พอดีเห็นคนแชร์กันเยอะมาก มาไขข้อสงสัยให้นะครับ
เรื่องจริงวันนี้. เล่ากี่ทีก็เหมือนเดิม.
มีการทำกิจการหนึ่ง รวมตัวกันในรูปแบบหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน และมีผู้ถือหุ้น 10 คน แต่ละคนถือ 10 %
โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นไว้ใจและมอบหมายให้ผู้ถือหุ้นท่านหนึ่ง เป็นผู้บริหารกิจการ โดยมี % ค่าบริหารให้เป็นค่าตอบแทน
ฉะนั้นผู้บริหารท่านนี้มีรายได้ 2 ทางคือ จากเงินปั้นผลในฐานะผู้ถือหุ้น และจากค่าบริหาร
โดยมีการแบ่งงาน และวางระบบคานอำนาจไว้ 3 ด้าน คือ
1.ด้านบัญชี
2.การเงิน
3. การบริหาร
โดยหุ้นส่วนใหญ่ที่เหลือทั้ง 9 คน ได้ส่งตัวแทนจำนวน 2 คน เข้าไปดูแลด้านการเงิน และการบัญชี
ช่วงแรกกิจการดำเนินการตามที่มีการวางระบบกันไว้
ต่อมาหุ้นส่วนท่านที่ได้รับมอบหมายให้บริหาร ได้สร้างสถานการณ์และบริหารจัดการจนตัวแทนของฝ่ายหุ้นส่วนใหญ่ที่เข้ามา ไม่สามารถอยู่ร่วมงานได้
จากนั้นผู้บริหารท่านดังกล่าว ได้เริ่มบริหารกิจการไปในทิศทางที่ไม่โปร่งใส ตรวจสอบไม่ได้ในทุกกรณี
ต่อมาได้รุกคืบ โดยมีการดำเนินการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในการทำธุรกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกิจการ
โดยผู้ถือหุ้นฝ่ายใหญ่ไม่ได้รับทราบและอนุมัติแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นการทำสัญญาเช่าที่ดิน , ใบอนุญาตต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นการกระทำที่ทำโดยพลการ และส่อเจตนาทุจริต
โดยมีนักกฎหมายกลุ่มหนึ่งที่ไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพร่วมสังฆกรรมในการกระทำในครั้งนี้ จากนั้นเริ่มได้ใจและลุกลามเข้าครอบงำกิจการ โดยการเอาญาติพี่น้อง ทั้งฝ่ายตัวเองและภรรยาของผู้บริหารท่านดังกล่าว
เข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งที่สำคัญทุกตำแหน่งของกิจการ
เมื่อปรากฏชัดว่ามีการบริหารงานที่มีการทุจริตของผู้บริหารเกิดขึ้นจริง
**ผู้ถือหุ้นฝ่ายใหญ่ทั้งหมดจึงเรียกประชุมเพื่อให้ผู้บริหารมาชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริง
แต่ผู้บริหารท่านนั้นไม่ชี้แจง กลับบ่ายเบี่ยง เปลี่ยนประเด็น จนในที่สุดที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติให้ขายกิจการ
และนำเงินมาแบ่งตามสัดส่วน และให้ผู้บริหารท่านนั้นหมดหน้าที่และหยุดบริหารกิจการ
เพื่อยั้บยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อไป แต่ผู้บริหารคนดังกล่าวกลับฝ่าฝืนมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นเปิดกิจการให้บริการต่อ
ทำเสมือนเป็นเจ้าของกิจการเสียเอง ทั้งที่มีหุ้นอยู่แค่ 10 %
