ทริปเดินทาง 23-25 ก.พ.
"สังขละ อากาศดีมั้ยพี่?" น้องในแผนกคนนึงได้ถามขึ้นขณะที่เรานั่งทำงานกันในวัน "หยุด"
ใครจะไปรู้ว่าประโยคคำถามธรรมดาๆ มันจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางในวันรุ่งขึ้น
หลังจากประโยคคำถามนี้มันทำให้เราได้เก็บกระเป๋ากันหลังเลิกงานและเดินทางกันในเช้าวันถัดไป รวมสมาชิกได้ 4 คน
โดยตอนนั้นเช็คแค่รอบรถทัวร์ในวันถัดไปและรู้แค่ว่าปลายทางคือ สังขละบุรี เท่านั้น
สำหรับการเดินทางไปสังขละบุรีโดยรถทัวร์จะมีสองรอบคือ 6.30 และ 9.30 รถจะวิ่งไปถึงด่านเจดีย์สามองค์
เราเริ่มเดินทางกันที่หมอชิตในเช้าวันถัดมาโดยรถทัวร์รอบ 6.30 น. รถออกเรทนิดหน่อย เวลา 6.46 น. รถทัวร์ก็เริ่มพาเราออกจาก กทม.
เวลาที่ใครหลายคนเริ่มเดินทางไปทำงานหลังจากหยุดยาว 3 วัน แต่พวกเรากำลังจะได้ไปเที่ยว 555
นั่งๆนอนๆก็มาถึงกาญฯ เวลา 9.20 รับคนแล้วก็เดินทางต่อ จอดอีกทีไทรโยคน้อยประมาณ 10 โมงเพื่อแวะกินข้าวซึ่งรวมอยู่ในราคาตั๋วรถทัวร์ 281 บาท แล้วฉะนั้น ฟรี! ซึ่งการเดินทางโดยรถทัวร์ก็ไม่ได้ช้าเท่าไหร่ นั่งสบายด้วย ได้เห็นชีวิตคนเดินทาง ไม่ต้องเร่งรีบจนเกินไป
หลังจากทานข้าวเสร็จก็เดินทางต่อ จนถึงสังขละบุรีเวลาประมาณเกือบๆบ่ายสอง ถึงแล้วก็หาที่พักกันดีกว่าา
เดินไปดูสามประสบรีสอร์ทก่อนละกันใกล้สะพานมอญดี
ระหว่างเดินไปพวกเราเจอร้านขายของชำที่ให้เช่ามอไซ งั้นเช่าเลยละกันวันละ 250 เอาไว้ขี่ไปวัดด้วย
ได้รถละก็ขี่ไป สามประสบรีสอร์ท ก่อนเลย
ที่นี่อยู่ใกล้สะพานมอญมาก แบบตี่นมาเห็นวิวสะพานเลยราคาก็ 1200-1800 รวมอาหารเช้าบรรยากาศก็คุ้มเกินราคา น่าพัก
แต่...พวกเราเน้นประหยัดเลยไปกันต่อครับ สรุปมาพักกันที่ พีเกสท์เฮ้า
ที่นี่บรรยากาศก็ดีไม่แพ้กัน ติดน้ำด้วย เราเลือกห้องพัดลม คืนละ 300 ห้องน้ำรวม ราคาโอเครมากเลย
ถึงจะห้องพัดลมแต่กลางคืนก็หนาวเลยล่ะ ส่วนห้องน้ำก็เดินไปหน่อยเดียว สะอาดเข้าได้สบาย
ภายในห้องพัก
รูปด้านหน้าห้องพัก
จากหน้าห้องเดินไปห้องน้ำแค่หน่อยเดียว
พีเกสท์เฮ้าห่างจากสะพานมอญประมาณ 1 กม. มีเรือให้เช่าพาย ชม.ละ 60 บาท ถ้าทั้งวัน 150 ที่นี่ก็มีมอไซให้เช่า วันละ 200
นอนเล่นที่ห้องซักแปปละก้อแว้นไปที่สะพานมอญกัน ขี่มาตรงทางลงข้างสามประสบรีสอร์ท
ลงจากมอไซปุปก็มีลุงขับเรือมาชวนนั่งเรือดูเมืองบาดาลทันที แดดยังร้อนอยู่เลยนะลุง! 55
เลยขอนั่งเล่นหาไรกินซักพักก่อน ตรงนั้นมีร้านข้าวร้านกาแฟให้นั่งอยู่ติดสะพานเลย
ซักสี่โมงเย็นเราจึงไปนั่งเรือกัน มา 4 คนลุงคิดคนละ 100 พาไป 3 วัด โดยเรือลำข้างล่างนี้แล่ะ
ช่วงที่ไปน้ำแห้งแล้ว ลงเดินเล่นได้
วัดแรกที่ลุงพามาแวะ วัดศรีสุวรรณาราม เป็นวัดกะเหรี่ยง แต่วัดนี้ยังจมน้ำอยู่โผ่นมาแค่ครึ่งเดียว
วัดศรีสุวรรณาราม
