ยาวหน่อยนะคะ
เราซื้อบ้านของโครงการที่ค่อนข้างมีชื่อค่ะ ราคาบ้านเริ่มต้น สามล้านปลายๆ ถือเป็นการสกรีนเพื่อนบ้านไปด้วย
ตอนเริ่มเข้าอยู่ เราก็มาอยู่กับสามี 2 คนค่ะ เรากับสามีทำงานนอกบ้านทั้งคู่ ออกเช้าประมาณ 6.30 กลับเข้าบ้านก็ประมาณ 19.00
ส่วนบ้านเจ้าปัญหานี่ก็อยู่กัน 2 คนสามี – ภรรยา เหมือนกันค่ะ สามีทำงานนอกบ้าน ส่วนภรรยาเป็นแม่บ้านอยู่บ้าน
แรกๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เพราะ จ – ศ เราไม่อยู่บ้าน ไม่ได้เจอกันอยู่แล้ว ส่วน ส-อ นานๆ เจอหน้าคุณภรรยากันก็คุยกันทีค่ะ เรื่องทั่วๆ ไป
บางทีเราไปเที่ยว ก็มีซื้อของมาฝากบ้าง คุณภรรยาบ้านนั้นก็มีซื้อมาให้เราบ้างเหมือนกันค่ะ เรียกว่าตามประสาเพื่อนบ้าน แต่ไม่ได้สนิทนัก
ในระหว่างนี้นางก็มีเรื่องกับบ้าน ที่หลังบ้านติดกับบ้านนาง คือบ้านนั้นเค้าต่อเติมด้านหลัง แล้วทำเป็นครัวไทยติดไม้ระแนงสูงชิดรั้วบ้าน ซึ่งเป็นรั้วร่วมกับบ้านนางค่ะ
เราไม่รู้ว่าเค้ามีเรื่องทะเลาะโต้เถียงกันหรือเปล่า แต่อาทิตย์ถัดมานางก็ให้ช่างมาต่อเติมรั้วหลังบ้านแบบทึบให้สูงเท่าไม้ระแนงบ้านข้างหลังค่ะ เป็นอันว่าจบเรื่องไปถาวร
แล้วนางก็ไปมีเรื่องกับคนบ้านตรงข้ามนาง บ้านตรงข้ามเป็นสาวโสดอยู่คนเดียวค่ะ เค้าซื้อกระดิ่งมาติดหน้าบ้าน เวลาลมพัดก็จะได้ยินเสียงกระดิ่ง กิ๊งๆๆ
ถามว่าถึงขั้นดัง น่ารำคาญไหม เราว่าก็ไม่ถึงขั้นนั้นอ่ะค่ะ แต่ก็ได้ยินมาถึงบ้านเราซึ่งเยื้องๆ กัน
เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่นางเป็นคนมาเล่าว่าเช้าวันนั้นสามีนางเดินไปชี้หน้าด่าคุณสาวโสดว่ากระดิ่งดังน่ารำคาญ หนวกหูมาก เค้านอนไม่หลับ ให้เอาออกไป
ถ้าไม่เอาออกเค้าจะไปแจ้งตำรวจมาจับ คุณสาวโสดไม่ได้เถียงเลยสักคำ แล้วก็เอากระดิ่งออกไป แล้วก็ไม่ได้คุยกับบ้านนี้อีกค่ะ
คือคุณสาวโสดเธอชอบเปิดเพลงเวลาอยู่บ้าน ทำงานบ้าน ล้างรถอะไรงี้ค่ะ ก็ดังพอสมควร ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงร็อคค่ะ บอดี้แสลม ซิลลี่ฟูล ไรงี้
มีวันนึงคุณภรรยาบ้านเจ้าปัญหานางคงทนไม่ไหว ก็เลยเดินไปตะโกนด่าคุณสาวโสดเรื่องเปิดเพลงดังค่ะ คุณสาวโสดก็ปิดเพลงนะคะ
แต่คุณภรรยาก็ไม่เลิกด่า จนคุณสามีต้องมาลากตัวเข้าบ้านไปค่ะ
ส่วนบ้านเราเรื่องมาเริ่มเกิดประมาณ 2 ปีที่แล้ว คือเราคลอดลูกได้สัก 3-4 เดือน แล้วก็มีพ่อแม่สามีมาอยู่ด้วยเพื่อช่วยเลี้ยงลูกค่ะ ก็เป็นว่าบ้านเราอยู่กัน 5 คน
