สวัสดีสมาชิกพันทิพ และว่าที่บ่าวสาว ทุกคู่นะค่ะ
วันนี้ขออนุญาตมาแบ่งปัน และเติมเต็มความรัก และความอบอุ่นในงานแต่งของเราให้ทุกท่านได้ชม เผื่อจะเป็นประโยคแก่คู่บ่าวสาวคู่ต่อๆไปนะค่ะ ก่อนอื่นเราเพิ่งจัดงานแต่งงานไปเมื่อวันที่ 13 กพ. 59 ที่ผ่านมานะค่ะ **ขอเล่านิ๊ดนึงนะค่ะเรากับแฟนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยประถม ไม่ได้พบเจอกันมา 18 ปี พอกลับมาเจอกันอีกครั้งต่างคนต่างไม่มีใคร อายุอานามก็ล่วงเลยเข้าเลขสามแล้ว เลยตัดสินใจแต่งก็แต่ง ** จริงๆแล้วเราก็เตรียมงานมาประมาณ 9 เดือน เพราะพอผู้ใหญ่สู่ขอ เราก็ให้หลวงพี่ที่เราเคารพหาฤกษ์ให้ทันที พอได้ฤกษ์เราสองคนก็เริ่มเตรียมงานกันเลย ไม่รู้ว่าคู่อื่นวางขั้นตอนแบบไหน แต่เราวางขั้นตอนตามความสะดวกของเรานะค่ะ
1. เริ่มจากสถานที่ก่อนเราเลือกเป็นหอประชุมโรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา เพราะเป็นโรงเรียนเก่าของเจ้าสาว ที่จอดรถสะดวกสบายกว้างขวาง และที่สำคัญราคาถูก ค่าสถานที่เรา 5,500 รวมทุกสิ่งอัน ค่าไฟ ค่าคนงาน ค่าเก็บกวาด ทุกสิ่ง
2. ของรับไหว้ตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าเราจะ “ไม่เอาผ้าขนหนู” เพราะงานไหนๆก็แจกแต่ผ้าขนหนูทั้งนั้น เราเลยหาอะไรที่ใช้ประโยคได้ ก็มาสรุปที่ผ้าห่มนาโนขนาด 6 ฟุต เราสั่งมา 200 ผืน เพราะคิดอย่างเดียวเหลือดีกว่าขาด แล้วก็มาทำแท็กติดเอง
3. พรีเวดดิ้ง ตอนแรกก็ตั้งใจอีกว่าจะไม่ถ่ายเพราะคิดว่าถ่ายมาแล้วพอจบงานก็คงไม่ได้เอากลับมาดูอีก ถ้าไม่ได้ล้างออกมาเป็นรูปใบๆ ก็เลยไปที่ร้านไปถามขอเช่าชุด ก้ได้ราคามาว่าเช่าชุด 4 ชุด 15,000 เราก็เลยถามว่าถ้าถ่ายรูปด้วยละเท่าไร ทางร้านเลยแจ้งว่า 20,000 มีรายละเอียดดังนี้ ชุดวันถ่ายพรีพร้อมแต่งหน้าทำผม บ่าว-สาว คนละ 3 ชุด และชุดไพรเวทคนละ 1 ชุด (บ่าว-สาวเตรียมมาเอง) อัดรูปขนาดใหญ่ใส่กรอบหลุย 1 รูป ใส่กรอบลอยอีก 1 รูป อัลบั้ม Lcd 1 อัลบัม ไฟล์รูปให้ทั้งหมด และชุดวันงานบ่าว-สาว อีกคนละ 2 ชุด พอฟังรายละเอียดปุ๊บไม่รอช้า ตดลงเอาแพคเก็ตนี้ค่ะ คุ้ม เราเลือกใช้บริการร้าน “รังรัก” อยู่แถวพุทธมณฑลสาย 7 แต่งหน้าวันงานเราก็เลือกร้านนี้ค่ะ แต่หน้าตอนเช้าเราให้มาแต่งที่บ้านราคา 3,500 แต่หน้าตอนเย็นเราไปแต่งที่ร้านราคา 2,000 บาท ราคาน่ารัก แต่ใช้เครื่องสำอางและฝีมีดีมากๆๆนะค่ะ
