เดี๋ยวนี้การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์มีให้เห็นเพิ่มมากขึ้นตามโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
ก็มีสถานที่ที่น่าสนใจที่เราอาจมองข้ามกันไป โดยก่อนออกเดินทางดิชั้นและชาวแก๊งค์เกิร์ลกรุ๊ปจำนวน 4 คนถ้วน
ก็ได้ร่วมด้วยช่วยกันหาข้อมูลอย่างขะมักเขม้นก่อนออกเดินทาง ประกอบกับพวกเราเป็นนักศึกษาปริญญาโท
ซึ่งกำลังร่ำเรียนวิชานวัตกรรมการสื่อสารเพื่อการขับเคลื่อนสังคมกันอยู่ เลยถึงคราวต้องลงไปสัมผัสกับวิถีชุมชน
ต้นแบบกันสักหน่อย ซึ่งสุดท้ายถึงเวลาเคาะแคมเปญ ชาวแก๊งค์ของเราก็ได้เลือกที่จะไปลงพื้นที่ชุมชนต้นแบบที่มีชื่อว่า
“บ้านบางน้ำผึ้ง หมู่ที่ 3”
ซึ่งพวกคุณขาบางคนอาจจะยังไม่รู้กันสินะว่า “บ้านบางน้ำผึ้ง หมู่ที่ 3” นี้เป็น 1 ใน 11 หมู่ ของเขตการ
ปกครองภายใต้การดูแลของ อบต.บางน้ำผึ้งนั่นเอง ซึ่งในจำนวน 11 หมู่นี้ จะประกอบไปด้วย หมู่ที่ 1
บ้านบางน้ำผึ้งนอก, หมู่ที่ 2 บ้านบางน้ำผึ้ง, หมู่ที่ 3 บ้านบางน้ำผึ้ง, หมู่ที่ 4 บ้านบางน้ำผึ้ง, หมู่ที่ 5 บ้านคลองทรง,
หมู่ที่ 6 บ้านไฟไหม้, หมู่ที่ 7 บ้านคลองตาสัก, หมู่ที่ 8 บ้านบ้านคลองบ้านผึ้ง, หมู่ที่ 9 บ้านบางน้ำผึ้ง, หมู่ที่ 10
บ้านคลองบางน้ำผึ้ง และหมู่ที่ 11 บ้านบางน้ำผึ้ง หึหึ พออ่านมาถึงตรงนี้ ข้อมูลแน่นพอที่จะเริ่มออกเดินทางกันแล้ว
สินะ ถ้างั้นจะรออะไรกันอยู่ล่ะคะคุณขา ลงมือเก็บกระเป๋า สะพายกล้อง ไปท่องชุมชนกันได้ล้าววว
สำหรับการเดินทางไปยัง “บ้านบางน้ำผึ้ง หมู่ที่ 3” นั้นก็ไม่ได้ซับซ้อนวุ่นวายจนต้องทึ้งหูทึ้งหัวกันหรอกนะจ๊ะ
เพราะเดี๋ยวนี้การคมนาคมมาที่นี่ก็สะดวกสบายมากขึ้นแล้วล่ะค่ะคู๊ณณ เพราะไอ้ที่ยากกว่าการเดินทาง นั่นก็คือ
การนัดแนะกับชาวแก๊งค์ให้ลงตัวนั่นแหละที่ยากยิ่งกว่าอะไรดี 5555 การเดินทางมาที่ชุมชนนี้นั้น ขอแนะนำว่า
ถ้าจะให้ดีก็ควรเลือกเดินทางมาในวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ก็ได้ เพราะดูจะเป็นวันดีที่เหมาะสม
ที่นักท่องเที่ยวอย่างเราจะได้รับความคุ้มค่ากลับไปมากที่สุด เพราะว่าการมาถึงที่นี่สิ่งที่นักท่องเที่ยวอย่างเรา
พลาดไม่ได้เลยก็คือ “โฮมสเตย์” นั่นเอง! โดยโฮมสเตย์ที่บ้านบางน้ำผึ้ง หมู่ที่ 3 นี้ เค้าไม่ได้กระโหลกกะลานะคะคู๊ณณ
เพราะอะไรน่ะหรอ
เพราะนางได้รับการการันตี และผ่านการ ประเมินแล้วว่าเป็นโฮมสเตย์ที่ผ่านมาตรฐาน โดยได้รับการรับรองจากสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเชียวนะจ๊ะ เจ้าของโฮมสเตย์ทุกคนที่นี่ได้ผ่านการอบรมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวมาแล้ว
จึงทำให้พวกเขาจะมีความสามารถในการให้ข้อมูลของชุมชนและดูแลต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเราเป็นอย่างดี
