ไปดูมาแล้ว...
Nobody’s Perfect คนหนึ่งบกพร่อง คนหนึ่งสมบูรณ์แบบ รวมกันมันคือพอดี THE DIVERGENT SERIES: ALLEGIANT ปฎิวัติสองโลก (ให้ 7/10)
*****ไม่สปอยล์*****
มนุษย์ทุกคนมีความสมบูรณ์แบบ ในแบบของตัวเอง ไม่จำเป็นต้อง Perfect เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ไปซะทุกอย่างก็มีความสุขได้ แต่ความสุขจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน และยอมรับความไม่สมบูรณ์ของคนรอบข้างด้วย ค่อยๆ ช่วยกันขัดเกลาในด้านที่อ่อนด้อย ส่งเสริม พัฒนาในด้านที่โดดเด่น จากนั้นทุกๆ คนก็อยู่ร่วมกันได้อย่างสามัคคี หลักการนี้สามารถนำไปใช้ได้กับทุกๆ เรื่องๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ครอบครัว รวมไปถึงคนรัก
.
หนังภาคต่อจากชุดหนัง Divergent ที่หน้าหนังดูดี และกระแสแรงเพราะระยะนี้ฮีโร่สาวกำลังมา ถูกเอาไปเทียบกับ The Hunger Games อยู่บ่อยๆ ในแง่ที่เป็นการพยายามล้มล้างระบอบปกครองแบบดิสโทเปียโดยเด็กสาวเหมือนๆ กัน แถมเสน่ห์ของนักแสดงนำก็อยู่ในลักษณะคล้ายๆ กันอีกด้วย แต่สิ่งที่ต่างคือคนในสังคมมีสิทธิ์เลือกกลุ่มของตัวเองเมื่อถึงเวลา ตรงนี้จะต่างกับ The Hunger Games ที่ทุกอย่างทางรัฐบาลจะจัดการ สิ่งที่รัฐบาลในสังคมไดเวอร์เจนท์จะจัดการให้คุณก็คือ ช่วยจัดการทดสอบเพื่อดูว่าคุณมีแนวโน้มควรไปอยู่กลุ่มไหน และถึงแม้ผลของคุณจะบอกว่าอย่างไร คุณก็มีสิทธิ์เลือกว่าจะเชื่อผลการทดสอบหรือไม่ก็ได้ ซึ่งพวกไดเวอร์เจนท์ คือพวกที่ไม่สามารถจัดกลุ่มได้ นี่เองที่เป็นภัยต่อระบบความมั่นคงของสังคมแห่งนี้
.
Allegiant จะเล่าเรื่องราวหลักจากที่ ทริซ (เชย์ลีน วู้ดลี่), โฟร์ (ธีโอ เจมส์), เคเลบ (แอนเซล เอลกอร์ต), ปีเตอร์ (ไมล์ส เทลเลอร์) และ คริสตินา (โซอี้ คราวิทซ์) สามารถหนีออกมาจากโลกเบื้องหลังกำแพงของเมืองชิคาโกยุคอนาคตที่แบ่งแยกผู้คนตามลักษณะนิสัยออกมาได้ แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาต้องถูกจับเข้าห้องขังคุ้มกันโดยหน่วยงานลึกลับที่เรียกว่า ‘ศูนย์วิจัยและศึกษายีนส์มนุษย์’ และต้องค้นหาความจริงอันชวนตกตะลึงที่ไม่เคยรู้มาก่อนของโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่ นำไปสู่เหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นและเป็นปฐมบทมหากาพย์การต่อสู้โยงไปสู่ตอนจบอันยิ่งใหญ่เพื่อปิดตำนานภาพยนตร์ชุด The Divergent Series
.
