เรื่องราวชีวิตของลูกผู้ชายคนหนึ่ง ที่ต้องต่อสู้กับชะตาฟ้าลิขิต เขาแกร่ง ทน อึดและหนักแน่น ประดุจผืนแผ่นดินใหญ่ ผืนดินนี้แห้งผากเพราะไร้น้ำใจมาหล่อเลี้ยง เขาเฝ้ารอสายฝนแห่งรักที่ยิ่งใหญ่ มาชโลมหัวใจที่ตายด้าน...ให้มันชุมชื่น ดั่ง ดินหลังฝน
ดินหลังฝน
โดย...ลิขิตสีชมพู (งานเขียนร่วมกันเรื่องแรกระหว่างลายลิขิตและสายป่านสีชมพูค่ะ)
บทนำ
รถเก๋งคันเล็กสีฟ้าสดตามสมัยนิยมแล่นเข้ามาจอดหน้าป้อมยาม ตรงซุ้มประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของภาคอิสาน
“จะมารับปริญญาเพื่อนน่ะครับลุง ตรงหอประชุมยังมีที่จอดไหมครับ”
นนท์ชายหนุ่มวัยทำงานหน้าตาดี แต่งตัวสะอาดสะอ้านเลื่อนกระจกลงถามพนักงานรักษาความปลอดภัยวัยคราวพ่อที่ยืนวันทยาหัตถ์แสดงความเคารพอย่างสุภาพ
“ยังพอมีที่จอดครับ แต่ต้องรีบหน่อย อีกสักเดี๋ยวรถจะเยอะแล้วครับ”
พนักงานรักษาความปลอดภัยสูงวัยตอบคำถาม ก่อนจะโบกมือส่งสัญญาณให้เพื่อนร่วมงานอีกคนที่อยู่ในป้อมทำการเปิดไม้กั้นถนน เพื่อให้รถยนต์ผู้มาเยือนผ่านเข้าไป
“ลำบากใจหรือเปล่าพลอย วันนี้ยังไม่ต้องบอกเขาก็ได้นะ พร้อมเมื่อไหร่ค่อยบอกก็ได้”
นนท์ชำเลืองมองดวงหน้าหวานใสของหญิงสาวที่นั่งข้างๆ พร้อมกับวางมือใหญ่ทับมือเรียวที่อยู่บนตักสาวสวย ขณะขับรถไปตามถนนคอนกรีตภายในมหาวิทยาลัยซึ่งสองข้างทางปลูกต้นไม้สูงใหญ่ร่มรื่นตลอดทาง
“พลอย...พลอยทำผิดต่อเค้า พลอยรู้ว่าวอร์ต้องเสียใจมากแน่ ๆ”
หญิงสาวพูดพึมพำ เธอกัดริมฝีปากบาง พยายามกระพริบตาติด ๆ กัน เพื่อกลั้นน้ำใสๆในดวงตากลมโตคู่สวยไม่ให้เอ่อล้นออกมา
“เรื่องนี้เราสองคนไม่ผิดหรอก เจ้าหมอนั่นต่างหากที่ผิด เพราะความเห็นแก่ตัวของมันเรื่องถึงต้องลงเอยแบบนี้ นายวอร์ไม่มีสิทธิ์จะมาจับจองพลอยไว้โดยไม่คิดจริงจัง ปล่อยให้พลอยรออย่างไร้ความหวัง ถ้ามันพูดไม่รู้เรื่องจริงๆ นนท์จะคุยกับมันเอง...แบบลูกผู้ชาย”
แววตาของชายหนุ่มแสดงความขุ่นเคือง เขาพูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาล เมื่อเอ่ยถึงชายอีกคนราวกับโกรธแค้นกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน
“นนท์...ความจริงวอร์เป็นคนน่าสงสาร...”
