วันที่ 05 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 09:20 น.
จำนวนคนอ่านล่าสุด 76329 คน
"กุ๊ก-ไบรท์" จัดรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ผ่านฉลุยยังตรึงคนดู เรตติ้งเป็นปกติ สรยุทธโพสต์ไอจีชื่นชม ส่วนเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ดึงกรุณา บัวคำศรี เข้าเสียบ ด้าน ผอ.ร.พ.ที่ลำปางสั่งช่างเคเบิลทีวี ถอดช่อง 3 พ้นร.พ. เพื่อยกระดับมาตรฐานจริยธรรม ขณะที่ดารานักแสดงโพสต์ข้อความให้กำลังใจ ดร.สมเกียรติเขียนบทความขนาดยาว ฉะสื่อมวลชน ละเมิดจรรยาบรรณ ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและทำเกินหน้าที่ กรณีกดดันขับไล่สรยุทธ ส่งผลถึงความน่าเชื่อถือ ประชดไล่แล้วอย่าไปรับค่าโฆษณาคนที่เคยสนับสนุนสรยุทธแล้วกัน
เมื่อ วันที่ 4 มี.ค. จากกรณีที่นายสุรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรข่าวชื่อดัง ซึ่งถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 13 ปี 4 เดือน จากคดีเงินค่าโฆษณาของบริษัทไร่ส้ม เป็นเหตุให้บริษัท อสมท เสียหายกว่า 138 ล้านบาท จากนั้นก็มีกระแสสังคม หลังจากที่รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ได้มีการปรับเปลี่ยนพิธีกร ใหม่ โดยให้ "ไบรท์"พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ จัดรายการคู่กับ "กุ๊ก"กฤติกา ขอไพบูลย์ แทนนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่ได้ยุติหน้าที่พิธีกร หลังจากการตัดสินคดีไร่ส้ม โดยในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ "กุ๊ก"กฤติกา และ "ไบรท์"พิชญทัฬห์ ยังเชิญ "แอ๊ด"สุรชัย สมบัติเจริญ มาเปิดใจหลังทำศัลยกรรมใบหน้าใหม่อีกด้วย
ทั้ง นี้ นายสรยุทธโพสต์ในอินสตาแกรมส่วนตัว เป็นภาพการทำรายการเรื่องเล่าเช้านี้ โดยพิธีกรทั้งสองคน และเขียนข้อความว่า "ทำหน้าที่ได้ดี พี่ภาคภูมิใจมาก (แฟนข่าว) #RuengLao #ยิ้มให้กันทุกเช้า"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ ตลอดรายการ ที่เปิดให้ผู้ชมส่งเอสเอ็มเอสแสดงความคิดเห็นนั้น ส่วนใหญ่เป็นข้อความให้กำลังใจนาย สรยุทธ และพิธีกรทั้ง 2 คน
ทั้ง นี้ รายงานข่าวจากผู้บริหารช่อง 3 ระบุว่า ในการจัดรายการช่วงเช้าเรตติ้งยังอยู่ในระดับปกติ ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะผู้ชมต้องการดูว่าใครจะมาจัดรายการแทนนายสรยุทธ ส่วนในภาพรวมคงต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ถึงจะรู้ว่าเรตติ้งที่ออกมาเป็นอย่างไร ทั้งนี้ รายการเรื่องเล่าเช้านี้จะยังคงพิธีกรเป็น "กุ๊ก"กฤติกา และ "ไบรท์"พิชญทัฬห์อยู่ ขณะที่เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ จะเป็นกุ๊ก-กฤติกา จัดรายการคู่กับกรุณา บัวคำศรี และกรุณาอาจจะสลับมาช่วยจัดรายการในช่วงเช้าของวันธรรมดาได้เช่นกัน