ผู้ถือหุ้นฝ่ายใหญ่จึงได้อาศัยอำนาจตามกฎหมาย และดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อเข้าตรวจสอบกิจการและยั้บยั้งความเสียหายเพื่อไม่ให้ลุกลามต่อไป ต่อมาผู้ถือหุ้นฝ่ายใหญ่ได้รับการประสานจากเจ้าของที่ดิน ที่ให้เช่าทำกิจการว่า
ได้บอกเลิกสัญญาและเข้ายืดทรัพย์สินทั้งหมด ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญา
เพราะว่ามีการกระทำผิดสัญญาเช่า เนื่องจากผู้บริหารท่านดังกล่าวที่ถือหุ้น 10 % ไม่ชำระค่าเช่าติดต่อกัน 2 เดือน เป็นเหตุให้ต้องหยุดและยกเลิกกิจการไปโดยปริยาย
หลังจากนั้นหุ้นส่วนฝ่ายใหญ่ได้เข้าเจรจากับเจ้าของที่ดิน เพื่อทำสัญญาเช่าใหม่ แต่ผู้บริหารท่านเดิม ที่บริหารโดยมีพฤติกรรมในทางทุจริต ก่อให้เกิดเสียหายร้ายแรงถึงกันต้องหยุดและเลิกกิจการ ไปเรียกร้องทางสื่อออนไลน์ว่าถูกรังแกและฉ้อโกงไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยผู้มีอิทธิพลอำนาจมืด
พฤติกรรมดังต่อไปนี้คือเป็นสิ่งที่คนดีควรทำใช่ไหมครับ
EX แจ้งและบอกกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือลูกค้าว่าตัวเองคือเจ้าของกิจการ ที่ถูกน่าจะถูกและมีมารยาทต้องแจ้งหรือบอกว่า หุ้นส่วนใหญ่ไว้ใจให้มาบริหารจะดูน่ารักกว่าไหม / ไม่มีระบบงานที่โปร่งใสตรวจสอบได้แม้แต่เรื่องเดียว / ไม่ว่าจะเป็นระบบรักษาความปลอดภัย cctv ก็ไม่สามารถดูผ่าน on line ให้ผู้ถือหุ้นทุกคนสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกิจการได้ ไม่ทราบว่าไม่ต้องการไม่ให้เห็นอะไร หรือกลัวว่าหุ้นส่วนที่เหลือจะหูตาสว่างหรือเปล่า
/// ระบบบัญชี / การเงิน มีโปรแกรมในการบริหารจัดการมากมายที่หุ้นส่วนทุกคนจะมีส่วนร่วมในการตรวจสอบกิจการได้ก็ไม่จัดให้มี
ไม่ทราบว่าคิดไม่ได้ หรือไม่ได้คิด หรือคิดแล้วว่าไม่มีดีกว่า 55555
//// เอกสารทางการเงิน หรือทางบัญชี ไม่มีให้และตรวจสอบได้ทุกครั้งที่มีการประชุมผู้ถือหุ้น หรือขอดูนอกจากการประชุม มีการเผาทำลายเอกสารทุกวันในช่วงเวลากลางคืน ผู้บริหารท่านนี้มีศิลปะในการบ่ายเบี่ยงได้อย่างแนบเนียน ถามว่าแล้วทำไมปล่อยให้เป็นเช่นนี้ ตอบได้ว่า
ก่อนหน้าหุ้นส่วนทุกคนมีช่องว่างระหว่างกันเกือบทั้งหมดด้วยฝีมือของผู้บริหารท่านนี้ ทำให้เป็นช่องทางในการแสวงหาประโยชน์เข้าตัวผู้บริหารอย่างตะกละ ตะกลาม เหยียบทุกคนที่อยู่ในเส้นทาง แม้แต่ผู้ที่ให้โอกาสเข้ามาอยู่ในวงการ ที่ต้องทนข่มขืนตลอดเส้นทางที่ผ่านมา ไม่มีพี่ ไม่มีน้อง ไม่มีผู้มีบุญคุณ ไม่มีสำนึกดีชั่ว ผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง กอบโกยโกงกินจนกิจการต้องยกเลิก นี้เหรอคนดีที่ถูกรังแก
