First Time in Sangkhla Buri @ OhDee Hostel
5-7 / 07 / 15
ที่จริงไปมานานมากแล้วครับ แต่บอกตรงๆขี้เกียจทำรีวิว แต่ภาพที่ได้มา
และเรื่องราวมันน่าสนใจและสนุกเหลือเกิน เกินกว่าที่จะยอมให้ข้ามผ่านไปได้ รีวิวนี้จึงถือกำเนิดขึ้น
ทริปนี้ ไม่รุ้คิดอะไรอยู่ ปุปปับก็ตัดสินใจ เดินทางออกไปพร้อมกับใจเหงาๆ ไปกันมาเมื่อต้นหน้าฝนปีที่แล้ว
แต่เนื่องจากปีนั้นน้ำแล้ง และฝนตกช้ามาก ทำให้เราได้มุมมองอีกแบบหนึ่ง ซึ่งสวยงามมีเอกลักษณ์
ที่พักในสังขละบุรีมากมายหลายแห่ง มีทั้งติดริมแม่น้ำ หรือจะเอาที่แบบตื่นมาเห็นสะพานมอญเลยก็มี
แต่จุดประสงค์หลักของทริปนี้ คือ ไปหาเพื่อนเพิ่ม เพื่อนที่เรายังไม่เคยรู้จัก แต่กำลังจะได้รู้จัก
วันแรก ออกเดินทางโดยรถตู้จาก ถนนพระราม2 สู่ขนส่งกาญจนบุรี
และไปหา ต่อรถตู้เพื่อเดินทางไปยังสังขละบุรี ใช้เวลารวมประมาณ 5-6 ชั่วโมง
ที่พักหาไม่ยากครับ อยู่ตรงข้ามไปรษณีย์ สังขละบุรี
ข้อดี อยู่ใกล้ตลาด ถนนคนเดิน 7-11
ข้อเสีย ห่างไกลแหล่งท่องเที่ยวอยู่มาก
ที่พักที่เรามองหานั่นก็คือ Hostel หลายคนคงสงสัยและยังไม่คุ้นชินกับ Hostel
อธิบายอย่างง่ายๆ Hostel คือที่พักราคาถูก มีสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน ได้แก่ เตียงนอน
(ส่วนใหญ่สองชั้น) ห้องน้ำ ที่เก็บสิ่งของมีค่า มีตู้เย็น ครัวให้ทำอาหาร ทุกอย่างเป็นของใช้ส่วนรวม
Hostel เป็นเป้าหมายในการหาเพื่อนใหม่ เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ได้ค้นพบว่า
นักท่องเที่ยวที่พักแบบนี้ ส่วนใหญ่จะมีนิสัยเข้ากับผู้คนได้ง่าย กินง่าย อยู่ง่าย
เรามาสะดุดตากับ OhDee Hostel เพราะตอนนั้นเค้ากำลังโปรโมทที่พัก และมีแพ็คเกจพาเที่ยวสังขละ
ล่องเรือชมวัดใต้น้ำ และไฮไลท์ก็คือข้ามไปเที่ยวฝั่งพม่า เรียกว่าจัดการให้เสร็จสรรพ
ราคาที่พักพร้อมพาเที่ยว 3วัน2คืน จำได้คร่าวๆว่า พันกว่าบาท ถ้ามาสองคนได้ส่วนลดหน่อยนึง
ที่นี่ถ้ามาสองคน เค้ามีห้องพักสำหรับสองคนไว้ด้วย แต่รู้สึกว่าน่าจะมีแค่สองห้องนะครับ
ใครไปเดี่ยวๆ หรือไปกันมากกว่าสองคนก็พักห้องรวมไป
เราไปสองคนพอดีเลย ได้ห้องคู่แน่ๆ ใครมันจะไปนอนห้องรวม นอนฟังเสียงคนอื่นกรน
ใช่!!! ผมนี่แหละ รีบตัดสินใจโดยไวโทรไปจองโอนเงินเรียบร้อย บอก 1คน 2ที่??
