จากกรณีที่ก่อนหน้านี้มีการเรียกร้องโดยเฉพาะจากสมาคมสื่อ ให้คุณสรยุทธ์ยุติการปฏิบัติที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการอ้างถึงจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อ
ผมเลยแอบคิดว่าทุกวันนี้สื่อเมืองไทยส่วนใหญ่มันมีสิ่งนี้ด้วยหรือ บอกตามตรงผมเน้นดูทีวีแค่ช่องเดียวคือช่อง3 ซึ่งสื่อสำนักอื่นผมไม่ค่อยรับรู้เลยยกเว้นนานๆจะมีประเด็นดราม่ามาทีนึง
แต่กรณีสรยุทธ์ ประชาชนที่โหยความยุติธรรมหลายๆคนอาจจะตกเป็นเครื่องมือในผ่านการณ์ของพวกสื่อทั้งหลายก็ได้
ในปัจจุบันสื่อกลายเป็นธุรกิจรายได้หลักก็มาจากงบโฆษณานอกจากละคร รายการต่างๆแล้ว ข่าว ก็เป็นอะไรที่ดึงดูดโฆษณาได้ จากการที่สรยุทธ์ทำรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่วงเวลาข่าวตอนเช้าของช่อง3 กลายเป็นรายการที่เรตติ้งแซงทะลุเพดานเกินกว่าช่องอื่นชนิดที่เรียกว่า ไร้ผู้เทียมทาน และนั้นย่อมหมายถึง เม็ดเงินโฆษณษมหาศาล และก็หมายถึงช่องอื่นก็เสียส่วนแบ่งมหาศาลไปให้ช่อง3เช่นกัน และยิ่งปัจจุบัน มีทีวีดิจิตอล ช่องต่างก็มากขึ้น แต่เมื่อช่อง3มีสรยุทธ์ ก็ไม่มีใครโค่นช่อง3ลงได้
แต่สรยุทธ์ก็มีแผลคือคดีไร่ส้ม คนดีและสื่อคนดีทั้งหลายก็ออกมาหน้าสลอนให้สปอนเซอร์ระงับโฆษณษบ้างอะไรบ้าง แต่ขอโทษเขาไม่ได้โง่เพราะถ้าถอนโฆษณาปุ๊บ ก็มีเจ้าอื่นรอเสียบทันที
จนในที่สุดศาลชั้นต้นสั่งจำคุก แต่คดียังไม่ถึงสิ้นสุด ในกระบวนการณ์ทางกฏหมายยังถือว่าบริสุทธ์ แต่คนดีใช้โอกาสนี้เดินเกมส์เอาสรยุทธ์ออก โดยคิดว่าถ้าไม่มีสรยุทธ์ คนดูจะหันไปดูช่องตัวเองและจะมีโฆษณามาลงมากขึ้นนั่นเอง
แต่ก็อย่างว่า ว่านี้คือเมืองไทย คนดีทั้งหลายใช้คุณธรรมทำลายคนอื่นมากกว่าจะยกระดับจิตใจตัวเอง กรณีสรยุทธ์ก็อ้างคุณธรรมจริยธรรม แต่พวกสื่อละเมิดสิทธ์คนอื่น นั่งเทียน เต้าข่าว โกงเงิน บริหารจนล้มละลายจนเร่ขายหุ้นให้ต่างชาติก็มี ยังไม่นำบิดเบือนข่าวให้ร้าย พอศาลสั่งว่าผิดก็แค่ลงคำขอโทษเล็กๆ ทั้งๆที่เป็นความผิดต่อวิชาชีพโดยตรง ก็ไม่เห็นพวกนี้มันจะหยุดปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด หรือว่าพวกนี้ไม่มีคุณธรรมจริยธรรม มาตรฐานทางจริยธรรมจึงไม่มีผลใดๆกับมัน
อีกอย่างคนดี เขาไม่ประกาศเอง ถ้าประกาศตัวเองว่าเป็นคนดี มันก็คือการ อวด ดีเท่านั้น คิดเอาเองละกันว่าชาวบ้านเดือดร้อนมีปัญหา ถ้าทำได้เค้าอยากไปหานายกฯหรือสรยุทธ์มากกว่ากัน