เรื่องนี้มีพยานบุคคลมากมายที่เกี่ยวข้อง สามารถลงพื้นที่ตรวจสอบความจริงได้ทุกเวลา ถ้าอยากรู้ความจริง /////// ความจริงก็คือความจริง
พูดและเล่ากี่ครั้งก้อเหมือนเดิม ////// ช้าเร็วเรื่องนี้ต้องก็จบ และต้องมีผู้รับผิดชอบต่อผู้การกระทำที่ได้ก่อไว้ ทั้งทางกฎหมายและทางสังคม โดยเฉพาะสังคมของคนปากน้ำสมุทรปราการ ที่กำลังเริ่มทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด
***คนที่ทำผิดแล้วสำนึกยังน่าให้อภัย แต่ทำผิดแล้ว ยังจะพยายามทำให้ดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ ไม่มีสำนึกผิดชอบชั่วดี
ถ้าเรายังให้คนชั่วได้ใจท่านนี้ ก่อกรรมทำเวรกับเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกของเราอีกต่อไป เราคงต้องเปลี่ยนตรรกะกันใหม่
จากทำดีได้ดี เป็นทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป
#######พวกเรามีเรื่องที่น่าสนใจและทำ มากกว่าเรื่องที่คนชั่วได้ใจท่านนี้ กำลังเขียนขึ้นมาเอง โดยบิดเบือนข้อเท็จจริงที่มีอยู่ทั้งหมด
เพื่อจูงจมูกพวกเรา เพราะท่านคิดและเห็นว่าพวกเราเป็นควาย ขอบคุณนะครับที่อ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบ
ไม่ต้องเชื่อพวกเรา ขอเพียงรับฟัง แล้วใช้ดุลยพินิจของทุกท่าน จากนั้นความจริงจะปรากฏครับ
#####จากตัวจริงเสียงจริงผู้ที่ถูกกระทำ
ช่วยกันแชร์และแท็กกันเยอะๆเพื่อช่วย ITCHY ของเรานะครับ
เกิดอะไรขึ้นกับ Itchy Pub สมุทรปราการ
เรื่องจริงวันนี้. เล่ากี่ทีก็เหมือนเดิม.
มีการทำกิจการหนึ่ง รวมตัวกันในรูปแบบหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน และมีผู้ถือหุ้น 10 คน แต่ละคนถือ 10 %
โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นไว้ใจและมอบหมายให้ผู้ถือหุ้นท่านหนึ่ง เป็นผู้บริหารกิจการ โดยมี % ค่าบริหารให้เป็นค่าตอบแทน
ฉะนั้นผู้บริหารท่านนี้มีรายได้ 2 ทางคือ จากเงินปั้นผลในฐานะผู้ถือหุ้น และจากค่าบริหาร
โดยมีการแบ่งงาน และวางระบบคานอำนาจไว้ 3 ด้าน คือ
1.ด้านบัญชี
2.การเงิน
3. การบริหาร
โดยหุ้นส่วนใหญ่ที่เหลือทั้ง 9 คน ได้ส่งตัวแทนจำนวน 2 คน เข้าไปดูแลด้านการเงิน และการบัญชี
ช่วงแรกกิจการดำเนินการตามที่มีการวางระบบกันไว้
ต่อมาหุ้นส่วนท่านที่ได้รับมอบหมายให้บริหาร ได้สร้างสถานการณ์และบริหารจัดการจนตัวแทนของฝ่ายหุ้นส่วนใหญ่ที่เข้ามา ไม่สามารถอยู่ร่วมงานได้
จากนั้นผู้บริหารท่านดังกล่าว ได้เริ่มบริหารกิจการไปในทิศทางที่ไม่โปร่งใส ตรวจสอบไม่ได้ในทุกกรณี
ต่อมาได้รุกคืบ โดยมีการดำเนินการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในการทำธุรกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกิจการ
โดยผู้ถือหุ้นฝ่ายใหญ่ไม่ได้รับทราบและอนุมัติแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นการทำสัญญาเช่าที่ดิน , ใบอนุญาตต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นการกระทำที่ทำโดยพลการ และส่อเจตนาทุจริต
โดยมีนักกฎหมายกลุ่มหนึ่งที่ไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพร่วมสังฆกรรมในการกระทำในครั้งนี้ จากนั้นเริ่มได้ใจและลุกลามเข้าครอบงำกิจการ โดยการเอาญาติพี่น้อง ทั้งฝ่ายตัวเองและภรรยาของผู้บริหารท่านดังกล่าว
เข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งที่สำคัญทุกตำแหน่งของกิจการ
เมื่อปรากฏชัดว่ามีการบริหารงานที่มีการทุจริตของผู้บริหารเกิดขึ้นจริง
**ผู้ถือหุ้นฝ่ายใหญ่ทั้งหมดจึงเรียกประชุมเพื่อให้ผู้บริหารมาชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริง
แต่ผู้บริหารท่านนั้นไม่ชี้แจง กลับบ่ายเบี่ยง เปลี่ยนประเด็น จนในที่สุดที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติให้ขายกิจการ
และนำเงินมาแบ่งตามสัดส่วน และให้ผู้บริหารท่านนั้นหมดหน้าที่และหยุดบริหารกิจการ
เพื่อยั้บยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อไป แต่ผู้บริหารคนดังกล่าวกลับฝ่าฝืนมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นเปิดกิจการให้บริการต่อ
ทำเสมือนเป็นเจ้าของกิจการเสียเอง ทั้งที่มีหุ้นอยู่แค่ 10 %
ผู้ถือหุ้นฝ่ายใหญ่จึงได้อาศัยอำนาจตามกฎหมาย และดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อเข้าตรวจสอบกิจการและยั้บยั้งความเสียหายเพื่อไม่ให้ลุกลามต่อไป ต่อมาผู้ถือหุ้นฝ่ายใหญ่ได้รับการประสานจากเจ้าของที่ดิน ที่ให้เช่าทำกิจการว่า
ได้บอกเลิกสัญญาและเข้ายืดทรัพย์สินทั้งหมด ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญา
เพราะว่ามีการกระทำผิดสัญญาเช่า เนื่องจากผู้บริหารท่านดังกล่าวที่ถือหุ้น 10 % ไม่ชำระค่าเช่าติดต่อกัน 2 เดือน เป็นเหตุให้ต้องหยุดและยกเลิกกิจการไปโดยปริยาย
หลังจากนั้นหุ้นส่วนฝ่ายใหญ่ได้เข้าเจรจากับเจ้าของที่ดิน เพื่อทำสัญญาเช่าใหม่ แต่ผู้บริหารท่านเดิม ที่บริหารโดยมีพฤติกรรมในทางทุจริต ก่อให้เกิดเสียหายร้ายแรงถึงกันต้องหยุดและเลิกกิจการ ไปเรียกร้องทางสื่อออนไลน์ว่าถูกรังแกและฉ้อโกงไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยผู้มีอิทธิพลอำนาจมืด
พฤติกรรมดังต่อไปนี้คือเป็นสิ่งที่คนดีควรทำใช่ไหมครับ
EX แจ้งและบอกกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือลูกค้าว่าตัวเองคือเจ้าของกิจการ ที่ถูกน่าจะถูกและมีมารยาทต้องแจ้งหรือบอกว่า หุ้นส่วนใหญ่ไว้ใจให้มาบริหารจะดูน่ารักกว่าไหม / ไม่มีระบบงานที่โปร่งใสตรวจสอบได้แม้แต่เรื่องเดียว / ไม่ว่าจะเป็นระบบรักษาความปลอดภัย cctv ก็ไม่สามารถดูผ่าน on line ให้ผู้ถือหุ้นทุกคนสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกิจการได้ ไม่ทราบว่าไม่ต้องการไม่ให้เห็นอะไร หรือกลัวว่าหุ้นส่วนที่เหลือจะหูตาสว่างหรือเปล่า