มีวันนึงเราพาลูกไปฉีดวัคซีนค่ะ เป็นวันธรรมดาที่คุณภรรยาบ้านนู้นอยู่คนเดียว เรากลับมาถึงบ้านสายๆ
พอตกบ่ายลูกเริ่มมีไข้เพราะวัคซีนร้องโยเยนานมาก คุณภรรยาข้างบ้านก็เลยเปิดวิทยุที่เป็นรายการคุยการเมืองเปิดเสียงดังสนั่นหันมาทางบ้านเราค่ะ
ลูกเราก็ยิ่งร้องโยเยหนักขึ้นไปอีก เราก็เลยปิดประตู หน้าต่างทั้งบ้านแล้วเปิดแอร์อยู่กับลูกข้างในค่ะ ดีที่บ้านเราประตู หน้าต่างเป็น PVC กั้นเสียงได้ดีพอสมควร
นางก็เปิดวิทยุทั้งไว้แบบนั้น 2-3 ชั่วโมงได้ค่ะ ถึงปิด ก็ผ่านไป ไม่ได้มีการโต้เถียง หรือพูดอะไรกันค่ะ
ผ่านมาอีกหลายเดือน พ่อสามีเราก็กลับไปอยู่บ้านเค้าค่ะ เหลือแต่แม่สามีอยู่เลี้ยงหลาน ทีนี่ด้วยความที่ละแวกบ้านมีคนคุยกันถูกคอ
แม่สามีก็มีไปกินข้าว ดื่มกันบ้างกับอีกบ้านนึง โดยที่คุณภรรยาบ้านเจ้าปัญหานี่ก็ร่วมก๊วนอยู่ด้วยค่ะ เรียกได้ว่าซี้กับแม่สามีเรา
พอกลางปีที่แล้ว แม่สามีเราก็กลับบ้านไปอยู่กับพ่อสามี เราก็เลยจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แล้วก็ให้ป้าเรามาอยู่เป็นเพื่อนลูกแทนค่ะ
ป้าเราอยู่มากแล้วค่ะ 74 แล้ว เคยเป็นแม่ค้ามาก่อนติดนิสัยตื่นเช้า พอตื่นมาก็มานั่งหยิบจับต้นไม้รอบบ้านบ้าง นั่งกินกาแฟที่ระเบียงหน้าบ้านบ้างค่ะ
มีวันนึงป้าเราอีกคนนึงก็มาเยี่ยม พี่น้องเจอกันก็ตื่นมาเม้าท์กันหน้าบ้านแต่เช้า ประมาณ 6 โมงเช้าได้ค่ะ ด้วยความที่ยังเช้าอยู่
เสียงก็คงจะดังไปรบกวนคุณภรรยาข้างบ้าน พอตกเย็นวันนั้นตอนป้าเรา 2 คนนั่งหน้าบ้าน ก็มีเสียงตะโกนด่ามาจากคุณภรรยาข้างบ้านค่ะ
“อิแก่ กุรู้แล้วว่ามุงบ้านนอก กลับบ้านไปทำนาเลยไป อิควาย ที่นี่กรุงเทพ คนเค้าตื่นสายกัน ไม่ได้แหกขี้ตาตื่นเช้ามาทำนาแบบพวกมุง ขากกกกก ถุ๊ย”
เป็นข้อความประมาณนี้ วนไปวนมาอยู่เป็นชั่วโมงค่ะ ป้าเราคิดว่าเค้าคุยโทรศัพท์ เลยไม่ได้ใส่ใจแค่เดินเข้ามาดูทีวีในบ้านค่ะ ไม่ได้เล่าให้เราฟัง
วันต่อมา เรากับสามีกลับบ้านเร็ว คือยังไม่ทันค่ำ ป้าทั้งสองคนนั่งเล่นกันที่ระเบียงหน้าบ้านเหมือนเดิม เราเข้ามาก็ได้ยินเลยค่ะ เพราะเค้าตะโกนดังมาก
เราก็เรียกป้าเข้าบ้าน ปิดประตู หน้าต่างเปิดแอร์ แล้วก็ถามป้า ป้าถึงได้รู้ว่านางตะโกนด่าค่ะ เราก็บอกป้าไปว่าต่อไปถ้านางออกมา ให้เข้าบ้านปิดประตู
