วันนี้ได้มีโอกาสไปดู London has fallen โดยรวมก็ถือว่ามันส์มากก แต่เหตุผลไม่ดีเท่าไหร่ ก็นะ ภาคแรกก็ไม่มี 555
แต่ภาคนี้มีการขยายสเกลความรุนแรงมากขึ้น จากเฉพาะแค่ในทำเนียบขาวก็เปลี่ยนเป็นมหานครลอนดอนแทน แถมยังขนผู้นำมาหลายประเทศ ทำให้ดูเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่ตระการตามากขึ้น
แต่พูดตรงๆนะ แค่นายกรัฐมนตรีอังกฤษตายต้องขนผู้นำมาหลายประเทศขนาดนั้นเลยเรอะ ส่งแค่ตัวแทนก็พอ ยิ่งประธานาธิปดีอเมริกานี่ไม่จำเป็นต้องมาก็ได้ คือถ้าจะให้ขนกันมาขนาดนั้นน่าจะเป็นระดับงานศพเชื้อพระวงศ์มากกว่า
แล้วแต่ละคนก็ตายอนาถแบบแปลกๆ แต่ประธานาธิปดีอเมริกากับพระเอกกลับหนังเหนียวตายยากตายเย็นวิ่งทั่วเมืองซะฉิวซะงั้น
ก็เข้าใจนะว่าเป็นหนังอวยประเทศตัวเอง แต่อะไรจะหนังเหนียวเบอร์นั้น ฮอตกยังวิ่งได้ฉิวทั้งคู่
เรื่องซีจีนี่ขอไม่พูดถึงเพราะพูดกันมาเยอะแล้ว ถึงอย่างนั้นความมันส์ของฉากบู๊ก็ทำให้พอมองข้ามไปได้
Morgan freeman ภาคที่แล้วก็นั่งเท่ๆบนเก้าอี้แล้วสั่งการ ภาคนี้ก็เหมือนกัน มาดเดิมเปี๊ยบ 5555
มาถึงจุดสาระบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ พูดตรงๆตอนแรกสงสารตัวร้ายเหมือนกันนะ สงสารมากกว่าพระเอกอีก พระเอกแรมโบ้ขนาดนั้น พวกตัวร้ายขายอาวุธ แต่อเมริกาก็ขายอาวุธเหมือนกันนี่นา แล้วไปยิงใส่เขาตายเกือบยกงานขนาดนั้น คือดูแล้วรู้สึกเลยทุกฝ่ายก็ต่างทำเพื่อตัวเองทั้งนั้น แต่ตัวร้ายเป็นคนธรรมดา แต่อเมริกาเป็นประเทศที่เคลมตัวเองว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ถึงได้ตัดสินฆ่าใครก็ได้ในแผ่นดินอื่น คือรู้สึกว่าตัวร้ายมันก็พอมีเหตุผลที่จะแค้น (ถึงจะไม่มากพอจะทำอะไรขนาดนี้ก็เถอะ) ยิ่งพระเอกไปฆ่าน้องมันให้ฟังเสียงชัดแจ่มขนาดนั้นเป็นใครก็แค้น ประธานาธิปดียังไปกวนอีก
อีกฉากนึงที่เห็นแล้วพอจะนึกถึงข่าวในปัจจุบันคือฉากสั้นๆที่นายกเยอรมันที่เป็นผู้หญิงรับดอกไม้จากผู้หญิงที่ดูท่าทางไม่น่าจะเป็นคนยุโรป สอดคล้องกับนโยบายรับผู้อพยพจากตะวันออกกลางของเยอรมัน ตอนแรกนึกว่าเป็นดอกไม้ฝังระเบิด (มโน) กลายเป็นทหารยิงซะงั้น คือ? เวลาสองปีนี่สร้างลูกน้องได้ขนาดนี้เลยเรอะ
ภาคแรกค่อนข้างจริงจังกว่า ดูดิบกว่า ดูมีชั้นเชิงให้ลุ้นมากกว่า ความสามารถและสภาพร่างกายยังอยู่ในระดับมนุษย์ปกติ ภาคนี้พระเอกกับประธานาธิปดีเหมือนยอดมนุษย์อึดถึกทน ฮอตกก็ไม่ตาย รถชนก็ไม่เป็นอะไร ตกทางช่องลิฟก็ยังเดินได้ คือเว่อร์เกิน
