หลังจากไปกินก๋วยเตี๋ยวปากหม้อป้าเม้าที่วัดไตรมิตรฯ
"เที่ยวไปกินไป by laser @ ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อป้าเม้า วัดไตรมิตรฯ"
http://ppantip.com/topic/34867779
และได้เห็นความเปลี่ยนแปลง ซึ่งเกิดขึ้นกับร้านเป็ดอบชานอ้อยนายปั้ง
ที่สืบทอดกิจการจากนายปั้งมาถึงรุ่นที่ 3 เป็นเวลากว่า 60 ปี วันนี้จึงชวนแฟนไปที่หน้าวัดไตรมิตรฯ
ร้านเป็ดอบชานอ้อยนายปั้งอยู่ตรงหน้าป้ายรถประจำทาง ที่เลี้ยวซ้ายมาจากหัวลำโพง
และอยู่ติดกับห้องหัวมุมปากซอยสุกร 1
ซึ่งมีร้านอาหารอร่อยหลายร้าน รวมถึงร้านแดงราชาหอยทอด
ร้านเป็ดอบชานอ้อยนายปั้งตกแต่งร้านใหม่
แต่ยังแขวนเป็ดอบชานอ้อยปลอมไว้ที่ตู้หน้าร้าน
แม้แต่ฝรั่งก็ยังงๆว่าเป็นเป็ดอะไร ทำไมตัวแบนแห้งอย่างนั้น
เปรียบเที่ยบหน้าร้านกับเมื่อวันเสาร์ที่ 8-11-08
และวันศุกร์ที่ 14-1-11 ซึ่งร้านดูทึมๆมืดๆไม่น่าสนใจ
แต่เป็นร้านที่มีของอร่อยซ่อนอยู่ ขนาดลัคกี้ยังติดใจ
สองเดือนที่ผ่านมา ร้านเป็ดอบชานอ้อยนายปั้ง ตกแต่งร้านใหม่ มีโต๊ะให้บริการ 5 โต๊ะ
และหันมาขายอาหารจากเป็ดและหมูอบชานอ้อย 2 อย่าง คือ บะหมี่เกี๊ยวและข้าวอบเผือก
ไม่ต้องเป็นห่วงว่าหมาที่เลี้ยงไว้ จะก่อความรำคาญ
เพราะตลอดเวลาที่มีลูกค้า จะผูกไว้หลังบ้าน
เครื่องปรุงมาตรฐาน
ของแฟนเป็นบะหมี่เกี๊ยวแห้งใส่เป็ดอบชานอ้อย 60 บาท มีน้ำแกงให้ 1 ถ้วย
ถ้าใส่หมูอบชานอ้อย 50 บาท มีเกี๊ยวหมูให้ 2 ลูก
เกี๊ยวลูกใหญ่ ให้เส้นบะหมี่มาก เรียงหน้าด้วยเป็ดอบชานอ้อยหั่นไม่บางเกินไป 10 ชิ้น
ของตัวเองเป็นข้าวอบเผือกหน้าเป็ดอบชานอ้อย 60 บาท มีน้ำแกงให้ 1 ถ้วย
มีเป็ดอบชานอ้อย หรือ "ฮุงอะ"วางบนข้าวอบเผือก 7 ชิ้น
โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและเหยาะพริกไทยเล็กน้อย
เนื้อเป็ดแห้งนุ่มตามแบบฉบับของเป็ดอบชานอ้อย ไม่ฉุนโป๊ยกั๊ก
ข้าวอบเผือกใส่เผือก แปะก๊วย เห็ดหอม
และกุนเชียง ข้าวอบเผือกหอมพอใช้ เสียดายที่ข้าวไม่ร้อน
แม้ว่าจะมีน้ำแกงให้ แต่อยากกินเกี๊ยวหมูน้ำ
แต่เปลี่ยนเป็นใส่หมูอบชานอ้อย 50 บาท
มีเกี๊ยวหมูให้ 4 ลูก และหมูอบชานอ้อย 8 ชิ้น
ไส้เกี๊ยวหมูสับกึ่งหมูเด้ง ไส้แน่นเต็มตัวเกี๊ยว ปรุงรสกำลังดี น้ำแกงหวานน้ำต้มกระดูกหมู
สอบถามว่าทำไมไม่ทำข้าวหน้าเป็ดอบชานอ้อย ได้ความว่าสูตรน้ำราดยังไม่ลงตัว
จึงแนะนำว่าให้ใช้น้ำเป็ดอบชานอ้อย เพราะเวลาซื้อไปกิน จะเอาไปนึ่งก่อน