แล้วก็ไม่ให้ป้าออกไปนอกบ้านก่อน 7 โมงค่ะ ส่วนป้าอีกคนนึงก็กลับบ้านไปแล้วค่ะ
เรื่องเงียบไปสักระยะนึง มามีเรื่องอีกทีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาค่ะ ตกเย็นเราเข้าบ้านป้าก็รายงานว่านางเอาอีกแล้ว คือตะโกนด่าข้ามรั้วมาค่ะ
“อิแก่ กุรู้แล้วว่ามุงบ้านนอก กลับบ้านไปทำนาเลยไป อิควาย ที่นี่กรุงเทพ คนเค้าตื่นสายกัน ไม่ได้แหกขี้ตาตื่นเช้ามาทำนาแบบพวกมุง ขากกกกก ถุ๊ย”
คำเดิมๆ วนไปเวียนมาอย่างกะซีดีตกร่อง ดังเป็นชั่วโมงเลยค่ะ เข้ามาในบ้านก็ไม่เลิกด่า เราก็บอกป้าไปว่าก็ปิดบ้าน ไม่ต้องไปสนใจ
ทีนี้พอวันอังคาร เรากลับบ้านไปเจอแมว 2 ตัวกัดกันบนรั้วบ้านค่ะ เป็นรั้วร่วมบ้านเรากับบ้านนางค่ะ เราก็เลยไปไล่ ประมาณว่า “ชิ่วๆ ไปๆ”
ซึ่งแน่นอนว่านางต้องได้ยินค่ะ พอแมวหนีไป เสียงตะโกนนางก็ลอยมาค่ะ “ชิ่วๆ ไปๆ อิควาย อิเห้ มุงแน่นักเหรอ มุงออกมาเจอกะกุ อิเต้าหู้ยี้”
ตอนแรกเราก็กะจะปิดบ้าน ไม่ใส่ใจค่ะ แต่พอได้ยินว่า อิเต้าหู้ยี้ ในทนไม่ไหว ขำออกมากันทั้งบ้าน นางก็คงได้ยินเลย ด่ามาอีกเป็นชุดค่ะ
“อิเต้าหู้ยี้ แหมบอกว่าเป็นเพื่อนกะลูกเจ้าของโรงงาน กุว่ามุงตกงานไปของานเค้าทำมากกว่า กุเห็นมุงยังผ่อนรายเดือนอยู่เลย ทำเป็นไปเที่ยวเมืองนอก”
“อิควาย มุงแน่จริงมุงออกมา อิเห้ พวกเยอะนี่มุงอ่ะ อิเต้าหู้ยี้ ส่งกระจกดูมั่งรึป่าว จะได้รู้ว่าเต้าหู้ยี้หน้าตาเป็นยังไง”
เราเห็นนางยิงยาว เราเลยปิดประตูข้าง แต่เปิดประตูหน้าไว้ ฟังที่นางพูดค่ะ ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมง สามีนางกลับมา เสียงก็เงียบไปค่ะ
ที่นี้อย่างที่บอกว่านางสนิทกับแม่สามีเรา คือแม่สามีเรามาเมื่อคืนวันอังคาร หลังจากที่นางเข้าบ้านไปแล้วค่ะ แต่เราก็มีไปเล่าให้แม่สามีฟัง
แม่สามีก็บอกว่าคราวก่อน ตอนที่นางด่าป้าเรา พอแม่สามีเรามานางก็มาขอโทษแม่สามีเราค่ะ แม่สามีเราก็ไม่ได้ถือสาอะไร
ที่นี้พอเมื่อวานกลางวัน นางเห็นแม่สามีเรามา นางก็มาคุยอี๋อ๋อกะแม่สามีเราค่ะ แถมเล่นกับลูกเราด้วย
แต่พอตกเย็นเรากลับบ้าน นางอยู่หน้าบ้านพอดี ก็มาอีกค่ะ แบบเบาๆ พอให้เราได้ยิน แต่คนที่อยู่ในบ้านเราไม่ได้ยิน
“อิเต้าหู้ยี้ แหมบอกว่าเป็นเพื่อนกะลูกเจ้าของโรงงาน กุว่ามุงตกงานไปของานเค้าทำมากกว่า กุเห็นมุงยังผ่อนรายเดือนอยู่เลย ทำเป็นไปเที่ยวเมืองนอก”