สำหรับ ความเคลื่อนไหวของนายสรยุทธนั้น ตั้งแต่ประกาศยุติการจัดรายการก็ไม่ได้เดินทางมาที่สตูดิโอ หรือห้องส่งแต่อย่างใด คาดว่าจะใช้เวลาช่วงนี้พักผ่อนหลังถูกโจมตีหนักในเรื่องการทำหน้าที่
นาย วิบูลย์ ลีรัตนขจร ประธานกรรมการ บริษัท เซิร์ช ไลฟว์ จำกัด ผู้ผลิตรายการ "เรื่องเด่นเย็นนี้" ทางช่อง 3 เผยว่า การยุติบทบาทหน้าที่พิธีกรของนายสรยุทธเป็นการตัดสินใจของเจ้าตัว ส่วนว่าจะหยุดนานเท่าไหร่นั้นไม่ทราบ แต่คาดว่าไม่กระทบกับรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ เพราะรายการอยู่มายาวนาน มีพิธีกรทำหน้าที่หลายคน มีความแข็งแรงพอ น่าจะรักษาฐานแฟนรายการได้ ส่วนเรตติ้งคงดูแค่วันสองวันไม่ได้ ว่าจะกระทบได้แค่ไหน แต่ทีมงานจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้กระทบกับเรตติ้ง
ที่ ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแลงาน อสมท ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี อสมท ดำเนินคดีกับบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ว่า เท่าที่ตนได้ยินคือมีการดำเนินคดีฟ้องร้องกันอยู่แล้ว เป็นการฟ้องแพ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินคดีของศาล เมื่อถามถึงการฟ้องร้องประเด็นปลอมแปลงเอกสาร นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่อง และก็ไม่ทราบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารกันจริงหรือไม่ ซึ่งถ้ามีจริงก็สามารถฟ้องร้องได้
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) น.ส.ภคอร จันทรคณา กรรมการผู้จัดการบริษัท ชีวานันท์ กรุ๊ป จำกัด และกรรมการมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น พร้อมด้วยนาย มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น เข้ายื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิ การ ปปง. ขอให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ของนายสรยุทธ ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2546-2559 ว่าทรัพย์สินที่ได้มาในช่วงเวลาดังกล่าวได้มาโดยชอบหรือไม่
ด้าน พ.ต.อ.สีหนาทกล่าวว่า เมื่อมีความผิดมูลฐานที่เกิดขึ้นชัดเจนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ก็จะรับเรื่องมาตรวจสอบเส้นทางการเงินในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะต้องตรวจสอบย้อนหลังไปหลายปี
ที่ จ.ลำปาง นพ.บุญจง ชูชัยแสงรัตน์ ผอ.ร.พ.เขลางค์-ราม จ.ลำปาง เผยว่า ส่วนตัวเห็นว่าไม่ว่าจะประกอบกิจการใดๆ ธุรกิจ พ่อค้า ประชาชนก็ตามสิ่งที่ต้องยึดถือคือ คุณธรรม จริยธรรม ซึ่งเป็นเรื่องของจิตสำนึก ที่อยู่เหนือกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็จะสั่งสอนลูกน้องเสมอว่าต้องยึดหลักเหล่านี้ในฐานะที่เป็น ประชาชนคนหนึ่ง เราต้องแสดงจุดยืน เพื่อแสดงว่า จิตสำนึกของคนไทยต่อไปต้องสูงกว่านี้ เราจะยอมรับมาตรฐานเดิมๆ ไม่ได้ เราต้องช่วยคนดีมีคุณธรรม จริยธรรม ให้ยืนอยู่ในสังคมได้อย่างสง่างาม ขณะเดียวกันคนที่ไม่มีคุณธรรม จริยธรรม เราก็ต้องใช้สังคมเป็นตัวกำหนดให้ที่ยืนเขา แคบลง ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.