ภาคนี้จะว่า CG โดดเด่นก็ไม่อาจพูดได้เต็มปากมากนัก เพราะรู้สึกว่าบางฉากยังดูหลอกๆ อยู่เหมือน CG ข่าวช่องเจ็ด แต่โดยรวมมันก็โอเคแหละ ประทับใจฉากไต่ข้ามกำแพงยักษ์ ดูลุ้นระทึกดีแถมมีความอันตรายในสไตล์โลดโผนอีกต่างหาก ครีเอทเจ๋งสุดๆ นี่ยกให้ฐานทัพของดินแดนหลังกำแพงที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอาวุธยุทโธปกรณ์การต่อสู้ขั้นสูงอย่าง ปืนไรเฟิลไฮเทคจู่โจมล้ำอนาคต, ระบบโฮโลแกรมช่วยเล็งเป้า และโดรนอเนกประสงค์ เชื่อว่าถ้าหลานๆ คนไหนได้ไปดูนี่ออกมาคงหมุนมือกันรัวๆ แน่
.
ด้านตัวนักแสดง “โฟร์” ในภาคนี้ล่ำหล่อพ่อของลูกมากกก คนอะไรเข้มเท่ห์ได้มดลูกเคลื่อนขนาดนี้ ได้ข่าวว่าใช้เวลาฟิตหุ่นวันละหลายชั่วโมงเพื่อรับบทนี้ แต่แอบเสียดายที่โชว์หุ่นน้อยไปหน่อย ไม่ค่อยเห็นอะไร อารมณ์เสียตัดคะแนน ! 555 ส่วน “ทริซ” ดูนิ่งขึ้นมากกว่าภาคที่แล้ว ทำให้ดูโตขึ้น ไม่ใช่แค่บุคลิกเท่านั้นที่โต ร่างกายนางก็ดูโต๊โตตามไปด้วย ยิ่งใส่แขนกุดนี่ไขมันปลิ้นเลยจ้า แอบคิดอยู่ว่านางอวบอั๋นขึ้นไม่เฟิร์มเท่าภาคที่แล้ว “ปีเตอร์” คนนี้ฮีก็กวนทรีนเสมอต้นเสมอปลาย ดูแล้วน่าหมั่นไส้ “เคเล็บ” ภาคนี้ฮีมีดราม่ากับทริซมากขึ้น แต่ยังไม่ค่อยรู้สึกว่าฮีได้โชว์ความสามารถในการแสดงเท่าไหร่เลย ราบเรียบมาก และสงสารมากสุดตกเป็นของ “คริสติน่า” เพราะรู้สึกว่าภาคนี้นางดรอปไปเลย ไม่ค่อยมีความสำคัญ
.
หลายๆ อย่างในหนังดูเดาทางออกได้ง่ายมาก คิดอะไรไว้ในใจ ก็เป็นตามที่คิดไว้ตลอด บทออกแนวจะเป็นละครน้ำเน่าของไทยซะด้วยซ้ำ แต่ถึงจะน้ำเน่าแต่ก็ยังเห็นเงาจันทร์ มีแอบๆ หยอดมุมโรแมนซ์นิดหน่อยกรุบกริบ แต่อย่างที่บอกสไตล์เนื้อเรื่องมันแอบไปคล้าย The Hunger Games แถมบวกกับ The Maze Runner ตรงที่โลกถูกทำลายแล้วมีคนโดนจับมาทดลอง อีกทั้งยังมีฉากที่ต้องวิ่งท่ามกลางเมืองที่แห้งแล้งและถูกทำลาย ดูแล้วทำให้มโนภาพซ้อนทับกับนุ้งมินโฮของป้าเลย
.
ภาพรวมป้าว่าสนุกนะ ดูเรื่อยๆ มีฉากลุ้น ตื่นเต้นตลอดเวลา ไม่น่าเบื่อ คิดว่าแฟนๆ น่าจะชอบกัน ถ้าดู 2 ภาคก่อนนี้มาก่อนภาคนี้ก็ไปดูเถอะ
เตรียมสัมผัสฉากแอคชั่นที่แตกต่างกว่าทุกแอ็คชั่น-ไซไฟ และร่วมตัดสินอนาคตทั้งสองโลกใน “THE DIVERGENT SERIES: ALLEGIANT ปฎิวัติสองโลก” 10 มีนาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
https://www.facebook.com/Universalreviews/photos/a.1582452788706269.1073741829.1582134785404736/1686614521623428/?type=3&theater
[SR] Nobody’s Perfect คนหนึ่งบกพร่อง คนหนึ่งสมบูรณ์แบบ รวมกันมันคือพอดี THE DIVERGENT SERIES: ALLEGIANT ปฎิวัติสองโลก
ไปดูมาแล้ว...