“สงสารก็ส่วนสงสาร ไม่ใช่รักนะพลอย!” นนท์ลืมตัวเผลอตวาดหญิงสาวเสียงดังจนอีกฝ่ายถึงกับหน้าซีด
“เอ่อ...นนท์ขอโทษ นนท์ไม่ได้ตั้งใจ นนท์แค่รู้สึกโกรธหมอนั่นแทนพลอยเท่านั้นเอง”
ชายหนุ่มได้สติจึงรีบขอโทษขอโพยสาวน้อยข้างกายยกใหญ่ พลอยใสนิ่งเงียบ เธอเบือนหน้าหนีไปอีกทาง จนกระทั่งมือใหญ่ข้างหนึ่งของนนท์ละจากพวงมาลัยรถ เอื้อมมาจับมือเธอบีบเบา ๆ พลอยใสจึงหันมาสบตาชายคนรัก หญิงสาวยิ้มน้อย ๆ พยักหน้าให้อภัย
เนื่องจากวันนี้เป็นวันรับพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัย บรรดาญาติพี่น้องของบัณฑิตต่างถือช่อดอกไม้และตุ๊กตามาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง ผู้คนพากันเลือกหามุมสวยๆ ถ่ายรูปร่วมกับลูกหลานด้วยความภาคภูมิใจ พวกเขาแวะเวียนไปตามซุ้มแสดงความยินดีต่างๆ ที่ทางมหาวิทยาลัยจัดเตรียมเอาไว้ให้มากมายเต็มลานกว้างรอบตึกทรงโดมขนาดใหญ่
ซึ่งตึกแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่จัดพิธีอันน่าชื่นใจ จนพื้นที่ซึ่งเคยโล่งกว้างดูแคบไปถนัดตา
“คนเยอะแบบนี้จะหากันเจอได้ไงเนี่ย พอถึงเวลาทำพิธีแล้วเขาไม่อนุญาตให้บัณฑิตพกมือถือเข้าไปด้วยนี่...”
นนท์บ่นอุบก่อนก้มดูนาฬิกาที่ข้อมือพร้อมกับส่ายศีรษะอย่างหงุดหงิด
“ใจเย็นๆ น่านนท์ เมื่อเช้าวอร์บอกว่าจะรออยู่แถว ๆ ซุ้มคณะ หรือไม่ก็ซุ้มใหญ่ แต่ไม่รู้ว่าซุ้มนั้นมันอยู่ตรงไหนนี่สิ”
หญิงสาวถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่มองดูเพื่อนชายด้วยสีหน้าลำบากใจ ก่อนพยายามสอดสายตาไปตามซุ้มต่างๆ เพื่อหาชายคนที่เธอนัดไว้
“นั่นไงเจอแล้ว!”
พลอยโพล่งขึ้นพลางชี้นิ้วไปยังซุ้มใหญ่หน้าทางขึ้นตึกโดมด้วยสีหน้าดีใจ ก่อนเปลี่ยนเป็นหมองเศร้าลงเพราะนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เธอไม่ได้มาเพื่อแสดงความยินดีเป็นเรื่องหลัก
“วอร์...”
บัณฑิตหนุ่มในชุดครุยหันตามเสียงเรียกที่คุ้นเคยทันที รอยยิ้มระบายเต็มดวงหน้าคมสัน เมื่อเห็นสาวสวยผมยาวประบ่าพาร่างแบบบางในชุดกระโปรงสีขาวลายดอกกุหลาบเดินมาพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่
“ยินดีด้วยนะวอร์ เรียนจบเป็นบัณฑิตแล้ว”
หญิงสาวส่งดอกกุหลาบให้ชายหนุ่มเจ้าของชื่อสุดเท่พร้อมรอยยิ้มหวาน
“วอร์รอพลอยตั้งแต่เช้าแน่ะ นึกว่าพลอยจำวันผิดซะอีก”
บัณฑิตหนุ่มตัดพ้อน้อย ๆ ส่งยิ้มสดใสให้สาวสวย
“เออ...จริงสิ จะถึงเวลาเข้าพิธีการแล้ว มาๆ พลอยมาถ่ายรูปกับวอร์ก่อน กว่าจะเสร็จพิธีก็เย็นนู่นเลยนะ”
ชายหนุ่มฉุดแขนบางไปยังซุ้มถ่ายภาพ
“มะ...ไม่ ไม่ดีกว่า...”
