ไม่นับ space-time
เพราะมีสสารและพลังงานสองอย่างนี้เป็นพื้นฐานสุด ส่วนเรื่องพวกความรัก ความจริง ความดี ความงาม และอื่นๆ
เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง เพราะเกิดจากสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยสสารและมีพลังงานพัฒนาขึ้นทรงปัญญามีมันสมองใหญ่
จนมี consciousness สามารถตระหนักรู้สิ่งต่างๆแล้วอุปโลกเอาว่านี่คือ ความรัก ความจริง ความดี ความงาม และอื่นๆ
มันไม่ใช่คุณสมบัติพื้นฐานที่มีอยู่ตั้งแต่แรกแบบ สสารและพลังงาน ซึ่งกำเนิดจาก big bang
สิ่งเหล่านี้จะมีอยู่ไม่ได้ปราศจากผู้สังเกตการณ์คือมนุษย์ที่มีสมอง เมื่อสมองไม่ทำงานสิ่งเหล่านี้ก็หายไป
แต่สสารและพลังงานยังคงหมุนเวียนอยู่เรื่อยไป
หรือจะว่าเอกภพมีแค่สิ่งเดียวก็ได้ตามสมการ mass-energy equivalence ของไอนสไตน์
ฉะนั้นแล้ว ก้อนหินกับเราก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ ต่างเป็นแค่สสารวัตถุแข็งเกร็งก้อนหนึ่ง
จริงๆแล้วเอกภพประกอบแค่2อย่างคือสสาสรและพลังงานใช่ไหม พวกความรัก ความจริง ความดี ความงาม และอื่นๆไม่มีอยู่จริง มาทีหลัง?
เพราะมีสสารและพลังงานสองอย่างนี้เป็นพื้นฐานสุด ส่วนเรื่องพวกความรัก ความจริง ความดี ความงาม และอื่นๆ
เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง เพราะเกิดจากสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยสสารและมีพลังงานพัฒนาขึ้นทรงปัญญามีมันสมองใหญ่
จนมี consciousness สามารถตระหนักรู้สิ่งต่างๆแล้วอุปโลกเอาว่านี่คือ ความรัก ความจริง ความดี ความงาม และอื่นๆ
มันไม่ใช่คุณสมบัติพื้นฐานที่มีอยู่ตั้งแต่แรกแบบ สสารและพลังงาน ซึ่งกำเนิดจาก big bang
สิ่งเหล่านี้จะมีอยู่ไม่ได้ปราศจากผู้สังเกตการณ์คือมนุษย์ที่มีสมอง เมื่อสมองไม่ทำงานสิ่งเหล่านี้ก็หายไป
แต่สสารและพลังงานยังคงหมุนเวียนอยู่เรื่อยไป
หรือจะว่าเอกภพมีแค่สิ่งเดียวก็ได้ตามสมการ mass-energy equivalence ของไอนสไตน์
ฉะนั้นแล้ว ก้อนหินกับเราก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ ต่างเป็นแค่สสารวัตถุแข็งเกร็งก้อนหนึ่ง