http://sadednews.com/34965
แม้จะห่างหายจากหน้าจอทีวีไปบ้าง แต่ชีวิตและเรื่องราวของ ” ลีน่า จัง” ก็ยังเป็นประเด็นที่หลายคนสนใจ เรียกว่าฟังกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ เห็นสตรองอยู่หน้าจอ ด่าคนนั้น จิกคนนี้ แต่ใครจะรู้ว่าเธอคิดสั้นฆ่าตัวตายเพราะเป็นหนี้ 25 ล้านบาท มาแล้ว
“มีทีวีช่องหนึ่งเขาด่าเรา ว่าโกหกหลอกลวง เสียใจมาก นั่งร้องไห้ 6 โมงเย็น ถึง ตี4 ร้องจนเหนื่อย ไม่อยู่แล้ว ชีวิตกู ไม่มีประโยชน์แล้ว คนทั้งประเทศเข้าใจเราผิด เสียใจมากก็เลยเอาทิชชูอุดจมูกเลย เพื่อให้มันตาย ไม่หายใจ และลุกมาเปิดมือถือไว้ เผื่อคนโทรมาไม่ได้รับ เขาจะได้รู้ว่าเราตาย คือมันเครียด ขาดสติ พอเรานอนจมูกมันไม่หายใจ แต่ปากมันยังหายใจได้ มันก็เลยไม่ตาย คุณรู้จักโรคซึมเศร้ามั๊ย คือโรคที่เราเกลียดตัวเอง เรามีความรู้สึกว่าตัวเราไม่มีคุณค่า ฉันเคยเป็นขุนพลอยู่หน้าจอ ให้ความรู้ประชาชนเพราะฉันเป็นทนาย แล้วทำไมจู่ๆ เจ๊งหมดตัว25 ล้าน ต้องปิดสถานี ตกงาน ไม่มีงานทำ ต้องเป็นยายแก่อยู่บ้านรอวันตาย ฆ่าตัวตายมันก็ไม่ตาย สามีก็ไม่มี ลูกก็ไม่เอา ทุกวันนี้ยังคิดฆ่าตัวตาย ฉันรู้สึกว่าฉันไม่มีคุณค่า ฉันเป็นอีแก่ไม่มีคุณค่าเลย ฉันจบทนาย ฉันเป็นประธานมูลนิธิ ฉันเป็นอดีตหัวหน้าพรรค ฉันเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ แต่วันนี้ทำไมต้องมาเป็น อีแก่วันๆนั่งเล่นเฟสบุ๊ก ฉันเครียด !! “
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บทบาททางการเมือง[แก้]
ในปี 2547 ลีนาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้หมายเลข 6 หาเสียงโดยใช้ถ้อยคำโฆษณาว่า "ลีนา มาจ๊ะจรรจา มาจ๊ะจรรจา มาจ๊ะ เบอร์ 6" แล้วร้องรำทำเพลงเต้นเริงร่าอยู่บนหลังรถกระบะที่ใช้หาเสียงแห่ไปบริเวณสยามสแควร์ คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงถอดถอนลีนา เพราะกฎหมายห้ามจัดมหรสพหรืองานรื่นเริงเพื่อหาเสียงเลือกตั้ง[9]
ใน 2549 ลีนาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา หมายเลข 142 กรุงเทพมหานคร แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง
ใน 2551 ลีนาได้ลงสมัครเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอีกครั้ง ได้หมายเลข 7 ใช้ถ้อยคำโฆษณาว่า "ผู้หญิงมีต่อมความชั่วน้อยกว่าผู้ชาย" นำเสนอนโยบายจัดให้มีตั๋วอัจฉริยะอันเป็นตั๋วใช้โดยสารยวดยานสาธารณะทุกประเภท ทั้งรถประจำทาง รถไฟฟ้ามหานคร รถไฟฟ้าบีทีเอส และเรือด่วนเจ้าพระยา ขณะเดินหาเสียง ลีนาตกคลองแสนแสบพร้อมผู้ช่วยขณะพากันตรวจพิสูจน์น้ำคลอง โดยผู้ช่วยคนดังกล่าวถึงแก่ความตายด้วย มีการวิจารณ์กันว่าเป็นการสร้างภาพ[10]
ต่อมาในปี 2552 ลีนาลงเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอีก หลังการลาออกของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ลีนา ได้หมายเลข 3 แต่ก็ไม่ได้รับเลือกตั้ง
ต่อมา ลีนาได้เข้าเป็นสมาชิกพรรคมัชฌิมาธิปไตย เพื่อลงเลือกตั้งในปลายปี 2550 แต่พรรคไม่สนับสนุน ลีนาจึงฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายหนึ่งพันล้านบาทจากนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรค ทว่า ศาลยกฟ้อง ลีนาจึงย้ายไปพรรคพลังแผ่นดินไทย แต่ที่สุดก็ไม่ได้รับการเลือกตั้ง[11]
ในวันที่ 16 มกราคม 2551 สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเปิดรับสมัครพนักงานเป็นวันแรก ลีนาได้ไปสมัครเป็นผู้ประกาศข่าวด้วย แต่ไม่ได้รับเลือก[12]