แต่ภาคนี้ก็ยังมีความดิบ ชอบที่พระเอกตัดสินใจรวดเร็ว ฆ่าเป็นฆ่า ไม่มีการลังเล ไม่มีการตัดสินใจอะไรน่าปวดหัว แทงคือแทง ยิงคือยิง ไม่หยุดไม่ถอย ไม่คร่ำครวญไรมาก คือดี
ส่วนที่เราชอบนั้นคือฉาก long take คือให้ฟิลจริงจังมาก ให้อารมณ์ลุ้นระทึก ยกให้เป็นฉากที่ดีที่สุดเลย ส่วนอีกฉากคือฉากที่ประธานาธิปดี โดนจับไปถ่ายทอดสดแล้วตัวร้ายให้พูดสั่งเสีย แล้วประธานาธิปดีใช้คำพูดตอนสาบานตน คือชอบอ้ะ เท่ดี
ประธานาธิปดีก็ดวงโคตรซวยภาคแรกเมียตาย โดนเกาหลีเหนือจับ ภาคนี้ต้องวิ่งร่อนทั่วลอน เกือบโดนตัดคอถ่ายทอดสด แต่ก็รอดมาได้หมด แน่ะ
ถ้ามีภาคสาม อะไรจะ fallen อีกล่ะเนี่ย ถ้าเป็น Moscow has fallen หรือ Beijing has fallen รับรองรายได้ถล่มทลายสองภาคชิดซ้ายชิดขวาแน่นอน
โดยรวมสนุกดี ดูแล้วมัน ชอบที่ขยายประเด็นจากในประเทศ เป็นระหว่างประเทศ
ท้ายที่สุด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รู้สึกว่าประธานาธิปดีภาคนี้มีความมุ้งมิ้งจังนะ แบบ "ถ้านายไม่กลับมาล่ะ" แล้วก็เรียก ไมค์ๆๆๆ ทั้งเรื่อง คือเหมือนมีรังสีวายบางอย่างออกมา ราวกับคู่พระนางกำลังหนีตายอะไรเทือกนี้ 555555
เครดิตภาพ เพจ London Has Fallen
เมาท์ London has fallen หนังมันส์ถล่มเมือง (สปอยหนัก)
วันนี้ได้มีโอกาสไปดู London has fallen โดยรวมก็ถือว่ามันส์มากก แต่เหตุผลไม่ดีเท่าไหร่ ก็นะ ภาคแรกก็ไม่มี 555
แต่ภาคนี้มีการขยายสเกลความรุนแรงมากขึ้น จากเฉพาะแค่ในทำเนียบขาวก็เปลี่ยนเป็นมหานครลอนดอนแทน แถมยังขนผู้นำมาหลายประเทศ ทำให้ดูเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่ตระการตามากขึ้น
แต่พูดตรงๆนะ แค่นายกรัฐมนตรีอังกฤษตายต้องขนผู้นำมาหลายประเทศขนาดนั้นเลยเรอะ ส่งแค่ตัวแทนก็พอ ยิ่งประธานาธิปดีอเมริกานี่ไม่จำเป็นต้องมาก็ได้ คือถ้าจะให้ขนกันมาขนาดนั้นน่าจะเป็นระดับงานศพเชื้อพระวงศ์มากกว่า
แล้วแต่ละคนก็ตายอนาถแบบแปลกๆ แต่ประธานาธิปดีอเมริกากับพระเอกกลับหนังเหนียวตายยากตายเย็นวิ่งทั่วเมืองซะฉิวซะงั้น
ก็เข้าใจนะว่าเป็นหนังอวยประเทศตัวเอง แต่อะไรจะหนังเหนียวเบอร์นั้น ฮอตกยังวิ่งได้ฉิวทั้งคู่
เรื่องซีจีนี่ขอไม่พูดถึงเพราะพูดกันมาเยอะแล้ว ถึงอย่างนั้นความมันส์ของฉากบู๊ก็ทำให้พอมองข้ามไปได้
Morgan freeman ภาคที่แล้วก็นั่งเท่ๆบนเก้าอี้แล้วสั่งการ ภาคนี้ก็เหมือนกัน มาดเดิมเปี๊ยบ 5555
มาถึงจุดสาระบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ท้ายที่สุด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เครดิตภาพ เพจ London Has Fallen