เราก็ทำเป็นไม่สนใจ แต่ก็เล่าให้สามีกับแม่สามีฟังค่ะ ที่นี้เราเริ่มไม่โอเคแล้ว ก็เลยคิดมาปรึกษาคนในพันทิพดีกว่า เผื่อจะได้คำแนะนำค่ะ
คือถ้าบ้านเราเสียงดังรบกวน เดินมาบอก มาเตือนกันดีๆ ก็ได้ใช่ไหมคะ แต่นี่มาแบบฮาร์ดคอร์ เราก็รับไม่ได้อ่ะค่ะ
ทุกครั้งที่นางตะโกนด่ามา บ้านเราไม่เคยมีใครไปต่อล้อต่อเถียง หรือตอบโต้อะไรเลยค่ะ ก็เลยคิดว่านางอาจจะได้ใจ ถึงได้ไม่หยุด
อีกอย่างที่นางด่ามา เหมือนกับว่านางแอบฟังเราคุยกันอยู่ตลอด ถึงได้รู้เรื่องบ้านเราดีถึงขนาดเอามาด่าได้
เราลองถามแม่สามีแล้ว แม่สามียืนยันว่าไม่เคยเล่าเรื่องพวกนั้นให้นางฟัง ก็แสดงว่านางต้องเงี่ยหูฟังเราคุยกันค่ะ
เราว่าคนแบบนี้น่ากลัวอ่ะค่ะ เหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้ อาจเป็นโรคไบโพล่า
เรากลัวว่ากลางวันเวลาเรากับสามีไม่อยู่ นางจะเข้ามาทำร้ายคนในบ้านอ่ะค่ะ
คือเราอยากจัดการให้เด็ดขาดไปเลย เรามีลูกเล็กไม่อยากให้เค้าต้องมาเจอสภาพแวดล้อมแบบนี้อ่ะค่ะ
ตอนซื้อบ้านก็เลือกแล้ว ดันซวยมาเจอเพื่อนบ้านแบบนี้ซะได้ ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ
มีเพื่อนบ้านโรคจิต เราทำอะไรได้บ้างไหมคะ
เราซื้อบ้านของโครงการที่ค่อนข้างมีชื่อค่ะ ราคาบ้านเริ่มต้น สามล้านปลายๆ ถือเป็นการสกรีนเพื่อนบ้านไปด้วย
ตอนเริ่มเข้าอยู่ เราก็มาอยู่กับสามี 2 คนค่ะ เรากับสามีทำงานนอกบ้านทั้งคู่ ออกเช้าประมาณ 6.30 กลับเข้าบ้านก็ประมาณ 19.00
ส่วนบ้านเจ้าปัญหานี่ก็อยู่กัน 2 คนสามี – ภรรยา เหมือนกันค่ะ สามีทำงานนอกบ้าน ส่วนภรรยาเป็นแม่บ้านอยู่บ้าน
แรกๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เพราะ จ – ศ เราไม่อยู่บ้าน ไม่ได้เจอกันอยู่แล้ว ส่วน ส-อ นานๆ เจอหน้าคุณภรรยากันก็คุยกันทีค่ะ เรื่องทั่วๆ ไป
บางทีเราไปเที่ยว ก็มีซื้อของมาฝากบ้าง คุณภรรยาบ้านนั้นก็มีซื้อมาให้เราบ้างเหมือนกันค่ะ เรียกว่าตามประสาเพื่อนบ้าน แต่ไม่ได้สนิทนัก
ในระหว่างนี้นางก็มีเรื่องกับบ้าน ที่หลังบ้านติดกับบ้านนาง คือบ้านนั้นเค้าต่อเติมด้านหลัง แล้วทำเป็นครัวไทยติดไม้ระแนงสูงชิดรั้วบ้าน ซึ่งเป็นรั้วร่วมกับบ้านนางค่ะ
เราไม่รู้ว่าเค้ามีเรื่องทะเลาะโต้เถียงกันหรือเปล่า แต่อาทิตย์ถัดมานางก็ให้ช่างมาต่อเติมรั้วหลังบ้านแบบทึบให้สูงเท่าไม้ระแนงบ้านข้างหลังค่ะ เป็นอันว่าจบเรื่องไปถาวร
