พาไปรู้จัก SONY FUTURE LAB PROGRAM การทวงคืนจิตวิญญาณ ผู้สร้าง WALKMAN

อ่านเต็มๆ ได้ที่ http://www.dexspace.co/sony-future-lab-program/


เกิดทันกันไหมครับ ยุค Walkman® ตอนนั้นแบรนด์ในดวงใจของใครหลายๆ คนคงหนีไม่พ้น Sony แน่ๆ แต่พอ Apple เริ่มปฏิวัติหลายๆ วงการ เช่น MP3 โทรศัพท์มือถือ บังเอิญสองสิ่งนี้กระทบ Sony อย่างจัง ทำให้ยักษ์ตัวเก่าเซไปมาจนปรับตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว โลกทุกวันนี้เลยกลายเป็นศึก Apple VS Samsung แม้ว่าโซนี่จะพยายามปรับตัวให้ทันมาตลอด แต่ยอดขายกลับไปอยู่ที่อุตสาหกรรมกล้อง ภาพยนตร์ หรือเกมส์แทน ทั้งๆ ที่ควรจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบยุคเดิมที่ตัวเองถนัด

แม้จะมาช้าไป แต่โซนีก็ออกกลยุทธ์ใหม่ โดยการตั้ง Future Lab Program ห้องทดลองและวิจัยแบบใหม่ที่ท้าทายการทำงานโดยปกติของการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ทุกบริษัทมักจะข้อมูลสินค้าเป็นความลับจนกว่าจะพัฒนาเป็นเครื่องที่สมบูรณ์แบบ แล้วค่อยเปิดตัวแบบยิ่งใหญ่ออกมาขาย แต่โซนีลองวิธีการแบบใหม่ คือ ปล่อยออกมาตั้งแต่ยังเป็น “ต้นแบบ” หรือ Prototype อยู่เลย เพื่อลองดูว่าลูกค้าที่เป็น Potential User จะรู้สึกอย่างไรบ้าง เพื่อเอาความเห็นเหล่านั้นไปปรับปรุงก่อนที่จะผลิตออกมาขายจริงแบบ Mass วิธีการนี้ดีตรงที่ไม่ต้องผลิตสินค้าออกมาแล้วไม่มีใครซื้อ แต่เป็นการเช็คก่อนว่า ถ้าทำออกมาขายจริงๆ คนจะรู้สึกอย่างไร โซนีบอกว่านี่เป็นการสร้างสินค้าและบริการแบบใหม่ในแนวทางช่วยกันคิด “co-create” หมากที่โซนีวางครั้งนี้ไม่ใช่มีเป้าหมายในการทวงคืนบัลลังค์เดิมคืนกลับมา แต่เป็นการเรียกคืนจิตวิญญาณที่หายไปของโซนีมากกว่า เพื่อให้แฟนคลับเดิมหันกลับมามองยักษ์รายนี้อีกครั้งหนึ่ง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
SONY Future Lab Program [2016]
โซนี่เปิดตัวโครงการ SONY Future Lab Program ในงาน SXSW Interactive Festival เมือง Austin รัฐ Texas โดยยังไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมากมาย เพียงโชว์สินค้าตัวแรกของ Lab ได้แก่ Codename “N” เป้าหมายของ Future Lab คือการโชว์คอนเซ็ปของสินค้าต้นแบบ (Prototype) ตั้งแต่ขั้นแรก เพื่อฟังรับความเห็นจากกลุ่มผู้ใช้งานที่มีศักยภาพในการซื้อ ลูกค้าที่เป็นแฟนคลับโซนี่อยู่แล้ว และคนที่เข้าร่วมโปรแกรมไปปรับปรุงให้เป็นสินค้าที่สมบูรณ์แบบก่อนนำออกมาขาย เพื่อสร้างไลฟสไตล์ใหม่ๆ ในอนาคต เป็นอีกวิธีการในการสร้างสินค้าใหม่ที่น่าสนใจ