เป็นต้นไปทางร.พ. จะหยุดเปิดทีวีช่อง 3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณชั้นล่างของอาคารมีการนำสัญลักษณ์กากบาทไขว้ทับเลข 3 ติดไว้บริเวณด้านล่างของจอทีวีทุกตัวด้วย ส่วนชั้นอื่นๆ ก็ไม่สามารถเปิดช่อง 3 ได้ เนื่องจากทางร.พ.ให้ช่างมาตัดสัญญาณช่อง 3 ทิ้งไปแล้ว
สำหรับความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ ก็มีดารานักแสดง และบุคคลสำคัญโพสต์ข้อความให้กำลังใจนายสรยุทธ อาทิ เปิ้ล นาคร ศิลาชัย, มะปราง วิรากานต์ เสณีตันติกุล นักแสดงช่อง 3 ด้านนายวิสารท เดชกุล หรือข้าวนึ่ง หนึ่งในพิธีกรครอบครัวข่าว โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรม "kawnungnoir" ว่า "ทีมงานเรื่องเล่าลับหลังพี่ยุทธ เราเรียกว่า "พ่อ" ครับ
ไม่ ใช่แค่เพราะความเกรงใจในฐานะหัวหน้างาน แต่หมายรวมถึงความเป็นหัวหน้าครอบครัวที่แท้จริงของเรื่องเล่าเช้านี้ "พี่ยุทธ" จดจำเรื่องราวลูกน้องได้แม่นยำ ทั้งที่มีอยู่จำนวนมาก แต่ใส่ใจและถามถึง ให้ความเป็นกันเองอย่างสม่ำเสมอ
ผมแม้มาทีหลัง แต่ก็ได้รับความเมตตาอย่างที่พ่อดูแลลูก ช่วงเวลาที่ป่วย อ่านข่าวไม่ได้ ผมได้รับคำย้ำ จากหัวหน้าและพี่ๆ ว่าที่ตรงนี้ยังมีข้าวนึ่งอยู่ "ข้าวนึ่ง รักษาตัว รอกลับมาอ่านข่าวด้วยกัน" เป็นคำพูดจากพี่ยุทธที่ทำให้ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ และยังทำให้ผมได้มีโอกาสอ่านข่าวอย่างทุกวันนี้ ขอขอบคุณพี่ยุทธ ที่ให้โอกาสเด็กบ้านนอกธรรมดาๆ ที่เคยดูพี่ที่หน้าจอทีวีทุกวัน และเป็นแค่คนราคาถูกๆ คนหนึ่ง ได้เข้ามามีโอกาสนั่งอ่านข่าวตรงนี้ มันเป็นสิ่งที่ไม่เคยคิดฝัน ทุกความรู้สึกยังคงตราตรึงอยู่อย่างแนบแน่น
ด้าน นายสมเกียรติ อ่อนวิมล นักสื่อสารมวลชนชื่อดัง เขียนบทความลงเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว สรุปว่า การปกป้องบุคคลที่ตกเป็นข่าว เป็นหน้าที่สำคัญตามจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อสารมวลชน และยิ่งมีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องการปกป้องสิทธิมนุษยชนด้วยแล้ว จรรยาบรรณวิชาชีพสื่อสารมวลชนจึงเป็น "กฎเหล็ก" ที่ผมต้องทำตามและคาดหวังให้สื่อมวลชนอื่นยึดมั่นทำตาม เสมือนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เมื่อใครตกเป็นผู้ต้องหาหรือเป็นจำเลยใน คดีความต่างๆ เราจำต้องรอคำพิพากษาของ ศาลให้ถึงที่สุดก่อนจึงจะมีสิทธิรายงานว่าประชาชนผู้เป็นจำเลยหรือผู้ต้องหา นั้นเป็นผู้ผิดแท้จริง ระหว่างยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดนั้น เราก็มีหน้าที่รายงานข่าวคดีความที่เกี่ยวข้องไปตามปกติ
