หนังภาคต่อจากหนังแอคชั่นที่มันมากๆอย่าง Olympus has fallen สู่ภาคต่อที่อลังการณ์งานสร้างขึ้นอย่าง London Has Fallen เนื้อเรื่องคร่าวๆก็ผู้ก่อการร้ายคนหนึ่งที่ถูกกลุ่มประเทศผู้นำสั่งเก็บแต่เขารอด เลยวางแผนแก้แค้นครั้งใหญ่ สังหารผู้นำประเทศที่สั่งเก็บเขา โดยการเปลี่ยนลอนดอนทั้งเมืองให้กลายเป็นสนามรบ...
- ชอบที่หนังมันรู้ตัวเองว่าเป็นหนังแอคชั่น มันจึงเกริ่นเรื่องแค่ 20 นาทีกว่าๆ เพื่ออีก 70 นาทีที่เหลือจะได้เอาเวลาไปถือปืนไล่ยิงกันทั้งเรื่อง และผลที่ได้คือ
มันส์มากๆ
- ชอบฉากแอคชั่นของหนังเรื่องนี้แม้บางอันจะดูซ้ำๆกับเรื่องอื่น แต่ทว่าหนังสามารถดึงให้คนดูลุ้นได้ ด้วยมุมกล้อง เทคนิค หรือพี่เจอราดด์ บัลเลอร์ที่เรื่องนี้เท่
เท่เหลือเกิน แต่ถ้ามีหนวดจะเท่กว่า(อ้าว) โดยเฉพาะฉาก Long Take บุกเข้าฐานของผู้ก่อการร้ายคือที่สุดละแห่งความพีค ยิงกันกระจุยกระจาย ระเบิดกันตู้มตามเลยทีเดียว
- ชอบนิสัยพี่ไมค์ พระเอกเรื่องนี้มากๆ คนอะไรหน้าสิ่วหน้าขวานแล้วยังไม่กลัวเลย แถมมีอารมณ์ขัน บวกกับความมั่นใจที่ไม่รู้แกไปเอามาจากไหน เช่นฉากที่หน่วย SAS บอกว่ามีผู้ก่อการร้ายเป็นร้อยในฐาน พี่แกแค่พูดว่า "อ่อเหรอ งั้นมันน่าจะขนมามากกว่านี้นะ" เข้!
พี่มั่นไปไหนวะ
- ชอบความโหดของพระเอกในเรื่อง คือพี่แกไม่ยั้งมือเลย เจอผู้ก่อการร้ายพี่แกกวาดเรียบ เหี้ยนไปหมด เจอมีดก็แทงๆ มีการยิงซ้ำด้วย ทำให้ผมชอบมาก เหมือน เอ่อ จะฆ่ากู กูก็ฆ่าก่อน แถมพี่แกไม่ปราณีใครเล้ยยย สร้างความสะใจให้คนดูเป็นอย่างมาก
- ชอบอารมณ์ขันที่แทรกมาตลอดเรื่อง ผ่านบทสนทนากวนๆของพระเอกกับคนอื่นๆ เช่น "ไม่เคยคิดเลยว่าคุณจะอายุยืนกว่าฉัน" หรือ "อย่าแวะรับใครละ" แสดงให้เห็นว่าอารมณ์ขันสำคัญมากๆในสถานการณ์แบบนี้ แม้จะยิงกันอยู่พี่ไมค์แกก็ปล่อยมุขตลอด ทำให้ตัวหนังไม่เครียดเกินไป
- ฉาก Long Take ตอนบุกฐานตัวร้ายนี่คือที่สุดของความมันส์จริงๆ ยิงกันสนั่น ระเบิดตู้มตาม บรรยายยังไงก็ไม่เห็นภาพ ต้องไปดูในโรงอย่างเดียวครับ
- ชอบองก์ 3 ของหนังที่เป็นบุกไปช่วยประธานธิปดีในฐานตัวร้ายมาก คือที่สุดของเรื่องจริงๆ มีเทคนิคแบบ Night Vision ด้วย บวกกับฉากแอคชั่นที่มันส์ที่สุดในทั้งสามองก์แล้ว สุโค่ย
- ชอบประธานาธิปดีมากกกก คือแกไม่ได้เป็นผู้นำที่อ่อนแออ่ะ แกไม่มีฉากที่ทำตัวงี่เง่าหรือโง่ๆ จนคนดูหงุดหงิดเลย ตรงข้ามกันเผลอๆแกจะยิงแม่นกว่าพระเอกซะอีก...