โลโก้ของ Future Lab Program ประกอบไปด้วยสัญลักษณ์ของ F และ L แสดงถึงกรอบเป้าหมายของโปรเจคนี้ ว่าต้องการสร้างสิ่งใหม่ๆ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี พร้อมๆ กับรับฟังข้อมูลความต้องและการผ่านชุมชนของผู้ใช้งาน โซนีจึงเริ่มหยิบตัวอักษรภาษาอังกฤษมาใส่ในเป้าหมายดังกล่าว หากใครได้ลองดูโลโก้ของ Concept “N” ก็จะเห็นว่า ทางโซนีใส่ตัว N ลงไปในโลโก้ แปลว่าอีกไม่นาน น่าจะมีอีกหลายตัวอักษรใส่ลงไปแน่ๆ แต่อาจจะไม่ใช่ Z และ X (เพราะเดี๋ยวซ้ำกับมือถือของตัวเอง)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Sony Concept “N”
สินค้าแรกที่เปิดตัวในงานโดยตั้งชื่อโค้ดเนมว่า N เป็น Wearable device ด้านเสียง หากจะเปรียบเทียบการใช้งานง่ายๆ ก็คือ Google Glass ที่สั่งงานด้วยเสียงแทน โดยมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
- ใช้สโลแกน Free your ears, hands, and eyes. Enjoy your favorite activities to the full with a wearable device that never hinders movement. เต็มที่กับทุกโมเมนต์ในชีวิตโดยไม่ต้องใส่หู ใช้มือ หรือตามองเลยสักนิด เพียงแค่วางไว้ที่คอ ก็ใช้ชีวิตตามปกติไปได้
- ใช้ Hands-free interface โดยการสั่งงานด้วยเสียงเพื่อสอบถามข้อมูลต่างๆ เช่น ข่าว พยากรณ์อากาศ โดยมี Partners เป็น Strava, AccuWeather, และ Yelp หรือแม้แต่การสั่งให้ถ่ายรูป โดยไม่ต้องใส่อะไรเข้าไปในหู เพราะสามารถได้ยินเสียงผ่านลำโพงโดยไม่ต้องใส่หูฟังก็ได้ เพราะลำโพงจะสร้าง- เสียงในทิศทางที่ให้คนใส่เท่านั้นได้ยินดังๆ หรือจะใส่หูฟังแบบพิเศษที่ยังสามารถได้ยินเสียงรอบๆ ตัวไปพร้อมๆ กันก็สามารถทำได้ โดยเริ่มสั่งด้วยคำว่า “Listen Up Arc.” สำนักข่าวหลายแห่งที่ได้ลองก็บอกว่าคุณภาพเสียงใช้ได้ตามแบบฉบับโซนี
- การใช้งานเหมาะกับการวิ่ง ขี่จักรยาน และขับรถโดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง
- ใส่กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซลมาด้วยทางด้านซ้าย โดยสามารถใช้เสียงสั่งการให้ถ่ายได้ และเรียนรู้ข้อผิดพลาดจาก Google Glass มา จึงมีการปิดกล้องไว้ จะเปิดตอนสั่งใช้งานเท่านั้น เพื่อลดประเด็นด้าน Privacy ของคนอื่น ถ่ายรูปโดยสั่งว่า “Listen up Arc, take photo”.
- มีเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวต่างๆ ครบถ้วน และใส่ GPS มาในตัวอีกด้วย

หากใครสงสัยการทำงาน ให้ลองดูโปรเจค Kickstarter นี้ เพราะไอเดียคล้ายๆ กัน
https://www.kickstarter.com/projects/574847515/music-wrap-your-personal-sound-space-on-the-go

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Sony Interactive Table with multi-axis Projector
โปรเจคเตอร์ที่ฉายลงบนโต๊ะแต่สามารถแยกได้ว่าอันไหนคือนิ้ว อันไหนคือสิ่งของ เพื่อสั่งงานในรูปแบบต่างๆ สิ่งที่โซนีเอามาโชว์เป็นการแอนิเมชั่นในหนังสือการ์ตูนอย่าง Alice in Wonderland ที่โชว์การอ่านหนังสือแบบใหม่โดยให้ตัวละครเคลื่อนไหวไปมา เพื่อเพิ่มประสบการณ์ใหม่ในการสั่งงานผ่านระบบสัมผัส โดยมีรายละเอียดดังนี้
- Multi-axis moving projector เป็นโปรเจคเตอร์ที่เคลื่อนไหวไปมาได้หลายแกน เพื่อฉายภาพต่างๆไปยังกำแพง ผนัง หรือแม้แต่เพดานห้อง
- ใช้ร่วมกับ Interactive tabletop โต๊ะที่สามารถตอบโต้ได้ ข้อมูลสามารถเคลื่อนไหวไปมาได้โดยการแตะไม่ต่างจากการใช้มือถือ และมีเนื้อหาลอยไปมารอบๆ จากโปรเจคเตอร์ข้างต้น


Image Credit: Ken Yeung/VentureBeat
Haptic feedback technology
โซนีโชว์ Game console แนวคิดใหม่ ที่ในจอเป็นเกมส์เหมือนมีลูกบอลโลหะกลิ้งไปกลิ้งมา เมื่อกลิ้งไปซ้ายขวา เครื่องก็จะสั่นตามทิศทางและมีเสียงดังออกเหมือนให้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เราสัมผัสได้จริงๆ

SONY Future Lab เป็นเหมือนการทดลองกระบวนการทางธุรกิจแบบใหม่ ฝืนแนวคิดแบบเดิมๆ ที่ทำขึ้นมา เชื่อว่าทางฝ่าย R&D ก็น่าจะยังมีส่วนที่ปิดเป็นความลับอยู่บ้าง จากที่เห็นการออกสินค้าบางอย่างเช่น Xperia Ear หรือการทดลองปล่อยสินค้าแบบ Cloud Funfind อย่างโปรเจค First Fight โปรเจค Future Lab ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งการทดลองโดยตั้งเป้าหมายว่า การกล้าโชว์ Prototype นี้จะยืนยันได้ว่าสินค้าและบริการดังกล่าวตอบความต้องการของคนหมู่มากได้จริงๆ ถ้าได้บางสิ่งที่ Prove ได้ ก็จะได้ทำออกมาเป็น Consumer Product

ฝากเพจเกี่ยวกับ Innovation หน่อยครับ Facebook : DEX Space
https://web.facebook.com/DEXSpace-1054254547957323
ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่