4. การ์ดแต่งงาน เรามองว่าเอาแบบเรียบๆ เพราะต้องแจกแขกผู้ใหญ่ด้วย และราคาไม่ต้องแพงมาก เพราะเดี๋ยวเค้าก็ทิ้ง เราเลยกำหนดราคาไว้ที่ไม่เกิน 10 บาท แล้วก็ได้การ์ดมาในราคา 8 บ้าน ส่วนร้าน จำชื่อไม่ได้อยู่แถวพาหุรัด เราสั่งการ์ดมาทั้งหมด 500 ใบ จริงๆ แล้ว 500 ใบเราใช้ไม่หมดหรอก เพราะเพื่อนๆส่วนมากจะส่งผ่านไลท์ ผ่าน เฟส ซะมากกว่า
5. ของชำร่วย เป็นสิ่งที่ตั้งใจว่าจะต้องเป็นของที่ใช้ประโยชน์ได้ ก็มาตกลงกันที่ถุงผ้า เราได้ร้านที่ผลิตถุงผ้าโดนตรง และเป็นร้านที่รับผลิตถุงผ้าให้ร้านของชำร่วยในจัตุจักรด้วย ราคาจะถูกกว่าทุกร้านที่เราเดินดู เราสั่งไปทั้งหมด 1000 ใบ ในราคาใบละ 15 บาท(ราคานี้รวมผูกโบว์แล้ว) สั่งไปทั้งหมด 3 สี แบบเราออกแบบเอง แต่จริงๆจะใช้แบบของทางร้านเองก็ได้ พอเสร็จงานแต่งเราก็เห็นแขกเอามาใช้เห็นแล้วก็ดีใจที่เค้าได้ใช้ประโยชน์
6. โต๊ะจีนอันนี้เป็นอะไรที่เน้นมาก เพราะคอนเซ็ปเรา ไม่หรูไม่อลัง ไม่พิธีการ แต่เราเน้นกิน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทุกคนมางานเราแล้วจะพูดถึงมากที่สุดคือเรื่องกิน เรื่องนี้เราให้แฟนเราจัดการ แฟนเราก็จัดการเลือกอาหารเอง เลือกแต่ละเมนู ให้มันอยู่ในโต๊ะงานของเรา ไม่ได้เลือกตามเซ็ตที่เค้าจัดไว้ เอาแบบว่ามาแล้วต้องได้กิน กินแล้วต้องอร่อย และพอจบงานก็ได้รับคำชมเรื่องอาหารเยอะมาก ว่าอร่อย และเยอะจนกินกันไม่หมด บางโต๊ะต้องขอถุงใส่กลับบ้าน ดีใจที่ทุกท่านอิ่มอร่อย ^^
7. ตากล้อง เราจ้างมาจากคำแนะนำของน้องที่รู้จักกัน 2 เวลา 7,000 บาท +ค่าที่พักให้ตากล้อง 2 คืน (ตากล้องเราเดินทางมาจากกระบี่) เป็นภาพนิ่ง แล้วน้องที่เรารู้จักก็มาช่วยเป็นกล้องแคนดิสให้
8. ดนตรีเป็นอะไรที่เลือกยากมากเพราะแขกเรามีทุกช่วงอายุ คือต้องเล่นเพลงให้ได้ทุกแนว ลูกทุ่ง สตริง สากล ลูกกรุง กว่าจะได้วงดนตรีประมาณก่อนงาน 2 อาทิตย์ ก็ไปเจอวงนี้ Wedding melody group ในเฟสบุค แบบว่าเซตหาไปมา เพราะวงที่คนอื่นๆแนะนำมาบางวงเล่นได้แนวเดียว บางวงราคาสูงไป ก็เลยมาจบลงที่วงนี้ราคา 17,000 เครื่องดนตรี 3 ชิ้น นักร้อง 1 คน แต่นักดนตรีเค้าก็ร้องได้ท่านเหมือนกัน สรุปก็ไม่ผิดหวังค่ะ มีแต่คนชมว่าน้องนักร้องเสียงดี