Nobody’s Perfect คนหนึ่งบกพร่อง คนหนึ่งสมบูรณ์แบบ รวมกันมันคือพอดี THE DIVERGENT SERIES: ALLEGIANT ปฎิวัติสองโลก (ให้ 7/10)
*****ไม่สปอยล์*****
มนุษย์ทุกคนมีความสมบูรณ์แบบ ในแบบของตัวเอง ไม่จำเป็นต้อง Perfect เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ไปซะทุกอย่างก็มีความสุขได้ แต่ความสุขจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน และยอมรับความไม่สมบูรณ์ของคนรอบข้างด้วย ค่อยๆ ช่วยกันขัดเกลาในด้านที่อ่อนด้อย ส่งเสริม พัฒนาในด้านที่โดดเด่น จากนั้นทุกๆ คนก็อยู่ร่วมกันได้อย่างสามัคคี หลักการนี้สามารถนำไปใช้ได้กับทุกๆ เรื่องๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ครอบครัว รวมไปถึงคนรัก
.
หนังภาคต่อจากชุดหนัง Divergent ที่หน้าหนังดูดี และกระแสแรงเพราะระยะนี้ฮีโร่สาวกำลังมา ถูกเอาไปเทียบกับ The Hunger Games อยู่บ่อยๆ ในแง่ที่เป็นการพยายามล้มล้างระบอบปกครองแบบดิสโทเปียโดยเด็กสาวเหมือนๆ กัน แถมเสน่ห์ของนักแสดงนำก็อยู่ในลักษณะคล้ายๆ กันอีกด้วย แต่สิ่งที่ต่างคือคนในสังคมมีสิทธิ์เลือกกลุ่มของตัวเองเมื่อถึงเวลา ตรงนี้จะต่างกับ The Hunger Games ที่ทุกอย่างทางรัฐบาลจะจัดการ สิ่งที่รัฐบาลในสังคมไดเวอร์เจนท์จะจัดการให้คุณก็คือ ช่วยจัดการทดสอบเพื่อดูว่าคุณมีแนวโน้มควรไปอยู่กลุ่มไหน และถึงแม้ผลของคุณจะบอกว่าอย่างไร คุณก็มีสิทธิ์เลือกว่าจะเชื่อผลการทดสอบหรือไม่ก็ได้ ซึ่งพวกไดเวอร์เจนท์ คือพวกที่ไม่สามารถจัดกลุ่มได้ นี่เองที่เป็นภัยต่อระบบความมั่นคงของสังคมแห่งนี้
.
Allegiant จะเล่าเรื่องราวหลักจากที่ ทริซ (เชย์ลีน วู้ดลี่), โฟร์ (ธีโอ เจมส์), เคเลบ (แอนเซล เอลกอร์ต), ปีเตอร์ (ไมล์ส เทลเลอร์) และ คริสตินา (โซอี้ คราวิทซ์) สามารถหนีออกมาจากโลกเบื้องหลังกำแพงของเมืองชิคาโกยุคอนาคตที่แบ่งแยกผู้คนตามลักษณะนิสัยออกมาได้ แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาต้องถูกจับเข้าห้องขังคุ้มกันโดยหน่วยงานลึกลับที่เรียกว่า ‘ศูนย์วิจัยและศึกษายีนส์มนุษย์’ และต้องค้นหาความจริงอันชวนตกตะลึงที่ไม่เคยรู้มาก่อนของโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่ นำไปสู่เหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นและเป็นปฐมบทมหากาพย์การต่อสู้โยงไปสู่ตอนจบอันยิ่งใหญ่เพื่อปิดตำนานภาพยนตร์ชุด The Divergent Series
.
