เรากับแฟนคบกันมา12ปี
และคิดจะแต่งงานกันปีนี้ เราจัดการวางแผนเองทุกอย่าง แต่เราไม่ค่อยได้ไปงานแต่งใครเลย
เราคัดสินใจ จัดงานแบบเล็กๆ เฉพาะคนสนิทและคนที่อยากมางานเราจริงๆ สินสอดแม่ไม่ขอ ทางเจ้าบ่าวพ่อแม่ไม่ค่อยมีส่วนร่วมอะไรแม่เจ้าบ่าวจะให้แหวนเรา แต่เราไม่รับ แต่สุดท้ายเค้าก้อให้เงินมานิดหน่อย เลยวางไป1แสน ทอง2บาท เป็นเงินของเราเองทำการ์ดแค่50 ใบ แจกจริงๆแค่40ใบ เราวางแผนไว้ว่า ให้พิธีน้อย เรียบง่าย เหมือนมาทานข้าวร่วมกัน เราทุ่มเทไปทาง เรื่องชุด
เรื่อง แต่งหน้า เรื่องฉาก ตากล้อง ต่างๆ ให้ออกมาสวยตามใจเราเพราะเราอยากมห้เวลาถ่ายรูป ภาพจะออกมาดี และ อาหารโต๊ะจีน ให้อาหารให้มากกว่าจำนวนแขกที่มา
และ มาถึงวันงาน พิธีเช้า เริ่มขึ้น ผ่านไปด้วยดี
จนมาถึงตอนรดน้ำ ออแกไนท์ติดป้ายชื่อเจ้าบ่าวกลับหัว เราไม่เห็น และไม่มีใครเห็น มารู้ตอนตากบ้องส่งรูปมาให้ เสร็จงาน
โต๊ะลงทะเบียน ที่ไม่มีคนนั่งเพราะแดดร้อน เลยไม่มีใครเขียนอวยพรให้บ่าวสาวเลย
ช่วงกินเลี่ยงเที่ยง เจ้าบ่าวตัวเท่ากับเจ้าสาว เราเลยเดินเท้าเปล่าขึ้นเวที ไม่รู้ว่ามีคนเห็นไหมนะ 😆
ช่วงโยนดอกไม้ คนที่รับได้ คือเพื่อนเจ้าสาวที่แต่งแล้ว แต่เราแอบกระซิบให้เอาไปให้เพื่อนที่กำลังจะแต่งงานคนถัดไป เพื่อนคนถัดไป ดันวิ่งหนีไม่เอาดอกไม้เพราะอาย เขิล แต่ก้อต้องขึ้นมา ขึ่นมาอ้ำอึ้งพูดไม่ออก น้ำตาจะไป พูดออกมาเบ่าๆว่า
ดีใจที่เพื่อนมีวันนี้ แล้วเรามองไปที่แจกคือ เค้ายิ้ม
แบบ เล่นอะไรกัน 5555
พอเสร็จ เจ้าสาวเจ้าบ่าว กล่าวขอบคุณ
พ่อแม่ไม่ได้กล่าวขอบคุณ เลย นั่งทานอาหารเดินเก็บซองตามโต๊ะ แขกทยอยกลับ
จบงานงาน เคลียร์ทุกอย่าง เสร็จในเวลาบ่าย2
นั่งงงว่าเสร็จแล้วหรอ 555 เตรียมตัวมาตั้งนาน
เราเป็นคนสุดท้ายที่กลับ เหลือทุกอย่าง
ยกเว้นเหล้า
พ่อแม่ บอกว่า ดีดีที่สุด โอเครพ่อแม่ชอบ
เพื่อนบอกว่าโอเคร เพื่อนคือช่วยเยอะมาก ตั้งตั้งหนีบผมลากกระโปรง ซับหน้า แจกของชำร่วย
คือ ไม่ได้เจอกันเกือบ10ปี แต่มันดีกับเรามาก ร้องให้เลย แจกทั่วไปบอกว่า งานเราดี หรูหรา เรียบง่าย น้องชายบอก ดี แต่เสร็จเร็วไปหน่อย
ลึกๆ เราคิดว่า เราปลอบใจตัวเอง ว่าเราทำดีที่สุดแล้ว แต่ทำไมเรายังนึกถึงแต่ จุดบกพร่องของงาน
เพราะเรายัอนเวลาไม่ได้ แปลกจัง