พลอยอึกอัก คำปฏิเสธของพลอยและกิริยาขืนตัว พร้อมบิดแขนให้หลุดออกจากการเกาะกุมของเขา ทำเอาบัณฑิตหนุ่มถึงกับหยุดชะงัก ก่อนจะหันมามองใบหน้าสวยนั้นด้วยแววตาสงสัย พลอยใสสูดลมหายใจลึก เธอรวบรวมความกล้าแล้วจึงตัดสินใจเอ่ยปากบอกสิ่งที่เตรียมไว้
“วอร์...คือ...พลอยกำลังจะแต่งงานกับนนท์ พลอยพยายามรอวอร์แล้ว แต่สิบเอ็ดปีมันนานเกินไป พลอย...พลอยขอโทษ ยกโทษให้พลอยด้วยนะ”
“พลอย...พลอยพูดว่าไงนะ”
แทบไม่เชื่อหูตัวเอง วอร์ถามคนรักซ้ำ
“อย่างที่บอก...พลอยกำลังจะแต่งงานกับนนท์”
สีหน้างุนงงเมื่อสักครู่ของวอร์เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด ชายหน่มสะอึกอึ้งครั้นแล้วจึงเปลี่ยนเป็นเศร้าซึมลงถนัดตา นี่พลอยมาร่วมแสดงความยินดีพร้อมกับกล่าวอำลาหรือนี่ วอร์ไม่คาดคิดว่าจะได้ฟังสิ่งนี้จากปากของแฟนสาวที่คบหากันมายาวนานถึงสิบเอ็ดปี...ซึ่งกำลังจะกลายแฟนเก่า...
“อย่างนั้นเหรอ พลอยกำลังจะแต่งงานกับนนท์จริง ๆ เหรอ”
บัณฑิตหนุ่มผู้กำลังจะอกหักพูดเหมือนคราง ในที่สุดก็ถึงวันนี้เข้าจนได้...พลอยใสก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด น้ำตาเริ่มปริ่มคลอเบ้า มันไม่ง่ายเลยที่ต้องตัดสินใจบอกเขาแบบนี้ ในวันที่ควรมีแต่ความยินดี
“ไม่เป็นไรหรอก...ไม่ต้องคิดมาก วอร์เข้าใจ”
ชายหนุ่มถอนใจยาว เขามองหญิงคนรักอย่างช้ำใจ นี่เพราะเขาปล่อยให้เธอรอนานเกินไปสินะ...ถึงแม้หัวใจสลายแต่ชายหนุ่มก็ยังพูดปลอบ วอร์พยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นขณะกล่าวต่อ
“...พลอยคิดมาดีแล้วใช่ไหม ถ้างั้นวอร์ก็เคารพการตัดสินใจของคนที่วอร์รัก แต่วอร์คงไม่โกหกว่าไม่รู้สึกเจ็บ มันเจ็บมาก...เจ็บจนไม่รู้จะอธิบายยังไงดี สิบเอ็ดปีมันไม่นานเลย สำหรับการที่วอร์ต้องรอใครสักคน...ถ้าเขากลับมา แต่มันนานเกินไปถ้าคนที่วอร์รอ...ไม่กลับมา วอร์จะไม่ถามหรอกว่าพลอยเริ่มคบกับเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่วอร์คงพูดได้แค่ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น วอร์ยังเป็นเพื่อนที่ดีให้พลอยได้เสมอ”
ชายหนุ่มจับมือบางของคนเคยรักมากุมไว้อย่างอ่อนโยน น้ำเสียงกลับมานุ่มนวลอบอุ่นเหมือนเดิม แววตาคู่นั้นแม้เจ็บช้ำแต่ยังคงมองใบหน้าสวยของหญิงสาวด้วยความหวังดีเหมือนวันวาน ต่างไปเพียงมีน้ำใสๆ ที่คลอดวงตาคม คล้ายมันพร้อมจะเอ่อล้นออกมาทุกวินาที
“วอร์ขอตัวไปถ่ายรูปกับเพื่อน ๆ ทางนั้นก่อนนะ” ได้เวลาตัดใจ...บัณฑิตหนุ่มพยายามฝืนยิ้มให้แฟนเก่า เขาหันหลังกลับแล้วเดินจากเธอมาพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆ พรั่งพรูนองหน้าอย่างสุดกลั้น ต่อหน้าหญิงคนรักที่กลายเป็นอื่น วอร์พยายามกลั้นมันเอาไว้เต็มที่ ไม่ให้มันไหลออกมาประจานความอ่อนแอของตัวเอง เขาไม่ควรอ่อนแอ แม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้จะทำร้ายหัวใจให้บาดเจ็บเจียนตายก็ตาม...