และเหตุที่แนะนำให้พวกคุณขาทั้งหลายเลือกเดินทางมาในวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ นั่นก็เพราะว่า
เจ้าของโฮมสเตย์ที่นี่เค้ามีงานประจำทำกันจ้า จะอยู่ต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างพวกเราได้ก็ในวันหยุดนั่นแล
เข้าใจกันตรงพ้อยท์โนะ
อธิบายกันมาซะยืดยาวมาเข้าเรื่องวิธีการเดินทางกันดีกว่า เดี๋ยวจะไปไม่ถึงกันซักที โดยสำหรับการเดินทาง
มาที่ชุมชนบ้านบางน้ำผึ้ง หมู่ที่ 3 นี้ สามารถมาได้หลายเส้นทาง แต่วันที่พวกเราไปพวกเราใช้ 2 เส้นทางค่ะ
โดยเส้นทางแรกถ้าเดินทางมาโดยรถส่วนตัวทางฝั่งธน ก็ขับมาเรื่อยๆมาตามถนนเจริญนครไปจนสุดถนนเข้าสู่
เขตพระประแดง ขับตรงไปตามทางจนถึงทางบังคับเลี้ยวซ้าย จากนั้นก็ขับตรงไปเรื่อยๆจะมีป้ายคอยบอกตามทางค่ะ
ส่วนเส้นทางที่ 2 เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีบางนา จากนั้นต่อพี่วินหรือพี่แท็กซี่มาที่ท่าเรือวัดบางนานอก
เพื่อนั่งเรือข้ามไปยังฝั่งพระประแดง ค่าพี่วินจาก BTS บางนาไปท่าเรือประมาณ 15-20 บาท ส่วนค่าแท็กซี่ก็ไม่เกิน 50
บาทโดยประมาณ เมื่อถึงท่าเรือเมื่อเรือมากระโดดขึ้นเรือกันได้เลย ระหว่างนั่งเรือก็ชมวิวสวยๆไปเรื่อยๆค่ะ ไม่ถึง 5
นาทีดี ก็ถึงแล้วล่ะท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก มาถึงจุดนี้เราอย่าลืมทำการจ่ายค่าโดยสารกันด้วยโนะ โดยค่าบริการเรือ
ของเขาก็ไม่แพงค่ะ 4 บาทถ้วนต่อคนเท่าน้านนน เมื่อมาถึงครึ่งทางละ ก็ต้องใช้บริการพี่วินอีกรอบ พี่วินที่นี่คึกคัก
เข้าแถวเรียงต่อกันเป็นมอเตอร์ไซค์ดนตรีกันเลยทีเดียว รับส่งกันผู้โดยสารกันจ้าละหวั่น โดยเฉพาะในวันเสาร์อาทิตย์
และวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่มีตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ค่าโดยสารจากจุดนี้ไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้งอยู่ที่คนละ 15 บาท
แต่ถ้าจะนั่งเข้าไปในบ้านบางน้ำผึ้ง หมู่ 3 เลยอัตราค่าบริการก็อยู่ที่ 20 บาทถ้วนเลยค่ะ
image credit:
http://www.paiduaykan.com/travel/เที่ยวบางกระเจ้า
และในที่สุดชาวแก๊งค์เรา ก็พากันมาถึงชุมชนบ้านบางน้ำผึ้ง หมู่ที่ 3 กันล้าววว พวกเราเลือกที่จะเดินเท้า
สำรวจชุมชนกันก่อน แทนที่จะนั่งพี่วินเข้าไปที่โฮมสเตย์กันเลย และภาพแรกที่พบก็อาจดูไม่ค่อยคุ้นตาพวกเราที่
เติบโตกันในเมืองสักเท่าไหร่ เพราะสองข้างทางจะมีต้นไม้ให้ร่มเงาเป็นระยะ บ้านเรือนก็ปลูกกันอย่างสมถะ
น่าอยู่อาศัย เดินผ่านบ้านไหนคนท้องถิ่นที่นี่ก็จะเรียกทักทายพวกเราตลอดทางด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