อ้าวงี้ก็ไม่ได้ส่วนลดนี่หว่า และยังเซ็งในความฟายของตัวเองจนถึงปัจจุบัน
บ่ายโมงกว่าๆ สมาชิกพร้อมหน้าพร้อมตา
อ อ ก ไ ป เ ที่ ย ว กั น
ที่แรกของวันนี้ ไหว้หลวงพ่ออุตตมะ ณ วัดวังก์วิเวกการามใหม่
วัดวังก์วิเวการาม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอสังขละบุรี แต่เนื่องจาก
ยังมิได้มีการขออนุญาตจากกรมการ ศาสนา วัดที่สร้างเสร็จ จึงมีฐานะเป็นสำนักสงฆ์
แต่ชาวบ้าน โดยทั่วไปเรียกว่า “ วัดหลวงพ่ออุตตมะ ” และยังเป็นวัดที่ถือว่ามีความสำคัญมาก
สำหรับคนพื้นถิ่น เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายมอญ ที่อาศัยอยู่ในอำเภอสังขละบุรี
ถ่ายแมวกันหน่อย เสมือนว่าเป็นคนรักสัตว์
ดอกไม้ หมายถึงผู้ชายอ่อนโยน
เงิน หมายถึง เงินทำบุญ ไม่ใช่ผู้ชายหน้าเงินแต่อย่างใด ($_$ ) ( $_$) อ่าห์ หอมกลิ่นแบงค์ใหม่เจงๆ
ด้านนอกเล็กน้อยพอหอมปากหอมคอ
ไปต่อกันที่ เจดีย์พุทธคยาจำลอง เป็นเจดีย์ที่ หลวงพ่ออุตตมะ ได้สร้างจำลองขึ้นมา
เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุกระดูกนิ้วมือขวาขององค์สมเด็จสัมมาสัม-พุทธเจ้า
มีขนาดเท่ากับเมล็ดข้าวสาร ซึ่งหลวงพ่อได้อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา มาประดิษฐานไว้บนยอดเจดีย์
สิงห์แบบชัดๆ
มาดูภายในกันบ้าง
น่าจะเป็นดอกของต้นสาระนะ(ในที่สุด กระทู้ก็มีสาระจนได้)
เอาที่สบายใจเลยพ่อหนุ่ม
องค์เจดีย์
แมลงนี่ เค้าเรียกว่าอะไรนะ ใครรู้ช่วยบอกโหน่ยยย
ด้านนอกมีร้านขายสินค้าอยู่นิดหน่อยนะ
บ่ายสาม เราเดินทางมาล่องเรือชมวัดจมน้ำ(3แห่ง)
อดีตใต้น้ำแห่งนี้ เป็นชุมชนชาวมอญ ตั้งอยู่บริเวณจุดที่เรียกว่า "สามประสบ"
คือเป็นที่บรรจบของแม่นํ้า 3 สาย แม่นํ้าซองกาเลีย แม่นํ้าบีคลี่ และแม่นํ้ารันตี ต่อมาทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
ได้ก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม น้ำจึงท่วมตัวอำเภอเก่ารวมทั้งหมู่บ้านชาวมอญ
ปัจจุบันบริเวณวัดจมน้ำเหลือเพียงซากของวัดเก่า
การไปชมวัดไปได้วิธีเดียวคือ ทางเรือหรือนั่งแพเท่านั้น....