*********************
จบบทนำ
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
ดินหลังฝน บทนำ
โดย...ลิขิตสีชมพู (งานเขียนร่วมกันเรื่องแรกระหว่างลายลิขิตและสายป่านสีชมพูค่ะ)
รถเก๋งคันเล็กสีฟ้าสดตามสมัยนิยมแล่นเข้ามาจอดหน้าป้อมยาม ตรงซุ้มประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของภาคอิสาน
“จะมารับปริญญาเพื่อนน่ะครับลุง ตรงหอประชุมยังมีที่จอดไหมครับ”
นนท์ชายหนุ่มวัยทำงานหน้าตาดี แต่งตัวสะอาดสะอ้านเลื่อนกระจกลงถามพนักงานรักษาความปลอดภัยวัยคราวพ่อที่ยืนวันทยาหัตถ์แสดงความเคารพอย่างสุภาพ
“ยังพอมีที่จอดครับ แต่ต้องรีบหน่อย อีกสักเดี๋ยวรถจะเยอะแล้วครับ”
พนักงานรักษาความปลอดภัยสูงวัยตอบคำถาม ก่อนจะโบกมือส่งสัญญาณให้เพื่อนร่วมงานอีกคนที่อยู่ในป้อมทำการเปิดไม้กั้นถนน เพื่อให้รถยนต์ผู้มาเยือนผ่านเข้าไป
“ลำบากใจหรือเปล่าพลอย วันนี้ยังไม่ต้องบอกเขาก็ได้นะ พร้อมเมื่อไหร่ค่อยบอกก็ได้”
นนท์ชำเลืองมองดวงหน้าหวานใสของหญิงสาวที่นั่งข้างๆ พร้อมกับวางมือใหญ่ทับมือเรียวที่อยู่บนตักสาวสวย ขณะขับรถไปตามถนนคอนกรีตภายในมหาวิทยาลัยซึ่งสองข้างทางปลูกต้นไม้สูงใหญ่ร่มรื่นตลอดทาง
“พลอย...พลอยทำผิดต่อเค้า พลอยรู้ว่าวอร์ต้องเสียใจมากแน่ ๆ”
หญิงสาวพูดพึมพำ เธอกัดริมฝีปากบาง พยายามกระพริบตาติด ๆ กัน เพื่อกลั้นน้ำใสๆในดวงตากลมโตคู่สวยไม่ให้เอ่อล้นออกมา
“เรื่องนี้เราสองคนไม่ผิดหรอก เจ้าหมอนั่นต่างหากที่ผิด เพราะความเห็นแก่ตัวของมันเรื่องถึงต้องลงเอยแบบนี้ นายวอร์ไม่มีสิทธิ์จะมาจับจองพลอยไว้โดยไม่คิดจริงจัง ปล่อยให้พลอยรออย่างไร้ความหวัง ถ้ามันพูดไม่รู้เรื่องจริงๆ นนท์จะคุยกับมันเอง...แบบลูกผู้ชาย”
แววตาของชายหนุ่มแสดงความขุ่นเคือง เขาพูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาล เมื่อเอ่ยถึงชายอีกคนราวกับโกรธแค้นกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน
“นนท์...ความจริงวอร์เป็นคนน่าสงสาร...”