ภาคนี้จะว่า CG โดดเด่นก็ไม่อาจพูดได้เต็มปากมากนัก เพราะรู้สึกว่าบางฉากยังดูหลอกๆ อยู่เหมือน CG ข่าวช่องเจ็ด แต่โดยรวมมันก็โอเคแหละ ประทับใจฉากไต่ข้ามกำแพงยักษ์ ดูลุ้นระทึกดีแถมมีความอันตรายในสไตล์โลดโผนอีกต่างหาก ครีเอทเจ๋งสุดๆ นี่ยกให้ฐานทัพของดินแดนหลังกำแพงที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอาวุธยุทโธปกรณ์การต่อสู้ขั้นสูงอย่าง ปืนไรเฟิลไฮเทคจู่โจมล้ำอนาคต, ระบบโฮโลแกรมช่วยเล็งเป้า และโดรนอเนกประสงค์ เชื่อว่าถ้าหลานๆ คนไหนได้ไปดูนี่ออกมาคงหมุนมือกันรัวๆ แน่
.
ด้านตัวนักแสดง “โฟร์” ในภาคนี้ล่ำหล่อพ่อของลูกมากกก คนอะไรเข้มเท่ห์ได้มดลูกเคลื่อนขนาดนี้ ได้ข่าวว่าใช้เวลาฟิตหุ่นวันละหลายชั่วโมงเพื่อรับบทนี้ แต่แอบเสียดายที่โชว์หุ่นน้อยไปหน่อย ไม่ค่อยเห็นอะไร อารมณ์เสียตัดคะแนน ! 555 ส่วน “ทริซ” ดูนิ่งขึ้นมากกว่าภาคที่แล้ว ทำให้ดูโตขึ้น ไม่ใช่แค่บุคลิกเท่านั้นที่โต ร่างกายนางก็ดูโต๊โตตามไปด้วย ยิ่งใส่แขนกุดนี่ไขมันปลิ้นเลยจ้า แอบคิดอยู่ว่านางอวบอั๋นขึ้นไม่เฟิร์มเท่าภาคที่แล้ว “ปีเตอร์” คนนี้ฮีก็กวนทรีนเสมอต้นเสมอปลาย ดูแล้วน่าหมั่นไส้ “เคเล็บ” ภาคนี้ฮีมีดราม่ากับทริซมากขึ้น แต่ยังไม่ค่อยรู้สึกว่าฮีได้โชว์ความสามารถในการแสดงเท่าไหร่เลย ราบเรียบมาก และสงสารมากสุดตกเป็นของ “คริสติน่า” เพราะรู้สึกว่าภาคนี้นางดรอปไปเลย ไม่ค่อยมีความสำคัญ
.
หลายๆ อย่างในหนังดูเดาทางออกได้ง่ายมาก คิดอะไรไว้ในใจ ก็เป็นตามที่คิดไว้ตลอด บทออกแนวจะเป็นละครน้ำเน่าของไทยซะด้วยซ้ำ แต่ถึงจะน้ำเน่าแต่ก็ยังเห็นเงาจันทร์ มีแอบๆ หยอดมุมโรแมนซ์นิดหน่อยกรุบกริบ แต่อย่างที่บอกสไตล์เนื้อเรื่องมันแอบไปคล้าย The Hunger Games แถมบวกกับ The Maze Runner ตรงที่โลกถูกทำลายแล้วมีคนโดนจับมาทดลอง อีกทั้งยังมีฉากที่ต้องวิ่งท่ามกลางเมืองที่แห้งแล้งและถูกทำลาย ดูแล้วทำให้มโนภาพซ้อนทับกับนุ้งมินโฮของป้าเลย
.
ภาพรวมป้าว่าสนุกนะ ดูเรื่อยๆ มีฉากลุ้น ตื่นเต้นตลอดเวลา ไม่น่าเบื่อ คิดว่าแฟนๆ น่าจะชอบกัน ถ้าดู 2 ภาคก่อนนี้มาก่อนภาคนี้ก็ไปดูเถอะ
เตรียมสัมผัสฉากแอคชั่นที่แตกต่างกว่าทุกแอ็คชั่น-ไซไฟ และร่วมตัดสินอนาคตทั้งสองโลกใน “THE DIVERGENT SERIES: ALLEGIANT ปฎิวัติสองโลก” 10 มีนาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
https://www.facebook.com/Universalreviews/photos/a.1582452788706269.1073741829.1582134785404736/1686614521623428/?type=3&theater