ลุงเล่าว่าแต่ก่อนที่จะมีการสร้างเขื่อนเขาแหลม พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของตัวอำเภอ
มีสถานที่ราชการ และชุมชนชาวไทย มอญ และกะเหรี่ยง หลังจากมีการสร้างเขื่อนจึงต้องย้ายออก
มาต่อกันที่วัดที่สอง วัดสมเด็จ เป็นวัดไทย สามารถลงเดินได้ มีชาวบ้านคอยขายดอกไม้ ธูป เทียนไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ไหว้พระ
สภาพภายในโบสถ์
ส่วนวัดสุดท้ายน่าจะเป็นไฮไลท์ของที่นี่คือ วัดวังก์วิเวการาม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดหลวงพ่ออุตตมะ
เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะและชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างขึ้นในสมัยก่อนหลังจากน้ำท่วมจึงย้ายขึ้นไปอยู่บนเนินเขา
บริเวณนี้ถูกเรียกว่าสามประสบ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำสามสาย คือ แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี ไหลมาบรรจบกัน
ภาพของอุโบสถ หอระฆัง และร่องรอยของสถาปัตยกรรมต่างๆที่ถูกน้ำท่วม
บริเวณนีจะโผล่พ้นน้ำเฉพาะช่วงหน้าแล้ง น้ำลงเยอะสุดก็ช่วง มีนา - เมษา
ใครอยากชมความมหัศจรรย์ของวัดใต้บาดาลก็ติดต่อเรือหางยาวได้แถวๆสะพานมอญมีให้เลือกเยอะ
แต่เราใช้บริการของแพลุงเณร ลุงจะอยู่ตรงเชิงสะพานพอดีมีป้ายบอกอยู่
ระหว่างทางลุงจะเล่าประวัติให้ฟังค่อนข้างละเอียด ลุงแกอยู่มาตั้งแต่ก่อนน้ำท่วมอีก ประสบการณ์ตรงล้วนๆนี่เองที่ลุงเล่ามา
นั่งเรือเสร็จกลับมาก็เกือบๆ 6 โมง บรรยากาศกำลังดีเลย
บรรยากาศสะพานยามเย็น
ทริปวันนี้ก็สบายๆแค่นี้ ไปหาไรกินแถวตลาดแล้วก็กลับ พีเกสท์เฮ้า
ถึงที่พักก็พักผ่อนหลังนั่งรถมาทั้งวัน นั่งคุยว่าพรุ่งนี้จะไปไหนดี
ตอนแรกว่าจะไปนอนแพแถวไทรโยค แต่ก็ไปกันบ่อยจนเบื่อแล้ว
คุยไปคุยมาบวกจำนวนเบียร์หลายกระป๋องใจขึ้นอยากไปนอนเนินช้างศึก
รถสองแถวขึ้นอิต่องก็ไม่รู้หมดกี่โมง เต๊นก็ไม่มี เอ้า..ไปก็ไป ไม่มีรถโดยสารก็หามอไซแว้นไปละกัน
คืนนี้นอนก่อนละกันพรุ่งนี้ลงไปทองผาภูมิแล้วค่อยหารถ
[CR] เช้าอยู่สังขละ เย็นอยู่หมู่บ้านอิต่อง การเดินทางที่เริ่มจากคำถาม "สังขละ อากาศดีมั้ยพี่?"
ใครจะไปรู้ว่าประโยคคำถามธรรมดาๆ มันจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางในวันรุ่งขึ้น
หลังจากประโยคคำถามนี้มันทำให้เราได้เก็บกระเป๋ากันหลังเลิกงานและเดินทางกันในเช้าวันถัดไป รวมสมาชิกได้ 4 คน
โดยตอนนั้นเช็คแค่รอบรถทัวร์ในวันถัดไปและรู้แค่ว่าปลายทางคือ สังขละบุรี เท่านั้น
สำหรับการเดินทางไปสังขละบุรีโดยรถทัวร์จะมีสองรอบคือ 6.30 และ 9.30 รถจะวิ่งไปถึงด่านเจดีย์สามองค์
เราเริ่มเดินทางกันที่หมอชิตในเช้าวันถัดมาโดยรถทัวร์รอบ 6.30 น. รถออกเรทนิดหน่อย เวลา 6.46 น. รถทัวร์ก็เริ่มพาเราออกจาก กทม.