งานแต่งไม่เป็นดั่งใจ
และคิดจะแต่งงานกันปีนี้ เราจัดการวางแผนเองทุกอย่าง แต่เราไม่ค่อยได้ไปงานแต่งใครเลย
เราคัดสินใจ จัดงานแบบเล็กๆ เฉพาะคนสนิทและคนที่อยากมางานเราจริงๆ สินสอดแม่ไม่ขอ ทางเจ้าบ่าวพ่อแม่ไม่ค่อยมีส่วนร่วมอะไรแม่เจ้าบ่าวจะให้แหวนเรา แต่เราไม่รับ แต่สุดท้ายเค้าก้อให้เงินมานิดหน่อย เลยวางไป1แสน ทอง2บาท เป็นเงินของเราเองทำการ์ดแค่50 ใบ แจกจริงๆแค่40ใบ เราวางแผนไว้ว่า ให้พิธีน้อย เรียบง่าย เหมือนมาทานข้าวร่วมกัน เราทุ่มเทไปทาง เรื่องชุด
เรื่อง แต่งหน้า เรื่องฉาก ตากล้อง ต่างๆ ให้ออกมาสวยตามใจเราเพราะเราอยากมห้เวลาถ่ายรูป ภาพจะออกมาดี และ อาหารโต๊ะจีน ให้อาหารให้มากกว่าจำนวนแขกที่มา
และ มาถึงวันงาน พิธีเช้า เริ่มขึ้น ผ่านไปด้วยดี
จนมาถึงตอนรดน้ำ ออแกไนท์ติดป้ายชื่อเจ้าบ่าวกลับหัว เราไม่เห็น และไม่มีใครเห็น มารู้ตอนตากบ้องส่งรูปมาให้ เสร็จงาน
โต๊ะลงทะเบียน ที่ไม่มีคนนั่งเพราะแดดร้อน เลยไม่มีใครเขียนอวยพรให้บ่าวสาวเลย
ช่วงกินเลี่ยงเที่ยง เจ้าบ่าวตัวเท่ากับเจ้าสาว เราเลยเดินเท้าเปล่าขึ้นเวที ไม่รู้ว่ามีคนเห็นไหมนะ 😆
ช่วงโยนดอกไม้ คนที่รับได้ คือเพื่อนเจ้าสาวที่แต่งแล้ว แต่เราแอบกระซิบให้เอาไปให้เพื่อนที่กำลังจะแต่งงานคนถัดไป เพื่อนคนถัดไป ดันวิ่งหนีไม่เอาดอกไม้เพราะอาย เขิล แต่ก้อต้องขึ้นมา ขึ่นมาอ้ำอึ้งพูดไม่ออก น้ำตาจะไป พูดออกมาเบ่าๆว่า
ดีใจที่เพื่อนมีวันนี้ แล้วเรามองไปที่แจกคือ เค้ายิ้ม
แบบ เล่นอะไรกัน 5555
พอเสร็จ เจ้าสาวเจ้าบ่าว กล่าวขอบคุณ
พ่อแม่ไม่ได้กล่าวขอบคุณ เลย นั่งทานอาหารเดินเก็บซองตามโต๊ะ แขกทยอยกลับ
จบงานงาน เคลียร์ทุกอย่าง เสร็จในเวลาบ่าย2
นั่งงงว่าเสร็จแล้วหรอ 555 เตรียมตัวมาตั้งนาน
เราเป็นคนสุดท้ายที่กลับ เหลือทุกอย่าง
ยกเว้นเหล้า
พ่อแม่ บอกว่า ดีดีที่สุด โอเครพ่อแม่ชอบ
เพื่อนบอกว่าโอเคร เพื่อนคือช่วยเยอะมาก ตั้งตั้งหนีบผมลากกระโปรง ซับหน้า แจกของชำร่วย
คือ ไม่ได้เจอกันเกือบ10ปี แต่มันดีกับเรามาก ร้องให้เลย แจกทั่วไปบอกว่า งานเราดี หรูหรา เรียบง่าย น้องชายบอก ดี แต่เสร็จเร็วไปหน่อย
ลึกๆ เราคิดว่า เราปลอบใจตัวเอง ว่าเราทำดีที่สุดแล้ว แต่ทำไมเรายังนึกถึงแต่ จุดบกพร่องของงาน
เพราะเรายัอนเวลาไม่ได้ แปลกจัง