- CG เรื่องนี้ไม่เนียนมากกกก คือฉากระเบิดตึกอาคารต่างๆรู้เลยว่าใช้ CG แต่น่าแปลกที่ไม่ได้ทำให้ความสนุกลดลงแต่อย่างใด เพราะไม่หวังตั้งแต่ตัวอย่างละเรื่อง CG เนี่ย
- ความสมเหตุสมผลของเรื่องที่น้อยมากก คือตั้งแต่ที่นายกตายแล้วผู้นำทั่วโลกต้องมาร่วมงานศพละ ทำไมต้องผู้นำประเทศมาเอง? แค่นายกรัฐมนตรีเองนะ ถ้าเป็นพระราชินี หรือเจ้าฟ้าชายนี่ค่อยสมเหตุสมผลหน่อย อันนี้คือเหมือนกับว่าเว่อร์เกินไป
- ความสมเหตุสมผลของสถานการณ์ คือ ไม่เข้าใจว่างานสำคัญระดับนี้ มีผู้นำมากมายขนาดนี้ ทำไมผู้นำแต่ละคนถึงได้อยู่กระจัดกระจายมากกกก เช่นผู้นำเยอรมันไปทำอะไรที่หน้าพระราชวังละครับ ไม่ไปร่วมงานเหรอ แล้วผู้นำฝรั่งเศสทำไมไม่ยอมขึ้นบก รออะไรอยู่ ผู้นำอีกประเทศนี่คือทำไมถึงปล่อยให้ไปสวีทกับเมียอยู่ที่ปราสาท แล้วงานศพละ ส่วนผู้นำญี่ปุ่นนี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย คือระดับนายกรัฐมนตรีต้องมารถติดที่กลางสะพาน? คือผู้นำประเทศอื่นเขาปิดถนนให้รถวิ่งกันฉิ่ว แต่พี่ดันมารถติดเนี่ยนะ แล้วไหนละขบวนรถคุ้มกัน เลี้ยวผิดทางเหรอ? เหมือนถูกเช็ตมาให้ตายต่างสถานที่กันโดยเฉพาะ เพื่อโชว์ความโหดเหี้ยมและ CG ระเบิดเนี่ยแหละ (ความจริงถ้าผู้ก่อการร้ายวางแผนขนาดวางระเบิดได้ทุกจุด ทำไมไม่วางในงานไปเลยล่ะ ตอนที่ผู้นำทั้งหมดมารวมกันนี่แหละ ตำรวจก็คนของพี่แกหมดไม่ใช่หรือ?)
- ความเว่อร์ของตัวร้ายที่สามารถแทรกแซงกรมตำรวจได้เกือบทั้งลอนดอน คือ ไปแทรกแซงตอนไหน แค่สองปีพี่ทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ
- แต่ด้วยความเป็นหนังแอคชั่น เราจึงสามารถบอกได้ว่าโยนเหตุผลทิ้งไปแล้วดูเอามันส์พอ ซึ่งได้ว่ะ มันส์จริง
- ความเก่งของพระเอกที่บางครั้งมันก็มากเกินไป จนทุกสิ่งที่เราเห็นในหนังก็คือฉากเจอราดด์ บัลเลอร์ไล่ฆ่าผู้ก่อการร้ายอย่างทารุณ โหดเหี้ยม จนเราสงสารผู้ก่อการร้ายเหลือเกิน ทำกรรมอะไรหนอ จนไม่มีความลุ้นเลย ดูพี่แกฆ่าคนเอามันส์อย่างเดียวพอ
- ประธานาธิปดีเหมือนเป็นทหารเก่า คือพี่แกไม่ได้กาก ออกจะเทพเลย เช่น ยิงนัดเดียวเข้าหัว วิ่งหลบกระสุน ขับรถหนี แถมตอนที่โดนบุกมาช่วยท่านยังสามารถแก้มัดแล้ววิ่งไปหาปืน ก่อนจะยิงช่วยพระเอก เข้ เก่งไปไหน ถ้าภาคหน้าไปช่วยพระเอกแทนจะไม่แปลกใจเลย(ฮา)
สรุป London Has Fallen เป็นหนังแอคชั่นที่สนุกมากครับ บทไม่ได้ห่วยเลย ความสมจริงก็ไม่ได้มีมากนัก แต่หากดูเอามันส์ละก็ เหมาะสมทุกอย่างครับ ขอแนะนำให้ไปดูได้เลย
[สปอยล]สิ่งที่ผมชอบใน London Has Fallen (สนุกมาก)
หนังภาคต่อจากหนังแอคชั่นที่มันมากๆอย่าง Olympus has fallen สู่ภาคต่อที่อลังการณ์งานสร้างขึ้นอย่าง London Has Fallen เนื้อเรื่องคร่าวๆก็ผู้ก่อการร้ายคนหนึ่งที่ถูกกลุ่มประเทศผู้นำสั่งเก็บแต่เขารอด เลยวางแผนแก้แค้นครั้งใหญ่ สังหารผู้นำประเทศที่สั่งเก็บเขา โดยการเปลี่ยนลอนดอนทั้งเมืองให้กลายเป็นสนามรบ...
