“สายหมอกหนาเคลื่อนผ่านพวกเราอย่างช้าๆ ทำให้รอบตัวขาวโพลนไปหมด พวกเรากำลังอยู่ในอ้อมกอดของสายหมอกของ Ba Na Hills กันแล้ว”
เมื่อได้ตั๋วเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็เตรียมตัวขึ้นกระเช้าทันที!
“ไปกันเลยพวกเรา”
อากาศของ Ba Na Hills ที่เป็นป่าเขาสมบูรณ์มาก อากาศค่อนข้างเย็นเป็นพิเศษ สดชื่น จนต้องสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอด สดชื่นจริงๆ
กระเช้าที่จะพาขึ้นไปยังชั้นแรก เป็นกระเช้าขนาดเล็ก ที่สามารถนั่งได้เป็นกลุ่มเล็กๆ อย่างพวกเรามากัน 3 คน ก็นั่งได้ 1 กระเช้า (พอดี) ในระหว่างที่กระเช้าถูกดึงขึ้นลาดเอียงไปตามแนวเขา แล้วตอนนี้ก็เป็นเวลาของพวกเราที่จะถ่ายภาพวิว ทิวทัศน์ ถ่ายภาพตัวเอง โน่นนี่นั่น (เสียเป็นส่วนใหญ่) อย่างสนุกสนาน
โอ้... สุดยอดไปเลย!
ทุกคนอดที่จะพูดคำนี้ไม่ได้เลย
พวกเรากำลังเข้าสู่ใจกลางของทะเลหมอกกันแล้ว อากาศเย็นขึ้นทันที มองรอบข้างมีแต่สีขาวโพรนเต็มไปหมด มองไม่เห็นป่าไม้เบื้องล่างอีกต่อไปแล้ว
เรากำลังอยู่ในอ้อมกอดของทะเลหมอกแห่ง Ba Na Hills แล้ว
“สวยๆ... มุมนี้ยิ่งสวย” ได้เวลาถ่ายภาพกันแล้วพวกเรา!
ตลอดระยะทางที่ยาวนานเกือบ 10 นาที ในขณะที่กระเช้าค่อยๆ เลื่อนขึ้นไปอย่างช้าๆ ความสุขของพวกเราเพิ่มขึ้นมากทีเดียว มองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยสายหมอกหนา อย่างตื่นตาตื่นใจเป็นที่สุด
“ทำไมประเทศไทยไม่มีสถานที่แบบนี้บ้างนะ” น่าอิจฉาคนที่นี่เสียจริงๆ
เมื่อเวลาผ่านไป กระเช้าก็ผ่านพ้นหมอกหนาขึ้นมาสู่ด้านบนที่เป็นชั้นที่ 1 ผมเดินออกจากกระเช้า แล้วก็มองไปยังจุดชมวิว ที่มองไปยังเบื้องล่างเต็มไปด้วยทะเลหมอก แล้วก็เก็บภาพความสวยงามอันน่าประทับใจนั้นไว้
ตอนนี้จุดหมายในชั้นนี้ของพวกเราก็จะเป็นการขึ้นไปอีกหนึ่งชั้น ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป Linh Ung ที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความเก่าแก่อย่างมาก
“แล้วไปทางไหนกันล่ะพวกเรา... เดินไปรึไง” มองหาทางขึ้นคงเสียเวลาแย่เลย เอาเป็นว่าสอบถามที่ยามดีกว่า พี่ยามนอกจากทำหน้าที่เป็นยามแล้ว ยังมีอัธยาศัยที่ดีให้คำแนะนำด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
สรุปความได้ว่า พวกเราต้องขึ้นรถรางไปอีกหนึ่งชั้น แต่ แต่ แต่ ...ต้องเสียค่าตั๋ว (อีกแล้ว) ราคาอยู่ที่ 80,000 ดง (ประมาณ 128 บาท) ไม่เป็นไร ยังพอจ่ายได้