9. ฉาก งานเราจัดใกล้วาเลนไทน์ซึ่งดอกไม้จะแพงมาก เราก็ตั้งใจกันอยู่แล้วว่าไม่เอาดอกไม้นะ เอาเป็นแบบอื่นก็ได้ ซึ่งเป็นอะไรที่เราปลาบปลื้มมาก เพราะเป็นสิ่งที่อาของแฟน และครอบครัวเราทั้ง 2 ฝ่ายร่วมด้วยช่วยกัน เป็นไปตามที่เราทั้งคู่คิดไว้ และสวยงามมาก (สวยงามได้โดยไม่ต้องจ้างใคร) ฉากตอนเช้าเพื่อนเรา เป็นคนเย็บผ้า จับจีบ ส่วนการจัดดอกไม้เป็นน้องๆและเพื่อนๆ ของเราทั้งคู่ช่วยกัน ส่วนฉากตอนเย็นเป็นฝีมีของอาแฟนทั้งหมด ทั้งแบคดรอปหน้างาน และบนเวที ซึ่งได้รับคำชมจากแขกเป็นอย่างมากว่าสวย แขกในงานใช้แบคดรอปคุ้มเลย หยิบนู้นนี่มาถ่ายรูปสนุกสนานกัน คือเห็นแล้วมีความสุขมาก
***นี่คือฉากตอนเช้าใช้รดน้ำสังข์ *** ตั่งน้ำสังข์เช่ามาจากร้านพรีเวดดิ้งค่ะ 1500 บาท พรมยืมวัดมา ^^ การจัดฉากทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเย็บผ้า จัดดอกไม้ด้านบน จัดดอกไม้บนพาน เป็นฝีมือ ญาติๆพี่ๆน้องๆเพื่อนๆ ทั้งของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวทั้งนั้นเลยค่ะ
***ฉากตอนเย็น*** เป็นฝีมือของอา และญาติพี่น้องของเจ้าบ่าวล้วนๆค่ะ ชอบมาก โดนใจ ทั้งแบคดรอปหน้างาน และบนเวที อาตั้งใจทำมากทั้งตกแต่ง และตัดโฟม ถูกใจแขกและเราสองคนมากค่ะ
***ฉากบนเวที***
****ตั้งแต่เราเริ่มแจกการ์ดจะมีหลายท่านถามเราเรื่องธีมงาน ว่าเป็นแบบไหน มีตัดเค้ก มีโยนดอกไม้ไหม ธีมสีอะไร ซึ่งเราก็ตอบไปว่างานเราไม่มีอะไรเลย ไม่หรูหรา ไม่ตัดเค้ก ไม่มีธีม ไม่โยนดอกไม้ อยากให้ทุกคนมากินข้าวกัน งานเราเน้นกิน มาต้องได้กิน กินต้องอร่อย ซึ่งก็ได้แบบที่เราคิดไว้ทุกอย่างเป็นอะไรที่รู้สึกดีมาก บนเวทีก็มีพ่อกับแม่เราขึ้นไปอวยพร ไม่มีนายเทศบาล อบต. หรือผู้ใหญ่บ้าน คล้องมาลัยผู้บังคับบัญชาเจ้าบ่าวก็คล้องให้หน้างานเลย พ่อแม่เจ้าสาว และแม่เจ้าบ่าว ขึ้นเวทีอวยพร ถือว่าคำอวยพรของพวกท่านประเสริฐที่สุดสำหรับเราทั้งคู่ ****
****อยากฝากถึงคู่บ่าวสาวนะค่ะ ว่าวันงานอาจมีปัญหาอุปสรรคบ้าง ให้มองผ่านๆไปนะค่ะ เพราะไม่มีอะไรเป็นตามที่เราคิดไว้ ให้เราปล่อยผ่านไปเลยค่ะ อย่าไปใส่ใจมัน ทำหน้าตาเราให้ยิ้มแย้มแจ่มใสพอค่ะ ขอให้ทุกคู่ที่แต่งงานแล้ว และกำลังจะแต่งงานมีความสุขมากๆๆนะค่ะ****
***งานแต่งเราที่ต้องขอบคุณมากๆๆ คือครอบครัวของเราทั้งคู่ ทั้งพ่อ แม่ พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา และเพื่อนๆ ทุกๆคนเลย เหนื่อยกันมาก ทั้งขนของ เตรียมงาน ทุกขั้นตอน เราทำกันเองหมด ตอนคบกันคือเรื่องของคนสองคน แต่ตอนแต่งงานคือเรื่องของใครหลายๆคน ***
สุดท้ายฝากพรีเซนงานแต่งเราไว้ดูหนุกๆๆนะค่ะ (พอดีพี่ตากล้องเค้า ทำให้ฟรี)
https://www.youtube.com/watch?v=YBC7X8p53Zk