- ชอบที่หนังมันรู้ตัวเองว่าเป็นหนังแอคชั่น มันจึงเกริ่นเรื่องแค่ 20 นาทีกว่าๆ เพื่ออีก 70 นาทีที่เหลือจะได้เอาเวลาไปถือปืนไล่ยิงกันทั้งเรื่อง และผลที่ได้คือมันส์มากๆ
- ชอบฉากแอคชั่นของหนังเรื่องนี้แม้บางอันจะดูซ้ำๆกับเรื่องอื่น แต่ทว่าหนังสามารถดึงให้คนดูลุ้นได้ ด้วยมุมกล้อง เทคนิค หรือพี่เจอราดด์ บัลเลอร์ที่เรื่องนี้เท่ เท่เหลือเกิน แต่ถ้ามีหนวดจะเท่กว่า(อ้าว) โดยเฉพาะฉาก Long Take บุกเข้าฐานของผู้ก่อการร้ายคือที่สุดละแห่งความพีค ยิงกันกระจุยกระจาย ระเบิดกันตู้มตามเลยทีเดียว
- ชอบนิสัยพี่ไมค์ พระเอกเรื่องนี้มากๆ คนอะไรหน้าสิ่วหน้าขวานแล้วยังไม่กลัวเลย แถมมีอารมณ์ขัน บวกกับความมั่นใจที่ไม่รู้แกไปเอามาจากไหน เช่นฉากที่หน่วย SAS บอกว่ามีผู้ก่อการร้ายเป็นร้อยในฐาน พี่แกแค่พูดว่า "อ่อเหรอ งั้นมันน่าจะขนมามากกว่านี้นะ" เข้! พี่มั่นไปไหนวะ
- ชอบความโหดของพระเอกในเรื่อง คือพี่แกไม่ยั้งมือเลย เจอผู้ก่อการร้ายพี่แกกวาดเรียบ เหี้ยนไปหมด เจอมีดก็แทงๆ มีการยิงซ้ำด้วย ทำให้ผมชอบมาก เหมือน เอ่อ จะฆ่ากู กูก็ฆ่าก่อน แถมพี่แกไม่ปราณีใครเล้ยยย สร้างความสะใจให้คนดูเป็นอย่างมาก
- ชอบอารมณ์ขันที่แทรกมาตลอดเรื่อง ผ่านบทสนทนากวนๆของพระเอกกับคนอื่นๆ เช่น "ไม่เคยคิดเลยว่าคุณจะอายุยืนกว่าฉัน" หรือ "อย่าแวะรับใครละ" แสดงให้เห็นว่าอารมณ์ขันสำคัญมากๆในสถานการณ์แบบนี้ แม้จะยิงกันอยู่พี่ไมค์แกก็ปล่อยมุขตลอด ทำให้ตัวหนังไม่เครียดเกินไป
- ฉาก Long Take ตอนบุกฐานตัวร้ายนี่คือที่สุดของความมันส์จริงๆ ยิงกันสนั่น ระเบิดตู้มตาม บรรยายยังไงก็ไม่เห็นภาพ ต้องไปดูในโรงอย่างเดียวครับ
- ชอบองก์ 3 ของหนังที่เป็นบุกไปช่วยประธานธิปดีในฐานตัวร้ายมาก คือที่สุดของเรื่องจริงๆ มีเทคนิคแบบ Night Vision ด้วย บวกกับฉากแอคชั่นที่มันส์ที่สุดในทั้งสามองก์แล้ว สุโค่ย
- ชอบประธานาธิปดีมากกกก คือแกไม่ได้เป็นผู้นำที่อ่อนแออ่ะ แกไม่มีฉากที่ทำตัวงี่เง่าหรือโง่ๆ จนคนดูหงุดหงิดเลย ตรงข้ามกันเผลอๆแกจะยิงแม่นกว่าพระเอกซะอีก...
