เมื่อพี่ชายอยากได้แฟนเรา...

สวัสดี นี้เป็นการตั้งกระทู่ครั้งแรกของเราน่ะ และคนเล่าเรื่องกระทู่นี้คือเจ้าของเรื่องทั้งหมด และตัวเราเองเป็นทอมน่ะ ไม่ขอเปิดเผยรายชื่อแต่จะใช้คำนำหน้าแทนน่ะ.......เราไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดีตอนนี้ เพราะที่เป็นอยู่คือเราได้แต่เงียบ แต่ก็อยากรู้ว่ามีใครเคยเจอเหตุการณ์เดียวกับเราไหมและแก้ไขกันอย่างไร.........    เข้าเรื่องกันเลย!!
    เราคบกับแฟนมาได้ประมาน 1 ปี 10 เดือน ขอใช้คำนำหน้าแฟนเราคือ P เรา2คน รักกันดีไม่เคยมีปัญหาไร มีทะเลาะง้องแง้งเหมือนคู่รักทั่วไป
แต่เรื่องนี้มาเกิดขึ้นพร้อมความสงสัยที่ยังมีอยู่ในใจจนตอนนี้คือ ช่วงประมาน มิถุนายน 2558 เราเริ่มสงสัย "พี่ชาย" ของตัวเอง
เค้าชื่อ A ซึ่งก็ไม่ใช่พี่ชายแท้หรอก เพราะเค้าเป็นลูกติดของพ่อเลี้ยงเรา และ A ก็แต่งงาน มีลูกสาวแล้ว 1 คน เหตุการณ์แรกที่เรารู้สึกว่า
พี่ A เนี้ย...ชอบเข้าหาแฟนเราตลอด จะชอบแทคแคร์ดูแลเหมือนเป็นแฟนกันประมาณว่าตอดเรื่อยๆ ณ จุดๆ นั้น คือเรารู้สึกน่ะแต่ยังไม่พูดไร
ได้แต่ภาวะนาว่า "อย่าทำนิสัยแบบเดิมอีกน่ะ"  เพราะA เคยทำนิสัยแบบนี้มาตั้งแต่แฟนเก่าของเรานานแล้ว แต่แฟนเก่าบอกเราและไม่เล่น
ด้วย พี่ A มันถึงหยุดและไม่เข้าหาอีก..... ขอบอกถึงนิสัยพี่ A ก่อนน่ะ คือ พี่ A มันเป็นโรคจิตอย่างนึง แฟนเพื่อน แฟนน้อง แฟนพี่หรือผู้หญิงทุกคน
มันไม่สนใจว่าเค้าจะมีแฟนหรือยัง... กุจะตอดจะจีบไปเรื่อยๆ ได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร.....ขนาดเมียพี่ A ก็คือพี่สะใภ้เรา
พี่ A มันก็ไปแย่งมาจากเพื่อนอีกที
พี่ A ทำนิสัยแบบนี้กับ P ทุกครั้งที่เจอและเริ่มหนักขึ้นๆ เรื่อยๆ จนออกนอกหน้านอกตาโดยไม่คำนึงหรือเกรงใจเราสักนิดเดียว....

     P เป็นคนชอบเข้าครัวทำอาหารให้ทำคนในบ้านเรากิน ทุกครั้งที่มีการทำอาหาร พี่ A ก็จะพูดแบบว่า "P ไปตลาดกับพี่ป่ะซื้อของทำกับข้าวกัน"  
ประมานนี้...และไปทีไปนานมากกก!!!!  และก็จะชอบไปกัน 2 คน เราเคยบอกแฟนเราน่ะว่า..!!  
“เออ...ถ้าจะไปไหนไม่ต้องไปกับพี่ A บ่อยนักน่ะใช้เราบ้างก็ได้เราเป็นแฟนเธอน่ะ....”  
บางครั้งก็เคยลองน่ะประมานว่าแฟนเรากับพี่ A กำลังนั้งมอเตอร์ไซย์จะออกไปซื้อของละเราวิ่งพรวดไปบอก
“เดียวก่อนพี่ A ไม่ต้องไปเดียวเราไปเอง”   แรกๆแฟนเราก็ไม่ไรหรอกก็ไปกับเราปกติพอนานๆไปแฟนเราไปถึงจุดที่เปลี่ยนไป
และตอบกลับมาคือ ความไม่พอใจ อารมณ์ และน้ำเสียงมาเต็ม ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนกับว่า P ก็เล่นด้วยกับพี่ A คือจะไม่ยอมไปกับเรา
แต่จะไปกับพี่ A แล้วแฟนเราก็จะพูดประมาณว่า
“ถ้าจะไปด้วยก็ไปกันเลยเค้าไม่ไปแล้ว!!!!!!!!!!!!!”