ดูเป็นมิตรสุดๆ ทำให้เราไม่รู้สึกว่าเป็นคนต่างถิ่นที่ต้องเดินทางเข้ามาสัมผัสในชุมชนนี้เป็นครั้งแรก และจุดเด่นของที่นี่
อีกอย่างหนึ่งก็คือมีอากาศที่ดีมากกกก หายใจเข้าไปจะไม่มีฝุ่นควันสารพิษเยอะ เหมือนในเมืองหลวงที่เต็มไปด้วย
ฝุ่นควันสมแล้วล่ะที่นิตยสาร TIME ของอเมริกาเค้าจัดให้ชุมชนบางน้ำผึ้งเป็น 1 ใน 3 ของโอโซนที่ดีที่สุดของโลก
เมื่อเดินมาตามทางเรื่อยๆ ตั้งแต่ทางเข้าหมู่บ้านเราก็จะได้พบภูมิปัญญาชาวบ้านของชุมชนนี้เป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็น
บ้านลูกประคบสมุนไพรธัญพืช
บ้านหลังเล็กๆ แต่เจ้าของส่งยิ้มมาให้พวกเราแต่ไกล พร้อมร้องบอกว่า “เชิญได้นะคะ ยินดีให้ข้อมูลค่าา”
เสียงนั้นเป็นของคุณศิริพร พูนสุข หรือพี่ติ๋ว ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหัตถศาสตร์ลูกประคบธัญพืชนั่นเอง
ที่นี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนรักสุขภาพ เพราะที่นี่เป็นแหล่งผลิตผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรและให้บริการด้าน
สุขภาพ โดยการผสานภูมิปัญญาการใช้สมุนไพรกับการประยุกต์รูปแบบของผลิตภัณฑ์ให้มีความสะดวกต่อการใช้
เช่น เข็มขัดธัญพืช หมอนธัญพืชคล้องคอ ไหล่ หลัง และเอว เป็นต้น ถ้าได้มีโอกาสไปถึงที่นี่แล้วล่ะก็ อย่าพลาดที่
จะมาที่นี่เชียวล่ะ ชาวแก๊งค์เราขอแนะนำเลย พี่ติ๋วเจ้าของที่นี่แกน่ารักมากๆ
บ้านธูปหอมสมุนไพร
ที่นี่นับเป็นสถานที่ศึกษาเรียนรู้แก่บุคคลทั่วไป ทั้งนักเรียน นักศึกษา เป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวไทย
และชาวต่างชาติ เพื่อเรียนรู้การผลิตธูปหอมแบบสมุนไพรแบบต่างๆ การทำขนมไทย อาหารไทย และการประดิษฐ์
สิ่งของจากวัสดุธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่น แต่ถ้าจะมาที่นี่จะต้องโทรมาจองคิวก่อนนะจ๊ะขอบอก เพราะทัวร์ลง
บ่อยมากกก ติดต่อกันได้ที่เบอร์นี้เลยจ้าาา >>> โทร.02-815-0729
แต่ถ้าเข้าพักที่โฮมสเตย์ล่ะก็เราจะได้เรียนรู้การประดิษฐ์สิ่งของจากวัสดุธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่นด้วยนะ
ซึ่งพวกเราได้มีโอกาสได้รับความรู้ส่วนนี้จากคุณยายมะลิ พูนสวัสดิ์ ซึ่งคุณยายเป็นแม่ของผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3
และแกยังเป็นประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบางน้ำผึ้งโฮมสเตย์ของที่นี่ด้วย คุณยายได้สอนชาวแก๊งค์เรา
สานใบหมากเขียว เพื่อใช้เป็นของประดับตกแต่งแจกัน หรือช่อบูเก้สำหรับใส่ดอกไม้
เพื่อเพิ่มมูลค่าของวัสดุที่หาได้จากในชุมชน โดยสำหรับการทดลองทำกันครั้งแรก ทั้งแก๊งค์ก็มีความคอนเซนเทรท