แล้วนางก็ไปมีเรื่องกับคนบ้านตรงข้ามนาง บ้านตรงข้ามเป็นสาวโสดอยู่คนเดียวค่ะ เค้าซื้อกระดิ่งมาติดหน้าบ้าน เวลาลมพัดก็จะได้ยินเสียงกระดิ่ง กิ๊งๆๆ
ถามว่าถึงขั้นดัง น่ารำคาญไหม เราว่าก็ไม่ถึงขั้นนั้นอ่ะค่ะ แต่ก็ได้ยินมาถึงบ้านเราซึ่งเยื้องๆ กัน
เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่นางเป็นคนมาเล่าว่าเช้าวันนั้นสามีนางเดินไปชี้หน้าด่าคุณสาวโสดว่ากระดิ่งดังน่ารำคาญ หนวกหูมาก เค้านอนไม่หลับ ให้เอาออกไป
ถ้าไม่เอาออกเค้าจะไปแจ้งตำรวจมาจับ คุณสาวโสดไม่ได้เถียงเลยสักคำ แล้วก็เอากระดิ่งออกไป แล้วก็ไม่ได้คุยกับบ้านนี้อีกค่ะ
คือคุณสาวโสดเธอชอบเปิดเพลงเวลาอยู่บ้าน ทำงานบ้าน ล้างรถอะไรงี้ค่ะ ก็ดังพอสมควร ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงร็อคค่ะ บอดี้แสลม ซิลลี่ฟูล ไรงี้
มีวันนึงคุณภรรยาบ้านเจ้าปัญหานางคงทนไม่ไหว ก็เลยเดินไปตะโกนด่าคุณสาวโสดเรื่องเปิดเพลงดังค่ะ คุณสาวโสดก็ปิดเพลงนะคะ
แต่คุณภรรยาก็ไม่เลิกด่า จนคุณสามีต้องมาลากตัวเข้าบ้านไปค่ะ
ส่วนบ้านเราเรื่องมาเริ่มเกิดประมาณ 2 ปีที่แล้ว คือเราคลอดลูกได้สัก 3-4 เดือน แล้วก็มีพ่อแม่สามีมาอยู่ด้วยเพื่อช่วยเลี้ยงลูกค่ะ ก็เป็นว่าบ้านเราอยู่กัน 5 คน
มีวันนึงเราพาลูกไปฉีดวัคซีนค่ะ เป็นวันธรรมดาที่คุณภรรยาบ้านนู้นอยู่คนเดียว เรากลับมาถึงบ้านสายๆ
พอตกบ่ายลูกเริ่มมีไข้เพราะวัคซีนร้องโยเยนานมาก คุณภรรยาข้างบ้านก็เลยเปิดวิทยุที่เป็นรายการคุยการเมืองเปิดเสียงดังสนั่นหันมาทางบ้านเราค่ะ
ลูกเราก็ยิ่งร้องโยเยหนักขึ้นไปอีก เราก็เลยปิดประตู หน้าต่างทั้งบ้านแล้วเปิดแอร์อยู่กับลูกข้างในค่ะ ดีที่บ้านเราประตู หน้าต่างเป็น PVC กั้นเสียงได้ดีพอสมควร
นางก็เปิดวิทยุทั้งไว้แบบนั้น 2-3 ชั่วโมงได้ค่ะ ถึงปิด ก็ผ่านไป ไม่ได้มีการโต้เถียง หรือพูดอะไรกันค่ะ
ผ่านมาอีกหลายเดือน พ่อสามีเราก็กลับไปอยู่บ้านเค้าค่ะ เหลือแต่แม่สามีอยู่เลี้ยงหลาน ทีนี่ด้วยความที่ละแวกบ้านมีคนคุยกันถูกคอ
แม่สามีก็มีไปกินข้าว ดื่มกันบ้างกับอีกบ้านนึง โดยที่คุณภรรยาบ้านเจ้าปัญหานี่ก็ร่วมก๊วนอยู่ด้วยค่ะ เรียกได้ว่าซี้กับแม่สามีเรา
พอกลางปีที่แล้ว แม่สามีเราก็กลับบ้านไปอยู่กับพ่อสามี เราก็เลยจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แล้วก็ให้ป้าเรามาอยู่เป็นเพื่อนลูกแทนค่ะ