กรณีคุณ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ก็ไม่เป็นข้อยกเว้น แต่สื่อมวลชนกลับจะทำกันหนักยิ่งกว่าใคร ทำกันโดยอ้างการปกป้องจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อสารมวลชนของตนเอง ตัดสินและจูงใจให้สาธารณชนลงโทษคุณสรยุทธ ตั้งแต่เป็นข่าวกับ อสมท ตั้งแต่ปี 2549 แล้ว
การเสนอข่าวตามปกติถูกทำให้กลายเป็น กระบวนการไล่ล่าตำหนิประณามคุณสรยุทธ และไทยทีวีสีช่อง 3 ข้ามไปจนถึงสินค้าและบริษัทห้างร้านธุรกิจอุตสาหกรรมที่ลงโฆษณาสนับสนุน รายการของคุณสรยุทธและราย การอื่นๆ ของช่อง 3 โดยรวม กระบวนการพิฆาตไล่ล่าคุณสรยุทธและช่อง 3 นี้ เรียกร้องให้คุณสรยุทธลาออกจากงานสื่อสารมวลชนและงานทำรายการโทรทัศน์ที่ ช่อง 3 เป็นสำคัญ บ้างก็รณรงค์ให้ปิดกั้นประท้วงช่อง 3 และสินค้าต่างๆ ที่ลงโฆษณาในรายการของคุณสรยุทธและช่อง 3
ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสาร มวลชนเอง ทั้งส่วนบุคคล และที่เป็นองค์กรวิชาชีพ ไม่มีสิทธิเรียกร้องไล่ล่ากดดันคุณสรยุทธ และช่อง 3 เป็นการส่วนตัว ทว่าสื่อมวลชนมีหน้าที่เพียงรายงานข่าวความจริงที่ปรากฏทุกแง่มุม และเพิ่มเติมความรู้ให้สาธารณชนมีสติในการคิดตัดสินชีวิตและงานของคุณสรยุทธ และช่อง 3 สื่อมวลชนมิได้มีหน้าที่ไปรณรงค์ให้เกิดความเกลียดชังหรือต่อต้านคุณสรยุทธ และช่อง 3
สื่อมวลชนต้องยึดมั่นในหลักจรรยาบรรณวิชาชีพอย่างเคร่ง ครัดแน่นเหนียว โดยต้องเริ่มที่การไม่ละเมิดรัฐธรรมนูญ และเคารพในสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องหาหรือจำเลย ในกรณีนี้คือต้องเคารพสิทธิ มนุษยชนของคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา สื่อมวลชนจะมาขอสิทธิพิเศษละเมิดสิทธิมนุษชนของคุณสรยุทธ และขอละเลยจรรยาบรรณวิชาชีพของตนเองก่อน เพื่อไปบังคับกดดันผู้ต้องหาหรือจำเลยคือคุณสรยุทธ ซึ่งบังเอิญเป็นสื่อมวลชนด้วยกันให้เคารพจรรยาบรรณสื่อมวลชนก่อนมิได้
แต่ ที่ปรากฏ สื่อมวลชนและองค์กรวิชาชีพสื่อสารมวลชน เริ่มต้นก็ละเมิดจรรยาบรรณวิชาชีพของตนเองโดยละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้ต้อง หาและจำเลยเสียแล้ว ความน่าเคารพเชื่อถือของสื่อมวลชนและองค์กรวิชาชีพของตนก็หมดไป
การ อ้างมาตรฐานจริยธรรมและจรรยาบรรณอันสูงส่งขององค์กรวิชาชีพสื่อสารมวลชน, องค์กรต่อต้านการทุจริต, และองค์กรกำกับดูแลการสื่อสารแพร่ภาพกระจายเสียง เป็นอาวุธร้ายแรง พิฆาตฟาดฟันห้ำหั่นทำลายอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องหาและจำเลย ซึ่งศาลยังมิได้ตัดสินคดีถึงที่สุด
เมื่อ ทำกันมาแรงเต็มที่แล้ว ก็เชิญท่านผู้ทรงจริยธรรมทั้งหลายจงได้ปฏิเสธไม่รับโฆษณาจากสินค้าและกิจการ ที่เคยสนับสนุนช่อง 3 และคุณสรยุทธกันทั้งหมด จะได้เป็นผู้ทรงจรรยาบรรณกันอย่างหาที่เปรียบมิได้