รีวิวงานแต่งงาน ไม่มีพิธีการ แต่มีความสุข และความอบอุ่น
วันนี้ขออนุญาตมาแบ่งปัน และเติมเต็มความรัก และความอบอุ่นในงานแต่งของเราให้ทุกท่านได้ชม เผื่อจะเป็นประโยคแก่คู่บ่าวสาวคู่ต่อๆไปนะค่ะ ก่อนอื่นเราเพิ่งจัดงานแต่งงานไปเมื่อวันที่ 13 กพ. 59 ที่ผ่านมานะค่ะ **ขอเล่านิ๊ดนึงนะค่ะเรากับแฟนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยประถม ไม่ได้พบเจอกันมา 18 ปี พอกลับมาเจอกันอีกครั้งต่างคนต่างไม่มีใคร อายุอานามก็ล่วงเลยเข้าเลขสามแล้ว เลยตัดสินใจแต่งก็แต่ง ** จริงๆแล้วเราก็เตรียมงานมาประมาณ 9 เดือน เพราะพอผู้ใหญ่สู่ขอ เราก็ให้หลวงพี่ที่เราเคารพหาฤกษ์ให้ทันที พอได้ฤกษ์เราสองคนก็เริ่มเตรียมงานกันเลย ไม่รู้ว่าคู่อื่นวางขั้นตอนแบบไหน แต่เราวางขั้นตอนตามความสะดวกของเรานะค่ะ
1. เริ่มจากสถานที่ก่อนเราเลือกเป็นหอประชุมโรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา เพราะเป็นโรงเรียนเก่าของเจ้าสาว ที่จอดรถสะดวกสบายกว้างขวาง และที่สำคัญราคาถูก ค่าสถานที่เรา 5,500 รวมทุกสิ่งอัน ค่าไฟ ค่าคนงาน ค่าเก็บกวาด ทุกสิ่ง
2. ของรับไหว้ตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าเราจะ “ไม่เอาผ้าขนหนู” เพราะงานไหนๆก็แจกแต่ผ้าขนหนูทั้งนั้น เราเลยหาอะไรที่ใช้ประโยคได้ ก็มาสรุปที่ผ้าห่มนาโนขนาด 6 ฟุต เราสั่งมา 200 ผืน เพราะคิดอย่างเดียวเหลือดีกว่าขาด แล้วก็มาทำแท็กติดเอง
3. พรีเวดดิ้ง ตอนแรกก็ตั้งใจอีกว่าจะไม่ถ่ายเพราะคิดว่าถ่ายมาแล้วพอจบงานก็คงไม่ได้เอากลับมาดูอีก ถ้าไม่ได้ล้างออกมาเป็นรูปใบๆ ก็เลยไปที่ร้านไปถามขอเช่าชุด ก้ได้ราคามาว่าเช่าชุด 4 ชุด 15,000 เราก็เลยถามว่าถ้าถ่ายรูปด้วยละเท่าไร ทางร้านเลยแจ้งว่า 20,000 มีรายละเอียดดังนี้ ชุดวันถ่ายพรีพร้อมแต่งหน้าทำผม บ่าว-สาว คนละ 3 ชุด และชุดไพรเวทคนละ 1 ชุด (บ่าว-สาวเตรียมมาเอง) อัดรูปขนาดใหญ่ใส่กรอบหลุย 1 รูป ใส่กรอบลอยอีก 1 รูป อัลบั้ม Lcd 1 อัลบัม ไฟล์รูปให้ทั้งหมด และชุดวันงานบ่าว-สาว อีกคนละ 2 ชุด พอฟังรายละเอียดปุ๊บไม่รอช้า ตดลงเอาแพคเก็ตนี้ค่ะ คุ้ม เราเลือกใช้บริการร้าน “รังรัก” อยู่แถวพุทธมณฑลสาย 7 แต่งหน้าวันงานเราก็เลือกร้านนี้ค่ะ แต่หน้าตอนเช้าเราให้มาแต่งที่บ้านราคา 3,500 แต่หน้าตอนเย็นเราไปแต่งที่ร้านราคา 2,000 บาท ราคาน่ารัก แต่ใช้เครื่องสำอางและฝีมีดีมากๆๆนะค่ะ