ตราบใดที่สื่อส่วนมากยังไม่พัฒนาตนเอง อาศัยทำลายคนอื่นแล้วตัวเองอยู่ได้มากกว่าที่จะพัฒนาตนเอง สื่อสารมวลชนก็คงเป็นแค่วิชาชีพที่มีภูมิใจกันเองในกะลาเท่านั้น
กรณีสรยุทธ์ - ธาตุแท้สื่อไทย
ผมเลยแอบคิดว่าทุกวันนี้สื่อเมืองไทยส่วนใหญ่มันมีสิ่งนี้ด้วยหรือ บอกตามตรงผมเน้นดูทีวีแค่ช่องเดียวคือช่อง3 ซึ่งสื่อสำนักอื่นผมไม่ค่อยรับรู้เลยยกเว้นนานๆจะมีประเด็นดราม่ามาทีนึง
แต่กรณีสรยุทธ์ ประชาชนที่โหยความยุติธรรมหลายๆคนอาจจะตกเป็นเครื่องมือในผ่านการณ์ของพวกสื่อทั้งหลายก็ได้
ในปัจจุบันสื่อกลายเป็นธุรกิจรายได้หลักก็มาจากงบโฆษณานอกจากละคร รายการต่างๆแล้ว ข่าว ก็เป็นอะไรที่ดึงดูดโฆษณาได้ จากการที่สรยุทธ์ทำรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่วงเวลาข่าวตอนเช้าของช่อง3 กลายเป็นรายการที่เรตติ้งแซงทะลุเพดานเกินกว่าช่องอื่นชนิดที่เรียกว่า ไร้ผู้เทียมทาน และนั้นย่อมหมายถึง เม็ดเงินโฆษณษมหาศาล และก็หมายถึงช่องอื่นก็เสียส่วนแบ่งมหาศาลไปให้ช่อง3เช่นกัน และยิ่งปัจจุบัน มีทีวีดิจิตอล ช่องต่างก็มากขึ้น แต่เมื่อช่อง3มีสรยุทธ์ ก็ไม่มีใครโค่นช่อง3ลงได้
แต่สรยุทธ์ก็มีแผลคือคดีไร่ส้ม คนดีและสื่อคนดีทั้งหลายก็ออกมาหน้าสลอนให้สปอนเซอร์ระงับโฆษณษบ้างอะไรบ้าง แต่ขอโทษเขาไม่ได้โง่เพราะถ้าถอนโฆษณาปุ๊บ ก็มีเจ้าอื่นรอเสียบทันที
จนในที่สุดศาลชั้นต้นสั่งจำคุก แต่คดียังไม่ถึงสิ้นสุด ในกระบวนการณ์ทางกฏหมายยังถือว่าบริสุทธ์ แต่คนดีใช้โอกาสนี้เดินเกมส์เอาสรยุทธ์ออก โดยคิดว่าถ้าไม่มีสรยุทธ์ คนดูจะหันไปดูช่องตัวเองและจะมีโฆษณามาลงมากขึ้นนั่นเอง
แต่ก็อย่างว่า ว่านี้คือเมืองไทย คนดีทั้งหลายใช้คุณธรรมทำลายคนอื่นมากกว่าจะยกระดับจิตใจตัวเอง กรณีสรยุทธ์ก็อ้างคุณธรรมจริยธรรม แต่พวกสื่อละเมิดสิทธ์คนอื่น นั่งเทียน เต้าข่าว โกงเงิน บริหารจนล้มละลายจนเร่ขายหุ้นให้ต่างชาติก็มี ยังไม่นำบิดเบือนข่าวให้ร้าย พอศาลสั่งว่าผิดก็แค่ลงคำขอโทษเล็กๆ ทั้งๆที่เป็นความผิดต่อวิชาชีพโดยตรง ก็ไม่เห็นพวกนี้มันจะหยุดปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด หรือว่าพวกนี้ไม่มีคุณธรรมจริยธรรม มาตรฐานทางจริยธรรมจึงไม่มีผลใดๆกับมัน
อีกอย่างคนดี เขาไม่ประกาศเอง ถ้าประกาศตัวเองว่าเป็นคนดี มันก็คือการ อวด ดีเท่านั้น คิดเอาเองละกันว่าชาวบ้านเดือดร้อนมีปัญหา ถ้าทำได้เค้าอยากไปหานายกฯหรือสรยุทธ์มากกว่ากัน
ตราบใดที่สื่อส่วนมากยังไม่พัฒนาตนเอง อาศัยทำลายคนอื่นแล้วตัวเองอยู่ได้มากกว่าที่จะพัฒนาตนเอง สื่อสารมวลชนก็คงเป็นแค่วิชาชีพที่มีภูมิใจกันเองในกะลาเท่านั้น