รถรางพาพวกเราขึ้นไปยังชั้นบนอีกหนึ่งชั้น ในระยะเวลาสั้นๆ ทุกคนถูกต้อนรับด้วยจุดชมวิว และตามด้วยสวนดอกไม้ Timh Tam ขนาดใหญ่ สวยงามมาก มีดอกไม้งดงามหลากสีสัน เติมแต่งด้วยสัญลักษณ์เป็นหงส์สีขาวขนาดใหญ่อย่างสง่างาม
พวกเราแยกย้ายกันถ่ายภาพตามที่แต่ละคนชอบ จนเมื่อมารู้สึกตัวอีกครั้ง ก็เริ่มรู้สึกว่าผิวหนังแสบร้อนไปหมด แสงแดดเริ่มเตือนพวกเราแล้วว่า กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่ร้อนแรงที่สุดของวัน เข็มนาฬิกาบอกเวลา 11 โมงกว่าแล้ว ความหนาวเย็นจากหาย จนไม่เหลืออีกต่อไปแล้ว ตอนนี้อยากได้ร่มกันแสงแดดเป็นที่สุด เสื้อกันหนาวของแต่ละคนเริ่มถอดมากองคาดเอาไว้ที่เอวอย่างไม่ได้นัดหมาย ฮ่า ฮ่า ฮ่า
หลังจากใช้เวลานานกับ Timh Tam เดินตรงมาด้านข้างก็จะเจอกับลานกว้างที่เป็นจุดชมวิว มองไปเห็นท้องฟ้าหมู่เมฆ เบื้องล่างยังคงมีทะเลหมอกหนาขาวโพรน ให้เห็นเต็มไปหมด จุดนี้ถือว่าสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากทีเดียว
แปลกจัง! หมอกยังคงเต็มไปหมดเบื้องล่าง ส่วนด้านบนนี่ซิ แสงแดดนี่แทบจะทำให้พวกเราละลายได้เลย ร้อนเป็นบ้าเลย!
ถ่ายภาพ ชมวิว จนเต็มอิ่มแล้ว ก็เดินกันต่อไปยังเส้นทางที่จะพาไปยังวัด Linh Ung ที่เก่าแก่ที่สร้างมากกว่าพันปี เดินตามเส้นทางที่ทอดยาวลงบันไดมาสู่ด้านล่าง เล่นเอาเหนื่อยหอบเหมือนกันนะเนี่ย
แล้วพระพุทธรูปปูนขาวขนาดใหญ่ สวยงามเป็นอย่างมาก ด้วยความสูง 27 เมตร น้ำหนัก 1,500 กก. (หาข้อมูลเพิ่มเติมซะหน่อย)
โอ้! … สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่นี้มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่สร้างขึ้นได้... ด้วยพลังศรัทธาเท่านั้น
เดินลงบันไดต่อมายังเบื้องล่าง ก็พบกับวัด Linh Ung ที่สวยงามที่มีสัญลักษณ์เป็นซุ้มประตูสวยงาม ส่วนด้านล่างก็มีบันไดสูงชันทอดยาวลงไปเป็นที่สักการะเจ้าแม่กวนอิม ที่พวกเราเลือกที่จะไม่ลงไป เพราะดูจากระยะทางและเวลาแล้ว ไม่ควรลงไปเลย
เหนื่อย! เหตุผลสำคัญ
ถ่ายภาพไปได้ไม่นาน อยู่ๆ สายหมอกสีขาวจากเบื้องล่าง ก็ลอยล่องขึ้นมาด้านบนอย่างช้าๆ จนที่สุดก็ลอยมาอยู่รอบตัวของพวกเรา
พวกเราอยู่ในอ้อมกอดของสายหมอกแห่ง Ba Na Hills อีกครั้งแล้ว รอบข้างเต็มไปด้วยหมอกข้าว สดชื่นเป็นอย่างมาก
“ลองมาดูทางนี้ซิ เห็นคนเดินเข้าไป” น้องสาวผมชวนให้เข้าไปดูด้านข้างของวัด Linh Ung ที่นักท่องเที่ยวน้อยคนจะเดินไปทางด้านนั้น
สุดยอดไปเลย!