4. การ์ดแต่งงาน เรามองว่าเอาแบบเรียบๆ เพราะต้องแจกแขกผู้ใหญ่ด้วย และราคาไม่ต้องแพงมาก เพราะเดี๋ยวเค้าก็ทิ้ง เราเลยกำหนดราคาไว้ที่ไม่เกิน 10 บาท แล้วก็ได้การ์ดมาในราคา 8 บ้าน ส่วนร้าน จำชื่อไม่ได้อยู่แถวพาหุรัด เราสั่งการ์ดมาทั้งหมด 500 ใบ จริงๆ แล้ว 500 ใบเราใช้ไม่หมดหรอก เพราะเพื่อนๆส่วนมากจะส่งผ่านไลท์ ผ่าน เฟส ซะมากกว่า
5. ของชำร่วย เป็นสิ่งที่ตั้งใจว่าจะต้องเป็นของที่ใช้ประโยชน์ได้ ก็มาตกลงกันที่ถุงผ้า เราได้ร้านที่ผลิตถุงผ้าโดนตรง และเป็นร้านที่รับผลิตถุงผ้าให้ร้านของชำร่วยในจัตุจักรด้วย ราคาจะถูกกว่าทุกร้านที่เราเดินดู เราสั่งไปทั้งหมด 1000 ใบ ในราคาใบละ 15 บาท(ราคานี้รวมผูกโบว์แล้ว) สั่งไปทั้งหมด 3 สี แบบเราออกแบบเอง แต่จริงๆจะใช้แบบของทางร้านเองก็ได้ พอเสร็จงานแต่งเราก็เห็นแขกเอามาใช้เห็นแล้วก็ดีใจที่เค้าได้ใช้ประโยชน์
6. โต๊ะจีนอันนี้เป็นอะไรที่เน้นมาก เพราะคอนเซ็ปเรา ไม่หรูไม่อลัง ไม่พิธีการ แต่เราเน้นกิน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทุกคนมางานเราแล้วจะพูดถึงมากที่สุดคือเรื่องกิน เรื่องนี้เราให้แฟนเราจัดการ แฟนเราก็จัดการเลือกอาหารเอง เลือกแต่ละเมนู ให้มันอยู่ในโต๊ะงานของเรา ไม่ได้เลือกตามเซ็ตที่เค้าจัดไว้ เอาแบบว่ามาแล้วต้องได้กิน กินแล้วต้องอร่อย และพอจบงานก็ได้รับคำชมเรื่องอาหารเยอะมาก ว่าอร่อย และเยอะจนกินกันไม่หมด บางโต๊ะต้องขอถุงใส่กลับบ้าน ดีใจที่ทุกท่านอิ่มอร่อย ^^
7. ตากล้อง เราจ้างมาจากคำแนะนำของน้องที่รู้จักกัน 2 เวลา 7,000 บาท +ค่าที่พักให้ตากล้อง 2 คืน (ตากล้องเราเดินทางมาจากกระบี่) เป็นภาพนิ่ง แล้วน้องที่เรารู้จักก็มาช่วยเป็นกล้องแคนดิสให้
8. ดนตรีเป็นอะไรที่เลือกยากมากเพราะแขกเรามีทุกช่วงอายุ คือต้องเล่นเพลงให้ได้ทุกแนว ลูกทุ่ง สตริง สากล ลูกกรุง กว่าจะได้วงดนตรีประมาณก่อนงาน 2 อาทิตย์ ก็ไปเจอวงนี้ Wedding melody group ในเฟสบุค แบบว่าเซตหาไปมา เพราะวงที่คนอื่นๆแนะนำมาบางวงเล่นได้แนวเดียว บางวงราคาสูงไป ก็เลยมาจบลงที่วงนี้ราคา 17,000 เครื่องดนตรี 3 ชิ้น นักร้อง 1 คน แต่นักดนตรีเค้าก็ร้องได้ท่านเหมือนกัน สรุปก็ไม่ผิดหวังค่ะ มีแต่คนชมว่าน้องนักร้องเสียงดี