ป้าเราอยู่มากแล้วค่ะ 74 แล้ว เคยเป็นแม่ค้ามาก่อนติดนิสัยตื่นเช้า พอตื่นมาก็มานั่งหยิบจับต้นไม้รอบบ้านบ้าง นั่งกินกาแฟที่ระเบียงหน้าบ้านบ้างค่ะ
มีวันนึงป้าเราอีกคนนึงก็มาเยี่ยม พี่น้องเจอกันก็ตื่นมาเม้าท์กันหน้าบ้านแต่เช้า ประมาณ 6 โมงเช้าได้ค่ะ ด้วยความที่ยังเช้าอยู่
เสียงก็คงจะดังไปรบกวนคุณภรรยาข้างบ้าน พอตกเย็นวันนั้นตอนป้าเรา 2 คนนั่งหน้าบ้าน ก็มีเสียงตะโกนด่ามาจากคุณภรรยาข้างบ้านค่ะ
“อิแก่ กุรู้แล้วว่ามุงบ้านนอก กลับบ้านไปทำนาเลยไป อิควาย ที่นี่กรุงเทพ คนเค้าตื่นสายกัน ไม่ได้แหกขี้ตาตื่นเช้ามาทำนาแบบพวกมุง ขากกกกก ถุ๊ย”
เป็นข้อความประมาณนี้ วนไปวนมาอยู่เป็นชั่วโมงค่ะ ป้าเราคิดว่าเค้าคุยโทรศัพท์ เลยไม่ได้ใส่ใจแค่เดินเข้ามาดูทีวีในบ้านค่ะ ไม่ได้เล่าให้เราฟัง
วันต่อมา เรากับสามีกลับบ้านเร็ว คือยังไม่ทันค่ำ ป้าทั้งสองคนนั่งเล่นกันที่ระเบียงหน้าบ้านเหมือนเดิม เราเข้ามาก็ได้ยินเลยค่ะ เพราะเค้าตะโกนดังมาก
เราก็เรียกป้าเข้าบ้าน ปิดประตู หน้าต่างเปิดแอร์ แล้วก็ถามป้า ป้าถึงได้รู้ว่านางตะโกนด่าค่ะ เราก็บอกป้าไปว่าต่อไปถ้านางออกมา ให้เข้าบ้านปิดประตู
แล้วก็ไม่ให้ป้าออกไปนอกบ้านก่อน 7 โมงค่ะ ส่วนป้าอีกคนนึงก็กลับบ้านไปแล้วค่ะ
เรื่องเงียบไปสักระยะนึง มามีเรื่องอีกทีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาค่ะ ตกเย็นเราเข้าบ้านป้าก็รายงานว่านางเอาอีกแล้ว คือตะโกนด่าข้ามรั้วมาค่ะ
“อิแก่ กุรู้แล้วว่ามุงบ้านนอก กลับบ้านไปทำนาเลยไป อิควาย ที่นี่กรุงเทพ คนเค้าตื่นสายกัน ไม่ได้แหกขี้ตาตื่นเช้ามาทำนาแบบพวกมุง ขากกกกก ถุ๊ย”
คำเดิมๆ วนไปเวียนมาอย่างกะซีดีตกร่อง ดังเป็นชั่วโมงเลยค่ะ เข้ามาในบ้านก็ไม่เลิกด่า เราก็บอกป้าไปว่าก็ปิดบ้าน ไม่ต้องไปสนใจ
ทีนี้พอวันอังคาร เรากลับบ้านไปเจอแมว 2 ตัวกัดกันบนรั้วบ้านค่ะ เป็นรั้วร่วมบ้านเรากับบ้านนางค่ะ เราก็เลยไปไล่ ประมาณว่า “ชิ่วๆ ไปๆ”
ซึ่งแน่นอนว่านางต้องได้ยินค่ะ พอแมวหนีไป เสียงตะโกนนางก็ลอยมาค่ะ “ชิ่วๆ ไปๆ อิควาย อิเห้ มุงแน่นักเหรอ มุงออกมาเจอกะกุ อิเต้าหู้ยี้”
ตอนแรกเราก็กะจะปิดบ้าน ไม่ใส่ใจค่ะ แต่พอได้ยินว่า อิเต้าหู้ยี้ ในทนไม่ไหว ขำออกมากันทั้งบ้าน นางก็คงได้ยินเลย ด่ามาอีกเป็นชุดค่ะ