/// ระบบบัญชี / การเงิน มีโปรแกรมในการบริหารจัดการมากมายที่หุ้นส่วนทุกคนจะมีส่วนร่วมในการตรวจสอบกิจการได้ก็ไม่จัดให้มี
ไม่ทราบว่าคิดไม่ได้ หรือไม่ได้คิด หรือคิดแล้วว่าไม่มีดีกว่า 55555
//// เอกสารทางการเงิน หรือทางบัญชี ไม่มีให้และตรวจสอบได้ทุกครั้งที่มีการประชุมผู้ถือหุ้น หรือขอดูนอกจากการประชุม มีการเผาทำลายเอกสารทุกวันในช่วงเวลากลางคืน ผู้บริหารท่านนี้มีศิลปะในการบ่ายเบี่ยงได้อย่างแนบเนียน ถามว่าแล้วทำไมปล่อยให้เป็นเช่นนี้ ตอบได้ว่า
ก่อนหน้าหุ้นส่วนทุกคนมีช่องว่างระหว่างกันเกือบทั้งหมดด้วยฝีมือของผู้บริหารท่านนี้ ทำให้เป็นช่องทางในการแสวงหาประโยชน์เข้าตัวผู้บริหารอย่างตะกละ ตะกลาม เหยียบทุกคนที่อยู่ในเส้นทาง แม้แต่ผู้ที่ให้โอกาสเข้ามาอยู่ในวงการ ที่ต้องทนข่มขืนตลอดเส้นทางที่ผ่านมา ไม่มีพี่ ไม่มีน้อง ไม่มีผู้มีบุญคุณ ไม่มีสำนึกดีชั่ว ผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง กอบโกยโกงกินจนกิจการต้องยกเลิก นี้เหรอคนดีที่ถูกรังแก
เรื่องนี้มีพยานบุคคลมากมายที่เกี่ยวข้อง สามารถลงพื้นที่ตรวจสอบความจริงได้ทุกเวลา ถ้าอยากรู้ความจริง /////// ความจริงก็คือความจริง
พูดและเล่ากี่ครั้งก้อเหมือนเดิม ////// ช้าเร็วเรื่องนี้ต้องก็จบ และต้องมีผู้รับผิดชอบต่อผู้การกระทำที่ได้ก่อไว้ ทั้งทางกฎหมายและทางสังคม โดยเฉพาะสังคมของคนปากน้ำสมุทรปราการ ที่กำลังเริ่มทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด
***คนที่ทำผิดแล้วสำนึกยังน่าให้อภัย แต่ทำผิดแล้ว ยังจะพยายามทำให้ดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ ไม่มีสำนึกผิดชอบชั่วดี
ถ้าเรายังให้คนชั่วได้ใจท่านนี้ ก่อกรรมทำเวรกับเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกของเราอีกต่อไป เราคงต้องเปลี่ยนตรรกะกันใหม่
จากทำดีได้ดี เป็นทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป
#######พวกเรามีเรื่องที่น่าสนใจและทำ มากกว่าเรื่องที่คนชั่วได้ใจท่านนี้ กำลังเขียนขึ้นมาเอง โดยบิดเบือนข้อเท็จจริงที่มีอยู่ทั้งหมด
เพื่อจูงจมูกพวกเรา เพราะท่านคิดและเห็นว่าพวกเราเป็นควาย ขอบคุณนะครับที่อ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบ
ไม่ต้องเชื่อพวกเรา ขอเพียงรับฟัง แล้วใช้ดุลยพินิจของทุกท่าน จากนั้นความจริงจะปรากฏครับ
#####จากตัวจริงเสียงจริงผู้ที่ถูกกระทำ
ช่วยกันแชร์และแท็กกันเยอะๆเพื่อช่วย ITCHY ของเรานะครับ