9. ฉาก งานเราจัดใกล้วาเลนไทน์ซึ่งดอกไม้จะแพงมาก เราก็ตั้งใจกันอยู่แล้วว่าไม่เอาดอกไม้นะ เอาเป็นแบบอื่นก็ได้ ซึ่งเป็นอะไรที่เราปลาบปลื้มมาก เพราะเป็นสิ่งที่อาของแฟน และครอบครัวเราทั้ง 2 ฝ่ายร่วมด้วยช่วยกัน เป็นไปตามที่เราทั้งคู่คิดไว้ และสวยงามมาก (สวยงามได้โดยไม่ต้องจ้างใคร) ฉากตอนเช้าเพื่อนเรา เป็นคนเย็บผ้า จับจีบ ส่วนการจัดดอกไม้เป็นน้องๆและเพื่อนๆ ของเราทั้งคู่ช่วยกัน ส่วนฉากตอนเย็นเป็นฝีมีของอาแฟนทั้งหมด ทั้งแบคดรอปหน้างาน และบนเวที ซึ่งได้รับคำชมจากแขกเป็นอย่างมากว่าสวย แขกในงานใช้แบคดรอปคุ้มเลย หยิบนู้นนี่มาถ่ายรูปสนุกสนานกัน คือเห็นแล้วมีความสุขมาก
***นี่คือฉากตอนเช้าใช้รดน้ำสังข์ *** ตั่งน้ำสังข์เช่ามาจากร้านพรีเวดดิ้งค่ะ 1500 บาท พรมยืมวัดมา ^^ การจัดฉากทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเย็บผ้า จัดดอกไม้ด้านบน จัดดอกไม้บนพาน เป็นฝีมือ ญาติๆพี่ๆน้องๆเพื่อนๆ ทั้งของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวทั้งนั้นเลยค่ะ
***ฉากตอนเย็น*** เป็นฝีมือของอา และญาติพี่น้องของเจ้าบ่าวล้วนๆค่ะ ชอบมาก โดนใจ ทั้งแบคดรอปหน้างาน และบนเวที อาตั้งใจทำมากทั้งตกแต่ง และตัดโฟม ถูกใจแขกและเราสองคนมากค่ะ
***ฉากบนเวที***
****ตั้งแต่เราเริ่มแจกการ์ดจะมีหลายท่านถามเราเรื่องธีมงาน ว่าเป็นแบบไหน มีตัดเค้ก มีโยนดอกไม้ไหม ธีมสีอะไร ซึ่งเราก็ตอบไปว่างานเราไม่มีอะไรเลย ไม่หรูหรา ไม่ตัดเค้ก ไม่มีธีม ไม่โยนดอกไม้ อยากให้ทุกคนมากินข้าวกัน งานเราเน้นกิน มาต้องได้กิน กินต้องอร่อย ซึ่งก็ได้แบบที่เราคิดไว้ทุกอย่างเป็นอะไรที่รู้สึกดีมาก บนเวทีก็มีพ่อกับแม่เราขึ้นไปอวยพร ไม่มีนายเทศบาล อบต. หรือผู้ใหญ่บ้าน คล้องมาลัยผู้บังคับบัญชาเจ้าบ่าวก็คล้องให้หน้างานเลย พ่อแม่เจ้าสาว และแม่เจ้าบ่าว ขึ้นเวทีอวยพร ถือว่าคำอวยพรของพวกท่านประเสริฐที่สุดสำหรับเราทั้งคู่ ****
****อยากฝากถึงคู่บ่าวสาวนะค่ะ ว่าวันงานอาจมีปัญหาอุปสรรคบ้าง ให้มองผ่านๆไปนะค่ะ เพราะไม่มีอะไรเป็นตามที่เราคิดไว้ ให้เราปล่อยผ่านไปเลยค่ะ อย่าไปใส่ใจมัน ทำหน้าตาเราให้ยิ้มแย้มแจ่มใสพอค่ะ ขอให้ทุกคู่ที่แต่งงานแล้ว และกำลังจะแต่งงานมีความสุขมากๆๆนะค่ะ****
***งานแต่งเราที่ต้องขอบคุณมากๆๆ คือครอบครัวของเราทั้งคู่ ทั้งพ่อ แม่ พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา และเพื่อนๆ ทุกๆคนเลย เหนื่อยกันมาก ทั้งขนของ เตรียมงาน ทุกขั้นตอน เราทำกันเองหมด ตอนคบกันคือเรื่องของคนสองคน แต่ตอนแต่งงานคือเรื่องของใครหลายๆคน ***
สุดท้ายฝากพรีเซนงานแต่งเราไว้ดูหนุกๆๆนะค่ะ (พอดีพี่ตากล้องเค้า ทำให้ฟรี)
https://www.youtube.com/watch?v=YBC7X8p53Zk