเลนส์ออกจากตา เป็นต้น