พร้อม!!! ลงเรือได้ (คนนะไม่ใช่น้ำพริก...ตึ่งโป๊ะ)
ดูวิวกันไปเรื่อยๆ
มาดูสุดที่รักเค้ามั่ง อร๊ายยย ผู้ชายถือกล้อง
เห้ย!!! ไม่ใช่อย่างที่คิด เป็นแค่ผู้ชายนิสัยมุ้งมิ้ง เนอะ เตงงง
วัดศรีสุวรรณ(เก่า)
ถ้าไม่ใช่ในฤดูแล้ง โดยปรกติวัดจะจมอยู่ใต้น้ำ
นั่นไง
สภาพภายในรอบๆ
สวยใช่มั้ยล่า
น้ำแล้ง พอจะลุยน้ำลงไปถ่ายภาพได้
แต่ระวัง...เปียก เพราะถ้ากางเกงเปียก จะอับชื้นไปทั้งวัน
ไปต่อ
วัดวังก์วิเวการาม(เดิม)
พอไปถึงจะมีน้องๆไกด์ท้องถิ่น มาให้ความรู้
นี่คือกุฏิเก่าของหลวงพ่ออุตตมะ และเคยอาศัยอยู่จริง
วัดวังก์วิเวการาม(เดิม)
บริเวณวัดโดยรอบภายนอก
ภายใน
เด็กๆยังเล่นซนตามประสา
มีทะเลาะกันบ้าง แต่ไม่รุนแรง แป๊ปเดียวก็คืนดีกัน
เอ๊ะ สานอะไรอยู่หน่ะ
ยกกล้องขึ้นถ่าย น้องๆเขิลกล้อง ยกไม้ไผ่สานมาบังหน้า
เลยได้ภาพแบบนี้
วัดสมเด็จ(เก่า)
ถูกทิ้งร้าง เมื่อคราว ตอนที่เริ่มมีการสร้างเขื่อนเขาแหลม วัดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ
ไม่ได้จมอยู่ใต้น้ำ ภายในอุโบสถมีพระประธานสภาพยังค่อนข้างสมบูรณ์
รอบตัวโบสถ์มีต้นไทรใหญ่ปกคุลมดูขลังและเก่าแก่งดงาม
คำเตือน มียุงมากมาย มุ่งหมายหมอง มามองขา
บริเวณรอบๆ อุโบสถ มีคนตั้งหินมากมาย
พระประธาน
ไทรปกคลุมโดยรอบ ร่มรื่ม บ่งบอกถึงความเก่าแก่ได้ดี
ป่ะๆ กลับ ทัวร์วันนี้ได้จบลงแล้ว
เอ้อ ค่ำๆเราออกมาตลาด หน้าเซเว่นจะมีร้านหมูจุ่มพม่า
ถ้าถามถึงรสชาตินั้น ก็คือหมูพะโล้ หั่นเสียบไม้ โดยจะมีน้ำจิ้มให้เลือกสองแบบ
น่าเสียดายตอนที่เราไป ถนนคนเดินงดจัด เพราะเข้าหน้าฝน
นอนๆ พรุ่งนี้เข้า ข้ามไปพม่า
[CR] ตั ก บ า ต ร ส ะ พ า น ม อ ญ๐ล่ อ ง วั ด ใ ต้ น้ำ๐โ ด ด ข้ า ม ไ ป พ ม่ า@สั ง ข ล ะ บุ รี ห น้ า แ ล้ ง
First Time in Sangkhla Buri @ OhDee Hostel
5-7 / 07 / 15
ที่จริงไปมานานมากแล้วครับ แต่บอกตรงๆขี้เกียจทำรีวิว แต่ภาพที่ได้มา
และเรื่องราวมันน่าสนใจและสนุกเหลือเกิน เกินกว่าที่จะยอมให้ข้ามผ่านไปได้ รีวิวนี้จึงถือกำเนิดขึ้น
ทริปนี้ ไม่รุ้คิดอะไรอยู่ ปุปปับก็ตัดสินใจ เดินทางออกไปพร้อมกับใจเหงาๆ ไปกันมาเมื่อต้นหน้าฝนปีที่แล้ว
แต่เนื่องจากปีนั้นน้ำแล้ง และฝนตกช้ามาก ทำให้เราได้มุมมองอีกแบบหนึ่ง ซึ่งสวยงามมีเอกลักษณ์
ที่พักในสังขละบุรีมากมายหลายแห่ง มีทั้งติดริมแม่น้ำ หรือจะเอาที่แบบตื่นมาเห็นสะพานมอญเลยก็มี
แต่จุดประสงค์หลักของทริปนี้ คือ ไปหาเพื่อนเพิ่ม เพื่อนที่เรายังไม่เคยรู้จัก แต่กำลังจะได้รู้จัก
วันแรก ออกเดินทางโดยรถตู้จาก ถนนพระราม2 สู่ขนส่งกาญจนบุรี
และไปหา ต่อรถตู้เพื่อเดินทางไปยังสังขละบุรี ใช้เวลารวมประมาณ 5-6 ชั่วโมง
ที่พักหาไม่ยากครับ อยู่ตรงข้ามไปรษณีย์ สังขละบุรี
ข้อดี อยู่ใกล้ตลาด ถนนคนเดิน 7-11
ข้อเสีย ห่างไกลแหล่งท่องเที่ยวอยู่มาก
ที่พักที่เรามองหานั่นก็คือ Hostel หลายคนคงสงสัยและยังไม่คุ้นชินกับ Hostel
อธิบายอย่างง่ายๆ Hostel คือที่พักราคาถูก มีสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน ได้แก่ เตียงนอน