“เร็วเข้า ไปตามน้องอีกคนมาด่วนเลย จุดนี้สุดยอดไปเลย”
Fantasy Park ปราสาทในเทพนิยายแห่ง Ba Na Hills ตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดของสายหมอกเช่นเดียวกัน สวยงามมากๆ
เที่ยวสุดมันส์ Ho Chi Minh –Da Nang – Hoi An [วันที่ 2] Ep. 2
“สายหมอกหนาเคลื่อนผ่านพวกเราอย่างช้าๆ ทำให้รอบตัวขาวโพลนไปหมด พวกเรากำลังอยู่ในอ้อมกอดของสายหมอกของ Ba Na Hills กันแล้ว”
เมื่อได้ตั๋วเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็เตรียมตัวขึ้นกระเช้าทันที!
“ไปกันเลยพวกเรา”
อากาศของ Ba Na Hills ที่เป็นป่าเขาสมบูรณ์มาก อากาศค่อนข้างเย็นเป็นพิเศษ สดชื่น จนต้องสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอด สดชื่นจริงๆ
กระเช้าที่จะพาขึ้นไปยังชั้นแรก เป็นกระเช้าขนาดเล็ก ที่สามารถนั่งได้เป็นกลุ่มเล็กๆ อย่างพวกเรามากัน 3 คน ก็นั่งได้ 1 กระเช้า (พอดี) ในระหว่างที่กระเช้าถูกดึงขึ้นลาดเอียงไปตามแนวเขา แล้วตอนนี้ก็เป็นเวลาของพวกเราที่จะถ่ายภาพวิว ทิวทัศน์ ถ่ายภาพตัวเอง โน่นนี่นั่น (เสียเป็นส่วนใหญ่) อย่างสนุกสนาน
โอ้... สุดยอดไปเลย!
ทุกคนอดที่จะพูดคำนี้ไม่ได้เลย
พวกเรากำลังเข้าสู่ใจกลางของทะเลหมอกกันแล้ว อากาศเย็นขึ้นทันที มองรอบข้างมีแต่สีขาวโพรนเต็มไปหมด มองไม่เห็นป่าไม้เบื้องล่างอีกต่อไปแล้ว
เรากำลังอยู่ในอ้อมกอดของทะเลหมอกแห่ง Ba Na Hills แล้ว
“สวยๆ... มุมนี้ยิ่งสวย” ได้เวลาถ่ายภาพกันแล้วพวกเรา!
ตลอดระยะทางที่ยาวนานเกือบ 10 นาที ในขณะที่กระเช้าค่อยๆ เลื่อนขึ้นไปอย่างช้าๆ ความสุขของพวกเราเพิ่มขึ้นมากทีเดียว มองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยสายหมอกหนา อย่างตื่นตาตื่นใจเป็นที่สุด
“ทำไมประเทศไทยไม่มีสถานที่แบบนี้บ้างนะ” น่าอิจฉาคนที่นี่เสียจริงๆ
เมื่อเวลาผ่านไป กระเช้าก็ผ่านพ้นหมอกหนาขึ้นมาสู่ด้านบนที่เป็นชั้นที่ 1 ผมเดินออกจากกระเช้า แล้วก็มองไปยังจุดชมวิว ที่มองไปยังเบื้องล่างเต็มไปด้วยทะเลหมอก แล้วก็เก็บภาพความสวยงามอันน่าประทับใจนั้นไว้
ตอนนี้จุดหมายในชั้นนี้ของพวกเราก็จะเป็นการขึ้นไปอีกหนึ่งชั้น ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป Linh Ung ที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความเก่าแก่อย่างมาก
“แล้วไปทางไหนกันล่ะพวกเรา... เดินไปรึไง” มองหาทางขึ้นคงเสียเวลาแย่เลย เอาเป็นว่าสอบถามที่ยามดีกว่า พี่ยามนอกจากทำหน้าที่เป็นยามแล้ว ยังมีอัธยาศัยที่ดีให้คำแนะนำด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
สรุปความได้ว่า พวกเราต้องขึ้นรถรางไปอีกหนึ่งชั้น แต่ แต่ แต่ ...ต้องเสียค่าตั๋ว (อีกแล้ว) ราคาอยู่ที่ 80,000 ดง (ประมาณ 128 บาท) ไม่เป็นไร ยังพอจ่ายได้