กันสุดฤทธิ์ แล้วในที่สุดก็ได้รับคำชมจากเมนเทอร์คุณยายมะลิว่าฝีมือใช้ได้ทีเดียว
และนี่ก็เป็นบรรยากาศรอบๆชุมชนหมู่ที่ 3 ค่ะ
เมื่อสัมผัสบรรยากาศระหว่างทางกันมาพอหอมปากหอมคอละ เดินมาเรื่อยๆก็มาถึงโฮมสเตย์กันสักที
โดยคนที่จะคอยมาต้อนรับชาวแก๊งค์ของเราก็คือ คุณปิยพงษ์ พูนสวัสดิ์ หรือผู้ใหญ่เก่งนั่นเอง ผู้ใหญ่เก่งแก
เป็นผู้ใหญ่บ้าน “บ้านบางน้ำผึ้ง หมู่ที่ 3” นี่เองแหละไม่ใช่คนอื่นคนไกล แกพาพวกเราเดินดูชุมชนรอบๆ
คอยให้คำแนะนำในเรื่องข้อมูลชุมชน รวมไปถึงการปฏิบัติตัวต่างๆเมื่อเข้าอยู่ร่วมกับคนในชุมชนนี้
เราเลยจะขอเล่าสู่กันฟังสำหรับคนที่จะไปหน่อยละกันโนะ ว่าการเข้าพักโฮมสเตย์ที่นี่เนี่ยจะต้อง
จองล่วงหน้าก่อนเข้าพัก ที่นี่จะเน้นเรื่องความปลอดภัยของคนในชุมชนและผู้เข้าพักเป็นสำคัญ อ้อ! แล้วที่นี่
เค้าจะไม่รับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เป็น Backpacker นะคะ ชาวต่างชาติที่จะมาเข้าพักในชุมชน จะต้อง
เป็นนักท่องเที่ยวที่มากับไกด์เท่านั้นเพื่อความปลอดภัย ซึ่งเราว่ามันก็ดีนะ เซฟๆกันทั้งสองฝ่าย วิน-วิน ดี
เพราะฉะนั้นเมื่อคิดจะมาที่นี่ก็ไม่ต้องกังวลกันเลยว่าจะไม่ปลอดภัยถ้าจะมาเข้าพัก เพราะเค้ามีการคัดกรอง
นักท่องเที่ยวมาเรียบร้อยแล้ว ห้องนอนก็จะแบ่งให้พักแยกชายหญิงด้วยนะจ๊ะขอบอก ไม่ต้องหวั่นใจไป
สำหรับคุณสาวๆบางคนที่ไม่อยากจะพักรวมกับหนุ่มๆ หรือมากันเป็นหมู่คณะ
โฮมสเตย์ที่นี่อัตราการเข้าพักจะอยู่ที่ 500 บาทต่อคนต่อหัว เจ้าบ้านจะมีอาหารให้เราสองมื้อ คือมื้อเช้าและ
มื้อเย็น อ้อ! เจ้าบ้านเค้าจะเตรียมอาหารตักบาตรตอนเช้าให้เราด้วยนะ เพราะตอนเช้าๆพระท่านจะออกมา
บิณฑบาตรโดยเดินเท้ามาตามถนนสีเขียวของหมู่บ้าน พวกเราก็ไปใส่บาตรท่านกันตรงนั้นได้เลยจ้าา
ส่วนการกินข้าวเย็นก็จะมากินรวมกันที่ศาลาประชาคมของหมู่บ้าน ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบดีนะ อบอุ่นดี
และเมื่อตกค่ำก็เข้าสู่เวลาพักผ่อน ที่นี่มีข้อปฏิบัติร่วมกันคือ หลัง 4 ทุ่มไม่ควรออกจากที่พักเพื่อความปลอดภัย
ทั้งของผู้เข้าพักและผู้คนต่างๆในชุมชนด้วย แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นจะต้องออกก็จะต้องแจ้งกับเจ้าบ้านโฮมสเตย์ที่เราพัก
อยู่ด้วยให้ทราบก่อน และสุดท้ายข้อนี้คือสำคัญสุด คืออย่าไปส่งเสียงดังเอะอะโวยวาย ทำลายบรรยากาศชุมชน
เค้ากันล่ะ เพราะมันไม่น่ารักเลยนะยูวววรู้ใช่ป่าว
Part 2 ต่อในคอมเม้นท์ที่ 1 นะคะ พอดีข้อความเกิน วันรุ่งขึ้นเราจะไปไหนเดี๋ยวจะมาเม้ามอยให้ฟังต่อนะคะ
[CR] เกิร์ลกรุ๊ปไกด์แชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ครั้งแรกที่บ้านบางน้ำผึ้ง หมู่ที่3 ลองสักครั้ง แล้วคุณจะประทับใจ!!