"กุ๊ก-ไบรท์"ตรึงคนดู "สรยุทธ"เฮ "สมเกียรติ"ฉะสื่อละเมิด ประชดจริยธรรมสูงส่ง ดึง"กรุณา"อ่านวันหยุด
จำนวนคนอ่านล่าสุด 76329 คน
"กุ๊ก-ไบรท์" จัดรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ผ่านฉลุยยังตรึงคนดู เรตติ้งเป็นปกติ สรยุทธโพสต์ไอจีชื่นชม ส่วนเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ดึงกรุณา บัวคำศรี เข้าเสียบ ด้าน ผอ.ร.พ.ที่ลำปางสั่งช่างเคเบิลทีวี ถอดช่อง 3 พ้นร.พ. เพื่อยกระดับมาตรฐานจริยธรรม ขณะที่ดารานักแสดงโพสต์ข้อความให้กำลังใจ ดร.สมเกียรติเขียนบทความขนาดยาว ฉะสื่อมวลชน ละเมิดจรรยาบรรณ ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและทำเกินหน้าที่ กรณีกดดันขับไล่สรยุทธ ส่งผลถึงความน่าเชื่อถือ ประชดไล่แล้วอย่าไปรับค่าโฆษณาคนที่เคยสนับสนุนสรยุทธแล้วกัน
เมื่อ วันที่ 4 มี.ค. จากกรณีที่นายสุรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรข่าวชื่อดัง ซึ่งถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 13 ปี 4 เดือน จากคดีเงินค่าโฆษณาของบริษัทไร่ส้ม เป็นเหตุให้บริษัท อสมท เสียหายกว่า 138 ล้านบาท จากนั้นก็มีกระแสสังคม หลังจากที่รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ได้มีการปรับเปลี่ยนพิธีกร ใหม่ โดยให้ "ไบรท์"พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ จัดรายการคู่กับ "กุ๊ก"กฤติกา ขอไพบูลย์ แทนนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่ได้ยุติหน้าที่พิธีกร หลังจากการตัดสินคดีไร่ส้ม โดยในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ "กุ๊ก"กฤติกา และ "ไบรท์"พิชญทัฬห์ ยังเชิญ "แอ๊ด"สุรชัย สมบัติเจริญ มาเปิดใจหลังทำศัลยกรรมใบหน้าใหม่อีกด้วย
ทั้ง นี้ นายสรยุทธโพสต์ในอินสตาแกรมส่วนตัว เป็นภาพการทำรายการเรื่องเล่าเช้านี้ โดยพิธีกรทั้งสองคน และเขียนข้อความว่า "ทำหน้าที่ได้ดี พี่ภาคภูมิใจมาก (แฟนข่าว) #RuengLao #ยิ้มให้กันทุกเช้า"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ ตลอดรายการ ที่เปิดให้ผู้ชมส่งเอสเอ็มเอสแสดงความคิดเห็นนั้น ส่วนใหญ่เป็นข้อความให้กำลังใจนาย สรยุทธ และพิธีกรทั้ง 2 คน
ทั้ง นี้ รายงานข่าวจากผู้บริหารช่อง 3 ระบุว่า ในการจัดรายการช่วงเช้าเรตติ้งยังอยู่ในระดับปกติ ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะผู้ชมต้องการดูว่าใครจะมาจัดรายการแทนนายสรยุทธ ส่วนในภาพรวมคงต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ถึงจะรู้ว่าเรตติ้งที่ออกมาเป็นอย่างไร ทั้งนี้ รายการเรื่องเล่าเช้านี้จะยังคงพิธีกรเป็น "กุ๊ก"กฤติกา และ "ไบรท์"พิชญทัฬห์อยู่ ขณะที่เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ จะเป็นกุ๊ก-กฤติกา จัดรายการคู่กับกรุณา บัวคำศรี และกรุณาอาจจะสลับมาช่วยจัดรายการในช่วงเช้าของวันธรรมดาได้เช่นกัน