รถรางพาพวกเราขึ้นไปยังชั้นบนอีกหนึ่งชั้น ในระยะเวลาสั้นๆ ทุกคนถูกต้อนรับด้วยจุดชมวิว และตามด้วยสวนดอกไม้ Timh Tam ขนาดใหญ่ สวยงามมาก มีดอกไม้งดงามหลากสีสัน เติมแต่งด้วยสัญลักษณ์เป็นหงส์สีขาวขนาดใหญ่อย่างสง่างาม
พวกเราแยกย้ายกันถ่ายภาพตามที่แต่ละคนชอบ จนเมื่อมารู้สึกตัวอีกครั้ง ก็เริ่มรู้สึกว่าผิวหนังแสบร้อนไปหมด แสงแดดเริ่มเตือนพวกเราแล้วว่า กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่ร้อนแรงที่สุดของวัน เข็มนาฬิกาบอกเวลา 11 โมงกว่าแล้ว ความหนาวเย็นจากหาย จนไม่เหลืออีกต่อไปแล้ว ตอนนี้อยากได้ร่มกันแสงแดดเป็นที่สุด เสื้อกันหนาวของแต่ละคนเริ่มถอดมากองคาดเอาไว้ที่เอวอย่างไม่ได้นัดหมาย ฮ่า ฮ่า ฮ่า
หลังจากใช้เวลานานกับ Timh Tam เดินตรงมาด้านข้างก็จะเจอกับลานกว้างที่เป็นจุดชมวิว มองไปเห็นท้องฟ้าหมู่เมฆ เบื้องล่างยังคงมีทะเลหมอกหนาขาวโพรน ให้เห็นเต็มไปหมด จุดนี้ถือว่าสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากทีเดียว
แปลกจัง! หมอกยังคงเต็มไปหมดเบื้องล่าง ส่วนด้านบนนี่ซิ แสงแดดนี่แทบจะทำให้พวกเราละลายได้เลย ร้อนเป็นบ้าเลย!
ถ่ายภาพ ชมวิว จนเต็มอิ่มแล้ว ก็เดินกันต่อไปยังเส้นทางที่จะพาไปยังวัด Linh Ung ที่เก่าแก่ที่สร้างมากกว่าพันปี เดินตามเส้นทางที่ทอดยาวลงบันไดมาสู่ด้านล่าง เล่นเอาเหนื่อยหอบเหมือนกันนะเนี่ย
แล้วพระพุทธรูปปูนขาวขนาดใหญ่ สวยงามเป็นอย่างมาก ด้วยความสูง 27 เมตร น้ำหนัก 1,500 กก. (หาข้อมูลเพิ่มเติมซะหน่อย)
โอ้! … สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่นี้มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่สร้างขึ้นได้... ด้วยพลังศรัทธาเท่านั้น
เดินลงบันไดต่อมายังเบื้องล่าง ก็พบกับวัด Linh Ung ที่สวยงามที่มีสัญลักษณ์เป็นซุ้มประตูสวยงาม ส่วนด้านล่างก็มีบันไดสูงชันทอดยาวลงไปเป็นที่สักการะเจ้าแม่กวนอิม ที่พวกเราเลือกที่จะไม่ลงไป เพราะดูจากระยะทางและเวลาแล้ว ไม่ควรลงไปเลย
เหนื่อย! เหตุผลสำคัญ
ถ่ายภาพไปได้ไม่นาน อยู่ๆ สายหมอกสีขาวจากเบื้องล่าง ก็ลอยล่องขึ้นมาด้านบนอย่างช้าๆ จนที่สุดก็ลอยมาอยู่รอบตัวของพวกเรา
พวกเราอยู่ในอ้อมกอดของสายหมอกแห่ง Ba Na Hills อีกครั้งแล้ว รอบข้างเต็มไปด้วยหมอกข้าว สดชื่นเป็นอย่างมาก
“ลองมาดูทางนี้ซิ เห็นคนเดินเข้าไป” น้องสาวผมชวนให้เข้าไปดูด้านข้างของวัด Linh Ung ที่นักท่องเที่ยวน้อยคนจะเดินไปทางด้านนั้น
สุดยอดไปเลย!
“เร็วเข้า ไปตามน้องอีกคนมาด่วนเลย จุดนี้สุดยอดไปเลย”
Fantasy Park ปราสาทในเทพนิยายแห่ง Ba Na Hills ตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดของสายหมอกเช่นเดียวกัน สวยงามมากๆ