“สงสารก็ส่วนสงสาร ไม่ใช่รักนะพลอย!” นนท์ลืมตัวเผลอตวาดหญิงสาวเสียงดังจนอีกฝ่ายถึงกับหน้าซีด
“เอ่อ...นนท์ขอโทษ นนท์ไม่ได้ตั้งใจ นนท์แค่รู้สึกโกรธหมอนั่นแทนพลอยเท่านั้นเอง”
ชายหนุ่มได้สติจึงรีบขอโทษขอโพยสาวน้อยข้างกายยกใหญ่ พลอยใสนิ่งเงียบ เธอเบือนหน้าหนีไปอีกทาง จนกระทั่งมือใหญ่ข้างหนึ่งของนนท์ละจากพวงมาลัยรถ เอื้อมมาจับมือเธอบีบเบา ๆ พลอยใสจึงหันมาสบตาชายคนรัก หญิงสาวยิ้มน้อย ๆ พยักหน้าให้อภัย
เนื่องจากวันนี้เป็นวันรับพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัย บรรดาญาติพี่น้องของบัณฑิตต่างถือช่อดอกไม้และตุ๊กตามาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง ผู้คนพากันเลือกหามุมสวยๆ ถ่ายรูปร่วมกับลูกหลานด้วยความภาคภูมิใจ พวกเขาแวะเวียนไปตามซุ้มแสดงความยินดีต่างๆ ที่ทางมหาวิทยาลัยจัดเตรียมเอาไว้ให้มากมายเต็มลานกว้างรอบตึกทรงโดมขนาดใหญ่
ซึ่งตึกแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่จัดพิธีอันน่าชื่นใจ จนพื้นที่ซึ่งเคยโล่งกว้างดูแคบไปถนัดตา
“คนเยอะแบบนี้จะหากันเจอได้ไงเนี่ย พอถึงเวลาทำพิธีแล้วเขาไม่อนุญาตให้บัณฑิตพกมือถือเข้าไปด้วยนี่...”
นนท์บ่นอุบก่อนก้มดูนาฬิกาที่ข้อมือพร้อมกับส่ายศีรษะอย่างหงุดหงิด
“ใจเย็นๆ น่านนท์ เมื่อเช้าวอร์บอกว่าจะรออยู่แถว ๆ ซุ้มคณะ หรือไม่ก็ซุ้มใหญ่ แต่ไม่รู้ว่าซุ้มนั้นมันอยู่ตรงไหนนี่สิ”
หญิงสาวถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่มองดูเพื่อนชายด้วยสีหน้าลำบากใจ ก่อนพยายามสอดสายตาไปตามซุ้มต่างๆ เพื่อหาชายคนที่เธอนัดไว้
“นั่นไงเจอแล้ว!”
พลอยโพล่งขึ้นพลางชี้นิ้วไปยังซุ้มใหญ่หน้าทางขึ้นตึกโดมด้วยสีหน้าดีใจ ก่อนเปลี่ยนเป็นหมองเศร้าลงเพราะนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เธอไม่ได้มาเพื่อแสดงความยินดีเป็นเรื่องหลัก
“วอร์...”
บัณฑิตหนุ่มในชุดครุยหันตามเสียงเรียกที่คุ้นเคยทันที รอยยิ้มระบายเต็มดวงหน้าคมสัน เมื่อเห็นสาวสวยผมยาวประบ่าพาร่างแบบบางในชุดกระโปรงสีขาวลายดอกกุหลาบเดินมาพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่
“ยินดีด้วยนะวอร์ เรียนจบเป็นบัณฑิตแล้ว”
หญิงสาวส่งดอกกุหลาบให้ชายหนุ่มเจ้าของชื่อสุดเท่พร้อมรอยยิ้มหวาน
“วอร์รอพลอยตั้งแต่เช้าแน่ะ นึกว่าพลอยจำวันผิดซะอีก”
บัณฑิตหนุ่มตัดพ้อน้อย ๆ ส่งยิ้มสดใสให้สาวสวย
“เออ...จริงสิ จะถึงเวลาเข้าพิธีการแล้ว มาๆ พลอยมาถ่ายรูปกับวอร์ก่อน กว่าจะเสร็จพิธีก็เย็นนู่นเลยนะ”
ชายหนุ่มฉุดแขนบางไปยังซุ้มถ่ายภาพ
“มะ...ไม่ ไม่ดีกว่า...”