สำหรับ ความเคลื่อนไหวของนายสรยุทธนั้น ตั้งแต่ประกาศยุติการจัดรายการก็ไม่ได้เดินทางมาที่สตูดิโอ หรือห้องส่งแต่อย่างใด คาดว่าจะใช้เวลาช่วงนี้พักผ่อนหลังถูกโจมตีหนักในเรื่องการทำหน้าที่
นาย วิบูลย์ ลีรัตนขจร ประธานกรรมการ บริษัท เซิร์ช ไลฟว์ จำกัด ผู้ผลิตรายการ "เรื่องเด่นเย็นนี้" ทางช่อง 3 เผยว่า การยุติบทบาทหน้าที่พิธีกรของนายสรยุทธเป็นการตัดสินใจของเจ้าตัว ส่วนว่าจะหยุดนานเท่าไหร่นั้นไม่ทราบ แต่คาดว่าไม่กระทบกับรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ เพราะรายการอยู่มายาวนาน มีพิธีกรทำหน้าที่หลายคน มีความแข็งแรงพอ น่าจะรักษาฐานแฟนรายการได้ ส่วนเรตติ้งคงดูแค่วันสองวันไม่ได้ ว่าจะกระทบได้แค่ไหน แต่ทีมงานจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้กระทบกับเรตติ้ง
ที่ ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแลงาน อสมท ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี อสมท ดำเนินคดีกับบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ว่า เท่าที่ตนได้ยินคือมีการดำเนินคดีฟ้องร้องกันอยู่แล้ว เป็นการฟ้องแพ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินคดีของศาล เมื่อถามถึงการฟ้องร้องประเด็นปลอมแปลงเอกสาร นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่อง และก็ไม่ทราบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารกันจริงหรือไม่ ซึ่งถ้ามีจริงก็สามารถฟ้องร้องได้
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) น.ส.ภคอร จันทรคณา กรรมการผู้จัดการบริษัท ชีวานันท์ กรุ๊ป จำกัด และกรรมการมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น พร้อมด้วยนาย มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น เข้ายื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิ การ ปปง. ขอให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ของนายสรยุทธ ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2546-2559 ว่าทรัพย์สินที่ได้มาในช่วงเวลาดังกล่าวได้มาโดยชอบหรือไม่
ด้าน พ.ต.อ.สีหนาทกล่าวว่า เมื่อมีความผิดมูลฐานที่เกิดขึ้นชัดเจนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ก็จะรับเรื่องมาตรวจสอบเส้นทางการเงินในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะต้องตรวจสอบย้อนหลังไปหลายปี
ที่ จ.ลำปาง นพ.บุญจง ชูชัยแสงรัตน์ ผอ.ร.พ.เขลางค์-ราม จ.ลำปาง เผยว่า ส่วนตัวเห็นว่าไม่ว่าจะประกอบกิจการใดๆ ธุรกิจ พ่อค้า ประชาชนก็ตามสิ่งที่ต้องยึดถือคือ คุณธรรม จริยธรรม ซึ่งเป็นเรื่องของจิตสำนึก ที่อยู่เหนือกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็จะสั่งสอนลูกน้องเสมอว่าต้องยึดหลักเหล่านี้ในฐานะที่เป็น ประชาชนคนหนึ่ง เราต้องแสดงจุดยืน เพื่อแสดงว่า จิตสำนึกของคนไทยต่อไปต้องสูงกว่านี้ เราจะยอมรับมาตรฐานเดิมๆ ไม่ได้ เราต้องช่วยคนดีมีคุณธรรม จริยธรรม ให้ยืนอยู่ในสังคมได้อย่างสง่างาม ขณะเดียวกันคนที่ไม่มีคุณธรรม จริยธรรม เราก็ต้องใช้สังคมเป็นตัวกำหนดให้ที่ยืนเขา แคบลง ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.