(ส่วนใหญ่สองชั้น) ห้องน้ำ ที่เก็บสิ่งของมีค่า มีตู้เย็น ครัวให้ทำอาหาร ทุกอย่างเป็นของใช้ส่วนรวม
Hostel เป็นเป้าหมายในการหาเพื่อนใหม่ เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ได้ค้นพบว่า
นักท่องเที่ยวที่พักแบบนี้ ส่วนใหญ่จะมีนิสัยเข้ากับผู้คนได้ง่าย กินง่าย อยู่ง่าย
เรามาสะดุดตากับ OhDee Hostel เพราะตอนนั้นเค้ากำลังโปรโมทที่พัก และมีแพ็คเกจพาเที่ยวสังขละ
ล่องเรือชมวัดใต้น้ำ และไฮไลท์ก็คือข้ามไปเที่ยวฝั่งพม่า เรียกว่าจัดการให้เสร็จสรรพ
ราคาที่พักพร้อมพาเที่ยว 3วัน2คืน จำได้คร่าวๆว่า พันกว่าบาท ถ้ามาสองคนได้ส่วนลดหน่อยนึง
ที่นี่ถ้ามาสองคน เค้ามีห้องพักสำหรับสองคนไว้ด้วย แต่รู้สึกว่าน่าจะมีแค่สองห้องนะครับ
ใครไปเดี่ยวๆ หรือไปกันมากกว่าสองคนก็พักห้องรวมไป
เราไปสองคนพอดีเลย ได้ห้องคู่แน่ๆ ใครมันจะไปนอนห้องรวม นอนฟังเสียงคนอื่นกรน
ใช่!!! ผมนี่แหละ รีบตัดสินใจโดยไวโทรไปจองโอนเงินเรียบร้อย บอก 1คน 2ที่??
อ้าวงี้ก็ไม่ได้ส่วนลดนี่หว่า และยังเซ็งในความฟายของตัวเองจนถึงปัจจุบัน
บ่ายโมงกว่าๆ สมาชิกพร้อมหน้าพร้อมตา
อ อ ก ไ ป เ ที่ ย ว กั น
ที่แรกของวันนี้ ไหว้หลวงพ่ออุตตมะ ณ วัดวังก์วิเวกการามใหม่
วัดวังก์วิเวการาม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอสังขละบุรี แต่เนื่องจาก
ยังมิได้มีการขออนุญาตจากกรมการ ศาสนา วัดที่สร้างเสร็จ จึงมีฐานะเป็นสำนักสงฆ์
แต่ชาวบ้าน โดยทั่วไปเรียกว่า “ วัดหลวงพ่ออุตตมะ ” และยังเป็นวัดที่ถือว่ามีความสำคัญมาก
สำหรับคนพื้นถิ่น เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายมอญ ที่อาศัยอยู่ในอำเภอสังขละบุรี
ถ่ายแมวกันหน่อย เสมือนว่าเป็นคนรักสัตว์
ดอกไม้ หมายถึงผู้ชายอ่อนโยน
เงิน หมายถึง เงินทำบุญ ไม่ใช่ผู้ชายหน้าเงินแต่อย่างใด ($_$ ) ( $_$) อ่าห์ หอมกลิ่นแบงค์ใหม่เจงๆ
ด้านนอกเล็กน้อยพอหอมปากหอมคอ
ไปต่อกันที่ เจดีย์พุทธคยาจำลอง เป็นเจดีย์ที่ หลวงพ่ออุตตมะ ได้สร้างจำลองขึ้นมา
เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุกระดูกนิ้วมือขวาขององค์สมเด็จสัมมาสัม-พุทธเจ้า
มีขนาดเท่ากับเมล็ดข้าวสาร ซึ่งหลวงพ่อได้อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา มาประดิษฐานไว้บนยอดเจดีย์
สิงห์แบบชัดๆ
มาดูภายในกันบ้าง
น่าจะเป็นดอกของต้นสาระนะ(ในที่สุด กระทู้ก็มีสาระจนได้)
เอาที่สบายใจเลยพ่อหนุ่ม
องค์เจดีย์
แมลงนี่ เค้าเรียกว่าอะไรนะ ใครรู้ช่วยบอกโหน่ยยย
ด้านนอกมีร้านขายสินค้าอยู่นิดหน่อยนะ
บ่ายสาม เราเดินทางมาล่องเรือชมวัดจมน้ำ(3แห่ง)
อดีตใต้น้ำแห่งนี้ เป็นชุมชนชาวมอญ ตั้งอยู่บริเวณจุดที่เรียกว่า "สามประสบ"
คือเป็นที่บรรจบของแม่นํ้า 3 สาย แม่นํ้าซองกาเลีย แม่นํ้าบีคลี่ และแม่นํ้ารันตี ต่อมาทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
ได้ก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม น้ำจึงท่วมตัวอำเภอเก่ารวมทั้งหมู่บ้านชาวมอญ
ปัจจุบันบริเวณวัดจมน้ำเหลือเพียงซากของวัดเก่า
การไปชมวัดไปได้วิธีเดียวคือ ทางเรือหรือนั่งแพเท่านั้น....