      จากนั้นพอเข้าครัวปุบ พี่ A ก้จะชอบเดินตาม P ไปด้วยทุกครั้ง จนมาวันนึงเรานึกคิดสงสัยพี่ A ว่า มันจะมือปลาหมึกกับแฟนเราป่าวว่ะ...
เราก็แอบเข้าไปหลังครัวแบบไม่ให้รู้ตัวและสิ่งที่ได้เห็นคือ พี่ A .......กำลังโอบไหลอยู่ข้างหลังแฟนเรา......
และ P กำลังยืนหันของอยู่แต่ที่หนักกว่าคือ P ไม่ปัดปกป้องตัวเองออกจากมือพี่ A เลย กลับยืนนิ่งให้พี่ A โอบอยู่อย่างนั้น
เราเลยพูดขึ้นว่า  "ทำไรกัน!!"  ปฏิกิริยาพี่ A มันรีบเอามือออกและรีบเดินออกจากครัวทันที...เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นทุกครั้งจนเราตัดสินใจ
เข้าไปคุมแฟนเราทุกครั้งที่เข้าครัวทำอาหารเพื่อไม่ให้พี่ A มาใกล้ชิดมากมายหรือมาทำเยอะกับแฟนเรา เพราะมันบ่งบอกถึงความไม่เหมาะสม.

และทุกครั้งที่เราเข้าครัวกับแฟนเรา....แฟนเรากลับมองว่า “จะเข้ามาทำไมไปรอข้างนอกไป...เค้าร้อน”
เราก็ งง น่ะ เออ....แรกๆคบกันก็ไม่เคยเป็นแบบนี้หรอกพอนานวันกลับกลายว่าเรานี้ทำไรไม่ถูกใจไปสะทุกอย่าง เราก็อยู่เหมือนที่พี่ A มันอยู่
แต่ทำไมพอเป็นกูอยู่ถึงไล่กูจัง!!!!!!              และเวลาไปซื้อของก็ยังไปแพ็คคู่ตามเดิม นี้คือเหตุการณ์ที่เรารู้สึกว่าพี่ A มันมาเยอะกับแฟนเรามาก
เกินไป มากเกินกว่าพี่ชายจะดูแลแฟนน้อง.....แต่ปล่าวเลย!!! คือ ยิ้มจะเอาแฟนตูนี้ละ-*-
มันยังมีอีกหลายๆเหตุการณ์แต่เราขอย่อๆ เอาหลักๆ เลยละกัน.

เหตุการณ์ต่อไปคือ วันนั้นเราประสบอุบัติเหตุมอเตอร์ไซย์เราชนกับรถเก่งเพราะรถเกงตัดหน้าจนไปโรงพยาบาลเสร็จแล้วก็เดินทางไปสถานีตำรวจ
คืนนั้นมีแม่เรา มีเรา มีแฟนเรา มีเพื่อนเราอีก2คน และก็มีพี่ A เราก็นั้งรอให้ตำรวจดำเนินคดีกับคู่กรณีกันอยู เรากับแฟนเรานั้งติดกัน
ทีนี้พี่ A มันก็เข้ามานั้งข้างๆแฟนเราแบบติดกันเลย (ตอนนั้นเราก็แอบหึงอยู่น่ะเพราะเรารู้สึกมาตลอดอยู่แล้วแต่เก็บไว้) ก็นั้งกันอยู่แบบนี้จนประมาณ
ตี 2-3 น่าจะได้   เราได้ยินเสียง ib โทรศัพท์แฟนเราดังเราก็หันไปดูแต่ยังไม่พูดไรและไม่สนใจไรเพราะอารมณ์เราตอนนั้นก็โมโหเรื่องคดีอยู่
สักพักเราเลยบอกแม่ว่ากลับบ้านเถอะคดีช่างมันฟาดเคราะห์ไป หลังจากนั้นก็กลับมาบ้านเข้าห้องจะนอนกะแฟนระ เราก็เรยบอกแฟนว่าเอามือถือมาดูหน่อยคัยทักมาตอนอยู่ สน. (ช่วงนั้นเรากับแฟนสามารถดูโทรศัพท์กันได้โดยไม่มีปัญหาอะไร) แฟนเราก็ให้ดู แต่พอเห็นเท่านั้นระ....เห้ยยย!!!
พี่ A ทักแฟนเรามา เราก็คิดย้อนกลับไป เดียวน่ะ!!    นั้งติดกันเลยทำไมไม่คุยแต่ทำไม ib หากัน ข้อความที่เห็นก็ประมาณว่า เอาเท่าที่จำได้น่ะ