ก็มีสถานที่ที่น่าสนใจที่เราอาจมองข้ามกันไป โดยก่อนออกเดินทางดิชั้นและชาวแก๊งค์เกิร์ลกรุ๊ปจำนวน 4 คนถ้วน
ก็ได้ร่วมด้วยช่วยกันหาข้อมูลอย่างขะมักเขม้นก่อนออกเดินทาง ประกอบกับพวกเราเป็นนักศึกษาปริญญาโท
ซึ่งกำลังร่ำเรียนวิชานวัตกรรมการสื่อสารเพื่อการขับเคลื่อนสังคมกันอยู่ เลยถึงคราวต้องลงไปสัมผัสกับวิถีชุมชน
ต้นแบบกันสักหน่อย ซึ่งสุดท้ายถึงเวลาเคาะแคมเปญ ชาวแก๊งค์ของเราก็ได้เลือกที่จะไปลงพื้นที่ชุมชนต้นแบบที่มีชื่อว่า
“บ้านบางน้ำผึ้ง หมู่ที่ 3”
ซึ่งพวกคุณขาบางคนอาจจะยังไม่รู้กันสินะว่า “บ้านบางน้ำผึ้ง หมู่ที่ 3” นี้เป็น 1 ใน 11 หมู่ ของเขตการ
ปกครองภายใต้การดูแลของ อบต.บางน้ำผึ้งนั่นเอง ซึ่งในจำนวน 11 หมู่นี้ จะประกอบไปด้วย หมู่ที่ 1
บ้านบางน้ำผึ้งนอก, หมู่ที่ 2 บ้านบางน้ำผึ้ง, หมู่ที่ 3 บ้านบางน้ำผึ้ง, หมู่ที่ 4 บ้านบางน้ำผึ้ง, หมู่ที่ 5 บ้านคลองทรง,
หมู่ที่ 6 บ้านไฟไหม้, หมู่ที่ 7 บ้านคลองตาสัก, หมู่ที่ 8 บ้านบ้านคลองบ้านผึ้ง, หมู่ที่ 9 บ้านบางน้ำผึ้ง, หมู่ที่ 10
บ้านคลองบางน้ำผึ้ง และหมู่ที่ 11 บ้านบางน้ำผึ้ง หึหึ พออ่านมาถึงตรงนี้ ข้อมูลแน่นพอที่จะเริ่มออกเดินทางกันแล้ว
สินะ ถ้างั้นจะรออะไรกันอยู่ล่ะคะคุณขา ลงมือเก็บกระเป๋า สะพายกล้อง ไปท่องชุมชนกันได้ล้าววว
สำหรับการเดินทางไปยัง “บ้านบางน้ำผึ้ง หมู่ที่ 3” นั้นก็ไม่ได้ซับซ้อนวุ่นวายจนต้องทึ้งหูทึ้งหัวกันหรอกนะจ๊ะ
เพราะเดี๋ยวนี้การคมนาคมมาที่นี่ก็สะดวกสบายมากขึ้นแล้วล่ะค่ะคู๊ณณ เพราะไอ้ที่ยากกว่าการเดินทาง นั่นก็คือ
การนัดแนะกับชาวแก๊งค์ให้ลงตัวนั่นแหละที่ยากยิ่งกว่าอะไรดี 5555 การเดินทางมาที่ชุมชนนี้นั้น ขอแนะนำว่า
ถ้าจะให้ดีก็ควรเลือกเดินทางมาในวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ก็ได้ เพราะดูจะเป็นวันดีที่เหมาะสม
ที่นักท่องเที่ยวอย่างเราจะได้รับความคุ้มค่ากลับไปมากที่สุด เพราะว่าการมาถึงที่นี่สิ่งที่นักท่องเที่ยวอย่างเรา
พลาดไม่ได้เลยก็คือ “โฮมสเตย์” นั่นเอง! โดยโฮมสเตย์ที่บ้านบางน้ำผึ้ง หมู่ที่ 3 นี้ เค้าไม่ได้กระโหลกกะลานะคะคู๊ณณ
เพราะอะไรน่ะหรอ
เพราะนางได้รับการการันตี และผ่านการ ประเมินแล้วว่าเป็นโฮมสเตย์ที่ผ่านมาตรฐาน โดยได้รับการรับรองจากสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเชียวนะจ๊ะ เจ้าของโฮมสเตย์ทุกคนที่นี่ได้ผ่านการอบรมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวมาแล้ว
จึงทำให้พวกเขาจะมีความสามารถในการให้ข้อมูลของชุมชนและดูแลต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเราเป็นอย่างดี