ในหนังสือ "ปรากฏการณ์ยิ่งลักษณ์" ของสำนักพิมพ์วัฏฏะ คลาสสิฟายด์ส ลีนากล่าวตอนหนึ่งว่า บางครั้งคนกรุงเทพมหานครก็โง่เลือกคุณอภิสิทธิ์ เพราะรูปหล่อ และกล่าวโจมตีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะว่าไม่มีความจริงใจ และเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2553 ลีนาเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ว่า "ดิฉันขอเรียกร้องให้ผู้ประกอบการย่านราชประสงค์เปิดโอกาสให้คนเสื้อแดงได้ชุมนุมเพื่อเรียกร้องสิทธิด้วย" และว่า ตนเองได้รับผลกระทบเช่นกันจากการเป็นนักธุรกิจย่านท่าประตูน้ำ แต่ก็ยินดีที่จะเสียสละ[13]
ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 หลังสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมฮอตทีวีของลีนาถูกสั่งปิดโดยประกาศกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ตามการประกาศกฎอัยการศึก ลีนาได้เข้าขอความเป็นธรรมกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ ผอ.รส. ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต[14] ที่มา วิกิพีเดีย
เป็นกำลังใจให้คุณลีน่า จัง นะครับ ชีวิตคนเรามีขึ้นมีลง เหมือนสะพานมีสูงแล้วก็มีต่ำ...ที่ปู่เย็น ท่านว่าไว้
จริงๆแล้ว คุณเป็นคนเก่งมากๆในสายตาผม คุณประสบความสำเร็จมาหลายอย่าง คุณทำได้ ในขณะที่หลายคนไม่มีความสามารถแบบคุณ ผมชอบดูคุณจัดรายการให้ความรู้ทางกฎหมายทาง HOT TV ตาต่อตา ฟันต่อฟัน กับคนที่มาป่วน มาเกรียน มากวน ในรายการของคุณ ถึงคุณจะทำท่าขึงขัง หรือ อะไรห่ามๆ ผมก็เข้าใจว่ามันเป็นการแสดง และ เป็นจุดขาย ของคุณ
สู้ๆ ครับ ^ ^
ปล.ถ้าไม่อยากเครียด ก็มาเล่นพันทิปบ้างสิครับ ห้องราชดำเนิน นี่ล่ะ ผมเล่นประจำ คลายเครียดได้ดีทีเดียว มาเล่นนะ จะได้รู้จักกันไว้
ด่วน!! เครียดหนักหนี้รุม! ” ลีน่า จัง” เผยนาทีชีวิต เอาทิชชู่อุดจมูก หวังฆ่าตัวตาย !? (โจ ขิง)
แม้จะห่างหายจากหน้าจอทีวีไปบ้าง แต่ชีวิตและเรื่องราวของ ” ลีน่า จัง” ก็ยังเป็นประเด็นที่หลายคนสนใจ เรียกว่าฟังกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ เห็นสตรองอยู่หน้าจอ ด่าคนนั้น จิกคนนี้ แต่ใครจะรู้ว่าเธอคิดสั้นฆ่าตัวตายเพราะเป็นหนี้ 25 ล้านบาท มาแล้ว
“มีทีวีช่องหนึ่งเขาด่าเรา ว่าโกหกหลอกลวง เสียใจมาก นั่งร้องไห้ 6 โมงเย็น ถึง ตี4 ร้องจนเหนื่อย ไม่อยู่แล้ว ชีวิตกู ไม่มีประโยชน์แล้ว คนทั้งประเทศเข้าใจเราผิด เสียใจมากก็เลยเอาทิชชูอุดจมูกเลย เพื่อให้มันตาย ไม่หายใจ และลุกมาเปิดมือถือไว้ เผื่อคนโทรมาไม่ได้รับ เขาจะได้รู้ว่าเราตาย คือมันเครียด ขาดสติ พอเรานอนจมูกมันไม่หายใจ แต่ปากมันยังหายใจได้ มันก็เลยไม่ตาย คุณรู้จักโรคซึมเศร้ามั๊ย คือโรคที่เราเกลียดตัวเอง เรามีความรู้สึกว่าตัวเราไม่มีคุณค่า ฉันเคยเป็นขุนพลอยู่หน้าจอ ให้ความรู้ประชาชนเพราะฉันเป็นทนาย แล้วทำไมจู่ๆ เจ๊งหมดตัว25 ล้าน ต้องปิดสถานี ตกงาน ไม่มีงานทำ ต้องเป็นยายแก่อยู่บ้านรอวันตาย ฆ่าตัวตายมันก็ไม่ตาย สามีก็ไม่มี ลูกก็ไม่เอา ทุกวันนี้ยังคิดฆ่าตัวตาย ฉันรู้สึกว่าฉันไม่มีคุณค่า ฉันเป็นอีแก่ไม่มีคุณค่าเลย ฉันจบทนาย ฉันเป็นประธานมูลนิธิ ฉันเป็นอดีตหัวหน้าพรรค ฉันเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ แต่วันนี้ทำไมต้องมาเป็น อีแก่วันๆนั่งเล่นเฟสบุ๊ก ฉันเครียด !! “
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เป็นกำลังใจให้คุณลีน่า จัง นะครับ ชีวิตคนเรามีขึ้นมีลง เหมือนสะพานมีสูงแล้วก็มีต่ำ...ที่ปู่เย็น ท่านว่าไว้
จริงๆแล้ว คุณเป็นคนเก่งมากๆในสายตาผม คุณประสบความสำเร็จมาหลายอย่าง คุณทำได้ ในขณะที่หลายคนไม่มีความสามารถแบบคุณ ผมชอบดูคุณจัดรายการให้ความรู้ทางกฎหมายทาง HOT TV ตาต่อตา ฟันต่อฟัน กับคนที่มาป่วน มาเกรียน มากวน ในรายการของคุณ ถึงคุณจะทำท่าขึงขัง หรือ อะไรห่ามๆ ผมก็เข้าใจว่ามันเป็นการแสดง และ เป็นจุดขาย ของคุณ
สู้ๆ ครับ ^ ^
ปล.ถ้าไม่อยากเครียด ก็มาเล่นพันทิปบ้างสิครับ ห้องราชดำเนิน นี่ล่ะ ผมเล่นประจำ คลายเครียดได้ดีทีเดียว มาเล่นนะ จะได้รู้จักกันไว้