การไม่มีโรค...เป็นลาภจากการตั้งใจ

การที่ผู้หญิงมาฝากครรภ์แล้วพบว่าผลตรวจเลือดเอชไอวีเป็น “บวก” แต่ผลเลือดของสามีเป็น “ลบ”
แปลกใจกันบ้างไหม แต่ก็เป็นเรื่องใกล้ตัวของผู้ที่มีแฟนหรือคู่รัก เราควรจะระวัง ป้องกัน ตนเองมากขึ้นหรือไม่ ผลเลือดแบบนี้เรียกว่า ″ผลเลือดต่างในคู่ผู้ติดเชื้อเอชไอวี” โดยคู่ครอง คู่นอน แฟนแล้วแต่จะเรียก มีผลเลือดเอชไอวี เป็นบวกขณะที่อีกคนเป็นลบ ผลเลือดต่างนี้ลักษณะพบได้มากขึ้นในปัจจุบัน
โดยเป็นไปในสองลักษณะ คือ
1) ผู้หญิงเอชไอวี “บวก” แฟนเอชไอวี “ลบ”
2) ผู้หญิงเอชไอวี “ลบ“ แต่แฟนเอชไอวี “บวก”  

ข้อมูลที่วิจัยโดย ผศ.ดร.พูลสุข เจนพานิชย์ วิสุทธิพันธ์ จากมหาวิทยาลัยมหิดลในปี 2555 พบว่าคู่ของผู้ติดเชื้อเอชไอวีนั้น มีผลเลือดเอชไอวีเป็นลบ 51% การที่มีคนติดเชื้อเอชไอวีแต่ไม่รู้สถานะของตนเอง จะเป็นคนแพร่เชื้อเอชไอวีให้แฟนหรือคู่ตนเองได้ ส่วนคนที่เป็นแฟนและมีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่ได้สวมถุงยางอนามัย ก็จะเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อเอชไอวีเช่นกัน

ดังนั้น จึงมีแง่คิดว่า เราควรรู้สถานะการติดเชื้อของตนเองและแฟนจะดีกว่าไหม จะได้ใส่ใจในการป้องกันการติดเชื้อด้วยการใช้ถุงยางอนามัยเป็นประจำ เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อเอชไอวี

วิธีการโดยตรวจหาเชื้อเอชไอวี ควรทำก่อนแต่งงาน หรือ หลังการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน ถ้าเป็นไปได้และตรวจซ้ำหลังจากนั้นอีก 3 เดือน ถ้าเป็นไปได้แนะนำว่าควรตรวจเลือดทุกปี ถ้าเรามีความเสี่ยงที่ไม่ได้ใช้ถุงยาง เพราะประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ในปี 2557 จำนวนถึง 7,324 คน คือ เฉลียถึงวันละ 22 คน นอกจากนี้ ยังตรวจพบ ผู้ที่เป็นโรคหนองใน และ ซิฟิลิสมากขึ้น ข้อมูลนี้แสดงว่าคนจำนวนมากไม่ตระหนัก ไม่กลัว มีเพศสัมพันธ์กันโดยไม่ได้ป้องกัน ส่วนใหญ่ก็มาตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีก็ต่อเมื่อมีอาการแล้ว  ทำให้เสียโอกาสที่จะ “รู้เร็ว–รักษาเร็ว“

ขอขอบคุณข้อมูลจาก    lovecarestation.com

Report by LIV APCO
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่