และเหตุที่แนะนำให้พวกคุณขาทั้งหลายเลือกเดินทางมาในวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ นั่นก็เพราะว่า
เจ้าของโฮมสเตย์ที่นี่เค้ามีงานประจำทำกันจ้า จะอยู่ต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างพวกเราได้ก็ในวันหยุดนั่นแล
เข้าใจกันตรงพ้อยท์โนะ
อธิบายกันมาซะยืดยาวมาเข้าเรื่องวิธีการเดินทางกันดีกว่า เดี๋ยวจะไปไม่ถึงกันซักที โดยสำหรับการเดินทาง
มาที่ชุมชนบ้านบางน้ำผึ้ง หมู่ที่ 3 นี้ สามารถมาได้หลายเส้นทาง แต่วันที่พวกเราไปพวกเราใช้ 2 เส้นทางค่ะ
โดยเส้นทางแรกถ้าเดินทางมาโดยรถส่วนตัวทางฝั่งธน ก็ขับมาเรื่อยๆมาตามถนนเจริญนครไปจนสุดถนนเข้าสู่
เขตพระประแดง ขับตรงไปตามทางจนถึงทางบังคับเลี้ยวซ้าย จากนั้นก็ขับตรงไปเรื่อยๆจะมีป้ายคอยบอกตามทางค่ะ
ส่วนเส้นทางที่ 2 เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีบางนา จากนั้นต่อพี่วินหรือพี่แท็กซี่มาที่ท่าเรือวัดบางนานอก
เพื่อนั่งเรือข้ามไปยังฝั่งพระประแดง ค่าพี่วินจาก BTS บางนาไปท่าเรือประมาณ 15-20 บาท ส่วนค่าแท็กซี่ก็ไม่เกิน 50
บาทโดยประมาณ เมื่อถึงท่าเรือเมื่อเรือมากระโดดขึ้นเรือกันได้เลย ระหว่างนั่งเรือก็ชมวิวสวยๆไปเรื่อยๆค่ะ ไม่ถึง 5
นาทีดี ก็ถึงแล้วล่ะท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก มาถึงจุดนี้เราอย่าลืมทำการจ่ายค่าโดยสารกันด้วยโนะ โดยค่าบริการเรือ
ของเขาก็ไม่แพงค่ะ 4 บาทถ้วนต่อคนเท่าน้านนน เมื่อมาถึงครึ่งทางละ ก็ต้องใช้บริการพี่วินอีกรอบ พี่วินที่นี่คึกคัก
เข้าแถวเรียงต่อกันเป็นมอเตอร์ไซค์ดนตรีกันเลยทีเดียว รับส่งกันผู้โดยสารกันจ้าละหวั่น โดยเฉพาะในวันเสาร์อาทิตย์
และวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่มีตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ค่าโดยสารจากจุดนี้ไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้งอยู่ที่คนละ 15 บาท
แต่ถ้าจะนั่งเข้าไปในบ้านบางน้ำผึ้ง หมู่ 3 เลยอัตราค่าบริการก็อยู่ที่ 20 บาทถ้วนเลยค่ะ
image credit: http://www.paiduaykan.com/travel/เที่ยวบางกระเจ้า
และในที่สุดชาวแก๊งค์เรา ก็พากันมาถึงชุมชนบ้านบางน้ำผึ้ง หมู่ที่ 3 กันล้าววว พวกเราเลือกที่จะเดินเท้า
สำรวจชุมชนกันก่อน แทนที่จะนั่งพี่วินเข้าไปที่โฮมสเตย์กันเลย และภาพแรกที่พบก็อาจดูไม่ค่อยคุ้นตาพวกเราที่
เติบโตกันในเมืองสักเท่าไหร่ เพราะสองข้างทางจะมีต้นไม้ให้ร่มเงาเป็นระยะ บ้านเรือนก็ปลูกกันอย่างสมถะ
น่าอยู่อาศัย เดินผ่านบ้านไหนคนท้องถิ่นที่นี่ก็จะเรียกทักทายพวกเราตลอดทางด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