- CG เรื่องนี้ไม่เนียนมากกกก คือฉากระเบิดตึกอาคารต่างๆรู้เลยว่าใช้ CG แต่น่าแปลกที่ไม่ได้ทำให้ความสนุกลดลงแต่อย่างใด เพราะไม่หวังตั้งแต่ตัวอย่างละเรื่อง CG เนี่ย
- ความสมเหตุสมผลของเรื่องที่น้อยมากก คือตั้งแต่ที่นายกตายแล้วผู้นำทั่วโลกต้องมาร่วมงานศพละ ทำไมต้องผู้นำประเทศมาเอง? แค่นายกรัฐมนตรีเองนะ ถ้าเป็นพระราชินี หรือเจ้าฟ้าชายนี่ค่อยสมเหตุสมผลหน่อย อันนี้คือเหมือนกับว่าเว่อร์เกินไป
- ความสมเหตุสมผลของสถานการณ์ คือ ไม่เข้าใจว่างานสำคัญระดับนี้ มีผู้นำมากมายขนาดนี้ ทำไมผู้นำแต่ละคนถึงได้อยู่กระจัดกระจายมากกกก เช่นผู้นำเยอรมันไปทำอะไรที่หน้าพระราชวังละครับ ไม่ไปร่วมงานเหรอ แล้วผู้นำฝรั่งเศสทำไมไม่ยอมขึ้นบก รออะไรอยู่ ผู้นำอีกประเทศนี่คือทำไมถึงปล่อยให้ไปสวีทกับเมียอยู่ที่ปราสาท แล้วงานศพละ ส่วนผู้นำญี่ปุ่นนี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย คือระดับนายกรัฐมนตรีต้องมารถติดที่กลางสะพาน? คือผู้นำประเทศอื่นเขาปิดถนนให้รถวิ่งกันฉิ่ว แต่พี่ดันมารถติดเนี่ยนะ แล้วไหนละขบวนรถคุ้มกัน เลี้ยวผิดทางเหรอ? เหมือนถูกเช็ตมาให้ตายต่างสถานที่กันโดยเฉพาะ เพื่อโชว์ความโหดเหี้ยมและ CG ระเบิดเนี่ยแหละ (ความจริงถ้าผู้ก่อการร้ายวางแผนขนาดวางระเบิดได้ทุกจุด ทำไมไม่วางในงานไปเลยล่ะ ตอนที่ผู้นำทั้งหมดมารวมกันนี่แหละ ตำรวจก็คนของพี่แกหมดไม่ใช่หรือ?)
- ความเว่อร์ของตัวร้ายที่สามารถแทรกแซงกรมตำรวจได้เกือบทั้งลอนดอน คือ ไปแทรกแซงตอนไหน แค่สองปีพี่ทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ
- แต่ด้วยความเป็นหนังแอคชั่น เราจึงสามารถบอกได้ว่าโยนเหตุผลทิ้งไปแล้วดูเอามันส์พอ ซึ่งได้ว่ะ มันส์จริง
- ความเก่งของพระเอกที่บางครั้งมันก็มากเกินไป จนทุกสิ่งที่เราเห็นในหนังก็คือฉากเจอราดด์ บัลเลอร์ไล่ฆ่าผู้ก่อการร้ายอย่างทารุณ โหดเหี้ยม จนเราสงสารผู้ก่อการร้ายเหลือเกิน ทำกรรมอะไรหนอ จนไม่มีความลุ้นเลย ดูพี่แกฆ่าคนเอามันส์อย่างเดียวพอ
- ประธานาธิปดีเหมือนเป็นทหารเก่า คือพี่แกไม่ได้กาก ออกจะเทพเลย เช่น ยิงนัดเดียวเข้าหัว วิ่งหลบกระสุน ขับรถหนี แถมตอนที่โดนบุกมาช่วยท่านยังสามารถแก้มัดแล้ววิ่งไปหาปืน ก่อนจะยิงช่วยพระเอก เข้ เก่งไปไหน ถ้าภาคหน้าไปช่วยพระเอกแทนจะไม่แปลกใจเลย(ฮา)
สรุป London Has Fallen เป็นหนังแอคชั่นที่สนุกมากครับ บทไม่ได้ห่วยเลย ความสมจริงก็ไม่ได้มีมากนัก แต่หากดูเอามันส์ละก็ เหมาะสมทุกอย่างครับ ขอแนะนำให้ไปดูได้เลย