เวลาที่ใครหลายคนเริ่มเดินทางไปทำงานหลังจากหยุดยาว 3 วัน แต่พวกเรากำลังจะได้ไปเที่ยว 555
นั่งๆนอนๆก็มาถึงกาญฯ เวลา 9.20 รับคนแล้วก็เดินทางต่อ จอดอีกทีไทรโยคน้อยประมาณ 10 โมงเพื่อแวะกินข้าวซึ่งรวมอยู่ในราคาตั๋วรถทัวร์ 281 บาท แล้วฉะนั้น ฟรี! ซึ่งการเดินทางโดยรถทัวร์ก็ไม่ได้ช้าเท่าไหร่ นั่งสบายด้วย ได้เห็นชีวิตคนเดินทาง ไม่ต้องเร่งรีบจนเกินไป
https://www.facebook.com/ampassenger
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดินไปดูสามประสบรีสอร์ทก่อนละกันใกล้สะพานมอญดี
ระหว่างเดินไปพวกเราเจอร้านขายของชำที่ให้เช่ามอไซ งั้นเช่าเลยละกันวันละ 250 เอาไว้ขี่ไปวัดด้วย
ได้รถละก็ขี่ไป สามประสบรีสอร์ท ก่อนเลย
ที่นี่อยู่ใกล้สะพานมอญมาก แบบตี่นมาเห็นวิวสะพานเลยราคาก็ 1200-1800 รวมอาหารเช้าบรรยากาศก็คุ้มเกินราคา น่าพัก
ที่นี่บรรยากาศก็ดีไม่แพ้กัน ติดน้ำด้วย เราเลือกห้องพัดลม คืนละ 300 ห้องน้ำรวม ราคาโอเครมากเลย
ถึงจะห้องพัดลมแต่กลางคืนก็หนาวเลยล่ะ ส่วนห้องน้ำก็เดินไปหน่อยเดียว สะอาดเข้าได้สบาย
พีเกสท์เฮ้าห่างจากสะพานมอญประมาณ 1 กม. มีเรือให้เช่าพาย ชม.ละ 60 บาท ถ้าทั้งวัน 150 ที่นี่ก็มีมอไซให้เช่า วันละ 200
ลงจากมอไซปุปก็มีลุงขับเรือมาชวนนั่งเรือดูเมืองบาดาลทันที แดดยังร้อนอยู่เลยนะลุง! 55
เลยขอนั่งเล่นหาไรกินซักพักก่อน ตรงนั้นมีร้านข้าวร้านกาแฟให้นั่งอยู่ติดสะพานเลย
วัดแรกที่ลุงพามาแวะ วัดศรีสุวรรณาราม เป็นวัดกะเหรี่ยง แต่วัดนี้ยังจมน้ำอยู่โผ่นมาแค่ครึ่งเดียว
วัดศรีสุวรรณาราม
มีสถานที่ราชการ และชุมชนชาวไทย มอญ และกะเหรี่ยง หลังจากมีการสร้างเขื่อนจึงต้องย้ายออก
สภาพภายในโบสถ์
เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะและชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างขึ้นในสมัยก่อนหลังจากน้ำท่วมจึงย้ายขึ้นไปอยู่บนเนินเขา
บริเวณนี้ถูกเรียกว่าสามประสบ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำสามสาย คือ แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี ไหลมาบรรจบกัน
แต่เราใช้บริการของแพลุงเณร ลุงจะอยู่ตรงเชิงสะพานพอดีมีป้ายบอกอยู่
ระหว่างทางลุงจะเล่าประวัติให้ฟังค่อนข้างละเอียด ลุงแกอยู่มาตั้งแต่ก่อนน้ำท่วมอีก ประสบการณ์ตรงล้วนๆนี่เองที่ลุงเล่ามา
นั่งเรือเสร็จกลับมาก็เกือบๆ 6 โมง บรรยากาศกำลังดีเลย
ตอนแรกว่าจะไปนอนแพแถวไทรโยค แต่ก็ไปกันบ่อยจนเบื่อแล้ว
คุยไปคุยมาบวกจำนวนเบียร์หลายกระป๋องใจขึ้นอยากไปนอนเนินช้างศึก
รถสองแถวขึ้นอิต่องก็ไม่รู้หมดกี่โมง เต๊นก็ไม่มี เอ้า..ไปก็ไป ไม่มีรถโดยสารก็หามอไซแว้นไปละกัน
คืนนี้นอนก่อนละกันพรุ่งนี้ลงไปทองผาภูมิแล้วค่อยหารถ