ดูเป็นมิตรสุดๆ ทำให้เราไม่รู้สึกว่าเป็นคนต่างถิ่นที่ต้องเดินทางเข้ามาสัมผัสในชุมชนนี้เป็นครั้งแรก และจุดเด่นของที่นี่
อีกอย่างหนึ่งก็คือมีอากาศที่ดีมากกกก หายใจเข้าไปจะไม่มีฝุ่นควันสารพิษเยอะ เหมือนในเมืองหลวงที่เต็มไปด้วย
ฝุ่นควันสมแล้วล่ะที่นิตยสาร TIME ของอเมริกาเค้าจัดให้ชุมชนบางน้ำผึ้งเป็น 1 ใน 3 ของโอโซนที่ดีที่สุดของโลก
เมื่อเดินมาตามทางเรื่อยๆ ตั้งแต่ทางเข้าหมู่บ้านเราก็จะได้พบภูมิปัญญาชาวบ้านของชุมชนนี้เป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็น
บ้านลูกประคบสมุนไพรธัญพืช
บ้านหลังเล็กๆ แต่เจ้าของส่งยิ้มมาให้พวกเราแต่ไกล พร้อมร้องบอกว่า “เชิญได้นะคะ ยินดีให้ข้อมูลค่าา”
เสียงนั้นเป็นของคุณศิริพร พูนสุข หรือพี่ติ๋ว ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหัตถศาสตร์ลูกประคบธัญพืชนั่นเอง
ที่นี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนรักสุขภาพ เพราะที่นี่เป็นแหล่งผลิตผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรและให้บริการด้าน
สุขภาพ โดยการผสานภูมิปัญญาการใช้สมุนไพรกับการประยุกต์รูปแบบของผลิตภัณฑ์ให้มีความสะดวกต่อการใช้
เช่น เข็มขัดธัญพืช หมอนธัญพืชคล้องคอ ไหล่ หลัง และเอว เป็นต้น ถ้าได้มีโอกาสไปถึงที่นี่แล้วล่ะก็ อย่าพลาดที่
จะมาที่นี่เชียวล่ะ ชาวแก๊งค์เราขอแนะนำเลย พี่ติ๋วเจ้าของที่นี่แกน่ารักมากๆ
บ้านธูปหอมสมุนไพร
ที่นี่นับเป็นสถานที่ศึกษาเรียนรู้แก่บุคคลทั่วไป ทั้งนักเรียน นักศึกษา เป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวไทย
และชาวต่างชาติ เพื่อเรียนรู้การผลิตธูปหอมแบบสมุนไพรแบบต่างๆ การทำขนมไทย อาหารไทย และการประดิษฐ์
สิ่งของจากวัสดุธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่น แต่ถ้าจะมาที่นี่จะต้องโทรมาจองคิวก่อนนะจ๊ะขอบอก เพราะทัวร์ลง
บ่อยมากกก ติดต่อกันได้ที่เบอร์นี้เลยจ้าาา >>> โทร.02-815-0729
แต่ถ้าเข้าพักที่โฮมสเตย์ล่ะก็เราจะได้เรียนรู้การประดิษฐ์สิ่งของจากวัสดุธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่นด้วยนะ
ซึ่งพวกเราได้มีโอกาสได้รับความรู้ส่วนนี้จากคุณยายมะลิ พูนสวัสดิ์ ซึ่งคุณยายเป็นแม่ของผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3
และแกยังเป็นประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบางน้ำผึ้งโฮมสเตย์ของที่นี่ด้วย คุณยายได้สอนชาวแก๊งค์เรา
สานใบหมากเขียว เพื่อใช้เป็นของประดับตกแต่งแจกัน หรือช่อบูเก้สำหรับใส่ดอกไม้
เพื่อเพิ่มมูลค่าของวัสดุที่หาได้จากในชุมชน โดยสำหรับการทดลองทำกันครั้งแรก ทั้งแก๊งค์ก็มีความคอนเซนเทรท