พลอยอึกอัก คำปฏิเสธของพลอยและกิริยาขืนตัว พร้อมบิดแขนให้หลุดออกจากการเกาะกุมของเขา ทำเอาบัณฑิตหนุ่มถึงกับหยุดชะงัก ก่อนจะหันมามองใบหน้าสวยนั้นด้วยแววตาสงสัย พลอยใสสูดลมหายใจลึก เธอรวบรวมความกล้าแล้วจึงตัดสินใจเอ่ยปากบอกสิ่งที่เตรียมไว้
“วอร์...คือ...พลอยกำลังจะแต่งงานกับนนท์ พลอยพยายามรอวอร์แล้ว แต่สิบเอ็ดปีมันนานเกินไป พลอย...พลอยขอโทษ ยกโทษให้พลอยด้วยนะ”
“พลอย...พลอยพูดว่าไงนะ”
แทบไม่เชื่อหูตัวเอง วอร์ถามคนรักซ้ำ
“อย่างที่บอก...พลอยกำลังจะแต่งงานกับนนท์”
สีหน้างุนงงเมื่อสักครู่ของวอร์เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด ชายหน่มสะอึกอึ้งครั้นแล้วจึงเปลี่ยนเป็นเศร้าซึมลงถนัดตา นี่พลอยมาร่วมแสดงความยินดีพร้อมกับกล่าวอำลาหรือนี่ วอร์ไม่คาดคิดว่าจะได้ฟังสิ่งนี้จากปากของแฟนสาวที่คบหากันมายาวนานถึงสิบเอ็ดปี...ซึ่งกำลังจะกลายแฟนเก่า...
“อย่างนั้นเหรอ พลอยกำลังจะแต่งงานกับนนท์จริง ๆ เหรอ”
บัณฑิตหนุ่มผู้กำลังจะอกหักพูดเหมือนคราง ในที่สุดก็ถึงวันนี้เข้าจนได้...พลอยใสก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด น้ำตาเริ่มปริ่มคลอเบ้า มันไม่ง่ายเลยที่ต้องตัดสินใจบอกเขาแบบนี้ ในวันที่ควรมีแต่ความยินดี
“ไม่เป็นไรหรอก...ไม่ต้องคิดมาก วอร์เข้าใจ”
ชายหนุ่มถอนใจยาว เขามองหญิงคนรักอย่างช้ำใจ นี่เพราะเขาปล่อยให้เธอรอนานเกินไปสินะ...ถึงแม้หัวใจสลายแต่ชายหนุ่มก็ยังพูดปลอบ วอร์พยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นขณะกล่าวต่อ
“...พลอยคิดมาดีแล้วใช่ไหม ถ้างั้นวอร์ก็เคารพการตัดสินใจของคนที่วอร์รัก แต่วอร์คงไม่โกหกว่าไม่รู้สึกเจ็บ มันเจ็บมาก...เจ็บจนไม่รู้จะอธิบายยังไงดี สิบเอ็ดปีมันไม่นานเลย สำหรับการที่วอร์ต้องรอใครสักคน...ถ้าเขากลับมา แต่มันนานเกินไปถ้าคนที่วอร์รอ...ไม่กลับมา วอร์จะไม่ถามหรอกว่าพลอยเริ่มคบกับเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่วอร์คงพูดได้แค่ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น วอร์ยังเป็นเพื่อนที่ดีให้พลอยได้เสมอ”
ชายหนุ่มจับมือบางของคนเคยรักมากุมไว้อย่างอ่อนโยน น้ำเสียงกลับมานุ่มนวลอบอุ่นเหมือนเดิม แววตาคู่นั้นแม้เจ็บช้ำแต่ยังคงมองใบหน้าสวยของหญิงสาวด้วยความหวังดีเหมือนวันวาน ต่างไปเพียงมีน้ำใสๆ ที่คลอดวงตาคม คล้ายมันพร้อมจะเอ่อล้นออกมาทุกวินาที
“วอร์ขอตัวไปถ่ายรูปกับเพื่อน ๆ ทางนั้นก่อนนะ” ได้เวลาตัดใจ...บัณฑิตหนุ่มพยายามฝืนยิ้มให้แฟนเก่า เขาหันหลังกลับแล้วเดินจากเธอมาพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆ พรั่งพรูนองหน้าอย่างสุดกลั้น ต่อหน้าหญิงคนรักที่กลายเป็นอื่น วอร์พยายามกลั้นมันเอาไว้เต็มที่ ไม่ให้มันไหลออกมาประจานความอ่อนแอของตัวเอง เขาไม่ควรอ่อนแอ แม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้จะทำร้ายหัวใจให้บาดเจ็บเจียนตายก็ตาม...
(โปรดติดตามตอนต่อไป)