พี่ A : ง่วงนอนมั่ยค่ะ!!
   P : ง่วง
พี่ A : เดียวก็ได้กลับบ้านนอนแล้ว และก็ส่งสติ๊กเก้อรูปจุฟ
  P   : ค่าาา

ข้อความก็ประมาณนี้...ส่วนตัวเราก็ไม่ไรน่ะตอนนั้นและเราก็ไม่ได้พูดไรหรือถามไรมากมายด้วย แต่ในใจเราก็คิดน่ะว่า......
นั้งติดกันขนาดนั้นทำไมไม่คุย จะทัก ib มาให้มีลับลมคมในทำไม นี้คือสิ่งที่สงสัยน่ะ!!
แล้วตอนงานแต่งงานของพี่ A ก็เหมือนกัน คือ แฟนเราเป็นคนช่วยงานอยู่ในส่วนของการทำอาหารกับพี่สาวคนโตของเรา ในส่วนของเรา
จะช่วยในการเคลียสถานที่ เก็บโต๊ะ ล้างจาน ดูแลแขก (เหนื่อยมากและหนักมากเพราะเราทำคนเดียว) หลังจบงานเท่านั้นละ...
เราดูโทรศัพท์แฟน....ยิ้มมีการส่ง ib มาหาแฟนเราว่า

พี่ A : ขอบคุณน่ะค่ะที่ช่วยงานพี่...เหนื่อยแย่เลย
P : ไม่เป็นไรค่า^^

คือสำหรับเรา เรามองว่า เห้ยยย!!! เค้าก็ช่วยกันทั้งบ้านน่ะขอบคุณทั้งทีก็ขอบคุณคนในครอบครัวด้วยสิ จริงๆแล้วเวลาอยู่รวมกันครบ
ณ ตอนนั้นทำไม่ถึงไม่พูดขอบคุณทุกๆคน มันยังรู้สึกดีกว่าที่ ส่ง ib มาหาแฟนเราและขอบคุณแค่แฟนเราด้วยคำพูดที่หอมหวานอ่ะ

     ต่อมาเป็นข้อความในไลน์ เรานอนอยู่กับแฟน สักพักประมานตี1-2นี้ระ โทรศัพท์ของแฟนเราไลน์ดัง เราก็สงสัยว่าคัยทักมาตอนนี้
ตอนนั้นแฟนเราหลับแล้วและหลับลึกด้วย เราก็เลยเอาโทสับแฟนมาดู ปรากฏเป็นพี่ A ทักแฟนเรามาว่า "นู๋" ใจเราไม่ดีระเราก็เก็บไว้
ค่อยคุยกับแฟนตอนเช้ากะว่าตื่นมาก็ถามเลยประมานนี้ ทีนี้แฟนเราจะตื่นก่อนเราอยู่แล้ว แล้วแฟนเราอาบน้ำอยู่เราก็เลยเอาโทรศัพท์แฟน
มาเช็คไลน์อีกที แฟนเราก็ตอบกลับพี่ A ว่า "อะไรของพี่ A ทักผิดคนป่าว" จากนั้นแฟนเราอาบน้ำเสร็จก็เข้ามาเห็นว่าเรา
เช็คโทรศัพท์ P อยู่ เราก็เลยถาม P ว่า