ตอนนึ่งจะมีน้ำที่ก้นจานนึ่ง เอามาราดข้าวร้อนๆอร่อยมาก น่าจะทำให้ข้นขึ้นโดยการใส่แป้ง
แต่ทางร้านกลับมีสูตรการกินเป็ดอบชานอ้อยที่น่าสนใจ คือ ใส่น้ำพอท่วมจานใส่เป็ด
ใส่พริกขี้หนูสับกระเทียมสับลงไป และใส่น้ำตาลเล็กน้อย จากนั้นอบจนแห้งให้น้ำเข้าเนื้อ
ได้เนื้อเป็ดฉ่ำ หอมกระเทียมและเผ็ดพริกขี้หนู กินกับข้าวสวยร้อนๆ เหลือเก็บไว้เวฟกินต่อได้
เห็นลูกสนใจสืบทอดกิจการ แถมยังต่อยอดสร้างมูคค่าเพิ่มให้กับสินค้าเดิม
โดยลูกชายคนเล็ก(เอี้ยมแดง) เรียนจบและอยากทำกิจการของตัวเอง
จึงคิดเพิ่มมูลค่าให้กับเป็ดและหมูอบชานอ้อย โดยเอามาใส่ในบะหมี่เกี๊ยว
ปรากฏว่าขายดิบขายดีตั้งแต่วันแรก
สร้างความภูมิใจให้กับคนเป็นพ่อ ที่มีคนสืบทอด แถมยังทำได้ดีกว่า
แม้ว่าจะเปลี่ยนมาขายบะหมี่เกี๊ยวขายข้าวอบเผือก
แต่ก็ยังมีเป็ดอบชานอ้อยทั้งเป็นตัวหรือแยกส่วน
รวมถึงเนื้อหมูและหมูสามชั้นอบชานอ้อยขายเช่นเดิม
ร้านเป็ดอบชานอ้อยนายปั้ง หยุดทุกวันอังคาร เริ่มขายตั้งแต่ 8.30 น. ถึงประมาณบ่าย 3 โมง
ไม่แน่ว่าหลังจากนี้
อาจมีร้านขายเป็ดอบชานอ้อยทำตามบ้าง
แต่ที่แน่ๆ ต้องบอกว่า"ร้านนี้รักนะ!"
ส่วนมิชลินจะให้กี่ดาวแดงบอกไม่ได้
[CR] เที่ยวไปกินไป by laser @ บะหมี่เป็ดอบชานอ้อยนายปั้ง
"เที่ยวไปกินไป by laser @ ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อป้าเม้า วัดไตรมิตรฯ"
http://ppantip.com/topic/34867779
และได้เห็นความเปลี่ยนแปลง ซึ่งเกิดขึ้นกับร้านเป็ดอบชานอ้อยนายปั้ง
ที่สืบทอดกิจการจากนายปั้งมาถึงรุ่นที่ 3 เป็นเวลากว่า 60 ปี วันนี้จึงชวนแฟนไปที่หน้าวัดไตรมิตรฯ
ร้านเป็ดอบชานอ้อยนายปั้งอยู่ตรงหน้าป้ายรถประจำทาง ที่เลี้ยวซ้ายมาจากหัวลำโพง
และอยู่ติดกับห้องหัวมุมปากซอยสุกร 1
ซึ่งมีร้านอาหารอร่อยหลายร้าน รวมถึงร้านแดงราชาหอยทอด
ร้านเป็ดอบชานอ้อยนายปั้งตกแต่งร้านใหม่
แต่ยังแขวนเป็ดอบชานอ้อยปลอมไว้ที่ตู้หน้าร้าน
แม้แต่ฝรั่งก็ยังงๆว่าเป็นเป็ดอะไร ทำไมตัวแบนแห้งอย่างนั้น
เปรียบเที่ยบหน้าร้านกับเมื่อวันเสาร์ที่ 8-11-08
และวันศุกร์ที่ 14-1-11 ซึ่งร้านดูทึมๆมืดๆไม่น่าสนใจ
แต่เป็นร้านที่มีของอร่อยซ่อนอยู่ ขนาดลัคกี้ยังติดใจ
สองเดือนที่ผ่านมา ร้านเป็ดอบชานอ้อยนายปั้ง ตกแต่งร้านใหม่ มีโต๊ะให้บริการ 5 โต๊ะ
และหันมาขายอาหารจากเป็ดและหมูอบชานอ้อย 2 อย่าง คือ บะหมี่เกี๊ยวและข้าวอบเผือก
ไม่ต้องเป็นห่วงว่าหมาที่เลี้ยงไว้ จะก่อความรำคาญ