พร้อม!!! ลงเรือได้ (คนนะไม่ใช่น้ำพริก...ตึ่งโป๊ะ)
ดูวิวกันไปเรื่อยๆ
มาดูสุดที่รักเค้ามั่ง อร๊ายยย ผู้ชายถือกล้อง
เห้ย!!! ไม่ใช่อย่างที่คิด เป็นแค่ผู้ชายนิสัยมุ้งมิ้ง เนอะ เตงงง
วัดศรีสุวรรณ(เก่า)
ถ้าไม่ใช่ในฤดูแล้ง โดยปรกติวัดจะจมอยู่ใต้น้ำ
นั่นไง
สภาพภายในรอบๆ
สวยใช่มั้ยล่า
น้ำแล้ง พอจะลุยน้ำลงไปถ่ายภาพได้
แต่ระวัง...เปียก เพราะถ้ากางเกงเปียก จะอับชื้นไปทั้งวัน
ไปต่อ
วัดวังก์วิเวการาม(เดิม)
พอไปถึงจะมีน้องๆไกด์ท้องถิ่น มาให้ความรู้
นี่คือกุฏิเก่าของหลวงพ่ออุตตมะ และเคยอาศัยอยู่จริง
วัดวังก์วิเวการาม(เดิม)
บริเวณวัดโดยรอบภายนอก
ภายใน
เด็กๆยังเล่นซนตามประสา
มีทะเลาะกันบ้าง แต่ไม่รุนแรง แป๊ปเดียวก็คืนดีกัน
เอ๊ะ สานอะไรอยู่หน่ะ
ยกกล้องขึ้นถ่าย น้องๆเขิลกล้อง ยกไม้ไผ่สานมาบังหน้า
เลยได้ภาพแบบนี้
วัดสมเด็จ(เก่า)
ถูกทิ้งร้าง เมื่อคราว ตอนที่เริ่มมีการสร้างเขื่อนเขาแหลม วัดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ
ไม่ได้จมอยู่ใต้น้ำ ภายในอุโบสถมีพระประธานสภาพยังค่อนข้างสมบูรณ์
รอบตัวโบสถ์มีต้นไทรใหญ่ปกคุลมดูขลังและเก่าแก่งดงาม
คำเตือน มียุงมากมาย มุ่งหมายหมอง มามองขา
บริเวณรอบๆ อุโบสถ มีคนตั้งหินมากมาย
พระประธาน
ไทรปกคลุมโดยรอบ ร่มรื่ม บ่งบอกถึงความเก่าแก่ได้ดี
ป่ะๆ กลับ ทัวร์วันนี้ได้จบลงแล้ว
เอ้อ ค่ำๆเราออกมาตลาด หน้าเซเว่นจะมีร้านหมูจุ่มพม่า
ถ้าถามถึงรสชาตินั้น ก็คือหมูพะโล้ หั่นเสียบไม้ โดยจะมีน้ำจิ้มให้เลือกสองแบบ
น่าเสียดายตอนที่เราไป ถนนคนเดินงดจัด เพราะเข้าหน้าฝน
นอนๆ พรุ่งนี้เข้า ข้ามไปพม่า