กันสุดฤทธิ์ แล้วในที่สุดก็ได้รับคำชมจากเมนเทอร์คุณยายมะลิว่าฝีมือใช้ได้ทีเดียว
และนี่ก็เป็นบรรยากาศรอบๆชุมชนหมู่ที่ 3 ค่ะ
เมื่อสัมผัสบรรยากาศระหว่างทางกันมาพอหอมปากหอมคอละ เดินมาเรื่อยๆก็มาถึงโฮมสเตย์กันสักที
โดยคนที่จะคอยมาต้อนรับชาวแก๊งค์ของเราก็คือ คุณปิยพงษ์ พูนสวัสดิ์ หรือผู้ใหญ่เก่งนั่นเอง ผู้ใหญ่เก่งแก
เป็นผู้ใหญ่บ้าน “บ้านบางน้ำผึ้ง หมู่ที่ 3” นี่เองแหละไม่ใช่คนอื่นคนไกล แกพาพวกเราเดินดูชุมชนรอบๆ
คอยให้คำแนะนำในเรื่องข้อมูลชุมชน รวมไปถึงการปฏิบัติตัวต่างๆเมื่อเข้าอยู่ร่วมกับคนในชุมชนนี้
เราเลยจะขอเล่าสู่กันฟังสำหรับคนที่จะไปหน่อยละกันโนะ ว่าการเข้าพักโฮมสเตย์ที่นี่เนี่ยจะต้อง
จองล่วงหน้าก่อนเข้าพัก ที่นี่จะเน้นเรื่องความปลอดภัยของคนในชุมชนและผู้เข้าพักเป็นสำคัญ อ้อ! แล้วที่นี่
เค้าจะไม่รับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เป็น Backpacker นะคะ ชาวต่างชาติที่จะมาเข้าพักในชุมชน จะต้อง
เป็นนักท่องเที่ยวที่มากับไกด์เท่านั้นเพื่อความปลอดภัย ซึ่งเราว่ามันก็ดีนะ เซฟๆกันทั้งสองฝ่าย วิน-วิน ดี
เพราะฉะนั้นเมื่อคิดจะมาที่นี่ก็ไม่ต้องกังวลกันเลยว่าจะไม่ปลอดภัยถ้าจะมาเข้าพัก เพราะเค้ามีการคัดกรอง
นักท่องเที่ยวมาเรียบร้อยแล้ว ห้องนอนก็จะแบ่งให้พักแยกชายหญิงด้วยนะจ๊ะขอบอก ไม่ต้องหวั่นใจไป
สำหรับคุณสาวๆบางคนที่ไม่อยากจะพักรวมกับหนุ่มๆ หรือมากันเป็นหมู่คณะ
โฮมสเตย์ที่นี่อัตราการเข้าพักจะอยู่ที่ 500 บาทต่อคนต่อหัว เจ้าบ้านจะมีอาหารให้เราสองมื้อ คือมื้อเช้าและ
มื้อเย็น อ้อ! เจ้าบ้านเค้าจะเตรียมอาหารตักบาตรตอนเช้าให้เราด้วยนะ เพราะตอนเช้าๆพระท่านจะออกมา
บิณฑบาตรโดยเดินเท้ามาตามถนนสีเขียวของหมู่บ้าน พวกเราก็ไปใส่บาตรท่านกันตรงนั้นได้เลยจ้าา
ส่วนการกินข้าวเย็นก็จะมากินรวมกันที่ศาลาประชาคมของหมู่บ้าน ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบดีนะ อบอุ่นดี
และเมื่อตกค่ำก็เข้าสู่เวลาพักผ่อน ที่นี่มีข้อปฏิบัติร่วมกันคือ หลัง 4 ทุ่มไม่ควรออกจากที่พักเพื่อความปลอดภัย
ทั้งของผู้เข้าพักและผู้คนต่างๆในชุมชนด้วย แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นจะต้องออกก็จะต้องแจ้งกับเจ้าบ้านโฮมสเตย์ที่เราพัก
อยู่ด้วยให้ทราบก่อน และสุดท้ายข้อนี้คือสำคัญสุด คืออย่าไปส่งเสียงดังเอะอะโวยวาย ทำลายบรรยากาศชุมชน
เค้ากันล่ะ เพราะมันไม่น่ารักเลยนะยูวววรู้ใช่ป่าว
Part 2 ต่อในคอมเม้นท์ที่ 1 นะคะ พอดีข้อความเกิน วันรุ่งขึ้นเราจะไปไหนเดี๋ยวจะมาเม้ามอยให้ฟังต่อนะคะ