เป็นต้นไปทางร.พ. จะหยุดเปิดทีวีช่อง 3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณชั้นล่างของอาคารมีการนำสัญลักษณ์กากบาทไขว้ทับเลข 3 ติดไว้บริเวณด้านล่างของจอทีวีทุกตัวด้วย ส่วนชั้นอื่นๆ ก็ไม่สามารถเปิดช่อง 3 ได้ เนื่องจากทางร.พ.ให้ช่างมาตัดสัญญาณช่อง 3 ทิ้งไปแล้ว
สำหรับความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ ก็มีดารานักแสดง และบุคคลสำคัญโพสต์ข้อความให้กำลังใจนายสรยุทธ อาทิ เปิ้ล นาคร ศิลาชัย, มะปราง วิรากานต์ เสณีตันติกุล นักแสดงช่อง 3 ด้านนายวิสารท เดชกุล หรือข้าวนึ่ง หนึ่งในพิธีกรครอบครัวข่าว โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรม "kawnungnoir" ว่า "ทีมงานเรื่องเล่าลับหลังพี่ยุทธ เราเรียกว่า "พ่อ" ครับ
ไม่ ใช่แค่เพราะความเกรงใจในฐานะหัวหน้างาน แต่หมายรวมถึงความเป็นหัวหน้าครอบครัวที่แท้จริงของเรื่องเล่าเช้านี้ "พี่ยุทธ" จดจำเรื่องราวลูกน้องได้แม่นยำ ทั้งที่มีอยู่จำนวนมาก แต่ใส่ใจและถามถึง ให้ความเป็นกันเองอย่างสม่ำเสมอ
ผมแม้มาทีหลัง แต่ก็ได้รับความเมตตาอย่างที่พ่อดูแลลูก ช่วงเวลาที่ป่วย อ่านข่าวไม่ได้ ผมได้รับคำย้ำ จากหัวหน้าและพี่ๆ ว่าที่ตรงนี้ยังมีข้าวนึ่งอยู่ "ข้าวนึ่ง รักษาตัว รอกลับมาอ่านข่าวด้วยกัน" เป็นคำพูดจากพี่ยุทธที่ทำให้ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ และยังทำให้ผมได้มีโอกาสอ่านข่าวอย่างทุกวันนี้ ขอขอบคุณพี่ยุทธ ที่ให้โอกาสเด็กบ้านนอกธรรมดาๆ ที่เคยดูพี่ที่หน้าจอทีวีทุกวัน และเป็นแค่คนราคาถูกๆ คนหนึ่ง ได้เข้ามามีโอกาสนั่งอ่านข่าวตรงนี้ มันเป็นสิ่งที่ไม่เคยคิดฝัน ทุกความรู้สึกยังคงตราตรึงอยู่อย่างแนบแน่น
ด้าน นายสมเกียรติ อ่อนวิมล นักสื่อสารมวลชนชื่อดัง เขียนบทความลงเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว สรุปว่า การปกป้องบุคคลที่ตกเป็นข่าว เป็นหน้าที่สำคัญตามจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อสารมวลชน และยิ่งมีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องการปกป้องสิทธิมนุษยชนด้วยแล้ว จรรยาบรรณวิชาชีพสื่อสารมวลชนจึงเป็น "กฎเหล็ก" ที่ผมต้องทำตามและคาดหวังให้สื่อมวลชนอื่นยึดมั่นทำตาม เสมือนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เมื่อใครตกเป็นผู้ต้องหาหรือเป็นจำเลยใน คดีความต่างๆ เราจำต้องรอคำพิพากษาของ ศาลให้ถึงที่สุดก่อนจึงจะมีสิทธิรายงานว่าประชาชนผู้เป็นจำเลยหรือผู้ต้องหา นั้นเป็นผู้ผิดแท้จริง ระหว่างยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดนั้น เราก็มีหน้าที่รายงานข่าวคดีความที่เกี่ยวข้องไปตามปกติ
