อาจารย์ ป๋วย ผู้ว่าแบงค์ชาติ ที่มีความสามารถคนสุดท้าย. และออกมาเป็นอธิการบดีธรรมศาสตร์ เพราะบอกว่าต้องสร้างคนให้ดี

กระทู้สนทนา
อาจารย์ ป๋วย  ผู้ว่าแบงค์ชาติ  ที่มีความสามารถคนสุดท้าย.  และออกมาเป็นอธิการบดีธรรมศาสตร์ เพราะบอกว่าต้องสร้างคนให้ดี

จากการเป็นผู้ว่าแบงค์ชาติ คอยดูแลการเงิน  ไม่ให้คนโกงเงินในวงการธนาคาร

ออกไปเป็น  อธิการบดีธรรมศาสตร์



ศาสตราจารย์ พันตรี ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย เป็นอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มีอายุน้อยที่สุด ด้วยวัย 43 ปี และได้ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดถึง 12 ปี 2 เดือน 4 วัน เป็นสมาชิกขบวนการเสรีไทย ... วิกิพีเดีย
เกิดเมื่อ: 9 มีนาคม 2459, กรุงเทพมหานคร
เสียชีวิตเมื่อ: 28 กรกฎาคม 2542, ลอนดอน, สหราชอาณาจักร
คู่สมรส: มาร์กาเร็ต สมิท (สมรส พ.ศ. 2489)
ผลงานหนังสือ: จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน, สันติประชาธรรม, เพิ่มเติม
ทายาท: ใจ อึ๊งภากรณ์, จอน อึ๊งภากรณ์, ไมตรี อึ๊งภากรณ์
บิดา มารดา: ซา แซ่อึ้ง, เซาะเซ็ง แซ่เตียว






สร้างให้คนมีความรู้  เพื่อให้นักศึกษาที่จบมา ได้เป็นกำลังของชาติ

ในการพัฒนาประเทศในยุคต่อไป  

........ถ้าเรียนหนังสือมีความรู้    . เราจะเลิกเป็นไทยมุง  ไทยเฉย


แต่จะเป็นไทยคิด    ไทยทำ   ไทยร่วม   ร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาประเทศ


  


แต่มันอาจไปขัดขวางกระบวนการเกาะกินการเงิน และระบบสังคมไทย  ของกลุ่มทุน


ฉะนั้น นักศึกษาคือศัตรูของนายทุน   ถ้าคนไทยฉลาดมีความรู้  รู้สำนึกในหนั้าที่

นายทุนก็จะหากินกับคนจนไม่ได้....



สุดท้าย  อ. ป๋วยอึ้งภากรณ์   ก็ต้องออกนอกประเทศไป   แต่ผมก็ไม่รู้ว่า  ท่านได้ไปพบไปคุย  กับ  ดร. ปรีดี  พนมยงค์  ด้วยมั้ย





แล้วขอย้อนกลับมาดูแบงค์ชาติวันนี้  


แบงค์ชาติของไทย เป็นคนไปช่วยวางระบบและให้ปรึกษาแก่ แบงค์ชาติสิงค์โปร์นะ.


แต่แบงค์ชาติไทยในวันนี้   การอยู่บนหอคอยงาช้างไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิน

ว่าธนาคารวันนี้ หลอกขายประกัน  ฉ้อโกงลูกค้า   บริหารงานหละหลวมจะ พนักงานแค่

ผจก.สาขายังโอนเงินได้เป็นพันล้านออกจากบัญชีมหาวิทยาลัยได้

ผมแทบจะไม่เห็นความใส่ใจของแบงค์ชาติเลย

เหมือนกับว่าเรื่องนี้เป็นแค่เงินหาย 1 บาท ตกลงคลอง

...ก็เหมือนกับ กลต   ตลาดหลักทรัพย์ นั้นละ

ที่ปล่อยให้หุ้น เพิ่มๆทุน  แล้วก็ยักยอกเงินออกจากบริษัทโดยแกล้งไปซื้อที่ดินให้ไม่มีเงินจ่าย

แล้วปล่อยให้ ยึดเงินเป็นพันล้าน

แล้วก็มาเป็นข้ออ้าง เพิ่มทุนอีกรอบ..  เพิ่มต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็มีหุ้น PP  มาเทขายใส่รายย่อยได้ตลอด.


เราคงหมดหวังกับ หน่วยงานรัฐ  และไม่รัฐต่างๆ  แล้ว


ในเมื่อเราเห็นเงิน  เห็นประโยชน์ตรงหน้าเรา      

  มากกว่าความถูกต้องของสังคม   เราเลือกจะจับเงินใส่กระเป๋าเรา

โดยแลกกับผลเสียของคนในสังคม  เลือกที่จะไม่ลงโทษไม่จับ คนที่ให้ประโยชน์กับเรา


........ แล้วสังคมไทยจะเป็นยังไง   ละ

ตำรวจไม่จับคนผิดเพราะ คนนั้นรวย

ไม่จับ เพราะเป็นลูกนาย ตำรวจใหญ่   ไม่จับเพราะๆๆๆๆๆๆ  อีกมากมาย


เมื่อนั้นละ สังคมไทย  คนจนกับคนรวยก็ใกล้ละ


ใหล้จะเปิดศึกกันละ  สังคมไทยคงแบ่งชนชั้นกัน

คนรวยก็อย่าคิดว่าไปไหนแล้วปลอดภัย    เพราะเมื่อคุณออกจากบ้าน  

ลูกคุณลงจากรถไป  ร ร.   อาจมีคนจนที่พร้อมจะเป็นโจรพร้อมจะก่อคดีทันที

เพราะความบีบคั้นทางเศรษฐกิจ   และคิดว่าทำไปแล้วถ้าตำรวจติดคุกก็แค่ไปเข้าคุก มีข้าวให้กินฟรี

อยู่ข้างนอกไม่มีงานทำ หรือต้องทำงานได้เงินเดือนไม่พอใช้  งั้นไปอยู่ในคุกดีกว่า


ลองคิดดูว่าสังคมไทยถ้าเดินไปถึงจุดนั้น  สภาพสังคมจะเป็นเช่นไร


เราจะให้ลูกหลานเราเกิดมาในสังคมแบบนี้หรือไม่ .......  .. .....   ......   ...  ' '  ''  "  '' ' '  ' '
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่