"พี่ A ทักเทอแปลกๆน่ะ.."
P บอก "ไม่รู้ดิ...งง เหมือนกันอยู่ดีๆทัก นู๋มา สงสัยจะทักเด็กแต่ทักผิดมาทักเค้ามั่ง"

เรื่องนี้ก็จบไปแต่หลังจากนั้นก็ยังมีอีกหลายๆเหตุการณ์อยู่เหมือนกันจนมา ณ จุดๆ นึงช่วงประมาณปีใหม่ เรารู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนไปของแฟนเราและเปลี่ยนไปมากด้วยไม่ใช่คนเดิมเลย แฟนเราเปลี่ยนพาสโทรศัพท์เคยขอแล้วก็บ่ายเบียงไม่ให้และนิสัยกับอารมณ์แฟนจากเดิมที่เป็นผู้หญิงน่ารักเรียบร้อย ไม่เคยขึ้นเสียงใส่เราโดยไม่มีเหตุผล กลับกลายเป็นเหวี่ยงเราบ่อยขึ้นไม่มีเหตุผล ตะวาดเสียงใส่ต่อหน้าที่บ้านเราซึ่งเดิมทีแล้วแฟนเราไม่เคยเป็น
นิสัยแบบนี้ คือถ้าเราจะทะเลาะกัน แฟนเราจะดึงเราเข้าห้องและเคลียกัน แต่นี้คือ เราทำไรไม่ถูกใจก้ตะวาดใส่ต่อหน้าทุกคนที่บ้านแต่การกระทำที่ทำกับพี่ A กลายเป็นความอ่อนหวานเหมือนที่เราเคยได้รับมาก่อน สถานการณ์เปลี่ยน เวลาก็เปลี่ยน ใจคนก็เปลี่ยน หลังจากที่แฟนเราเปลี่ยนเราก็ยังคบกันนอยู่น่ะ ช่วงที่เราใกล้จะเลิกกับแฟน แฟนเราก็ชอบไปกับพี่ A มากขึ้น2ต่อ2ด้วย  และช่วงหลังมานี้เวลาไปเที่ยวหรืออะไรก็แล้วแต่คือ เราก็ไปกันหลายคนน่ะ
ก็จะมี พี่ A แฟนของพี่ A เรา แฟนเรา พี่ชายคนโต พี่สาว แม่ไรงี้ เวลาเดินเล่นหรือเที่ยวอ่ะความเป็นจริงคือ เราต้องเดินกับแฟนเราคอยดูแลเทคแคร์สิ ส่วนพี่ A ก็ต้องเดินกับพี่สะใภ้คอยดูแลเทคแคร์ แต่สิ่งที่เห็นและเป็นคือ
แฟนเราจะพยายามเดินห่างเราตลอดสักพักพี่ A ก้จะเข้าไปเดินด้วยแถมดูแลเทคแคร์มีมือปลากหมึกอีกยังกะคนเป็นแฟนกัน
เดินกระนุงกระหนิงมากแล้วพอเราเดินเข้าไปแยกแฟนเราก็จะปัดๆ แบบออกแนวรำคาญ เราก็เห้ยยย...นี้กูเป็นแฟนป่ะเนี้ย......!!!
จากนั้นเรากับแฟนก็เริ่มห่างกันมากขึ้นๆ และหนักขึ้นก็ตอนแฟนเราเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ ทำให้ไม่มีเวลามากขึ้น โทรศัพท์ไม่เคยห่างตัว
พอเราทักหรือโทรไม่ค่อยจะตอบไม่ค่อยจะรับ ตอนนั้นก็ไม่คิดไรน่ะก็เข้าใจว่า P ยุ่งอยู่..... หลายๆอย่างเปลี่ยนไปมากขึ้น
จนเรากับแฟนต้องยุติความสัมพันธ์ลงเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว.....แต่รู้ไรมั่ย!!! เรื่องราวที่เราเคยสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างแฟนเรากับพี่ A อ่ะ
เราคิดว่าเราคิดอยู่คนเดียว เลยไม่เคยพูดหรือเล่าให้ใครฟังเลย แต่กลับกลายเป็นว่ามันไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่สงสัยหนะสิ
ทั้งพ่อ แม่ พี่สะใภ้ พี่สาว พี่ชาย ทุกคนก็มีความคิด เห็นและรู้สึกเหมือนเราเช่นกัน.... คือเราช๊อคน่ะ แบบเห้ยยย...!!
ทำไมไม่บอกกันแล้วมาพูดกันตอนนี้ทำไมเราจะทำอะไรจะแก้ไขก็ไม่ได้แล้ว TT

ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับแฟนก็จบด้วยดีเข้าใจกัน ระหว่างนี้เราก็ยังทักไลน์โทรหาอยู่น่ะแต่ P จะหลีกหนีไม่ค่อยตอบหรือรับโทรศัพท์เรา.
แล้วมาวันนึง อยู่ๆพี่สะใภ้ก็คอลไลน์มาหาด้วยน้ำเสียงก่ำกึงแปลกๆ เราก็ถามว่า “มีไรพี่เพราะเรานั้งกินเหล้าอยู่” แล้วพี่สะใภ้ก็ร้องไห้พูดตอบกลับมาว่า
“พี่ขอโทษ...พี่ขอโทษที่ดูแลคนของพี่ไม่ดีเอง”
เท่านั้นละ....มือไม้เรามันสั่นใจมันร้อนมันลนไปหมดเลย เราภาวนามาตลอดว่าขอให้มันไม่จริง คือไม่ต้องพูดเนื้อเรื่องก็รู้แล้วว่าเรื่องอะไร เราก็บอกไปว่า “เรารู้มานานแล้วแต่เลือกที่จะไม่พูดเอง อีกอย่างมันก็จับไม่ได้เราก็รู้ก็เห็นเหมือนกับทุกคนนั้นแหละ เราเคยเช็คโทรศัพท์ P ได้ เราก็เห็นแล้วว่ามันไม่มีไร แต่ช่วงหลังๆก่อนจะเลิกกับ P นั้นละ...ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันมีไรมากกว่านี้ไหม”  
จากนั้นพี่สะใภ้ก็บอกว่า  “แล้วทำไมไม่พูด..รู้ไหมสิ่งที่เรารู้มาและรู้สึกมันไม่ผิดแต่มันถูกเลยและไม่ใช่แกคนเดียวที่รู้สึกน่ะ.....ทุกคนทั้งบ้านรับรู้ เห็น และรู้สึกเหมือนที่แกรู้สึกทุกอย่าง แต่เค้าไม่พูดกันแค่นั้นเพราะเค้าคิดกันว่าแกคงไม่รู้  และถ้าบอกแกก็กลัวแกเสียใจ”  
ณ จุดๆนั้นเราชาไปทั้งตัวไม่รู้จะทำไงรู้แค่ว่าเราต้องรู้ความจริงให้ได้ เราคิดว่าเรื่องนี้เรากับแฟนจะรู้นิสัยใจคอกันได้ดีที่สุดเพราะมันคือเรื่องของเรา 2 คน.  

หลังจากนั้นเราตัดสินใจขับรถไปที่บ้าน P อีกครั้งทั้งๆที่เราพึ่งออกมาจากบ้าน P มาเพราะเราพา P ไปเยี่ยมพ่อเราที่โรงพยาบาลมา ก่อนจะเจอหน้าพ่อ P ก็ถามเราย่ำตลอดว่า  “แล้วพวกพี่ๆอยู่ไหน ไม่อยู่โรงพยาบาลใช่มั่ย ถ้าอยู่กันเค้าไม่ขอเข้าไปน่ะเค้ายังไม่พร้อมเจอใคร”
เราก็เอะใจน่ะว่า เทอกับเราเลิกกันมันเป็นเรื่องของคน2คนไม่เกี่ยวกะที่บ้านเรา ทุกคนที่บ้านเรายังรู้สึกดีและรักเหมือนเดิมยังไปเจอไปหาพูดคุยได้เหมือนเดิม...แล้วจะกลัวอะไร ไม่พร้อมเพราะอะไร!!      

เดียวมาต่อคับ.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่