“อิเต้าหู้ยี้ แหมบอกว่าเป็นเพื่อนกะลูกเจ้าของโรงงาน กุว่ามุงตกงานไปของานเค้าทำมากกว่า กุเห็นมุงยังผ่อนรายเดือนอยู่เลย ทำเป็นไปเที่ยวเมืองนอก”
“อิควาย มุงแน่จริงมุงออกมา อิเห้ พวกเยอะนี่มุงอ่ะ อิเต้าหู้ยี้ ส่งกระจกดูมั่งรึป่าว จะได้รู้ว่าเต้าหู้ยี้หน้าตาเป็นยังไง”
เราเห็นนางยิงยาว เราเลยปิดประตูข้าง แต่เปิดประตูหน้าไว้ ฟังที่นางพูดค่ะ ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมง สามีนางกลับมา เสียงก็เงียบไปค่ะ
ที่นี้อย่างที่บอกว่านางสนิทกับแม่สามีเรา คือแม่สามีเรามาเมื่อคืนวันอังคาร หลังจากที่นางเข้าบ้านไปแล้วค่ะ แต่เราก็มีไปเล่าให้แม่สามีฟัง
แม่สามีก็บอกว่าคราวก่อน ตอนที่นางด่าป้าเรา พอแม่สามีเรามานางก็มาขอโทษแม่สามีเราค่ะ แม่สามีเราก็ไม่ได้ถือสาอะไร
ที่นี้พอเมื่อวานกลางวัน นางเห็นแม่สามีเรามา นางก็มาคุยอี๋อ๋อกะแม่สามีเราค่ะ แถมเล่นกับลูกเราด้วย
แต่พอตกเย็นเรากลับบ้าน นางอยู่หน้าบ้านพอดี ก็มาอีกค่ะ แบบเบาๆ พอให้เราได้ยิน แต่คนที่อยู่ในบ้านเราไม่ได้ยิน
“อิเต้าหู้ยี้ แหมบอกว่าเป็นเพื่อนกะลูกเจ้าของโรงงาน กุว่ามุงตกงานไปของานเค้าทำมากกว่า กุเห็นมุงยังผ่อนรายเดือนอยู่เลย ทำเป็นไปเที่ยวเมืองนอก”
เราก็ทำเป็นไม่สนใจ แต่ก็เล่าให้สามีกับแม่สามีฟังค่ะ ที่นี้เราเริ่มไม่โอเคแล้ว ก็เลยคิดมาปรึกษาคนในพันทิพดีกว่า เผื่อจะได้คำแนะนำค่ะ
คือถ้าบ้านเราเสียงดังรบกวน เดินมาบอก มาเตือนกันดีๆ ก็ได้ใช่ไหมคะ แต่นี่มาแบบฮาร์ดคอร์ เราก็รับไม่ได้อ่ะค่ะ
ทุกครั้งที่นางตะโกนด่ามา บ้านเราไม่เคยมีใครไปต่อล้อต่อเถียง หรือตอบโต้อะไรเลยค่ะ ก็เลยคิดว่านางอาจจะได้ใจ ถึงได้ไม่หยุด
อีกอย่างที่นางด่ามา เหมือนกับว่านางแอบฟังเราคุยกันอยู่ตลอด ถึงได้รู้เรื่องบ้านเราดีถึงขนาดเอามาด่าได้
เราลองถามแม่สามีแล้ว แม่สามียืนยันว่าไม่เคยเล่าเรื่องพวกนั้นให้นางฟัง ก็แสดงว่านางต้องเงี่ยหูฟังเราคุยกันค่ะ
เราว่าคนแบบนี้น่ากลัวอ่ะค่ะ เหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้ อาจเป็นโรคไบโพล่า
เรากลัวว่ากลางวันเวลาเรากับสามีไม่อยู่ นางจะเข้ามาทำร้ายคนในบ้านอ่ะค่ะ
คือเราอยากจัดการให้เด็ดขาดไปเลย เรามีลูกเล็กไม่อยากให้เค้าต้องมาเจอสภาพแวดล้อมแบบนี้อ่ะค่ะ
ตอนซื้อบ้านก็เลือกแล้ว ดันซวยมาเจอเพื่อนบ้านแบบนี้ซะได้ ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