กรณีคุณ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ก็ไม่เป็นข้อยกเว้น แต่สื่อมวลชนกลับจะทำกันหนักยิ่งกว่าใคร ทำกันโดยอ้างการปกป้องจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อสารมวลชนของตนเอง ตัดสินและจูงใจให้สาธารณชนลงโทษคุณสรยุทธ ตั้งแต่เป็นข่าวกับ อสมท ตั้งแต่ปี 2549 แล้ว
การเสนอข่าวตามปกติถูกทำให้กลายเป็น กระบวนการไล่ล่าตำหนิประณามคุณสรยุทธ และไทยทีวีสีช่อง 3 ข้ามไปจนถึงสินค้าและบริษัทห้างร้านธุรกิจอุตสาหกรรมที่ลงโฆษณาสนับสนุน รายการของคุณสรยุทธและราย การอื่นๆ ของช่อง 3 โดยรวม กระบวนการพิฆาตไล่ล่าคุณสรยุทธและช่อง 3 นี้ เรียกร้องให้คุณสรยุทธลาออกจากงานสื่อสารมวลชนและงานทำรายการโทรทัศน์ที่ ช่อง 3 เป็นสำคัญ บ้างก็รณรงค์ให้ปิดกั้นประท้วงช่อง 3 และสินค้าต่างๆ ที่ลงโฆษณาในรายการของคุณสรยุทธและช่อง 3
ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสาร มวลชนเอง ทั้งส่วนบุคคล และที่เป็นองค์กรวิชาชีพ ไม่มีสิทธิเรียกร้องไล่ล่ากดดันคุณสรยุทธ และช่อง 3 เป็นการส่วนตัว ทว่าสื่อมวลชนมีหน้าที่เพียงรายงานข่าวความจริงที่ปรากฏทุกแง่มุม และเพิ่มเติมความรู้ให้สาธารณชนมีสติในการคิดตัดสินชีวิตและงานของคุณสรยุทธ และช่อง 3 สื่อมวลชนมิได้มีหน้าที่ไปรณรงค์ให้เกิดความเกลียดชังหรือต่อต้านคุณสรยุทธ และช่อง 3
สื่อมวลชนต้องยึดมั่นในหลักจรรยาบรรณวิชาชีพอย่างเคร่ง ครัดแน่นเหนียว โดยต้องเริ่มที่การไม่ละเมิดรัฐธรรมนูญ และเคารพในสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องหาหรือจำเลย ในกรณีนี้คือต้องเคารพสิทธิ มนุษยชนของคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา สื่อมวลชนจะมาขอสิทธิพิเศษละเมิดสิทธิมนุษชนของคุณสรยุทธ และขอละเลยจรรยาบรรณวิชาชีพของตนเองก่อน เพื่อไปบังคับกดดันผู้ต้องหาหรือจำเลยคือคุณสรยุทธ ซึ่งบังเอิญเป็นสื่อมวลชนด้วยกันให้เคารพจรรยาบรรณสื่อมวลชนก่อนมิได้
แต่ ที่ปรากฏ สื่อมวลชนและองค์กรวิชาชีพสื่อสารมวลชน เริ่มต้นก็ละเมิดจรรยาบรรณวิชาชีพของตนเองโดยละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้ต้อง หาและจำเลยเสียแล้ว ความน่าเคารพเชื่อถือของสื่อมวลชนและองค์กรวิชาชีพของตนก็หมดไป
การ อ้างมาตรฐานจริยธรรมและจรรยาบรรณอันสูงส่งขององค์กรวิชาชีพสื่อสารมวลชน, องค์กรต่อต้านการทุจริต, และองค์กรกำกับดูแลการสื่อสารแพร่ภาพกระจายเสียง เป็นอาวุธร้ายแรง พิฆาตฟาดฟันห้ำหั่นทำลายอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องหาและจำเลย ซึ่งศาลยังมิได้ตัดสินคดีถึงที่สุด
เมื่อ ทำกันมาแรงเต็มที่แล้ว ก็เชิญท่านผู้ทรงจริยธรรมทั้งหลายจงได้ปฏิเสธไม่รับโฆษณาจากสินค้าและกิจการ ที่เคยสนับสนุนช่อง 3 และคุณสรยุทธกันทั้งหมด จะได้เป็นผู้ทรงจรรยาบรรณกันอย่างหาที่เปรียบมิได้