เพราะตลอดเวลาที่มีลูกค้า จะผูกไว้หลังบ้าน
เครื่องปรุงมาตรฐาน
ของแฟนเป็นบะหมี่เกี๊ยวแห้งใส่เป็ดอบชานอ้อย 60 บาท มีน้ำแกงให้ 1 ถ้วย
ถ้าใส่หมูอบชานอ้อย 50 บาท มีเกี๊ยวหมูให้ 2 ลูก
เกี๊ยวลูกใหญ่ ให้เส้นบะหมี่มาก เรียงหน้าด้วยเป็ดอบชานอ้อยหั่นไม่บางเกินไป 10 ชิ้น
ของตัวเองเป็นข้าวอบเผือกหน้าเป็ดอบชานอ้อย 60 บาท มีน้ำแกงให้ 1 ถ้วย
มีเป็ดอบชานอ้อย หรือ "ฮุงอะ"วางบนข้าวอบเผือก 7 ชิ้น
โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและเหยาะพริกไทยเล็กน้อย
เนื้อเป็ดแห้งนุ่มตามแบบฉบับของเป็ดอบชานอ้อย ไม่ฉุนโป๊ยกั๊ก
ข้าวอบเผือกใส่เผือก แปะก๊วย เห็ดหอม
และกุนเชียง ข้าวอบเผือกหอมพอใช้ เสียดายที่ข้าวไม่ร้อน
แม้ว่าจะมีน้ำแกงให้ แต่อยากกินเกี๊ยวหมูน้ำ
แต่เปลี่ยนเป็นใส่หมูอบชานอ้อย 50 บาท
มีเกี๊ยวหมูให้ 4 ลูก และหมูอบชานอ้อย 8 ชิ้น
ไส้เกี๊ยวหมูสับกึ่งหมูเด้ง ไส้แน่นเต็มตัวเกี๊ยว ปรุงรสกำลังดี น้ำแกงหวานน้ำต้มกระดูกหมู
สอบถามว่าทำไมไม่ทำข้าวหน้าเป็ดอบชานอ้อย ได้ความว่าสูตรน้ำราดยังไม่ลงตัว
จึงแนะนำว่าให้ใช้น้ำเป็ดอบชานอ้อย เพราะเวลาซื้อไปกิน จะเอาไปนึ่งก่อน
ตอนนึ่งจะมีน้ำที่ก้นจานนึ่ง เอามาราดข้าวร้อนๆอร่อยมาก น่าจะทำให้ข้นขึ้นโดยการใส่แป้ง
แต่ทางร้านกลับมีสูตรการกินเป็ดอบชานอ้อยที่น่าสนใจ คือ ใส่น้ำพอท่วมจานใส่เป็ด
ใส่พริกขี้หนูสับกระเทียมสับลงไป และใส่น้ำตาลเล็กน้อย จากนั้นอบจนแห้งให้น้ำเข้าเนื้อ
ได้เนื้อเป็ดฉ่ำ หอมกระเทียมและเผ็ดพริกขี้หนู กินกับข้าวสวยร้อนๆ เหลือเก็บไว้เวฟกินต่อได้
เห็นลูกสนใจสืบทอดกิจการ แถมยังต่อยอดสร้างมูคค่าเพิ่มให้กับสินค้าเดิม
โดยลูกชายคนเล็ก(เอี้ยมแดง) เรียนจบและอยากทำกิจการของตัวเอง
จึงคิดเพิ่มมูลค่าให้กับเป็ดและหมูอบชานอ้อย โดยเอามาใส่ในบะหมี่เกี๊ยว
ปรากฏว่าขายดิบขายดีตั้งแต่วันแรก
สร้างความภูมิใจให้กับคนเป็นพ่อ ที่มีคนสืบทอด แถมยังทำได้ดีกว่า
แม้ว่าจะเปลี่ยนมาขายบะหมี่เกี๊ยวขายข้าวอบเผือก
แต่ก็ยังมีเป็ดอบชานอ้อยทั้งเป็นตัวหรือแยกส่วน
รวมถึงเนื้อหมูและหมูสามชั้นอบชานอ้อยขายเช่นเดิม
ร้านเป็ดอบชานอ้อยนายปั้ง หยุดทุกวันอังคาร เริ่มขายตั้งแต่ 8.30 น. ถึงประมาณบ่าย 3 โมง
ไม่แน่ว่าหลังจากนี้
อาจมีร้านขายเป็ดอบชานอ้อยทำตามบ้าง
แต่ที่แน่ๆ ต้องบอกว่า"ร้านนี้รักนะ!"
ส่วนมิชลินจะให้กี่ดาวแดงบอกไม่ได้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น